บทที่ 1
"ดอกหญ้า"
เสียงเรียกชื่อเล่นของเธอ ทำให้ชินานางที่กำลังนั่งทำงานอยู่เงยหน้าขึ้นมามอง แล้ววางปากกาลง เธอกำลังลอกรายละเอียดบัญชีจากจอไอแพคลงบนสมุดบัญชีให้กับคุณท่าน...ท่านสะดวกที่จะอ่านรายละเอียดลงบนกระดาษมากกว่าบนจอ ฉะนั้นเมื่อทางบัญชีส่งเอกสารมาเป็นไฟล์ excel ให้กับเธอทางเมล หน้าที่ของเธอคือลอกทุกอย่างแบบคัดลายมือลงในสมุดบัญชีแบบเก่า เพื่อให้ท่านได้อ่านทบทวนอีกหน...
"ค่ะท่าน"
"เสร็จงานหรือยัง"
"ยังเลยค่ะท่าน หนูยังลอกไม่เสร็จค่ะ"
"วางมือไว้ก่อน และตามฉันไปที่ห้องเอนหลัง"
คุณสิริญเอ่ยสั่ง ตาของท่านมองพินิจเด็กสาวในปกครอง เม้มปากเป็นเส้นตรง อย่างเครียดๆ
เมื่อชินานางทรุดลงนั่งพับเพียบตรงหน้า ท่านก็ถอนใจแล้วเรียกให้เธอไปใกล้ๆ ชินานางเงยมองหน้าท่านอย่างไม่เข้าใจนัก เมื่อท่านเชยคางเธอขึ้นมองอย่างพินิจ มองไล้ไปตั้งแต่วงหน้ารูปไข่ แต่งแต้มด้วยนัยน์ตายาวรี ตาแบบนี้ทางซินแสบอกว่าตาหงส์ จมูกของเธอโด่งปลายเป็นหยดน้ำ ริมฝีปากบางสีชมพูเรื่อ ผมของเธอยาวดำมันเหมือนขนนกกาน้ำ มันยาวจนถึงเอวและมัดรวบไว้ด้วยริบบิ้นสีดำ
เธอสวมเสื้อคอปกประดับด้วยระบายลูกไม้ แขนตุ๊กตา แบบเรียบร้อยน่ารักสีส้มอ่อน กระโปรงทรงเอยาวเลยเข่าสีน้ำเงินเข้ม แบบของมันและคนสวมใส่ ดูราวกับว่าย้อนไปยังยุคท่านสาวๆ แล้วแต่งตัวแบบนี้ออกไปทำงานที่กรม...
ก็ท่านนั่นแหละสอนให้หล่อนหัดตัดเย็บเสื้อผ้าอย่างนึกสนุก ก็ทำได้แต่แบบแพทเทินเสื้อผ้าแนวๆ นี้ ชินานางผู้ไม่มีปากเสียง ยิ้ม และบอกกับท่านเวลาท่านถามทักว่าชอบไหม ว่าได้ค่ะ ชอบค่ะ ผลก็คือเจ้าหล่อนยังสวมใส่เสื้อผ้าที่ท่านสอนตัดเย็บ เลือกสีชุด เลือกแบบให้กับชินานางมาจนถึงตอนนี้ ไม่ค่อยเปลี่ยนแบบ ถ้าจะมีเสื้อผ้าเพิ่มเติม ก็คือคุณท่านชวนเธอเย็บผ้าตัดชุดเล่น หรือใจดีพาเธอไปซื้อในห้างสรรพสินค้า ซึ่งอย่างหลังถ้าพาไป เจ้าหล่อนจะสั่นหน้าไม่เอา จนต้องแอบซื้อให้นั่นแหละ
ไม่มีปากมีเสียง
ดุก็ยิ้ม ชมก็ยิ้ม
แถมยังเป็นรอยยิ้มแบบน่ารักน่ามอง คือยิ้มตาหยี ดูน่ารักเหมือนตุ๊กตาจีน
ท่านเก็บเจ้าหล่อนมาชุบเลี้ยง เพราะเมตตาว่าน่าสงสาร ไปเก็บหนี้ด้วยตนเองที่บ้านของลูกหนี้รายหนึ่ง แล้วปรากฏว่าพบกับเด็กน้อย...ที่นั่งร้องไห้ อยู่ข้างๆ กับศพของแม่ที่เป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวที่เป็นไหลตาย ใจของคุณสิริญนั้นเหลวเป็นน้ำ สงสารแม่เด็กน้อยตัวผอม วัยเพียงแปดขวบ จึงเอามาเลี้ยงดูแล เป็นเพื่อนแก้เหงา
ชินานางนั้นเป็นชื่อที่ท่านตั้งให้ และตั้งนามสกุลให้สาวน้อย ส่วนชื่อเล่นดอกหญ้านั้น ชาวบ้านแถวนั้นบอกว่าเธอชื่อนี้ ท่านจึงคงไว้เป็นชื่อเล่น เพื่อให้ได้ระลึกถึงมารดาที่เสียไปที่ตั้งชื่อไว้ให้
ชินานางรู้ถึงภูมิหลังของตนเอง ไม่เคยหลงลืมตัว เธอระลึกจดจำได้ว่าเธอมาจากไหน และยกคุณสิริญไว้เหนือหัว ตั้งใจว่าจะทำทุกอย่างเพื่อตอบแทนที่ท่านให้ข้าว ให้น้ำ ให้การศึกษา และให้ชีวิตใหม่
ยิ่งเธอนอบน้อม น่ารัก ท่านก็เอ็นดูเธอมาก ส่งเสียให้เรียนจนจบปริญญา ชินานางเรียนเก่งพอสมควร ตอนนี้คุณสิริญให้ช่วยงานทางบัญชี และคอยเป็นมือขวาของท่าน ถึงจะวางกิจการให้รุ่นลูกรุ่นหลานดูแล แต่ก็ยังไม่วางเสียทีเดียว คอยตรวจตราทุกอย่างอีกทีหนึ่ง ชินานางรับหน้าที่นั้น บางหนเธอก็จะติดตามคุณสิริญไปที่บริษัทไปช่วยตรวจงาน อีกทีหนึ่งด้วย
ยังเป็นชื่อของคุณสิริญที่ถือหุ้นใหญ่ในบริษัทธุรกิจส่งออกอาหารของเธอ
และมีชื่อของหลานชายคนเดียวของท่าน หลานชายสายตรง ที่คาดเดากันว่า อนาคตท่านจะยกให้ทุกอย่างให้กับเขา คนอื่นที่นามสกุลเดียวกับท่าน ทำงานในนั้นมีเพียงแค่หุ้นนิดหน่อย แต่คนนี้แหละคือทายาทว่าที่เจ้าของหุ้นใหญ่ตัวจริง รวมถึงกิจการอื่นๆ ในเครือของคุณสิริญด้วย
ศรันย์...
คิดถึงพ่อตัวดี และข่าวคราวล่าสุดก็ให้เครียด จนถึงกับต้องวางหมากวางแผน...ไว้สำหรับอนาคตของหลานชายนี่แหละ
มองใบหน้าจิ้มลิ้มของชินานางแล้ว ก็คิดถึงรสนิยมของหลานชาย แม่ดอกหญ้าของท่านสวยน่ารักก็จริง แต่สำหรับพ่อจัมโบ้แล้ว ชินานางก็คงเหมือนดอกหญ้า ไม่สวยเตะตาเหมือนพวกนังดอกไม้สีทองพวกนั้นแน่ๆ ล่ะ
แต่พวกนั้นเหมาะแค่ดมเล่นฉาบฉวย
ต้องดอกหญ้าของท่านนี่แหละ
แล้วคุณสิริญก็เอื้อนเอ่ย ถึงสิ่งที่ท่านคิดไว้ กับชินานาง
"แม่ดอกหญ้า อายุเราเท่าไหร่แล้วนะปีนี้"
"ยี่สิบสี่แล้วค่ะ"
ตอบท่านไป ก็เอียงคออย่างสงสัย ทำไมท่านถึงถามแบบนี้กันนะ มือของท่านลูบแก้มของเธอเบาๆ แล้วกระแอม ก่อนจะเอ่ยต่อเสียงนุ่ม
"ยี่สิบสี่ อายุอานามก็พอเหมาะแล้วนะ อืม...เราจำพี่จัมโบ้ได้ใช่ไหม? เขากำลังจะบินกลับมาแล้วนะ"
"จำได้ค่ะ"
ทำไมจะจำไม่ได้ เด็กผู้ชายตัวแสบคนนั้น คนที่ชอบแกล้งเธอ แถมยังเรียกเธอว่า ยัยหน้าเอ๋อ...
ชินานางหน้าเป็นสีเรื่อขึ้นเล็กน้อย เมื่อนึกถึงเขา...เจอเขาครั้งล่าสุดเพราะไปเยี่ยมเขากับคุณสิริญ สถานการณ์ที่เจอเขานั้นมันไม่ปรกติเลย ก็คุณสิริญเล่นเปิดห้องผัวะไป ตอนที่เขากำลังเล่นเกม...สองรุมหนึ่งกับสาวฝรั่ง แบบไม่ใส่เสื้อผ้าน่ะสิ อี๋...ชินานางผู้ไม่เคยเห็นฉากเรตสิบแปดบวกบวกทวีบวกแบบนี้ ถึงกับเป็นลมไปเลยทันทีด้วยความตื่นเต้นตกใจ
ก็มันเห็นเข้าเต็มๆ ทั้งตัว ขาวจั๊วะ อะไรขนาดนั้น ไม่ตกใจได้ยังไงไหวเล่า
"ถ้าจำได้ก็ดี"
คุณสิริญกระแอมอีกหน แล้วเรียกให้เธอไปนั่งใกล้กว่าเดิม พร้อมกับลูบไหล่ของชินานางเบาๆ พร้อมกับเอ่ยเสียงนุ่ม
"ฉันจะให้เรา กับตาจัมโบ้แต่งงานกัน"
ชินานางมองท่าน เบิกตากว้างอย่างตกใจ และตัวแข็งทื่อ...
นี่เธอกำลังฝันหรือเปล่านะ?