บทที่ 3
“คุณท่านไปรับคุณจัมโบ้หรือคะ”
น้ำเสียงที่เอ่ยขานคุยกับเด็กรับใช้คนในบ้าน มักจะลงด้วยคะค่ะ หวานหู แม้ว่าเธอจะเป็นคนพิเศษของคุณท่าน ก็ไม่ได้ทำให้เธอถือตัวว่าเป็นอีกระดับหนึ่ง ทำตัวเสมอกับทุกคนทั้งที่มีสิทธิ์ ทำให้ชินานางเป็นที่ชื่นชอบของทุกคน มีแต่คนรักเอ็นดูคุณดอกหญ้า บางคนออกโรงปกป้องด้วยซ้ำ ถ้าเกิดว่าคุณดอกหญ้าโดนรังแกแกล้งเอา
คนที่รังแกแกล้งคุณดอกหญ้าก็เห็นจะมีแค่คนเดียวเท่านั้น
คุณจับโบ้ หลานชายหัวแก้วหัวแหวนของคุณท่าน
“ค่ะ คุณดอกหญ้า ไปเมื่อสักครู่นี้แล้วค่ะ คุณท่านสั่งไว้ว่าไม่ต้องทำอาหารเย็นขึ้นโต๊ะค่ะวันนี้ เพราะจะพาคุณจัมโบ้ไปรับประทานอาหารเย็นที่ร้านเรือนพัชรา”
เธอพยักหน้ารับรู้ และซักถามว่าคนครัวกินอะไรกันมื้อเย็นนี้ ก็ให้ทำเผื่อเธอด้วยไม่ต้องคิดทำอะไรพิเศษให้
ห้องของศรันย์ถูกเปิดทำความสะอาดอีกครั้งเมื่อวานนี้ หน้าที่ของชินานางวันนี้คือต้องไปเช็คดูแลอีกครั้งเป็นหนสุดท้ายเพื่อให้เจ้าของห้องพึงพอใจอย่างสูงสุด ก็ความศรันย์น้อยเสียที่ไหน เกิดไม่ชอบอะไรขึ้นมาก็พานจะเหวี่ยงวีน ให้ต้องปวดหัววิ่งวุ่นกันอีก แต่ก่อนที่เธอจะทันขึ้นไปที่ห้องของเขา เสียงของเด็กใบตองที่เป็นลูกของคนงานในบ้านก็เรียกเธอไว้ เด็กน้อยชวนพี่ดอกหญ้าไปหาซื้อของแซ่บๆ กิน ชินานางฟังแล้วก็เกิดน้ำลายสอ อยากรับประทานตามเด็กไปด้วย
ไปแค่ไม่เกินชั่วโมงเดี๋ยวค่อยกลับมาทำก็แล้วกัน ยังไงกว่าเขาจะมาก็น่าจะมืดค่ำ เธอก็ลงมารับหน้าเขาพอเป็นพิธีก็พอ
คิดแล้วชินานางก็ถอนใจน้อยๆ เมื่อนึกถึงสิ่งที่คุณท่านจะให้เธอทำหน้าที่...กับคุณศรันย์
นัยน์ตาคมกริบนั่น ผุดขึ้นมาในห้วงนึก
เขาหล่อเหลา...เปี่ยมเสน่ห์ ปฏิเสธไม่ได้ว่าหน้าตาของเขาและบุคลิกช่างดึงดูดสายตาและหัวใจ เธอเองนั้น แม้จะถูกเขากลั่นแกล้ง แหย่แรงๆ และเจียมตนแค่ไหน ว่าตนอย่าไปหาญยุ่งกับคุณเขา แต่ก็...อดตกลงไปในหลุมเสน่ห์ร้ายกาจนั่นไม่ได้
เมื่อเธอถูกมอบหมายให้เป็นว่าที่เจ้าสาวของเขา
ใจหนึ่งก็กลัว เกรง
อีกใจก็สุข
ไม่มีใครรู้ความลับนี้ของเธอ ว่าเธอนั้นแอบหลงรักเขามาตั้งแต่วัยรุ่น ก็ตั้งแต่เรียนรู้คำว่ารัก คำนั้นก็คือเป็นศรันย์ เธอคอยเฝ้าดูเขา คอยดูแลเขา ช่วยงานเขาตามคุณท่านสั่ง อดทนแม้โดนเขาแกล้งเอาแรงๆ จนแทบจะร้องไห้ก็มี
เขาใจร้ายเอาการ ขี้แกล้งที่หนึ่ง แถมชอบทำให้เธอร้องไห้ เธอเป็นคนร้องไห้ยาก แต่เขาก็เหมือนยิ่งอยากให้เธอแสดงอารมณ์ออกมา เอาจริงๆ เธอน่าจะเกลียดเขานะ แต่ทำไมก็ไม่รู้ ก็อย่างว่า ความรักมันไม่มีเหตุผล
การเป็นว่าที่คู่หมั้นคู่หมายของเขามันทำให้ชินานางรู้สึกสองขั้วขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก
เธอถอนใจอีกแล้ว...
