บท
ตั้งค่า

CHAPTER 5 ข้อแม้? (1/2)

ผมเดินเข้ามาในมหาวิทยาลัยด้วยหัวใจที่หนักอึ้ง หายใจแทบไม่ออก เมื่อคิดว่าจะบอกนิวตันกับอะตอมยังไงถึงเรื่องที่เกิดขึ้น แววตาและท่าทางยินดีตอนที่รู้ว่าผมแคสผ่านยังติดอยู่ในหัว ผมไม่อยากทำให้เพื่อนหรือใครผิดหวังเลย

ทันทีที่ผมกับพัฒน์เปิดประตูเข้ามาในร้านกาแฟที่นัดเจอกันก่อนเข้าคาบเรียน การได้เห็นนิวตันกับอะตอมยิ้มกว้างต้อนรับกันอย่างยินดีและเสียงตะโกนดังลั่นร้าน

“ดาราดังของเรามาแล้วเว้ย! วู้วๆ”

นิวตันปรบมือเสียงดังชนิดที่ไม่เกรงใจคนในร้านเลย และการตะโกนของเขาทำเอาทุกคนในร้านหันมามองอย่างสนใจ นั่นยิ่งทำให้ผมเกร็งและทำตัวไม่ถูกเข้าไปใหญ่ บ่าที่รู้สึกหนักอยู่แล้วยิ่งเหมือนถูกความหวังของเพื่อนทับลงมาอีกชั้นจนผมรู้สึกเหมือนจะจมดินอยู่แล้ว ทว่าผมยังคงยกยิ้มที่พยายามปั้นให้ปกติที่สุดส่งกลับไป

“เสียงดังน่า” พัฒน์พูดขึ้นก่อนจะนั่งลงข้างๆ นิวตัน

“ทำไม กูอยากให้ทุกคนรู้ว่าเพื่อนกูเก่ง แคสติ้งซีรีส์ดังผ่าน แถมเป็นบทนำด้วย” เขาพูดเสียงดังราวกับอยากให้คนทั้งโลกรู้อย่างที่ปากพูด ผมรู้ว่าเพื่อนภูมิใจในความสำเร็จของผม และผมรู้สึกซาบซึ้งมากจริงๆ ทั้งที่รู้สึกแบบนั้นแท้ๆ แต่กลับยิ่งทำให้ผมรู้สึกเจ็บปวด เจ็บจนไม่กล้าแม้แต่จะบอกความจริงว่าผมไม่มีความสามารถมากพอเพราะฉะนั้น อย่าภูมิใจในตัวกูเลยเพราะมึงจะผิดหวัง กูไม่อยากให้พวกมึงผิดหวังเลย

แค่คิดถึงตอนนั้นผมก็รู้สึกได้ถึงน้ำตาที่กำลังไหลออกมาจนต้องรีบลุกขึ้นแล้ว

“ไปห้องน้ำแป๊บ”

ผมพูดรัวเร็วแล้วรีบวิ่งออกมาจากร้านทันทีในขณะที่น้ำตาไหลอาบแก้ม เมื่อมาถึงห้องน้ำผมรีบปิดประตูและล็อกประตูแล้วทรุดตัวลงนั่งชันเข่ายกมือขึ้นปิดปากเพื่อไม่ให้เสียงสะอื้นเล็ดลอดออกไป

“ภีม มึงโอเคมั้ย”

เสียงของพัฒน์ดังขึ้น

เขาอีกแล้ว… ทำไมเขาต้องสนใจอะไรผมขนาดนี้ด้วย ทั้งที่ผมไม่มีค่าอะไรให้เขาต้องมาสนใจเลยสักนิด มีแต่ทำให้ผิดหวัง ผมรู้สึกอับอายจริงๆ ที่ต้องคอยให้เขามาช่วยเหลืออยู่เรื่อยเลย

“โอเคดิ แค่ขี้ไม่ออกนิดหน่อย” ผมพยายามกลืนก้อนสะอื้นและพูดด้วยน้ำเสียงที่ปกติที่สุด เขาเงียบ

“อ่อนแอบ้างก็ได้ อย่างน้อยก็กับกู” คำว่าอ่อนแอจากปากพัฒน์ อยู่ๆ ก็ทำให้ผมฟิวส์ขาดระเบิดอารมณ์ออกมา

“อ่อนแอเหรอ ถ้ากูอ่อนแอแล้วใครจะช่วยกูฮะ! มึงเหรอ มึงช่วยกูมามากพอแล้ว! ไม่มีใครช่วยกูได้อีกแล้ว!”

