บทที่ 1 เพราะพวกเราคือพี่น้อง
'ข้าขอโทษที่ไม่อาจไปดูแลเจ้าในยามที่เจ็บป่วยทำได้เพียงส่งสมุนไพรไปให้เจ้าได้เท่านั้น หากข้าไม่ติดตามบิดามารักษาชาวบ้านที่ชายแดนก็คงดี เล่อเล่ออย่าได้กังวล คำสัญญาของพวกเราข้ายังจำได้ขึ้นใจ เล่อเล่อข้าอาจจะกลับไปเมืองหลวงหลังจากพิธีปักปิ่นของเจ้าผ่านไปแล้ว แม้มันจะเป็นการเห็นแก่ตัวที่รั้งเจ้าไว้ แต่ข้าก็หวังว่าเจ้าจะยังรอข้าอยู่ เวินเยว่เล่อคู่หมั้นของข้า...'
โฉมสะคราญวัยสิบสามนามว่า เวินเยว่เล่อ คลี่ยิ้มออกมาหลังจากอ่านจดหมายที่ ชุนลู่เหอ ชายหนุ่มวัยสิบห้าปีที่มีสถานะเป็นคนรักและยังเป็นคู่หมั้นเขียนถึงนาง แม้ตัวชุนลู่เหอจะอยู่ชายแดนเขาก็ยังคงส่งจดหมายหานางไม่เคยขาด
ชุนลู่เหอและเวินเยว่เล่อเป็นคู่หมั้นที่ถูกผูกดวงกันตั้งแต่ที่นางยังเป็นทารก ที่เป็นเช่นนี้เหตุเป็นเพราะบิดาของทั้งคู่เป็นสหายคนสนิทจึงคิดอยากเป็นทองแผ่นเดียวกัน และแม้ทั้งคู่จะถูกหมั้นหมายแบบไม่เต็มใจแต่พอได้พบหน้าใช้เวลาร่วมกันความรักจึงก่อเกิดขึ้น
"คุณหนูอากาศเย็นแล้วเข้าไปด้านในดีหรือไม่เจ้าคะ" จางลี่หญิงรับใช้เอ่ยเตือนผู้เป็นคุณหนูด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง นางเฝ้ารับใช้ดูแลเวินเยว่เล่อมาตั้งแต่ห้าขวบจึงรู้ดีว่าร่างกายของคนตรงหน้าอ่อนแอมากเพียงใด เพียงแค่โดนลมก็อาจนอนจับไข้ไปหลายวัน เพราะคุณหนูของนางอ่อนแอตั้งแต่เด็กแบบนี้นายท่านและฮูหยินจึงใส่ใจและให้ความรักมากกว่าบุตรคนอื่น
"ข้าไม่เป็นอะไร"
"แต่ว่า....."
"ทำไมช่วงนี้ข้าถึงไม่เห็นพี่ใหญ่และพี่หญิงรองเลย"
จางลี่แสดงสีหน้าลำบากใจ เมื่อนึกถึงใบหน้าของคุณชายใหญ่และคุณหนูรองบุตรที่เกิดจากสาวใช้อุ่นเตียง ในจวนมีผู้ใดไม่รู้บ้างว่าแม้พวกเขาจะถูกเรียกว่าคุณชายใหญ่และคุณหนูรอง แต่ฐานะของทั้งสองแตกต่างจากคุณหนูของนางที่เกิดจากฮูหยินภรรยาเอกมากนัก
ได้ยินมาว่าช่วงนี้คุณชายใหญ่ถูกนายท่านสั่งกักตัวในห้อง ไม่ให้กินข้าวกินน้ำหากยังอ่านตำราที่มอบให้ไม่จบ ส่วนคุณหนูรองมีชะตากรรมไม่ต่างกันเพราะนางผ่านพิธีปักปิ่นมาแล้ว ฮูหยินบังคับให้นางใช้ความงามล่อลวงบุรุษที่มีอำนาจ คิดว่าอีกไม่นานนางคงถูกจับแต่งงานกับขุนนางสักคนเพื่อเสริมอำนาจของสกุลเวินเป็นแน่
"ว่าอย่างไร เหตุใดทำหน้าเช่นนั้น"
"คุณชายใหญ่กักตัวอยู่ในห้องเพื่อศึกษาตำราเจ้าค่ะ ส่วนคุณหนูรองฮูหยินกำลังสั่งสอนในสิ่งที่สตรีควรทำหลังจากออกเรือนไปเจ้าค่ะ"
"ออกเรือน? พี่หญิงรองจะออกเรือนแล้วหรือ เหตุใดข้าไม่รู้ว่านางเจอบุรุษที่พึงใจแล้ว"
"……."
เวินเยว่เล่อเท้าคางเคาะนิ้วลงบนโต๊ะอย่างครุ่นคิดวางแผนการบางอย่าง เพราะนางร่างกายอ่อนแอป่วยบ่อยตั้งแต่เด็ก การที่จะได้พบหน้าพี่ชายและพี่สาวนั่นย่อมเป็นเรื่องยาก
ไหน ๆ วันนี้นางก็รู้สึกแข็งแรงกว่าปกติ ใช้โอกาสนี้ไปพบพวกเขาสักครั้งดีไหมนะ...
“จางลี่พวกเราไปเรือนเล็กกันเถอะ”
"เจ้าคะ?"
"จริงสิใบชาบำรุงร่างกายที่ท่านพ่อนำมาให้ข้า เจ้านำไปด้วยข้าจะนำไปฝากพี่ใหญ่และพี่หญิงรอง"
"แต่นั่นเป็นใบชาหายากที่นายท่านนำมาจากต่างเมืองเพื่อคุณหนูนะเจ้าคะ"
"ข้าถึงอยากมอบให้ท่านพี่ไง เจ้าบอกเองไม่ใช่เหรอว่าพี่ใหญ่กำลังตั้งใจศึกษาตำราอย่างหนัก ส่วนพี่หญิงรองกำลังตั้งใจเรียนกับท่านแม่ ข้าคิดว่าพวกเขาอาจจะหักโหมเกินไปก็ได้ อยากน้อยได้ดื่มชาที่บำรุงร่างกายก็คงจะดี"
จางลี่ได้ได้ฟังคำตอบของคุณหนูทำเพียงพยักหน้าตอบรับเท่านั้น เพราะคุณหนูป่วยกักตัวอยู่แต่ในเรือนเลยไม่รู้ว่าคุณชายใหญ่และคุณหนูรองถูกปรนนิบัติเช่นไร
ภายในจวนเวินคงมีเพียงคุณหนูของนางเท่านั้นที่มองพวกเขาเป็นดั่งพี่น้องและหวังดีจากใจจริง...
เวินเยว่เล่อย่างกายเข้ามาในเรือนเล็กที่เป็นที่อยู่ของคุณชายใหญ่และคุณหนูรอง เพราะนางเป็นลูกฮูหยินใหญ่ของจวนจึงสามารถอยู่ที่เรือนหลักได้ ส่วนลูกที่เกิดจากสตรีอื่นจะต้องอยู่เรือนเล็กแยกตัวออกไป
หญิงสาวกวาดสายตามองไปรอบ ๆ พลางขมวดคิ้วแววตาเต็มไปด้วยความสงสัยและไม่คุ้นเคย นี่เป็นครั้งแรกที่นางมาเรือนเล็ก เหตุใดที่นี่ถึงได้ดูทรุดโทรมและแตกต่างจากเรือนหลักที่นางอยู่มากนัก
"จางลี่คนรับใช้ในเรือนเล็กหายไปไหนหมด"
"……."
"จางลี่มีเรื่องอะไรที่ข้ายังไม่รู้หรือไม่"
"ด้านหน้าคือห้องของคุณชายใหญ่เจ้าค่ะ" จางลี่เลือกที่จะเลี่ยงคำตอบ นางไม่อยากพูดในสิ่งที่เกิดขึ้นที่นี่ออกไป จะพูดได้เช่นไรว่าภายในเรือนเล็กมีคนรับใช้แค่สองคนเท่านั้น อีกอย่างทั้งสองคนยังเป็นเพียงเด็กอายุสิบหกไม่รู้ประสา
"คุณชายใหญ่อยู่ด้านในหรือ"
อาเหลียงเด็กหนุ่มวัยสิบหกปีคนรับใช้ของเรือนเล็ก เขามองหญิงสาวหน้าตางดงามแต่ใบหน้าซีดเซียวราวกับคนป่วยด้วยความสงสัย เพราะไม่เคยพบนางมาก่อนแต่เมื่อมองไปที่จางลี่หญิงรับใช้ที่ยืนอยู่ด้านหลังเขาก็รับรู้สถานะของหญิงสาวตรงหน้าทันที
เหตุใดคุณหนูเล็กที่ไม่เคยย่างกายออกจากห้องมาหลายปีถึงมาปรากฏตัวที่นี่!!!
"คุณหนูถามเจ้าไม่ได้ยินหรือ" จางลี่พูดออกมาด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ ดวงตาที่มองไปยังอาเหลียงอย่างคาดโทษที่เขาเสียมารยาทต่อหน้าคุณหนูของนาง
"ขะ..ขอรับคุณชายใหญ่อ่านตำราอยู่ด้านในห้อง"
"ข้าอยากพบพี่ใหญ่ เจ้าเข้าไปบอกเขาได้หรือไม่"
"ขอรับ"
อาเหลียงตอบรับคำคนตรงหน้า ก่อนจะหยิบกุญแจขึ้นมาไขปลดล็อกประตูห้อง ตามคำสั่งของนายท่านคือห้ามมอบอาหารน้ำให้คุณชายและห้ามผู้ใดย่างกายเข้าไปในห้องจนกว่าคุณชายจะอ่านตำราครบ
แต่ตรงหน้าเขาคือคุณหนูเล็กเวินเยว่เล่อผู้เป็นดั่งแก้วตาด้วยใจของนายท่านและฮูหยิน เขาลองชั่งน้ำหนักดูแล้วการขัดใจคุณหนูคงไม่ใช่เรื่องที่ดี
เวินเยว่เล่อมองการกระทำของอาเหลียงแววตาเต็มไปด้วยความสงสัย เหตุใดต้องล็อกกุญแจด้านนอกกัน ราวกับกำลังกักขังพี่ใหญ่ไว้ในห้อง?
"คุณหนูเชิญขอรับ"
"จางลี่เจ้าไปเตรียมชาให้ข้าหน่อย ข้าอยากดื่มชากับพี่ใหญ่ ส่วนเจ้าไปช่วยนาง"
"ขอรับ/เจ้าค่ะ"
หญิงสาวมองแผ่นหลังของคนรับใช้ทั้งสองที่เดินห่างออกไปจนลับสายตา ร่างบางก้าวเท้าเดินเข้าไปในห้องจู่ ๆ เวินเยว่เล่อก็รู้สึกเจ็บหน้าอกขึ้นมาฉับพลันทำให้นางหยุดชะงักฝีเท้า
มือบางยกขึ้นกุมที่อกของตัวเองก่อนจะพยายามหายใจเข้าออกช้า ๆ ความเจ็บปวดที่เคยมีค่อย ๆ เลือนหายไป เวินเยว่เล่อหายใจเข้าออกอีกครู่หนึ่งก่อนจะก้าวเท้าเดินต่อไป
"พี่ใหญ่"
หญิงสาวเอ่ยเรียกผู้เป็นพี่ชายด้วยรอยยิ้ม ดวงตาคู่สวยมองชายหนุ่มในวัยสิบแปด ใบหน้าเกลี้ยงเกลารูปงาม ดวงตาลุ่มลึกกำลังก้มอ่านตำราท่าทางสุขุมราวกับบัณฑิต
