บท
ตั้งค่า

บทที่ 2

ศรันย์มองกวาดไปรอบๆ บริเวณสนามบิน เขาเดินดุ่มออกมาจากบริเวณเกต ไม่ได้แวะร้านสินค้าปลอดภาษีเพื่อซื้อของฝากให้กับคุณย่าตามที่แม่เลี้ยงสั่งนักหนา เขาพ่นลมหายใจออกทางปากอย่างหงุดหงิด เขาหงุดหงิดมากที่โดนเรียกตัวกลับมาที่นี่...ด่วนมาก

เขายังไม่ถึงเวลาที่ขอต่อรองไว้กับคุณย่า ว่าจะขออยู่เที่ยวก่อนจะกลับมาทำงาน เพราะเขายอมทำตามที่คุณย่าขอให้เขาไปเรียนในสาขาเพื่อจะมาต่อยอดงานของท่าน ซึ่งมันคนล่ะอย่างกับสิ่งที่เขาชอบ คุณสิริญตกลง เขาจึงเรียนจบแล้วยังอยู่เที่ยวเล่นมาหลายเดือนไม่ยอมกลับเมืองไทยเสียที

คุณย่าตามตัวเขากลับมาก่อนที่คุยกันไว้ และย้ำมาว่าด่วนมาก มีเรื่องที่จะต้องการให้เขารับรู้และต้องทำตาม

ศรันย์พ่นลมหายใจออกมายาวๆ อีกครั้งอย่างหงุดหงิด

เขาไม่รอให้ใครมารับ เขาจำทางกลับบ้านได้ ข้าวของมีเพียงกระเป๋าเป้ใบเดียว ส่วนของที่เหลือเขาให้เพื่อนที่ต่างประเทศแพ็คส่งกลับมาให้ ก็ไม่ได้เอาอะไรกลับมามากมายนอกจากของสะสม ที่เป็นรองเท้าและพวกงานศิลปะที่เขาชอบ อุปกรณ์เครื่องเขียนใดๆ ของเขาด้วย มันเป็นสิ่งสำคัญสำหรับเขามาก

ศรันย์ชอบงานศิลปะ เขามีพรสวรรค์ในการวาดรูป แต่เขาไม่มีทางได้ทำมันเต็มที่ เพราะภาระหน้าที่ซึ่งได้แบกไว้ มันสวนทางกับสิ่งที่เขาอยากทำและชอบ

เกิดมาเพื่อเป็นทายาทสืบต่อทุกสิ่งของคุณสิริญ และเขาก็จะต้องได้ทุกอย่างมาไว้ในมือ ห้ามทำให้มันพังพินาศ ต้องให้ตกต้องเป็นมรดกของตระกูลสืบไป นี่คือสิ่งที่ถูกกรอกหูใส่ตั้งแต่จำความได้

อึดอัดพอสมควรกับความคาดหวังที่ถูกยกใส่บ่าไว้ อาจจะเพราะแบบนี้ ศรันย์เลยไม่รู้ว่าตัวเองได้ทำประชดประชันชีวิตไปพอสมควรกับย่าของเขา เขาคือเด็กดื้อที่ท่านต้องถอนใจใส่บ่อยๆ แต่ก็ไม่อาจจะทอดทิ้งหรือตัดขาดเขาได้ เขาเองก็ตัดขาดท่านไม่ได้ดั่งใจอยากจะทำ ทั้งสองมีความผูกพันที่ไม่อาจจะ ตัดกันได้ จำต้องยอมทำตามความปรารถนาของอีกฝ่าย โดยที่ไม่รู้ตัวแม้จะฝืนใจอย่างไรก็ตามที

ศรันย์กำลังเดา ว่าเรื่องที่ย่าของเขาบอกว่าเรื่องด่วนนั้นคือเรื่องอะไร ระหว่างที่นั่งรถแท็กซี่กลับไปยังบ้านของครอบครัว ย่าบอกว่าจะมารับเขา แต่เขาก็ทำกวนประสาทท่านด้วยการบอกเวลาให้ท่านไปรับ คนล่ะเวลากับที่เครื่องลง คุณสิริญไปรับหลานชายด้วยตัวเองวันนี้แน่นอนว่าท่านจะต้องหัวเสีย แล้วเขาก็จะปิดโทรศัพท์ ให้ท่านร้อนอกร้อนใจ และกลับมาเจอเขาที่บ้าน

โดนด่าแน่ๆ

คิดแล้วก็ขำพรืดขึ้นมาบนรถ จนคนขับหันมามอง ศรันย์ยิ้มตาพราวเป็นประกาย เมื่อนึกถึงหน้าตาของคุณสิริญและคำด่าทอจากท่าน

นิสัยของเขาข้อนี้ไม่รู้เอามาจากใคร ท่านเคยว่า น่าจะจากแม่เขา...ศรันย์ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมเวลาเขาทำตัวอย่างที่ท่านลงความเห็นว่าไม่ดี ทำไมถึงมาโทษมารดาของเขาเรื่อย ไม่โทษคนเลี้ยงเขามาบ้างล่ะ ทุกคนสปอยเอาใจเขา และยิ่งคุณนาตยามารดาเลี้ยง ยิ่งแทบจะถวายทุกสิ่งใส่พานให้เขา พ่อของเขาคุณศันย์ยังพอปรามกันได้ ดุลูกได้บ้าง พอสิ้นพ่อเขาแล้วก็ไม่มีใครปรามศรันย์ได้อยู่

