9 ปิดบังมานาน
“ฉันขอโทษนะมายด์” เขาพูดกับนลินภัสร์หลังจากที่พาเธอไปทำแผลและกำลังจะไปส่งหญิงสาวที่หอพัก
“คุณศรุตจะขอโทษมายด์ทำไมคะ มายด์สิต้องขอโทษคุณมากกว่าที่ทำให้ต้องเสียเวลามาส่งมาให้ที่หออีกทั้งที่น่าจะได้กลับไปพักแล้ว”
“ก็ฉันขอโทษที่ฉันบอกให้เธอไม่ต้องใช้หนี้แทนพี่ชายของเธอทำให้เขาต้องตามมาทวง แล้วเขาได้ไปเท่าไหร่” ศรุตรู้สึกว่าตัวเองเป็นคนผิดและเห็นแก่ตัวมากที่ไม่ยอมให้นลินภัสร์ใช้หนี้แทนพี่ชายแต่กลับให้เธอใช้หนี้แทนยาของเธอ
“ในกระเป๋ามีไม่ถึงห้าพันหรอกค่ะ”
“งั้นก็หมายความว่าเดี๋ยวเขาจะต้องมาทวงคืนอีกใช่ไหม ฉันว่าเราไปแจ้งความไว้ก่อนดีกว่า แจ้งความข้อหาทำร้ายร่างกายไว้ก่อนและให้ตำรวจจัดการเรื่องนี้ต่อดีไหม”
“อย่าทำให้เป็นเรื่องใหญ่เลยค่ะ เอาเป็นว่าจากนี้มายด์จะระวังตัวเองไม่ให้เจอกับเขาอีก”
“เธอคิดว่าเธอจะระวังตัวได้ดีแค่ไหนล่ะเดี๋ยวก็ได้ทำงานฟรีให้เขาเอาเงินไปอีกหรอก”
“ต่อไปมายด์จะให้ผู้จัดการร้านโอนเข้าบัญชีดีกว่าค่ะ ไม่เอาเงินสดอีกแล้ว”
“แต่ฉันว่านั่นมันเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ”
“เอาไว้เดี๋ยวมายด์โทรไปคุยกับพี่แบงค์เองค่ะ จะบอกเขาว่าไม่ให้มายุ่งกับมายด์อีกถ้าเขายังมายุ่งมายด์จะแจ้งความตกลงตามนี้ได้ไหมคะ”
“ถ้างั้นก็ตามใจเธอแล้วกันนะ” ศรุตคิดว่าพูดไปนลินภัสร์ก็คงไม่ฟังแต่เรื่องนี้เขาคงจะปล่อยผ่านไปไม่ได้บางทีเขาจะต้องจัดการอะไรบางอย่างเพื่อที่ผู้ชายคนนั้นจะได้ไม่มายุ่งกับเธออีก
เมื่อขับรถมาถึงหอพัก ชยาภรณ์ก็นั่งอยู่บน รถจักรยานยนต์
“อ้าวน้ำทำไมยังไม่ขึ้นห้องล่ะเป็นอะไรหรือเปล่า”
“น้ำเดินผ่านห้องมายด์ เห็นประตูเปิดอยู่ก็คิดว่ามายด์กลับมาถึงก่อนน้ำแต่พอเปิดเข้าไปในห้องของมายด์ก็ถูกค้นข้าวของกระจัดกระจายหมดเลย”
“อะไรนะ ใครจะทำแบบนั้น”
“น้ำก็ไม่รู้เหมือนกันจะถามเจ้าของห้องตอนนี้ก็ติดต่อไม่ได้หอเราก็ไม่มีกล้องวงจรปิดด้วย”
“ฉันขอขึ้นไปดูห้องเธอหน่อยได้ไหม”
“ได้ค่ะ” ชยาภรณ์รีบพาชายหนุ่มเดินขึ้นไปบนห้องซึ่งอยู่เธอบริเวณชั้นสามส่วนนลินภัสร์นะรู้สึกเจ็บแผลมากหญิงสาวได้เดินตามหลังไปช้าๆ
“ห้องนี้ค่ะคุณศรุต” หยิงสาวบอกพร้อมเปิดประตูให้ชายหนุ่มเข้าไปด้านใน
ตอนนี้สภาพห้องของนลินภัสร์ดูไม่ได้เลยสักนิดข้าวของกระจัดกระจายทั้งโต๊ะทั้งเก้าอี้ล้มระเนระนาดไปหมด