"มาหาข้ามีอะไร"
เวินหมิงเย่ คุณชายใหญ่ของสกุลเวินเอ่ยออกมาเสียงเย็น เขาเงยหน้าจากตำราในมือดวงตาจับจ้องไปที่สตรีรูปร่างบอบบางที่มีฐานะเป็นน้องสาวต่างมารดาของเขา บุตรสาวของสตรีชั่วช้าผู้นั้นมีเรื่องอะไรกับข้ากัน
"ข้ามารบกวนพี่ใหญ่หรือไม่เจ้าคะ"
"รบกวน"
ชายหนุ่มตอบออกไปตามความจริงไม่คิดปิดบังหรือรักษาน้ำใจคนตรงหน้าแต่อย่างใด เขาปรายตามองไปที่กองตำราหลายสิบเล่มที่อยู่บนโต๊ะ เวินหมิงเย่จำเป็นต้องอ่านตำราทั้งหมดให้จบภายในวันนี้
"ขออภัยเจ้าค่ะที่เข้ามารบกวนพี่ใหญ่ ได้ยินว่าพี่ใหญ่กำลังตั้งใจกักตัวศึกษาตำราข้าเพียงเป็นห่วงว่าท่านจะหักโหมเกินไปจึงนำชาบำรุงร่างกายมาให้ท่าน"
"ตั้งใจกักตัวศึกษาตำรา? ช่างเป็นคำพูดที่ตลกเสียจริง" เวินหมิงเย่แค่นหัวเราะสมเพชในลำคอ ดวงตาของเขาจับจ้องไปที่น้องสาวที่ไร้เดียงสาของตน เพราะนางเติบโตมาด้วยความรักและมีแต่ผู้คนเอาใจใส่หรือไม่ถึงได้ดูอ่อนต่อโลกเช่นนี้ นางเป็นดั่งแก้วตาดวงใจของตาแก่และหญิงชั่วช้าสินะ
ช่างเปราะบางจนข้าอยากจะทำลายเสียจริง...
"ข้าจะแน่ใจได้อย่างไรว่านั่นคือชาบำรุงไม่ใช่ยาพิษ"
"พี่ใหญ่ล้อเล่นแล้ว ข้าจะวางยาพิษพี่ใหญ่ที่รูปงามไปทำไมกัน พวกเราเป็นพี่น้องกันนะเจ้าคะ"
เวินเยว่เล่อพูดออกมาด้วยรอยยิ้ม นางมองจางลี่ที่ถือชาและขนมเดินเข้ามาในห้อง กลิ่นหอมจากใบชาทำให้บรรยากาศภายในห้องดีขึ้น หญิงสาวที่คิดว่าตัวเองกำลังรบกวนพี่ชายอ่านตำราก็โค้งตัวลาออกไปจากห้อง
"เวินเยว่เล่อน้องสาวข้า เจ้าช่างเติบโตมาด้วยความรักเสียจริง นั่นมันทำให้เจ้าทั้งเปราะบางและอ่อนแอ"
เวินหมิงเย่พูดออกมาเสียงเย็น ดวงตาจับจ้องแผ่นหลังของสตรีที่เดินออกไป ตั้งแต่เกิดมาเขาถูกบิดาเกลียดชังและทำร้าย เดิมทีคิดว่าเพราะบิดาเกลียดชังเด็กจึงทำเช่นนี้ แต่หลังจากที่ฮูหยินคลอดบุตรสาวออกมาเขาก็รับรู้ได้ทันที สาเหตุที่เขาพบเจอเรื่องเช่นนี้ไม่ใช่เพราะบิดาของเขาเกลียดชังเด็ก แต่มันเป็นเพราะเขาเป็นเด็กที่พลาดเกิดจากสาวใช้อุ่นเตียงต่างหาก
'พวกเราเป็นพี่น้องกันนะเจ้าคะ'
เสียงของเวินเยว่เล่อดังขึ้นในหัวของชายหนุ่ม เขาทำเพียงยกยิ้มสมเพชให้กับความไร้เดียงสาของนาง
พี่น้องหรือใครจะเป็นพี่น้องกับเจ้ากัน!!!