อัลฟ่าที่มีชีวิตสุขสบายได้รับการยอมรับอย่างเขาจะมาเข้าใจหัวอกโอเมก้าที่ต้องหลบซ่อนอยู่ในเงามืด แค่ค่าห้องขึ้นราคาก็ยังไม่มีปัญญาจ่ายเลยเหรอ ไม่มีทาง! ต่อให้ปากพูดว่าเข้าใจแต่นั่นก็แค่คำปลอบใจเท่านั้นแหละ

ความเงียบที่เข้าปกคลุมทำให้ผมคิดและวูบโหวงในใจราวกับมีหลุมดำ พัฒน์จากไปแล้ว... ทั้งที่เขาคอยช่วยผมมาตลอด แต่ผมกลับระเบิดอารมณ์ใส่เขา เป็นใครจะทนไหว…

“ถ้ามึงต้องการ กูช่วยมึงได้นะเว้ย…”

ทว่าเสียงตอบรับนั้นกลับทำให้ผมที่คล้ายว่าจะถูกหลุดดำดูดเข้าไปพบกับแสงสว่าง กระนั้นแทนที่ผมจะขอโทษและขอบคุณ การที่เขายังคงอยู่ตรงนี้ไม่ไปไหนกลับยิ่งทำให้ผมโมโหมากยิ่งขึ้น น้ำตาไหลลงอาบแก้ม... ผมไม่มีค่าพอที่จะได้รับสิ่งนี้

“ช่วยเหรอ งั้นมึงช่วยขโมยชีวิตดาราสักคนแล้วให้กูได้อยู่ข้างชิรันได้มั้ยล่ะ มึงทำได้มั้ย!”

ทุกอย่างมันเกินควบคุมไปแล้วถึงขั้นที่ผมพูดจาสิ้นคิด ถึงสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ออกมาแล้วเพื่อไล่เขา ไปซะพัฒน์ กูไม่มีค่าพอให้มึงมาช่วยเหลือหรอก ยิ่งมึงอยู่ใกล้กูมากเท่าไหร่มึงจะยิ่งตกต่ำ ความไร้ค่าของกูจะทำให้มึงแปดเปื้อน

“ต้องการแบบนั้นจริงๆ เหรอ”

“เออ! ถ้าทำไม่ได้ก็ไสหัวไปซะ อย่ามายุ่งกับกูอีก!”

“ได้สิ กูทำได้อยู่แล้ว แค่มึงบอก กูทำให้ได้ทุกอย่าง”

ประโยคนั้นทำเอาผมช็อกไปเลย… โดนไล่ขนาดนี้แล้วยังไม่ยอมไม่ไปไหนแถมยังเสนอตัวจะช่วยในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้อีกเนี่ยนะ…

มันก็แค่คำปลอบใจเท่านั้นแหละ... แต่มันกลับได้ผล

“มึงบ้าไปแล้วเหรอ” ไม่น่าเชื่อว่าประโยคบ้าๆ ของเขาจะทำให้ผมสงบลงได้

“สบายใจเมื่อไหร่ค่อยออกมา กูจะรออยู่ข้างนอก”

เสียงฝีเท้าค่อยๆ เดินห่างออกไปทว่ากลับทำให้วูบโหวง ผมกลับมาตั้งสติ… สูดลมหายใจเข้าออกช้าๆ ยกแขนเสื้อขึ้นเช็ดหน้าเช็ดตา จากนั้นค่อยๆ เปิดประตูเดินออกมาจากห้องน้ำ ทว่ากลับต้องชะงักเมื่อเห็นร่างสูงของพัฒน์ยืนกอดอกพิงอ่างล้างมืออยู่ตรงหน้า

“ตั้งสติได้แล้วเหรอ”

ผมไม่ตอบแค่เดินมายังอ่างล้างหน้าแล้วเปิดก๊อกน้ำ ล้างหน้าที่แดงก่ำมีแต่คราบน้ำตา รู้สึกอับอายจนไม่กล้ามองหน้าเขาเลยด้วยซ้ำทว่าประโยคที่เขาพูดต่อมากลับทำให้ผมต้องเงยหน้าขึ้นมองเขานิ่งค้าง

“กูทำได้จริงนะ”

“ทำได้จริงก็เหี้ยแล้ว”

หลังจากพูดจบ ผมเอื้อมมือปิดก๊อกน้ำแล้วเดินนำหน้าเขาออกมาจากห้องน้ำชาย แต่กลับโดนพัฒน์รั้งข้อมือให้หันกลับไป

“นี่มึงไม่เชื่อเหรอ” ผมมองหน้าพัฒน์นิ่งก่อนจะถอนหายใจ

“กูโอเคแล้ว มึงไม่ต้องพูดเพราะสงสารกูหรอก”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel