6 หน้าที่ของผู้ช่วย
นลินภัสร์มาฝึกงานในบริษัทของศรุตได้เกือบหนึ่งอาทิตย์แล้วหญิงสาวช่วยนรเทพได้ค่อนข้างมาก ทำให้เขาพอใจและคิดว่าถ้าหากตนเองต้องไปทำงานแทนเจ้านายที่เวียดนามก็ไม่ต้องห่วงว่าเขาจะไม่มีผู้ช่วย
“บ่ายนี้พี่จะออกไปคุยงานข้างนอก ถ้ายังไงพี่ฝากมายด์ชงกาแฟไปให้คุณศรุตในห้องด้วยเวลาบ่ายสองโมงนะ” นรเทพสั่งงานผู้ช่วยคนใหม่ที่นั่งทำงานอยู่ข้างๆ กับโต๊ะทำงานของเขา
“ได้ค่ะ พี่น็อตแล้วพี่จะกลับเข้ามาที่บริษัทอีกหรือเปล่าคะ”
“คงไม่แล้วแหละคุยธุระเสร็จก็ว่าจะกลับบ้านเลย ถ้ายังไงเราเจอกันอีกทีวันจันทร์นะ”
“ค่ะพี่น็อต” นรเทพเดินออกไปแล้วนลินภัสร์ก็นั่งทำงานที่ได้รับมอบหมาย
พอถึงบ่ายสองเธอก็ชงกาแฟตามสูตรที่นรเทพ บอกว่าเอาไปให้เจ้านาย
หญิงสาวเคาะประตูสามครั้งอย่างที่นรเทพบอกไว้ก่อนจะเปิดประตูเข้าไป
“กาแฟค่ะคุณศรุต” เธอว่างกาแฟลงบนโต๊ะทำงานแต่ยังไม่ยอมเดินออกจากห้อง
ศรุตเงยหน้าขึ้นมามองก็รู้สึกแปลกใจและคิดว่านลินภัสร์น่าจะอะไรบางอย่างจะคุยกับตนเองแน่ๆ
“มีอะไรจะคุยกับฉันใช่ไหม”
“ใช่ค่ะ แต่มายด์เห็นว่าคุณกำลังยุ่งอยู่เอาไว้วันหลังก็ได้ค่ะ”
“ฉันไม่ยุ่งเท่าไหร่หรอก เธอจะถามอะไรล่ะเรื่องฝึกงานหรือเปล่า”
“เปล่าค่ะ” นลินภัสร์ลังเลว่าจะถามเขาดีหรือเปล่าแต่ถ้าไม่ถามเธอก็จะไม่รู้เลยว่าตัวเองต้องใช้หนี้จริงๆ เป็นเงินเท่าไหร่กันแน่
“แล้วมันเรื่องอะไรล่ะ”
“คือที่คุณเอาสัญญาเงินกู้ให้มายด์ดูเงินต้นที่ยืมไปสี่แสนบาท ใช่ไหมคะ แล้วดอกเบี้ยล่ะคะ ในนั้นไม่ได้ระบุดอกเบี้ยไว้”
“พนักงานที่ยืมเงินจากบริษัทเราจะไม่คิดดอกเบี้ยหรอกนะ”
“ไม่คิดจริงๆ ใช่ไหมคะ” หญิงสาวรู้สึกดีใจที่ได้ยินเพราะถ้าหากเขาคิดดอกเบี้ยด้วยจำนวนเงินก็ต้องเพิ่มมากขึ้นอย่างแน่นอน
“จริงสิ ฉันไม่อยากให้พนักงานที่นี่ต้องไปกู้เงินนอกระบบก็เลยให้พวกเขาทำสัญญากู้เงินกับเราแต่วงเงินก็ไม่มีไม่มีใครได้เยอะเท่ายายของเธอหรอกนะ”
“ทำไมคุณศรุตถึงให้ยายกู้เงินเยอะขนาดนั้นคะ สี่แสนมายด์ว่ามันมากเกินกว่าที่คนอายุหกสิบอย่างยายจะใช้หนี้ไหวนะคะ”
“เพราะยายสนบอกว่าจะเอาเงินไปให้หลานลงทุนทำกิจการแล้ว จะเอามาคืนภายในหนึ่งปียังไงล่ะ ฉันเห็นว่ายายเธอทำงานกับฉันมานานและฉันเองและฉันก็นึกถึงตัวเองในวันที่ไม่มีเงินและต้องไปกู้จากธนาคารมาทำธุรกิจฉันก็เลยยอมให้ยายเธอกู้เงินน่ะ”
“ถ้าสมมุติคุณตามหามายด์กับพี่ไม้ไม่ได้คุณจะทำยังไงกับหนี้ก้อนนี้”
