บท
ตั้งค่า

ตอนที่3. ความคิดของคนคร่ำครึ

“นายหญิงใหญ่ เพียงเป็นห่วงท่านเท่านั้นเจ้าค่ะ”

“แก้ตัวให้กันตลอดสิน่า! ไปนอนเถอะ ข้าจะนอนต่อแล้ว”

หญิงสาวยกสุราดื่มอีกหลายจอก ก่อนจะเดินกลับไปล้มตัวลงนอนต่อ นางไม่คิดตำหนิในการเฝ้ามองของอู่หรง เพราะทุกสายตาของคนในบ้าน คือความห่วงใยที่มีต่อนางอย่างแท้จริง

ยามเช้า

ร่างระหงก้าวเข้าไปนั่งตรงข้ามกับมารดา ซึ่งตอนนี้มีสีหน้าไม่สดชื่นอย่างที่เคย

“ท่านแม่ไม่สบายรึเจ้าคะ”

หญิงสาวเอ่ยถามมารดาด้วยความเป็นห่วง แม้จะพอเดาได้ว่าผู้เป็นแม่กำลังมีเรื่องกังวลใจ

“คงเพราะแม่เริ่มแก่ เลยนอนไม่ค่อยหลับเท่าใดนัก”

หยวนไป่หลีตอบบุตรสาวด้วยรอยยิ้มอันอิดโรย จากการที่นางนอนไม่ค่อยหลับติดต่อกันมาหลายวัน

“นอนไม่หลับเพราะเริ่มแก่ หรือเพราะกลัวข้าไม่พอใจเรื่องแต่งงานกันเจ้าคะ”

“มิรู้อ้อมค้อมกับคนแก่บ้างเลยนะลูกคนนี้”

หยวนไป่หลีเอ่ยประชดบุตรสาว ที่มิว่าจะมีเรื่องหนักหนาแค่ไหน สองแฝดก็ไม่เคยที่จะตื่นกลัวกับสิ่งเหล่านั้น ซึ่งเป็นเช่นนี้มาตั้งแต่ทั้งคู่ยังเป็นเด็กแล้ว

“ท่านแม่โปรดกินให้อิ่ม นอนให้หลับเถอะเจ้าค่ะ ข้าเข้าใจทุกอย่างดี อีกอย่างมันแค่การแต่งงาน หาใช่เรื่องสำคัญเท่าการค้าของข้าไม่เจ้าค่ะ”

“สำหรับผู้หญิงเรา การแต่งงานนับเป็นเรื่องสำคัญ จะด้วยเหตุผลใด แม่ก็ไม่อยากเป็นต้นเหตุให้เจ้าทุกข์ใจ”

“สิ่งที่ข้าจะทุกข์ใจ คือความทุกข์ที่มารดาของข้ากำลังแบกมันไว้อยู่ตอนนี้มากกว่าเจ้าค่ะ”

“เจ้ากับท่านแม่ทัพนอกจากจะไม่มีใจต่อกัน แต่ยังมิเคยพบหน้ากันสักครั้งอีกด้วย แม่เกรงว่า...”

“ท่านแม่ ข้ารู้ว่าท่านแม่เป็นห่วง การแต่งงานย่อมไม่น่ากลัวเท่างานของข้าสองพี่น้องนะเจ้าคะ ท่านแม่โปรดวางใจ ข้าสามารถจัดการทุกอย่างได้เจ้าค่ะ”

“แม่จะปฏิเสธใต้เท้าจ้าวไปดีหรือไม่”

“ท่านแม่สอนข้าเองมิใช่หรือเจ้าคะ ว่าคนเราเมื่อมีปัญหาอย่าได้หลีกหนี นิ่งพิจารณาแล้วแก้ไข สำหรับข้าแล้วมันแค่เรื่องเล็กน้อย ส่วนจะเป็นเรื่องใหญ่สำหรับสกุลจ้าวหรือไม่นั้น นั่นก็เป็นปัญหาของพวกเขาหาใช่เราเจ้าค่ะ”

หญิงสาวกล่าวกับมารดาด้วยน้ำเสียงเนิบช้า โดยที่นางจัดแจงตักอาหารตรงหน้าให้แก่มารดาและตนเอง เรื่องแต่งงานหรือจะเท่าการค้าที่ต้องสะดุดไปบ้าง เพราะตัวนางไม่อาจเดินทาง เพื่อไปควบคุมมันด้วยตนเองเช่นเมื่อก่อนได้

“ท่านแม่ทัพจ้าวย่อมต้องเป็นคนดี เช่นพ่อแม่ของเขาอย่างแน่นอน”

หยวนไป่หลีเอ่ยขึ้นอีกครั้ง คล้ายการปลอบใจตนเองเสียมากกว่า ที่จะเป็นการปลอบใจบุตรสาว หัวอกคนเป็นแม่ พอลูกกำลังจะออกจากอก ย่อมต้องรู้สึกใจหายเป็นธรรมดา

“เจ้าค่ะ”

หญิงสาวรับคำมารดา ก่อนจะคีบอาหารป้อนให้แก่ผู้เป็นแม่ นางไม่สนใจหรอกว่าจ้าวลู่เชียนจะเป็นคนเช่นไร เพราะถ้าเขาและนางอยู่ร่วมกันฉันท์มิตรไม่ได้ เส้นทางมันก็ต้องสิ้นสุดลง

หยวนไป่หลีรู้สึกว่าตนเองเป็นต้นเหตุ ที่ทำให้บุตรสาวต้องลำบากใจ เมื่อหลายปีก่อน ตอนที่กิจการของนางเริ่มไปได้ดี ในวันที่นางกำลังออกไปตรวจดูสินค้านอกเมืองพร้อมบุตรสาวทั้งสอง

ได้มีสามีภรรยาคู่หนึ่งได้รับบาดเจ็บหนัก และในตอนนั้นบุตรสาวคนเล็กที่รอบรู้เรื่องสมุนไพรต่าง ๆ ได้นำมันมาให้นางช่วยชีวิตของทั้งคู่เอาไว้ได้ ใช้เวลาอยู่หลายวัน กว่าสองสามีภรรยาจะอาการดีขึ้น

เมื่อทั้งคู่หายเป็นปกติ ก่อนจะจากไปได้เอ่ยขอหมั้นหมายบุตรสาวหนึ่งในสองคนของนางให้เป็นสะใภ้เอก ด้วยอารามตกใจกับคำขอของอีกฝ่าย นางตอบรับไปทั้งที่ตั้งใจจะปฏิเสธ

แต่จนเวลาผ่านมาหลายปี ใต้เท้าผู้นั้นก็เงียบหายไป บุตรสาวสองคนต่างเลยวัยออกเรือนมามาก ก็ยังคงไร้วี่แววของคนที่เอ่ยขอหมั้นหมายบุตรสาวของนาง

ทว่าหยกที่สองสามีภรรยามอบให้ เพื่อเป็นสิ่งยืนยันการหมั้น เป็นเสมือนสิ่งที่ค้ำคอนางเอาไว้ มิอาจเอ่ยปากให้บุตรสาวคนใดออกเรือนกับผู้อื่นได้

จนเมื่อครึ่งเดือนก่อน นางได้รับจดหมายจากทางเมืองหลวง พร้อมการแจกแจงเรื่องการแต่งงาน และความเป็นไปของบุตรชาย เพียงอ่านถึงตำแหน่งของชายหนุ่ม นางก็รู้ได้ในทันที ว่าบุตรสาวคนใดที่ต้องแบกรับหน้าที่นี้

แม่ทัพย่อมมิอาจครองคู่กัน จะด้วยรักหรือไม่ ทว่าตำแหน่งของบุตรสาวคนเล็กนั้น มันเทียบเคียงกับตำแหน่งของชายหนุ่ม ผู้เป็นว่าที่ลูกเขย ภาระนั้นจึงต้องตกแก่คน ที่มิได้มีส่วนราชสำนักไปโดยปริยาย

“ท่านแม่อย่าได้กังวลเรื่องใดเลยเจ้าค่ะ ข้าเต็มใจที่จะแต่งงานในครั้งนี้ ที่ข้าห่วงคงเป็นเรื่องการค้า ซึ่งจะไม่มีข้าออกเดินทางไปได้เช่นเมื่อก่อน”

“เป็นแม่ที่มัวแตกตื่น จนพลั้งปากไปโดยมิทันคิด”

“ท่านแม่ ในตอนนั้นใครเลยจะนึกว่าขุนนางใหญ่ จะกล้าเอ่ยสู่ขอบุตรสาวชาวบ้านให้เป็นสะใภ้เอก คำตอบ ‘เจ้าค่ะ’ คำเดียวของท่านแม่ พวกเขาก็ทึกทักว่าเป็นการตอบตกลง ของหมั้นวางในมือยากนักจะเอ่ยกลับคำ เมื่อมันเป็นเช่นนี้แล้ว เราจะถอยให้คนพวกนั้นหมิ่นเอาทำไมกันเจ้าคะ”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel