ข้าคือน้องสาวของนางร้ายในนิยายเรื่องนี้

60.0K · จบแล้ว
ghost-smile
23
บท
627
ยอดวิว
8.0
การให้คะแนน

บทย่อ

ข้าคือตัวประกอบที่ถูกคนอ่านนิยายแย่งร่างไป ข้าพยายามแย่งชิงร่างกายกลับมาจนได้รู้ว่าที่นี่คือโลกนิยาย พี่สาวของข้าคือนางร้ายที่หลงรักพระเอกอย่างโง่งม...

นิยายรักโรแมนติกแม่ทัพรักหวานๆเกิดใหม่จีนโบราณโรแมนติกฟินๆ

บทที่ 1 เพราะพวกเราคือพี่น้อง

'ข้าขอโทษที่ไม่อาจไปดูแลเจ้าในยามที่เจ็บป่วยทำได้เพียงส่งสมุนไพรไปให้เจ้าได้เท่านั้น หากข้าไม่ติดตามบิดามารักษาชาวบ้านที่ชายแดนก็คงดี เล่อเล่ออย่าได้กังวล คำสัญญาของพวกเราข้ายังจำได้ขึ้นใจ เล่อเล่อข้าอาจจะกลับไปเมืองหลวงหลังจากพิธีปักปิ่นของเจ้าผ่านไปแล้ว แม้มันจะเป็นการเห็นแก่ตัวที่รั้งเจ้าไว้ แต่ข้าก็หวังว่าเจ้าจะยังรอข้าอยู่ เวินเยว่เล่อคู่หมั้นของข้า...'

โฉมสะคราญวัยสิบสามนามว่า เวินเยว่เล่อ คลี่ยิ้มออกมาหลังจากอ่านจดหมายที่ ชุนลู่เหอ ชายหนุ่มวัยสิบห้าปีที่มีสถานะเป็นคนรักและยังเป็นคู่หมั้นเขียนถึงนาง แม้ตัวชุนลู่เหอจะอยู่ชายแดนเขาก็ยังคงส่งจดหมายหานางไม่เคยขาด

ชุนลู่เหอและเวินเยว่เล่อเป็นคู่หมั้นที่ถูกผูกดวงกันตั้งแต่ที่นางยังเป็นทารก ที่เป็นเช่นนี้เหตุเป็นเพราะบิดาของทั้งคู่เป็นสหายคนสนิทจึงคิดอยากเป็นทองแผ่นเดียวกัน และแม้ทั้งคู่จะถูกหมั้นหมายแบบไม่เต็มใจแต่พอได้พบหน้าใช้เวลาร่วมกันความรักจึงก่อเกิดขึ้น

"คุณหนูอากาศเย็นแล้วเข้าไปด้านในดีหรือไม่เจ้าคะ" จางลี่หญิงรับใช้เอ่ยเตือนผู้เป็นคุณหนูด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง นางเฝ้ารับใช้ดูแลเวินเยว่เล่อมาตั้งแต่ห้าขวบจึงรู้ดีว่าร่างกายของคนตรงหน้าอ่อนแอมากเพียงใด เพียงแค่โดนลมก็อาจนอนจับไข้ไปหลายวัน เพราะคุณหนูของนางอ่อนแอตั้งแต่เด็กแบบนี้นายท่านและฮูหยินจึงใส่ใจและให้ความรักมากกว่าบุตรคนอื่น

"ข้าไม่เป็นอะไร"

"แต่ว่า....."

"ทำไมช่วงนี้ข้าถึงไม่เห็นพี่ใหญ่และพี่หญิงรองเลย"

จางลี่แสดงสีหน้าลำบากใจ เมื่อนึกถึงใบหน้าของคุณชายใหญ่และคุณหนูรองบุตรที่เกิดจากสาวใช้อุ่นเตียง ในจวนมีผู้ใดไม่รู้บ้างว่าแม้พวกเขาจะถูกเรียกว่าคุณชายใหญ่และคุณหนูรอง แต่ฐานะของทั้งสองแตกต่างจากคุณหนูของนางที่เกิดจากฮูหยินภรรยาเอกมากนัก

ได้ยินมาว่าช่วงนี้คุณชายใหญ่ถูกนายท่านสั่งกักตัวในห้อง ไม่ให้กินข้าวกินน้ำหากยังอ่านตำราที่มอบให้ไม่จบ ส่วนคุณหนูรองมีชะตากรรมไม่ต่างกันเพราะนางผ่านพิธีปักปิ่นมาแล้ว ฮูหยินบังคับให้นางใช้ความงามล่อลวงบุรุษที่มีอำนาจ คิดว่าอีกไม่นานนางคงถูกจับแต่งงานกับขุนนางสักคนเพื่อเสริมอำนาจของสกุลเวินเป็นแน่

"ว่าอย่างไร เหตุใดทำหน้าเช่นนั้น"

"คุณชายใหญ่กักตัวอยู่ในห้องเพื่อศึกษาตำราเจ้าค่ะ ส่วนคุณหนูรองฮูหยินกำลังสั่งสอนในสิ่งที่สตรีควรทำหลังจากออกเรือนไปเจ้าค่ะ"

"ออกเรือน? พี่หญิงรองจะออกเรือนแล้วหรือ เหตุใดข้าไม่รู้ว่านางเจอบุรุษที่พึงใจแล้ว"

"……."

เวินเยว่เล่อเท้าคางเคาะนิ้วลงบนโต๊ะอย่างครุ่นคิดวางแผนการบางอย่าง เพราะนางร่างกายอ่อนแอป่วยบ่อยตั้งแต่เด็ก การที่จะได้พบหน้าพี่ชายและพี่สาวนั่นย่อมเป็นเรื่องยาก

ไหน ๆ วันนี้นางก็รู้สึกแข็งแรงกว่าปกติ ใช้โอกาสนี้ไปพบพวกเขาสักครั้งดีไหมนะ...

“จางลี่พวกเราไปเรือนเล็กกันเถอะ”

"เจ้าคะ?"

"จริงสิใบชาบำรุงร่างกายที่ท่านพ่อนำมาให้ข้า เจ้านำไปด้วยข้าจะนำไปฝากพี่ใหญ่และพี่หญิงรอง"

"แต่นั่นเป็นใบชาหายากที่นายท่านนำมาจากต่างเมืองเพื่อคุณหนูนะเจ้าคะ"

"ข้าถึงอยากมอบให้ท่านพี่ไง เจ้าบอกเองไม่ใช่เหรอว่าพี่ใหญ่กำลังตั้งใจศึกษาตำราอย่างหนัก ส่วนพี่หญิงรองกำลังตั้งใจเรียนกับท่านแม่ ข้าคิดว่าพวกเขาอาจจะหักโหมเกินไปก็ได้ อยากน้อยได้ดื่มชาที่บำรุงร่างกายก็คงจะดี"

จางลี่ได้ได้ฟังคำตอบของคุณหนูทำเพียงพยักหน้าตอบรับเท่านั้น เพราะคุณหนูป่วยกักตัวอยู่แต่ในเรือนเลยไม่รู้ว่าคุณชายใหญ่และคุณหนูรองถูกปรนนิบัติเช่นไร

ภายในจวนเวินคงมีเพียงคุณหนูของนางเท่านั้นที่มองพวกเขาเป็นดั่งพี่น้องและหวังดีจากใจจริง...

เวินเยว่เล่อย่างกายเข้ามาในเรือนเล็กที่เป็นที่อยู่ของคุณชายใหญ่และคุณหนูรอง เพราะนางเป็นลูกฮูหยินใหญ่ของจวนจึงสามารถอยู่ที่เรือนหลักได้ ส่วนลูกที่เกิดจากสตรีอื่นจะต้องอยู่เรือนเล็กแยกตัวออกไป

หญิงสาวกวาดสายตามองไปรอบ ๆ พลางขมวดคิ้วแววตาเต็มไปด้วยความสงสัยและไม่คุ้นเคย นี่เป็นครั้งแรกที่นางมาเรือนเล็ก เหตุใดที่นี่ถึงได้ดูทรุดโทรมและแตกต่างจากเรือนหลักที่นางอยู่มากนัก

"จางลี่คนรับใช้ในเรือนเล็กหายไปไหนหมด"

"……."