อย่าถอนใจสิชินานาง ถ้าถอนใจบ่อยความสุขมันจะหดหายไปนะ
หญิงสาวเฝ้าบอกกับตนเอง
.........................................................................................................................................................
“คุณจัมโบ้ มาตั้งแต่เมื่อไหร่ครับ”
เสียงนายเทิ้มเอ่ยอย่างตื่นเต้นประหลาดใจเมื่อเห็นเขาเดินลงมาจากแท็กซี่ที่มาจอดตรงรั้วบ้าน
“ชูว์”
เขาทำท่าจุ๊ปาก แล้วขยิบตาให้กับนายเทิ้มที่ทำหน้าที่เป็นคนสวน และคนดูแลบริเวณบ้าน นายเทิ้มเป็นคนรับใช้เก่าแก่อยู่กันมาเกินยี่สิบปี เห็นคุณจัมโบ้มาแต่เล็กจึงจำได้ในทันที แม้ว่าเจ้านายหนุ่มจะเปลี่ยนไปมากก็ตามที เทิ้มมองศรันย์ที่โตเป็นหนุ่มเต็มที่ เขาสวมเสื้อยืดสีดำและกางเกงสีเดียวกัน ทำผมสีบลอนด์เงินตัดแบบอันเดอร์คัต ทำให้ใบหน้ายิ่งโดดเด่น เขาสวมแว่นเลนส์สีเหลืองแบบแฟชั่น เจาะหูใส่ต่างหูเรียงกันที่ใบหูด้านขวา ดูเป็นหนุ่มไฮแฟชั่นมาก กับบุคลิกนี้นายเทิ้มไม่เคยเห็นมาก่อน เลยมองคุณจัมโบ้อย่างตื่นตาตื่นใจ เจ้านายกลับมาจากนอก ยังกับดาราเลยก็ไม่ปาน คุณจัมโบ้หน้าตาดีอยู่แล้ว แต่พอยิ่งโตก็ยิ่งหล่อ รูปร่างสูงใหญ่กล้ามเนื้อที่เห็นได้ชัดจากการออกกำลัง เขาสวมเสื้อกล้ามทำให้เห็นได้ชัดเจนในส่วนของแขน ไม่ต้องสืบว่าถ้าถอดเสื้อ ต้องเห็นซิกแพคสวยแน่น อย่างคนดูแลตัวเองเป็นอย่างดี
ร่างกาย หน้าตาของเขา ฐานะ มันส่งเสริมให้ศรันย์ยิ่งกลายเป็นที่ดึงดูด และเขาก็ใช้ร่างกายค่อนข้างเปลืองแหละ กับการไปเผชิญชีวิตในต่างแดน เขายังไม่จริงจังกับใคร สนุกกับชีวิตโสด แม้ว่าหญิงสาวที่มาพัวพันคนล่าสุดนั้น ดูหล่อนจะติดอกติดใจเขามาก และพอรู้ว่าเขาจะต้องกลับบ้าน หล่อนก็ทำเรื่องบินตามเขากลับมาด้วย เรียกได้ว่าหนึบหนับมากมายจริงๆ หนนี้
คะนึงนิตย์เป็นสาวไฮโซ ที่บ้านรวยติดชื่อมิลลิแนร์เมืองไทย หล่อนเลยไม่ได้เดือดร้อนอะไรกับการที่จะต้องทำงาน คะนึงนิตย์เดินทางท่องเที่ยวประเทศที่มีชื่อด้านของแบรนด์ช้อปปิ้งเพื่อทำคอนเทนต์ในช่องยูทูปของเธอ ไม่เน้นยอดวิว ไม่เน้นเงิน แต่เน้นได้อวดของและโปรโมตตัวเองว่าเธอร่ำรวยแค่ไหน เธอขึ้นชื่อเรื่องเป็นสาวสวย รวย เวอร์วัง ใช้เงินเหมือนเบี้ยใช้เงินซื้อทุกอย่างที่ตัวเองต้องการ พ่อแม่ตามใจลูกสาวคนเดียวสนับสนุนและเปย์ไม่อั้นไม่ว่าลูกสาวจะทำอะไร ไม่เคยหวงห้าม สปอยเต็มที่ไม่มีกั๊ก