“ไม่รู้สิ ฉันยังไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้เลย แต่ก็ดีนะที่ฉันตามตัวเธอเจอ เธอก็เลยต้องมารับผิดชอบ ฉันรู้นะว่าเรื่องนี้มันไม่ถูกต้องเลยแต่ฉันก็ไม่รู้จะช่วยเธอยังไงเพราะยายไม่ได้กู้ยืมเงินจากฉันโดยตรงเขากู้ผ่านบริษัทเพราะฉะนั้นการใช้หนี้ก็จะต้องเป็นไปตามกฎระเบียบ เอาไว้ถ้าเธอเรียนจบแล้วมาทำงานกับฉันแล้วทำงานดีดีฉันจะเพิ่มโบนัสให้เธอเยอะๆ ดีไหมล่ะจะได้ใช้หนี้หมดเร็วๆ”
“ดีค่ะ แต่อีกตั้งสามเดือนเลยนะคะกว่ามายด์จะเรียนจบ”
“ฉันไม่รีบหรอกแล้วเธอล่ะช่วงนี้ยังทำงานพิเศษอยู่หรือเปล่า”
“ยังทำอยู่ค่ะ”
“ทำงานพิเศษแล้วยังจะมาฝึกการไว้เธอก็เก่งเหมือนกันนะ”
“มายด์เหลือตัวคนเดียวนี่คะคุณศรุตถ้ามายด์ไม่เก่ง ไม่สู้แล้วมายด์จะอยู่ได้ยังไงล่ะ” หญิงสาวตอบไปตามความจริงเพราะตอนนี้เธอก็เหมือนอยู่ตัวคนเดียวบนโลกใบนี้
“แล้วเธอติดต่อพี่ชายได้บ้างหรือยังล่ะ”
“ติดต่อไม่ได้เลยค่ะ มายด์ทั้งโทรทั้งไลน์ไปหาแต่เขาก็ไม่เคยอ่านข้อความเลย บางทีเขาอาจจะไม่อยากติดต่อกับมายด์แล้วก็ได้เพราะถ้าติดต่อกลับมาก็กลัวจะต้องมาใช้หนี้”
“แล้วเพื่อนของเขาล่ะยังโทรมาทวงหนี้กับเธออยู่ไหม”
“ไม่ค่ะ เขาไม่ได้โทรมาเลยค่ะ แต่ไม่โทรมาก็ดีเหมือนกันค่ะเพราะมายด์ไม่รู้จะบอกเขายังไงเหมือนกันว่าจะไม่ใช้หนี้แทนพี่ชาย”
“ก็บอกเขาไปตามตรงนั่นแหละไม่เห็นมีอะไรต้องกลัวเลย ถ้าเขามีปัญหามากนักก็ให้เขาโทรคุยกับฉันแล้วฉันจะจัดการเอง”
“มายด์คงไม่รบกวนคุณศรุตมากขนาดนั้นหรอกค่ะ แค่คุณให้มายด์ผ่อนชำระหนี้แค่นี้มายด์ก็รู้สึกขอบคุณมากๆ แล้วไหนยังจะรับมายด์และเพื่อนๆ เขามาฝึกงานที่นี่อีก อาจารย์บอกว่าแต่ก่อนบริษัทคุณไม่เคยรักนักศึกษาฝึกงานเลยใช่ไหมคะ”
“ใช่แต่ก่อนฉันไม่เคยรับนักศึกษาฝึกงานเลย”
“เพราะอะไรเหรอคะ”
“เพราะฉันคิดว่าฉันให้ความรู้กับพวกเขาได้ไม่เต็มที่น่ะสิบริษัทฉันเพิ่งเปิดมาได้ไม่ถึงสิบปีไม่รู้จะเอาอะไรไปสอนนักศึกษานะ”
“แต่บริษัทคุณก็ขยายตัวเร็วมากๆ เลยนะคะตอนนี้ไม่ว่าจะไปที่ไหนมายด์ก็เห็นร้านคุณเต็มไปหมด อาจารย์บอกว่าคุณจะเปิดกิจการใหม่ด้วยใช่ไหมคะ”
“ฉันกำลังวางแผนว่าจะเปิดร้านเครื่องสำอาง”
“แต่ร้านเครื่องสำอางมายด์เห็นมีเกลื่อนไปหมดแล้วนะคะ”
“ฉันก็กำลังหาข้อมูลอยู่เครื่องสำอางที่ฉันจะนำเข้ามาขายฉันจะคุยกับผู้ผลิตและโรงงานเกาหลีและญี่ปุ่น ถ้าซื้อในปริมาณที่มากก็จะได้ราคาถูก จากนั้นก็กระจายตามสาขาต่างๆ ราคาไม่สูงเท่าไหร่วัยรุ่นจับต้องได้ ฉันจะลองเปิดสาขาตามหน้ามหาวิทยาลัยดูก่อนเธอคิดว่ายังไงล่ะ”
“ถ้าราคาไม่แพงก็ฟังดูน่าสนใจดีนะคะ เพราะแบบนี้หรือเปล่าพี่นอนละพี่น็อตเขาถึงไม่ค่อยมีเวลาอยู่ในบริษัทเลย”
“ใช่ฉันให้เขาไปดูสถานที่และติดต่ออะไรหลายๆ อย่างนะเธอถามเรื่องนี้ขึ้นมาก็ดีเลยเดือนหน้าฉันจะต้องบินไปดูโรงงานผลิตเครื่องสำอางที่เกาหลี ฉันว่าจะให้เธอไปด้วย เธอมีพาสปอร์ตไหม”
“ไม่มีค่ะ”
“ถ้าอยากไปทำงานกับฉันก็ไปทำซะ”
“คุณศรุตจะให้มายด์ไปด้วยเหรอคะ แต่มายด์เป็นนักศึกษาฝึกงานเองมันจะดีเหรอคะ”
“เธอมีหน้าที่เป็นผู้ช่วยของนรเทพนะถ้านรเทพไม่ว่างไปกับฉันเธอก็ต้องไปทำงานแทนเขาใช่ไหมล่ะ อีกอย่างถ้าเธอเรียนจบแล้วเธอก็ทำงานกับฉันที่นี่อยู่แล้ว ฉันก็อยากพาเธอไปเรียนรู้ให้มากที่สุดน่ะ ฉันเห็นในประวัติเธอบอกว่าพอจะพูดและฟังภาษาเกาหลีออกใช่ไหม”
“ใช่ค่ะแต่ถ้าเขาพูดเร็วเร็วมายด์ก็ฟังไม่ค่อยรู้เรื่อง”
“ถ้าอย่างนั้นฝึกอีกนิดหน่อยแล้วกันนะเผื่อไปเกาหลีจะได้ใช้”
“แล้วคุณศรุตพูดภาษาเกาหลีได้ไหมคะ”
“ไม่หรอกเวลาติดต่องานส่วนใหญ่ฉันจะใช้ภาษาอังกฤษน่ะ”
“อ้าวแล้วให้มายด์ฝึกภาษาเกาหลีทำไมล่ะ”
“การติดต่อกับเขาบางทีก็อาจจะต้องรู้บ้างว่าเขาพูดถึงเราว่ายังไงเพราะบางครั้งเขาก็ใช้ภาษาเกาหลีสื่อสารกันเองถ้าเราฟังเขาออกมันก็น่าจะช่วยได้เยอะ”
“ถ้างั้นมายด์จะใช้เวลาว่างฝึกภาษาเกาหลีเพิ่มก็แล้วกันค่ะ”
“อย่าลืมไปทำพาสปอร์ตด้วยนะค่าใช้จ่ายไปเบิกกับฝ่ายบัญชีเดี๋ยวฉันจะบอกเขาให้”
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ มายด์ไม่อยากรบกวนบริษัทเพราะตอนนี้สถานะของมายด์ก็เป็นแค่เด็กฝึกงานอยู่ ค่าทำพาสปอร์ตน่าจะไม่เท่าไหร่มายด์จ่ายเองก็ได้” นลินภัสร์ไม่อยากให้คนอื่นรู้ว่าเธอจะได้ไปทำงานกับเจ้านายที่ต่างประเทศ
“ถ้าไม่ไปเบิกที่บัญชีงั้นฉันโอนให้เธอก็แล้วกันเอาเลขบัญชีมา”
“สิไม่เป็นไรค่ะ” หญิงสาวปฏิเสธเพราะเคยรู้มาว่าการทำพาสสปอตไม่ได้ราคาแพงมากเท่าไหร่อีกอย่างเธอก็ไม่อยากรับเงินของเขามาอีกแล้ว
“ผู้ใหญ่ให้ก็ควรรับไว้นะมายด์ แล้วเธอก็ไม่ได้ไปเที่ยวแต่เธอไปทำงานให้ฉันนะ”
“ถ้างั้นก็ได้ค่ะ” หญิงสาวส่งโทรศัพท์เปิด QR Code ให้เขาสแกน
เสียงเตือนดังติ้งเธอรีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูก็เห็นจำนวนเงินที่เขาโอนเข้ามามากถึงห้าหมื่นบาท
“คุณศรุตคะ ค่าทำพาสปอร์ตมันหลักพันเองนะคะ คุณใส่เลขศูนย์เกินมาหรือเปล่าคะ”
“การไปครั้งนี้เราจะไปติดต่องานฉันอยากให้เธอแต่งตัวให้ดูดีหน่อย เธอคงไม่คิดจะใส่ชุดนักศึกษาไปทำงานกับฉันหรอกใช่ไหม”
“แต่มันก็เยอะมาก”
“เอาเงินนี่ไปซื้อชุด สำหรับไปทำงานแล้วอย่าลืมเช็กสภาพอากาศที่นั่นด้วยจะได้เตรียมชุดไปถูกพวกกระเป๋าเดินทางอะไรก็ซื้อพร้อมกันเลยถ้าไม่พอก็บอกเดี๋ยวฉันจะโอนเพิ่มให้อีก”
“พอยิ่งกว่าพออีกค่ะ เวลามายด์ซื้ออะไรมายด์จะขอใบเสร็จและจะทำรายการให้คุณดูนะคะ ถ้าเหลือก็จะเอามาคืน”
“ไม่ต้องคืนหรอกเอาไว้ใช้เถอะ แล้วไม่ต้องบอกว่ามันมากเกินไปฉันไม่อยากฟังออกไปได้แล้วฉันจะทำงานต่อ”
“ก็ได้ค่ะคุณศรุต”