เรื่องอะไรนะ ที่ย่าให้มาทำด่วน เดาก็ไม่น่าจะใช่เรื่องงาน เขาถึงจะไม่ทำงานที่บริษัท แต่ก็มีลูกพี่ลูกน้องอย่างสรชัชคอยส่งข่าวถึงการบริหาร ปัญหาภายใน เพราะทางนั้นทำงานแล้วเต็มตัว ส่วนเขายังไม่ได้ไปทำแต่ก็ถามไถ่อยากรู้ความเคลื่อนไหวไว้เผื่อไปรับมือได้ถ้าเกิดว่าต้องไปรับช่วงต่อ

ตอนนี้บริษัทก็กำลังไปได้ดี ไม่มีปัญหา หมอนั่นเป็นคนเก่งมาก จริงๆ ควรจะเป็นสรชัชขึ้นบริหารไม่ใช่เขา...แต่เอาเถอะ ย่ายกมันให้เขา เขาก็ต้องทำหน้าที่นั้นให้ดีที่สุด

กลับมาแล้วนะ

เอ้า...ไหนบอกว่าถึงไฟลท์บ่ายโมง นี่ฉันกับย่ากำลังออกไปรับนาย สวนกันสิแบบนี้

อืม...นั่งรถออกมาล่ะ นายอย่างกระโตกกระตากไปนะ ถ่ายคลิปเวลาคุณย่าด่าฉันไว้ด้วยล่ะ

ไอ้โรคจิต...เฮ้อ นายได้อะไรจากการทำแบบนี้วะ

คุณย่าจะได้เลือดลมสูบฉีดไง แล้วนายก็จะได้เป็นหลานรัก ขึ้นแท่นแทนฉันได้สักที

ไอ้...

ทางนั้นด่ามาอีกเพียบจนเขาต้องขำ แต่เขารู้ว่าสรชัชจะต้องทำตามที่เขาบอกไว้อยู่แล้ว น้องชายไม่เคยขัดใจเขา ก็ทุกคนนั่นแหละ ที่ไม่เคยขัดใจศรันย์ เว้นไว้คนหนึ่งก็คือคุณย่า...

คุณย่าจะให้เขาทำอะไรให้นะ?

มีวี่แววรังสีอำมหิตอย่างน่าแปลก...

เรื่องหลังสุดที่คุณย่าไปรับเขานี่...ท่านโมโหเขามาก ที่เขาพาสาวๆ เข้าห้องไปสวิงกิ้งบนเตียงถึงสองคน ก็ตามประสาหนุ่มโสดท่านจะโกรธเขาทำไมนักก็ไม่รู้

พอนึกถึงเหตุการณ์นั้นก็ไพล่ไปนึกถึงใครบางคน สาวน้อยที่ติดตามคุณย่าไปเห็นฉากเด็ดนั้นเข้า ยัยเด็กน้อยที่เขาเคยไม่ชอบหล่อนเพราะหมั่นไส้ที่คุณย่ารักหล่อนนัก ไม่ชอบทุกสิ่งที่เป็นตัวหล่อน ไม่รู้เพราะทำไม รู้แต่ว่าหน้าหงอๆ เซื่องๆ ของหล่อนมันไม่ถูกชะตาเขาเลยจริงจัง แต่คุณย่าก็ยังไงกัน ชอบให้เด็กนั่นมาป้วนเปี้ยนวอแวกับเขาอยู่บ่อยๆ

ดอกหญ้า...

เขาเห็นครั้งล่าสุด ก็ยังดูหงอ ดูซึมๆ เอ๋อๆ แบบเดิม ตัวเล็กผอมแห้ง แขนขาเหมือนกิ่งไม้ หัวโตยังกับไม้ขีดไฟ แต่งตัวเชยๆ เฉิ่มๆ ไร้สิ่งดึงดูด

เผลอไปคิดถึงหล่อน ก็พานหงุดหงิดขึ้นมาเสียแล้ว ยัยเด็กดอกหญ้าโดนเอามาเปรียบเทียบกับเขาหลายอย่าง จากคุณย่า ท่านรักเอ็นดูยัยเด็กเอ๋อนั่น ชมเชยรักหลงกันจนมารดาเลี้ยงของเขาเป็นกังวลแทนว่า สักวันเกิดเขาขัดใจท่านมากเข้า มรดกทั้งหมด กิจการทั้งหมด ท่านจะยกให้กับชินานาง

เขายักไหล่เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ เรื่องอะไรจะให้ยัยเด็กนั่นได้ทุกอย่างกัน เขาเป็นทายาทของคุณย่า นั่นเด็กเก็บมาเลี้ยงก็เพราะแบบนี้กระมังเขาถึงไม่เคยชอบหน้าชินานาง เพราะลึกๆ เขาอิจฉาเธอแต่ศรันย์ไม่เคยยอมรับและไม่รู้สึกตัว

จริงๆ แล้วยัยเด็กเอ๋อที่เขาว่ากด กลับเคยสร้างความประทับใจหลายอย่างให้กับเขา โดยที่เขาไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ำ

รู้ก็แค่ไม่ชอบแต่ก็กำจัดออกจากสมองไม่ได้ง่ายดายนัก

ไม่รู้ทำไม

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel