5 เงินมันดีกว่า
แล้วนลินภัสร์ก็เล่าเรื่องที่ใหญ่ของตนเองเป็นหนี้ให้กับเพื่อนฟังแต่เธอไม่ได้บอกว่าเจ้าหนี้คือใครเพราะกลัวจะกระทบกับการฝึกงานและอาจจะทำให้เธอถูกมองว่าเป็นเด็กเส้นในการเข้าไปฝึกงานครั้งนี้
“เยอะมากเลยนะมายด์แล้วแบบนี้เมื่อไหร่จะใช้หนี้หมดล่ะ”
“เพราะอย่างนี้มายด์ถึงอยากจะรีบเรียนจบแล้วทำงานเร็วๆ ไงล่ะ จะได้ทำงานผ่อนเขาเดือนละห้าหกพันก็คงจะดี”
“หลายปีเลยนะมายด์กว่าจะใช้หนี้หมดแล้วจะดอกเบี้ยอีกล่ะ”
“นั่นสิมายด์ลืมคิดเรื่องดอกเบี้ยไปเลยเจ้าหนี้เขาก็ไม่ได้พูดถึงเรื่องดอกเบี้ย”
“เจ้าหนี้ของมายด์เป็นใครล่ะหรือเขาจะไม่คิดดอกเบี้ยนะ”
“เห็นที่มายด์จะต้องเข้าไปคุยกับเขาดอกเบี้ย”
“ถามดีๆ นะมายด์เกิดดอกเบี้ยโหดเหมือนพวกเงินกู้นอกระบบขึ้นมาเงินต้นสี่แสนป่านนี้เงินทั้งหมดก็น่าจะเป็นล้านแล้ว”
“น้ำแกก็อย่าพูดให้มายด์มันใจเสียสิ ดูหน้ามันสิตอนนี้หดเหลือแค่สองนิ้วเอง”
“ไม่เป็นไรหรอกนะ วิว่ามายด์ค่อยๆ คุยเราว่าเจ้าหนี้เขาก็น่าจะใจดีอยู่นะ ถ้าอย่างงั้นคงไม่ให้มายด์ผ่อนใช้หนี้หรอก”
“มายก็คิดว่าอย่างนั้น ได้เดี๋ยวมายด์จะลองถามเขาเรื่องดอกเบี้ยดู”
“วิว่ามายด์กับน้ำไปทำงานร้านใหม่กับวิดีไหมร้านที่มายด์ทำอยู่ดริ๊งค์ละร้อยห้าสิบเองนะ แต่ร้านที่วิไปทำได้สองร้อยสามสิบ แต่อาจจะต้องเปลืองตัวหน่อยเพราะลูกค้ามือเป็นปลาหมึก แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะออกไปต่อข้างนอกกับแขกนะ เพราะทางร้านก็ไม่ให้พนักงานทำแบบนั้นเหมือนกันถ้าเขารู้เขาก็จะไล่ออก” วิชัญญาเองก็ทำงานพิเศษแต่ทำคนล่ะกับนลินภัสร์และชยาภรณ์
“เอายังไงดีล่ะ” นลินภัสร์หันไปถามชยาภรณ์เพราะพักที่หอเดียวกันและทำงานที่ร้านใกล้กับมหาวิทยาลัยถึงแม้เงินที่ได้ในแต่ละคืนจะไม่เยอะเท่าร้านที่เพื่อนทำแต่มันก็สะดวกกับการเดินทางมากๆ
“หรือว่าเราจะเช่ามอเตอร์ไซค์ใช้กันดีนะมายด์ น้ำเคยถามร้านเช่ามอเตอร์ไซค์รายเดือนที่หน้ามหาวิทยาลัย ค่าเช่าจะอยู่ที่ประมาณสามพันห้า ถ้าเฉลี่ยต่อวันก็ร้อยกว่าบาทแต่ถ้าหารกันสองคนก็เหลือไม่ถึงร้อยนะ เอาไงดีล่ะมายด์” ชยาภรณ์ก็สนใจอยากจะไปทำงานในร้านที่ได้เงินเยอะกว่า