เธอโตมาแบบนี้ เลยเป็นคนเอาแต่ใจตัวขั้นสุด เริด เชิด และไม่แคร์ใครนอกจากความต้องการของตัวเอง บังเอิญมาเจอกับศรันย์ เขาหล่อ ถูกใจเธอ เป็นหนุ่มที่เธอได้กินกรุบแล้วติดใจ ทว่าเขากลับทำเหมือนว่าวันไนท์ไม่ได้สนใจอะไรมากกว่าเซ็กซ์
เขาเหมือนกับม้าป่าไม่เชื่อง และแน่ล่ะ เธออยากได้เขามาเป็นม้าเลี้ยงของเธอ แน่นอนว่าศรันย์ไม่รู้ความในใจของเธอ เขาบอกไม่ถูกว่าชอบเธอระดับไหนถ้าวัดจากหนึ่งถึงสิบ แต่ก็ถ้าอยากจะตามก็ตามมา มีสาวสวยรวยตามเอาใจ ก็สนุกดีออก อีกอย่างหนึ่ง...นั่นแหละ เอาไว้กวนประสาทคุณย่า
“อย่าให้ใครรู้ว่าฉันกลับมาแล้วล่ะ อย่ากระโตกกระตากมาก ฉันอยากทำให้คุณย่าตกใจ”
บอกกับนายเทิ้ม ทางนั้นอมยิ้ม รู้แหละว่าหลานชอบแหย่ย่า แหย่แบบแรงๆ เสียด้วย ศรันย์เลยซุบซิบกับนายเทิ้ม ว่าจะทำยังไงถึงจะให้เข้าบ้านได้โดยไม่มีใครเห็น เทิ้มเสนอแผนให้เขาเข้าไปทางห้องครัว ตอนนี้เป็นเวลาพักของพวกคนรับใช้ในบ้าน ส่วนใหญ่ก็อยู่ในเรือนพัก บ้านเลยเงียบๆ เนื่องจากเจ้าของบ้านไม่มีใครอยู่
ศรันย์ย่องเข้าบ้านตัวเองตามแผนของนายเทิ้ม เข้าไปได้เสร็จก็พบว่าทางประตูหลังครัวนี้ไม่มีคนเลยสักคน คงไม่มีใครรู้การมาของเขาแน่นอน เขาย่องๆ ขึ้นไปยังชั้นบน และตรงเข้าไปในห้องตัวเอง มันไม่ได้ล็อคและทำความสะอาดปัดกวาดแล้วอย่างเรียบร้อย ผ้าปูที่นอนเป็นสีโปรดของเขา ทุกสิ่งยังถูกจัดวางไว้ที่เดิม ไม่ว่าจะเป็นพวกฟิกเกอร์และของสะสมที่อยู่ตรงบิ้วอินท์ มันถูกดูแลเป็นอย่างดี
บ้านยังไงก็คือบ้าน ไปอยู่ที่ไหนมาถูกใจขนาดไหน สุดท้ายที่พักผ่อนได้สบายใจและนอนหลับได้สบายตัวที่สุดก็คงจะเป็นบ้าน...นั่นแหละ
เขาแขวนกระเป๋าเป้ไว้ตรงผนัง และกระโจนขึ้นไปบนเตียง นอนเล่นสักพัก ก็ลุกขึ้นและตรงไปยังห้องน้ำ อาบน้ำและนอนพักสักตื่นหนึ่ง คงได้เวลาคุณย่ากลับมาพอดี...
ศรันย์เดินเข้าไปในห้องน้ำ และทำการอาบน้ำชำระล้างร่างกาย รอไว้เซอร์ไพรส์คุณสิริญเมื่อท่านกลับมา