“ทำไมห้องมายด์เละเทะขนาดนั้นคะ” นลินภัสร์ที่เดินตามมาทีหลังมองสภาพห้องของตัวเองแล้วถอนหายใจอย่างหนักเพราะทุกอย่างมันกระจัดกระจายจนไม่รู้จะเริ่มเก็บกวาดจากตรงไหน
“ฉันว่าน่าจะเป็นฝีมือของผู้ชายคนนั้น น่ะมายด์เธอคงไม่ปลอดภัยนะถ้าจะอยู่ที่นี่”
“น้ำเห็นด้วยกับคุณศรุตนะ ถ้ามายด์อยู่ห้องมันจะเป็นยังไง”
“เธอลองดูซิมายด์ว่าของมีค่าอะไรของเธอหายไปหรือเปล่าแล้วฉันจะพาไปแจ้งความ”
นลินภัสร์รีบตรงไปเปิดลิ้นชักที่โต๊ะเขียนหนังสือที่ล้มอยู่บนพื้นจากนั้นเอามือล้วงไปด้านในสุดแล้วยิ้มเมื่อเจอถุงใส่ทองที่ตนเองซ่อนไว้ จากนั้นก็เปิดลิ้นชักอีกชั้นมองกระป๋องเหล็กที่ตนเองเอาเงินใส่ไว้ด้านใน
“มีแค่เงินสดบางส่วนที่หายไปค่ะอย่างอื่นยังอยู่ครบ”
“โชคดีมากๆ เลยนะที่มายด์ฝากโน้ตบุ๊กไว้ที่ห้องของน้ำถ้ายังนั้นเขาต้องเอาไปแน่ๆ”
“เรื่องนี้ฉันว่ายังไงก็ต้องแจ้งความ แต่ตอนนี้มันดึกแล้วฉันว่าเธอสองคนไปพักก่อนดีกว่าพรุ่งนี้ใส่สายๆ ฉันจะมารับและพาไปแจ้งความ”
“ไม่เป็นไรค่ะคุณศรุตเดี๋ยวมายด์ไปแจ้งความเองก็ได้”
“น้ำ” ศรุตคิดว่าพูดกับนลินภัสร์คงไม่ค่อยรู้เรื่องเพราะเธอเอาแต่จะขัดใจเขาเลยเลือกที่จะคุยกับชยาภรณ์มากกว่าดูเหมือนหญิงสาวจะเกรงใจเขามาก
“อะไรคะคุณศรุต”
“ฉันฝากเธอด้วยนะ พรุ่งนี้ฉันจะมารับเธอสองคนไปแจ้งความ ส่วนเรื่องห้องฉันว่าเธอน่าจะอยู่ที่นี่ต่อไม่ได้แล้วมันอันตรายเกินไป เดี๋ยวฉันจะหาหอพักใกล้ๆ กับบริษัทให้เธออยู่ชั่วคราวไปก่อนดีไหม”
“ให้มายด์อยู่กับน้ำก็ได้นะคะ”
“เธอคิดว่าถ้ามายด์ไปอยู่กับเธอแล้วพวกนั้นจะตามไม่เจอหรือยังไงล่ะ ห้องเธอก็อยู่ใกล้กันแค่นี้เองไม่ใช่เหรอ”
“นั่นสิคะน้ำลืมไปสนิทเลย ถ้าอย่างนั้นน้ำฝากคุณศรุตหาที่พักให้มายด์หน่อยได้ไหมคะ”
“เดี๋ยวฉันจะจัดการให้แล้วกัน พรุ่งนี้หลังจากแจ้งความแล้วเธอก็เก็บของออกจากที่นี่”
“มายด์หาหอพักเองก็ได้ค่ะ คุณศรุตไม่ต้องลำบากหรอก”
“ฉันเองก็มีส่วนผิดเอาเป็นว่าฉันจะไถ่โทษด้วยการหาที่พักให้เธอก็แล้วกันนะ ตกลงตามนี้ คืนนี้ฉันง่วงมากๆ แล้วพรุ่งนี้เจอกันเก้าโมงนะ ไปก่อนนะน้ำถ้ายังไงฉันฝากด้วย”
“ค่ะคุณศรุตไม่ต้องห่วงค่ะเดี๋ยวน้ำจะดูแลอย่างดีเลย”
เมื่อคุณศรุตขับรถออกไปจากบริเวณหอพักแล้ว นลินภัสร์ก็ถือหมอนกับผ้าห่มเดินตามชยาภรณ์ไปที่ห้อง
“มายด์เราว่ามายด์กับคุณศรุตไม่ใช่แค่เจ้านายกับลูกน้องกันธรรมดาแน่ๆ มายด์ไว้กับเขารู้จักกันมาก่อนใช่มั้ย”
“ก็ที่มายด์เล่าให้ฟังไงว่าเขาว่ายายของมายด์เคยทำงานที่บริษัทของเขา”
“มันไม่ใช่เรื่องนั้นน่ะ มันเป็นเรื่องที่เขารู้ว่าผู้ชายคนนั้นมาทวงหนี้มันยังไงกันแน่เล่าให้น้ำฟังมาเถอะน้ำสัญญาจะไม่บอกใคร”
“มายด์ขอโทษนะน้ำที่ปิดบังน้ำกับวิมาตลอด”
แล้วนลินภัสร์ก็เล่าให้ชยาภรณ์ฟังว่าศรุตคือเจ้านี้ที่เธอเคยเล่าให้ฟังเมื่ออาทิตย์ก่อน
“ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าโลกมันกลมขนาดนี้ มายด์ไม่รู้มาก่อนหรือเปล่าว่าตัวเองจะได้ฝึกงานที่บริษัทของเขา”
“ไหนๆ น้ำก็รู้เรื่องแล้วมายด์ก็ไม่อยากจะโกหก คือมายด์ไปขอผ่อนผันหนี้กับเขา และขอทำงานกับเขาที่บริษัทเพื่อเป็นการใช้หนี้ แต่พอเขารู้ว่าเราจะต้องฝึกงานเขาก็เลยอยากให้ไปฝึกงานกับเขาตั้งแต่ตอนนี้เพื่อที่จบมาจะได้ทำงานที่นั่นเลย”
“ถึงว่าล่ะอาจารย์ก็บอกอยู่ว่าบริษัทนี้ไม่เคยรับนักศึกษาฝึกงานเลย แถมยังให้เบี้ยเลี้ยงมากกว่าที่อื่นด้วยเป็นเพราะมายด์นี่เอง”
“ตอนแรกที่เขาบอกจะให้มาฝึกงานมายด์ก็ไม่เชื่อหรอกนะว่าเขาจะทำได้ เพราะมายด์ไม่เคยรู้เลยว่าเขาเรียนจบที่มหาวิทยาลัยเดียวกับเรา”
“แต่แบบนี้ก็ดีเหมือนกันนะมายด์ไม่ได้ฝึกงานที่นี่และเรียนจบก็จะได้ทำงานที่นี่เลยไม่ต้องไปหางานให้เหนื่อย”
“มันก็ดีตรงที่มายด์ไม่ต้องหางานให้เหนื่อย แต่มันไม่ดีตรงที่เงินเดือนทุกเดือนหลังจากนี้มายด์จะต้องถูกเขาหักออก คงอีกหลายปีเลยกว่าจะใช้หนี้หมด อีกอย่างเท่าที่มายด์คุยกับเขาแล้วถ้าหากมายด์เป็นพนักงานประจำจริงๆ ก็คงไปทำงานที่ผับไม่ได้ รายได้ของมายด์หายไปเดือนหนึ่งก็เป็นหมื่นเลยนะ”
“แต่ถ้าเขามีที่พักให้ไม่ก็จะได้ไม่เสียค่าเช่าหอไง น้ำว่ามันดีนะเพราะอีกหน่อยน้ำก็ต้องย้ายออกจากที่นี่เหมือนกัน”
“มายด์ยังไม่รู้เลยว่าเขาจะให้ไปอยู่ที่ไหน”
“อย่าพึ่งคิดอะไรมากเลยมายด์ พรุ่งนี้เราจะต้องตื่นเช้าไปแจ้งความอีกนอนกันดีกว่านะ ตอนนี้น้ำง่วงมากๆ”
“แล้วจะไม่อาบน้ำก่อนเหรอน้ำ”
“ไม่อาบแล้วมันง่วงจริงๆ มายด์จะอาบไหม”
“ถ้าเจ้าของห้องไม่อาบน้ำ มายด์ก็ไม่อาบหรอกพรุ่งนี้เดี๋ยวเราค่อยเอาเครื่องนอนไปซักกันนะ”
“นอนก่อนเถอะมายด์ตอนนี้น้ำง่วงมากจริงๆ
เมื่อได้เล่าเรื่องของตนเองให้เพื่อนฟังนลินภัสร์ก็รู้สึกสบายใจขึ้นมากเพราะตลอดระยะเวลาที่ไปฝึกงานเธอรู้สึกผิดมากที่ไม่ได้เล่าเรื่องของตัวเองให้กับเพื่อนรักฟัง
ตอนนี้เธอเล่าให้ชยาภรณ์ฟังไปคนหนึ่งแล้วก็เหลือแต่วิชัญญาซึ่งคิดว่าพรุ่งนี้จะโทรศัพท์ไปเล่าให้เพื่อนฟังทุกเรื่อง