“ดีเหมือนกันนะน้ำ ว่าแต่เขาจะรับคนเพิ่มใช่ไหมวิ”
“เขาก็รับคนเพิ่มเรื่อยๆ ยิ่งช่วงนี้ลูกค้าเยอะมากๆ ร้านเขาขยายออกไปอีกคูหาหนึ่ง”
“ถ้างั้นน้ำว่าจะไปถามเรื่องเช่ามอเตอร์ไซค์ก่อนดีไหม จากนั้นก็ค่อยไปสมัครงานที่นั่น”
“แล้วระหว่างฝึกงานล่ะเราจะเอายังไงจะทำงานอยู่ไหม”
“ทำสิ แล้วน้ำกับวิล่ะจะทำไหม”
“วิก็ว่าจะทำนะ”
“น้ำก็ทำจ้ะ ก็การไปฝึกงานเขาให้เราฝึกไม่ถึงแปดชั่วโมงเองนะ ที่เหลือจากนั้นก็น่าจะว่าง แบบนี้รายได้ของเราก็จะเพิ่มมากขึ้นด้วย ทำไมพวกเราไม่คิดจะทำแบบนี้ตั้งแต่แรกๆ นะ”
“ก็ตอนนั้นเรายังไม่ได้มีความจำเป็นต้องใช้เงินมากมายขนาดนี้ไงล่ะ”
นลินภัสร์เล่าแค่เรื่องนี้ที่คุณยายของเธอไปกู้เงินมาเท่านั้นไม่ได้เล่าเรื่องหนี้ของพี่ชายของตนเองไปก่อเพราะหลังจากที่เธอคุยกับศรุตแล้วหญิงสาวคิดว่าตนเองจะไม่ใช้หนี้ให้พี่ชายเพราะถือว่ามันไม่เกี่ยวข้องกับเธอเลย ถึงแม้พวกนั้นจะตามมาทวงหนี้ก็ไม่มีหลักฐานอะไรที่จะทำให้เธอต้องรับผิดชอบหนี้สินของพี่ชาย
ตั้งแต่วันที่ไปคุยกับเพื่อนของศักรินทร์หญิงสาวก็พยายามโทรหาพี่ชายอยู่ตลอดเขาก็ไม่เคยรับโทรศัพท์เลยป่านนี้ไม่รู้จะเป็นตายร้ายดียังไง แต่เธอกับพี่ชายก็ไม่ค่อยได้สนิทกันเท่าไหร่จึงไม่คิดมาก
หลังเลิกเรียนวันนี้นลินภัสร์และชยาภร์ก็พากันไปถามเช่ารถจักรยานยนต์และได้รถจักรยานยนต์แบบผู้หญิงมาคันหนึ่ง โชคดีที่เพื่อนของนลินภัสร์มีใบขับขี่รถจักรยานยนต์ทางร้านเลยยอมให้เช่า
ทั้งสองได้รถจักรยานยนต์แล้วก็กลับไปยังหอพักก่อนจะแยกย้ายกันไปอาบน้ำและนัดเจอกันในเวลาหนึ่งทุ่มเพื่อขี่จักรยานยนต์ไปยังผับซึ่งที่วิชัญญาทำงานอยู่
เมื่อเข้าไปด้านในผับตอนนี้ยังเป็นเวลาหัวค่ำร้านไม่ยังไม่เปิดให้บริการลูกค้า วิชัญญาเลยพาเพื่อนทั้งสองเข้าไปเจอกับผู้จัดการซึ่งเป็นชายวัยกลางคนดูท่าทางใจดีคนหนึ่งกำลังนั่งอยู่บริเวณหน้าเคาน์เตอร์
“สวัสดีค่ะพี่ชัย”
“สวัสดีจ้ะวิ นี่เหรอเพื่อนที่บอกว่าจะมาทำงาน”
“ค่ะพี่ชัย”
“สวัสดีค่ะหนูชื่อน้ำค่ะ”
“สวัวสค่ะหนูชื่อมายด์ค่ะ”
“หน้าตาสวยทั้งสองคนเลย ผิวพรรณก็ดีมาก เคยทำงานเป็นเด็กนั่งดริ๊งค์มาแล้วใช่ไหม”
“ค่ะหนูเคยทำที่ร้านแถวหน้ามหาวิทยาลัยค่ะ” ชยาภรณ์ตอบและลุ้นว่าพี่ชับคนนี้จะรับเธอกับเพื่อนทำงานที่นี่หรือเปล่า
“ถ้าอย่างนั้นคงไม่ต้องสอนงานกันมาก พร้อมจะเริ่มงานกันเลยหรือเปล่าล่ะ”
“พี่ชัยรับหนูสองคนเข้าทำงานเหรอคะ” นลินภัสร์ถามด้วยความดีใจ
“ก็ใช่นะสิ”
“ขอบคุณมากๆ นะคะ” ทั้งสองคนรีบยกมือไหว้
“แต่หนูสองคนยังไม่ลาออกจากร้านเก่าเลยค่ะ”
“ถ้างั้นก็ไปจัดการให้เรียบร้อย แต่ออกจากที่เก่าไม่ได้มีปัญหาอะไรมาใช่ไหม แล้วนึกยังไงถึงมาทำที่นี่ล่ะ”
“วิบอกว่าที่นี่แขกเยอะค่ะและที่นี่ได้เงินเยอะกว่าที่นั่น แต่ก่อนพวกหนูก็คิดว่าทำที่นั่นโอเคแล้วเพราะจากมหาวิทยาลัยมาร้านของพี่มันค่อนข้างไกลค่ะ แต่ตอนนี้พวกเราจำเป็นต้องใช้เงินก็เลยเช่ามอเตอร์ไซค์ขี่มาทำงานค่ะ”
“มีใบขับขี่กันใช่ไหม พี่ไม่อยากไปประกันตัวเวลามีปัญหายามค่ำคืนหรอกนะ”
“หนูมีใบขับขี่ค่ะ”
“ถ้างั้นวันศุกร์ก็มาเริ่มงานได้เลยนะ เรื่องชุดก็มาเอาที่นี่เพราะร้านพี่เด็กจะใส่ชุดไปในโทนเดียวกัน”
“ขอบคุณค่ะพี่” ทั้งสามคนยกมือไหว้ผู้จัดการร้านพร้อมรอยยิ้มที่มีความหวัง
การมาทำงานที่ผับแห่งใหม่ทำให้นลินภัสร์รู้สึกมีความหวังมากขึ้นเพราะแค่คืนแรกก็ได้ค่าเครื่องดื่มเกือบจะสี่พันบาท
“ปกติลูกค้าจะเยอะแบบนี้ทุกคืนไหมวิ”
“ไม่หรอก ลูกค้าจะเยอะแค่คืนวันศุกร์กับวันเสาร์ ถ้าเป็นวันธรรมาดาก็พันนิดๆ บางคนเลยไม่มาทำงานในคืนวันธรรมดา”
“ที่ร้านเก่าเราวันธรรมาดเขาจะให้สลับกันมาทำแล้วที่นี่ล่ะพี่ชัยไม่เห็นบอกเลย”
“เพราะน้ำกับมายด์เพิ่งมาทำก็ยังเรียกแขกได้เยอะ พอทำได้สักพักพี่เขาก็จะให้สลับกันมา” วิชัญญาอธิบายให้เพื่อนฟัง
“ถ้างั้นช่วงนี้เราคงต้องขยันกันหน่อยนะน้ำ” นลินภัสร์หันไปบอกเพื่อนที่กำลังเคี้ยวลูกชิ้นอยู่เต็มปากจึงได้แต่พยักหน้าเห็นด้วย
หลังเลิกงานวันนี้ทั้งสามคนมานั่งทานก๋วยเตี๋ยวกันที่ร้านแห่งหนึ่งซึ่งเปิดขายถึงตีสามตามคำบอกของวิชัญญา พอทานเสร็จก็แยกย้ายกลับหอพัก