2. เกิดใหม่
หนิงเหอเดินเข้ามาด้านในก็อดตาโตไม่ได้ เมื่อเห็นการตบแต่งและเครื่องประดับแต่ละชิ้นดูหรูหรามาก แต่ก่อนจะได้ชื่นชม นางก็ถูกพาเดินไปยังห้องด้านข้าง ซึ่งมีเพียงฉากกั้นเท่านั้น นางยืนมองถังน้ำใบใหญ่ที่ตั้งตระหง่านกลางห้อง พร้อมกับน้ำที่ขึ้นไอเล็กน้อย มีกลีบดอกไม้ลอยจนแทบไม่เห็นว่ามีน้ำอยู่ด้านล่าง
‘โอ้แม่เจ้า เหมือนที่ดูในซีรี่ย์เลยแฮะ’ นึกในใจก่อนจะยิ้มกริ่ม ไม่คิดว่าตนเองจะมีโอกาสได้ใช้ชีวิตหรูกับเขาด้วย
“แม่นางซูรีบจัดการตนเองเถอะเจ้าค่ะ ประเดี๋ยวผู้ใหญ่จะรอ” แม่นมเฉิงเอ่ย ก่อนจะหันไปพยักหน้ากับสาวใช้ทั้งสองนาง ทั้งคู่จึงเดินเข้ามาหาก่อนจะจับหนิงเหอเปลื้องผ้า ซึ่งนางก็ใช่ว่าจะยอม จึงถูกแม่นมตำหนิไปสองสามประโยค สุดท้ายก็ต้องยื่นข้อเสนอว่านุ่งผ้าลงถังแทน ไม่เช่นนั้นนางจะไม่ยอมเด็ดขาด
‘ใครมันจะบ้าแก้ผ้าต่อหน้าคนได้เล่า นี่ก็ยืนจ้องอยู่ได้ มองคนอื่นโป๊ไม่รู้สึกอะไรเลยหรือไง' ต่อว่าสาวใช้สองนางในใจ ก่อนจะตัดพ้อโชคชะตาของตนอีก
'เฮ้อ! ปกติคนตายไปแล้ว เขาย้อนมาเกิดใหม่ในยุคโบราณแบบนี้ทุกคนไหมนะ’ บ่นถึงเรื่องของตนเองที่ไม่น่าจะเกิดขึ้น
ห้าเดือนก่อนนี้
หนิงเหอในยุคปัจจุบันกำลังออกสำรวจแหล่งแร่กับหัวหน้าและเพื่อน ๆ อีกนับสิบ สถานที่ก็คือป่าแถบมณฑลหูหนาน เป็นจุดที่มีผาสูงและมีน้ำตกอันสวยงาม
“หนิงหนิง ตรงนี้สวยมากเลย” เสียงเรียกดังขึ้น ทำให้สาวสวยวัยยี่สิบสี่ปีเผยยิ้มกว้างทันที ก่อนจะเดินไปหาเพื่อนสาวที่ยืนอยู่บนโขดหินริมผา
“มีมี่ ตรงนั้นมันน่ากลัวนะ ขยับมาตรงนี้เถอะ” เสียงหวานร้องเรียกเพื่อนสาวคนสนิท เพราะด้านล่างเป็นผาลึก มีสายน้ำไหลเชี่ยวมันไม่น่าดูอะไรเลย
“กลัวอะไร วิวตรงนี้สวยจะตาย แกไม่เก็บภาพไปให้เดเนียลดูหน่อยเหรอ” เพื่อนสาวก็ยังชักชวน
“เขาชอบอะไรแบบนี้ที่ไหนกัน แต่เอาเถอะถ่ายเอาไปขายในเวปไซต์ก็ได้” เมื่อนึกถึงช่องทางหาเงิน หนิงหนิงก็ไม่รีรอที่จะเดินไปยังจุดที่เพื่อนรักบอก
“มุมนั้น มุมนั้นสวยมาก” มีมี่ชี้นิ้วบอกเพื่อน แต่สายตาของเธอกลับมองไปยังกลุ่มสำรวจ ที่เอาแต่สนใจสายน้ำตกที่ล่วงหล่นลงไปด้านล่าง เมื่อเห็นว่าไม่มีใครสนใจเธอสองคน ก็หันกลับมาหาคนที่ยืนถ่ายรูปอีกครั้ง
“ว๊าย! ช่วยด้วย! หนิงหนิง!” เสียงตะโกนดังขึ้นทันที เมื่อร่างเล็กของเพื่อนรักเซถลากำลังจะพ้นริมผาอยู่เต็มที มือเล็กยื่นออกไปเพื่อจะดึงอีกฝ่ายกลับคืน แต่แรงโน้มถ่วงที่มีนั้นมากกว่า ร่างของหนิงหนิงทิ้งตัวไปด้านหลังแล้ว แน่ชัดว่าเธอต้องตกลงไปแน่นอนอย่างไม่ต้องสงสัย
แต่ว่า! ช่วงเวลานั้นเหมือนรอบตัวเป็นภาพสโลว์ ดวงตาสวยมองภาพเบื้องบนที่เธอกำลังออกห่างมันทุกที เสี้ยวนาทีนั้นเธอเห็นรอยยิ้มของเพื่อนรักที่คบกันมานับสิบปี แม้มีมี่จะแหกปากร้องเรียกคนให้ช่วยก็เถอะ
แต่สัมผัสสุดท้ายที่หนิงหนิงจำได้คือแรงผลักที่ทำให้เธอเซจนตกผานี่แหละ และมันคงเป็นใครไม่ได้นอกจากคนที่อยู่ใกล้สุด นั่นก็คือมีมี่ “เธอทำแบบนี้ทำไม” ประโยคสุดท้ายที่หนิงหนิงพูดขึ้นมาก่อนที่ร่างจะล่วงดิ่งลงสู่พื้นน้ำ ทุกอย่างดับวูบไปพร้อมกับแรงกระแทกอันรุนแรง รู้สึกตัวอีกทีเธอก็อยู่ในร่างของเด็กสาววัยย่างปักปิ่นแล้ว
ช่วงแรกหนิงหนิงยังคงงงงวยกับเรื่องที่เกิดขึ้น เพราะคนที่นั่งเฝ้าอยู่ข้างเตียงช่างไม่คุ้นหน้าเอาเสียเลย ที่สำคัญไปกว่านั้นคือเธอไม่ได้อยู่ในโรงพยาบาลอย่างที่ควรจะเป็น แต่กลับตื่นขึ้นมาในบ้านหลังหนึ่ง การตบแต่งก็เรียบง่ายเหมือนยุคสมัยแบบโบราณที่เคยศึกษามา
กว่าจะปรับตัวและยอมรับได้ว่าตนนั้นไม่ได้อยู่ในยุคเดิมก็ผ่านไปตั้งหลายวัน ยิ่งไปกว่านั้นยังต้องพูดจาให้เหมือนคนอื่น และใช้ชีวิตแบบไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกให้ชิน ดีที่หนิงหนิงเป็นคนสมบุกสมบัน ออกสำรวจกับคณะอาจารย์และหัวหน้าทีมอยู่บ่อยครั้ง
หญิงสาวจึงไม่กลัวความลำบาก ทำงานทุกอย่างช่วยผู้ที่อยู่ในฐานะมารดาตนในยุคนี้ จนสามารถปลูกผักได้หลายแปลง เก็บขายจนมีเงินซื้อสิ่งที่ต้องการ ทว่าผ่านไปแค่ห้าเดือนความโชคร้ายก็มาเยือนอีกรอบ เมื่อแม่ในยุคนี้ถูกฆ่าตายในตอนที่นางออกไปขายผัก
เป็นที่มาทำให้หนิงเหอต้องมาอยู่ที่จวนนี้ เพราะท่านโหวคาดว่าต้องเป็นศัตรูของสกุลลู่แน่ที่ลงมือ พวกมันคงเคียดแค้นที่มารดาหนิงเหอช่วยตนเอาไว้เมื่อหนึ่งปีก่อน
สบโอกาสมันจึงเอาชีวิตนางโดยไม่ปรานี เป็นเหตุให้ท่านโหวไม่อาจวางใจให้หนิงเหออยู่ที่เรือนเพียงลำพัง รีบทำตามคำสั่งเสียของผู้มีพระคุณโดยไม่รีรอ
ทว่านางขอให้เขารับบุตรสาวเข้าจวนในฐานะบุตรบุญธรรม แต่ท่านโหวกลับให้ตำแหน่งสะใภ้คนโตแก่นางแทน โดยไม่ได้บอกกล่าวเรื่องนี้กับใคร เพราะเขาคุ้นเคยกับหนิงเหอไม่น้อย เอ็นดูในความขยันของนาง
หลังจากนึกถึงเรื่องราวของตนที่ผ่านมา จนลืมไปว่ายามนี้นางกำลังอยู่ในถังน้ำ หนิงเหอก็ได้สติเมื่อมีบางสิ่งถูลงยังผิวกายของตน มันไม่ได้หนักทว่ามันก็เรียกสติได้ดี ใบหน้าหวานจิ้มลิ้มเงยมองสาวใช้ทั้งสอง จับแขนตนไปถูซ้ายขวาตามใจ จากคราแรกมีผ้าปิดหุ้มตัว
ตอนนี้มันถูกดึงออกไปหมดแล้ว ยังดีที่มีกลีบดอกไม้ลอยอยู่จึงพออำพรางตัวตนได้ ไม่เช่นนั้นคงอายจนต้องหาผ้ามาคลุมหัวไว้เป็นแน่ ใครมันจะหน้ามึนรับเรื่องเช่นนี้ได้ นางต้องมาแก้ผ้าอาบน้ำ มีคนอยู่รอบตัวราวกับตนเองเป็นเด็กสี่ห้าขวบ ชีวิตใหม่ในยุคโบราณช่างมีเรื่องให้ประหลาดใจไม่เว้นแต่ละวันจริง ๆ
“ไม่คิดว่าล้างเนื้อตัวแล้ว แม่นางซูจะน่าเอ็นดูเพียงนี้นะเจ้าคะ” สาวใช้นางหนึ่งเอ่ยขึ้น เมื่อเห็นผิวพรรณและใบหน้าของสตรีตัวน้อยชัดเจน แม่นมเฉิงก็คิดไม่ต่างกัน
“เรียบร้อยแล้ว ก็พาขึ้นเถอะ ยังต้องเช็ดผมให้แห้งอีก นายท่านทั้งหลายรออยู่” คำชมไม่ได้หลุดมาจากปาก เพราะเกรงว่าจะทำให้สตรีผู้นี้ได้ใจ แม่นมเฉิงจึงเอ่ยสั่งสาวใช้ให้รีบพาว่าที่ฮูหยินน้อยขึ้นจากน้ำ หนิงเหอรีบบอกให้ทั้งสามหันหลังทันที เพราะพวกนางเอาแต่จ้องรอให้ขึ้นจากน้ำ ใครมันจะกล้าลุกโดยไม่มีอะไรห่อหุ้มตัวเลย
“ข้าไม่ใช่เด็ก อย่าทำเหมือนข้าไม่มีมือมีเท้าเลย ข้าจะลงเอง” บอกกับทั้งสามพร้อมกับโบกมือไล่ให้หันหนี เสียงถอนหายใจดังขึ้นจากผู้อาวุโสสุดในห้องนี้ ก่อนจะสั่งสาวใช้ให้หันหลังตามที่สตรีตัวน้อยต้องการ ไม่เช่นนั้นวันนี้คงจัดการไม่แล้วเสร็จเป็นแน่
หนิงเหอลงมายืนอยู่นอกถังแล้ว พร้อมกับดึงเอาผ้ามาห่อพันตัวไว้ ทำให้คนที่รอจับแต่งกายหันมาจัดการกับนางทันที ซึ่งมันทุลักทุเลเป็นอย่างมาก เพราะว่าที่ฮูหยินน้อยไม่ได้ยอมง่าย ๆ ต้องสอนให้นางส่วมใส่อาภรณ์เอง
จนกระทั่งปกปิดร่างกายมิดชิด จึงสามารถจัดแจงให้เข้าที่ได้ ทำเอาแม่นมถึงกับลมจับ ต้องหามุมนั่งปาดเหงื่อกันเลยทีเดียว นางจึงปล่อยให้สาวใช้ทั้งสองแต่งตัวแทน
“ฤทธิ์เยอะจริงเชียว สตรีเช่นนี้หรือจะมาเป็นฮูหยิน ของจวนสกุลลู่ในภายหน้า” บ่นพึมพำ พร้อมกับกุมขมับเพราะรู้สึกปวดหัวขึ้นมาอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
แม่นมเฉิงไม่ได้สนใจว่าสาวใช้ทั้งสองจะจัดการแต่งกายให้ว่าที่ฮูหยินน้อยเช่นไร เพราะนางรู้สึกเหนื่อยเหลือเกิน กับงานที่ได้รับมอบหมายในครานี้
ผ่านไปหนึ่งก้านธูป [30 นาที] สาวใช้ก็พาหนิงเหอเดินมาหยุดด้านหน้าแม่นม ซึ่งไม่ได้สนใจมองเลย
“เรียบร้อยแล้วเจ้าค่ะ”
“แน่ใจนะว่าพวกเจ้าจัดการเรียบร้อย” ถามเสียงเหนื่อย นางไม่ชอบใจจนไม่อยากมอง ทว่าจะปล่อยไปโดยไม่ตรวจตราว่าที่ฮูหยินน้อยก็อาจจะทำให้เสียเรื่องอีก
เมื่อหันมามองแม่นมก็ถึงกับนิ่งไป เพราะสตรีตัวน้อยที่เคยมอมแมม ยามนี้กลับดูมีสง่าไม่ต่างจากคุณหนูสูงศักดิ์ในเมืองเลย หรืออาจจะมากกว่าเสียด้วยซ้ำ