"จางลี่มีเรื่องอะไรที่ข้ายังไม่รู้หรือไม่"

"ด้านหน้าคือห้องของคุณชายใหญ่เจ้าค่ะ" จางลี่เลือกที่จะเลี่ยงคำตอบ นางไม่อยากพูดในสิ่งที่เกิดขึ้นที่นี่ออกไป จะพูดได้เช่นไรว่าภายในเรือนเล็กมีคนรับใช้แค่สองคนเท่านั้น อีกอย่างทั้งสองคนยังเป็นเพียงเด็กอายุสิบหกไม่รู้ประสา

"คุณชายใหญ่อยู่ด้านในหรือ"

อาเหลียงเด็กหนุ่มวัยสิบหกปีคนรับใช้ของเรือนเล็ก เขามองหญิงสาวหน้าตางดงามแต่ใบหน้าซีดเซียวราวกับคนป่วยด้วยความสงสัย เพราะไม่เคยพบนางมาก่อนแต่เมื่อมองไปที่จางลี่หญิงรับใช้ที่ยืนอยู่ด้านหลังเขาก็รับรู้สถานะของหญิงสาวตรงหน้าทันที

เหตุใดคุณหนูเล็กที่ไม่เคยย่างกายออกจากห้องมาหลายปีถึงมาปรากฏตัวที่นี่!!!

"คุณหนูถามเจ้าไม่ได้ยินหรือ" จางลี่พูดออกมาด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ ดวงตาที่มองไปยังอาเหลียงอย่างคาดโทษที่เขาเสียมารยาทต่อหน้าคุณหนูของนาง

"ขะ..ขอรับคุณชายใหญ่อ่านตำราอยู่ด้านในห้อง"

"ข้าอยากพบพี่ใหญ่ เจ้าเข้าไปบอกเขาได้หรือไม่"

"ขอรับ"

อาเหลียงตอบรับคำคนตรงหน้า ก่อนจะหยิบกุญแจขึ้นมาไขปลดล็อกประตูห้อง ตามคำสั่งของนายท่านคือห้ามมอบอาหารน้ำให้คุณชายและห้ามผู้ใดย่างกายเข้าไปในห้องจนกว่าคุณชายจะอ่านตำราครบ

แต่ตรงหน้าเขาคือคุณหนูเล็กเวินเยว่เล่อผู้เป็นดั่งแก้วตาด้วยใจของนายท่านและฮูหยิน เขาลองชั่งน้ำหนักดูแล้วการขัดใจคุณหนูคงไม่ใช่เรื่องที่ดี

เวินเยว่เล่อมองการกระทำของอาเหลียงแววตาเต็มไปด้วยความสงสัย เหตุใดต้องล็อกกุญแจด้านนอกกัน ราวกับกำลังกักขังพี่ใหญ่ไว้ในห้อง?

"คุณหนูเชิญขอรับ"

"จางลี่เจ้าไปเตรียมชาให้ข้าหน่อย ข้าอยากดื่มชากับพี่ใหญ่ ส่วนเจ้าไปช่วยนาง"

"ขอรับ/เจ้าค่ะ"

หญิงสาวมองแผ่นหลังของคนรับใช้ทั้งสองที่เดินห่างออกไปจนลับสายตา ร่างบางก้าวเท้าเดินเข้าไปในห้องจู่ ๆ เวินเยว่เล่อก็รู้สึกเจ็บหน้าอกขึ้นมาฉับพลันทำให้นางหยุดชะงักฝีเท้า

มือบางยกขึ้นกุมที่อกของตัวเองก่อนจะพยายามหายใจเข้าออกช้า ๆ ความเจ็บปวดที่เคยมีค่อย ๆ เลือนหายไป เวินเยว่เล่อหายใจเข้าออกอีกครู่หนึ่งก่อนจะก้าวเท้าเดินต่อไป

"พี่ใหญ่"

หญิงสาวเอ่ยเรียกผู้เป็นพี่ชายด้วยรอยยิ้ม ดวงตาคู่สวยมองชายหนุ่มในวัยสิบแปด ใบหน้าเกลี้ยงเกลารูปงาม ดวงตาลุ่มลึกกำลังก้มอ่านตำราท่าทางสุขุมราวกับบัณฑิต

"มาหาข้ามีอะไร"

เวินหมิงเย่ คุณชายใหญ่ของสกุลเวินเอ่ยออกมาเสียงเย็น เขาเงยหน้าจากตำราในมือดวงตาจับจ้องไปที่สตรีรูปร่างบอบบางที่มีฐานะเป็นน้องสาวต่างมารดาของเขา บุตรสาวของสตรีชั่วช้าผู้นั้นมีเรื่องอะไรกับข้ากัน

"ข้ามารบกวนพี่ใหญ่หรือไม่เจ้าคะ"

"รบกวน"

ชายหนุ่มตอบออกไปตามความจริงไม่คิดปิดบังหรือรักษาน้ำใจคนตรงหน้าแต่อย่างใด เขาปรายตามองไปที่กองตำราหลายสิบเล่มที่อยู่บนโต๊ะ เวินหมิงเย่จำเป็นต้องอ่านตำราทั้งหมดให้จบภายในวันนี้

"ขออภัยเจ้าค่ะที่เข้ามารบกวนพี่ใหญ่ ได้ยินว่าพี่ใหญ่กำลังตั้งใจกักตัวศึกษาตำราข้าเพียงเป็นห่วงว่าท่านจะหักโหมเกินไปจึงนำชาบำรุงร่างกายมาให้ท่าน"

"ตั้งใจกักตัวศึกษาตำรา? ช่างเป็นคำพูดที่ตลกเสียจริง" เวินหมิงเย่แค่นหัวเราะสมเพชในลำคอ ดวงตาของเขาจับจ้องไปที่น้องสาวที่ไร้เดียงสาของตน เพราะนางเติบโตมาด้วยความรักและมีแต่ผู้คนเอาใจใส่หรือไม่ถึงได้ดูอ่อนต่อโลกเช่นนี้ นางเป็นดั่งแก้วตาดวงใจของตาแก่และหญิงชั่วช้าสินะ

ช่างเปราะบางจนข้าอยากจะทำลายเสียจริง...

"ข้าจะแน่ใจได้อย่างไรว่านั่นคือชาบำรุงไม่ใช่ยาพิษ"

"พี่ใหญ่ล้อเล่นแล้ว ข้าจะวางยาพิษพี่ใหญ่ที่รูปงามไปทำไมกัน พวกเราเป็นพี่น้องกันนะเจ้าคะ"

เวินเยว่เล่อพูดออกมาด้วยรอยยิ้ม นางมองจางลี่ที่ถือชาและขนมเดินเข้ามาในห้อง กลิ่นหอมจากใบชาทำให้บรรยากาศภายในห้องดีขึ้น หญิงสาวที่คิดว่าตัวเองกำลังรบกวนพี่ชายอ่านตำราก็โค้งตัวลาออกไปจากห้อง

"เวินเยว่เล่อน้องสาวข้า เจ้าช่างเติบโตมาด้วยความรักเสียจริง นั่นมันทำให้เจ้าทั้งเปราะบางและอ่อนแอ"

เวินหมิงเย่พูดออกมาเสียงเย็น ดวงตาจับจ้องแผ่นหลังของสตรีที่เดินออกไป ตั้งแต่เกิดมาเขาถูกบิดาเกลียดชังและทำร้าย เดิมทีคิดว่าเพราะบิดาเกลียดชังเด็กจึงทำเช่นนี้ แต่หลังจากที่ฮูหยินคลอดบุตรสาวออกมาเขาก็รับรู้ได้ทันที สาเหตุที่เขาพบเจอเรื่องเช่นนี้ไม่ใช่เพราะบิดาของเขาเกลียดชังเด็ก แต่มันเป็นเพราะเขาเป็นเด็กที่พลาดเกิดจากสาวใช้อุ่นเตียงต่างหาก

'พวกเราเป็นพี่น้องกันนะเจ้าคะ'

เสียงของเวินเยว่เล่อดังขึ้นในหัวของชายหนุ่ม เขาทำเพียงยกยิ้มสมเพชให้กับความไร้เดียงสาของนาง

พี่น้องหรือใครจะเป็นพี่น้องกับเจ้ากัน!!!