4 โอกาสที่เขายื่นให้
เช้าวันจันทร์นลินภัสร์มาเข้าเรียนตามปกติวันนี้อาจารย์ นัดให้นักศึกษาทุกคนมารวมกันเพื่อจะชี้แจงเรื่องการฝึกงานที่จะมีในหนึ่งสัปดาห์หน้า
นลินภัสร์มองชื่อตัวเองกับสถานที่ฝึกงานแล้วถอนหายใจด้วยความโล่งอกเพราะเธอได้ไปฝึกงานที่บริษัทของศรุตอย่างที่เขาได้บอกไว้ เธอและเพื่อนอีกหลายคนได้ไปฝึกที่เดียวกันแต่คนละแผนก
วิชัญญาหรือวิ ฝึกเป็นผู้ช่วยหัวหน้าแผนกการตลาด ส่วนชยาภรณ์หรือน้ำ ไปฝึกเป็นผู้ช่วยหัวหน้าแผนกบุคคล ส่วนคนอื่นที่เธอเห็นในรายชื่อก็เป็นเพื่อนจากสาขาอื่นที่ได้ไปฝึกในบริษัทเดียวกับเธอ
“น่าอิจฉามายด์จังได้เป็นผู้ช่วยเลขาของประธานบริษัท”
“แต่น้ำไม่อิจฉาเลยนะเพราะว่าตำแหน่งนี้ต้องทำงานหนักมากแน่ๆ เลย”
“นั่นสิวิก็ลืมคิดเรื่องนี้ไปเลยนะ แล้วมายด์ล่ะโอเคกับตำแหน่งที่จะไปฝึกงานไหม”
“ก็โอเคอยู่นะ”
“ตั้งใจฝึกงานกันด้วยนะเพราะปีนี้เป็นปีแรกที่มหาวิทยาลัยของเราได้ส่งนักศึกษาไปฝึกงานกับบริษัทนี้” อาจารย์บอกกับนักศึกษาที่กำลังตื่นเต้นกับการจะไอ้ออกไปฝึกงาน
“ทำไมถึงเพิ่งเคยส่งนักศึกษาไปล่ะคะอาจารย์”
“ก็แต่ก่อนบริษัทนี้เป็นบริษัทนำเข้าสินค้าเล็กๆ ไม่ได้ใหญ่โตเหมือนทุกวันนี้ไงล่ะ เราก็เลยไม่ได้ส่งไปแต่ผู้บริหารเขาเก่งมากนะใช้ระยะเวลาไม่ถึงสิบปีบริษัทก็เติบโตและมีสาขาไปทั่วประเทศถ้าเราได้ไปฝึกงานที่นี่เราก็จะได้ประสบการณ์ต่างๆ มากมายเราโชคดีจริงๆ ที่เจ้าของบริษัทเขาให้โอกาสกับพวกเรา”
“อาจารย์รู้จักเจ้าของบริษัทนี้ไหมคะ” เพื่อนคนหนึ่งถามขึ้น
“ตอนแรกอาจารย์ก็ไม่รู้หรอกนะว่าใครเป็นเจ้าของ”
“แล้วเขาเป็นใครล่ะคะอาจารย์” วิชัญญาถามด้วยความสนใจ
“เจ้าของบริษัทเขาชื่อศรุตเป็นศิษย์เก่าของที่นี่ เขาติดต่อมาว่าอยากได้นักศึกษาไปฝึกงานอาจารย์เห็นว่าเป็นโอกาสดีก็เลยส่งพวกเธอไปฝึกงานที่บริษัทของเขา”
“แบบนี้ก็ดีเลยสิคะอาจารย์ได้ไปฝึกงานกับรุ่นพี่ว่าแต่คุณศรุตอะไรนี่เขาหน้าตาเป็นยังไง”
“อาจารย์ส่งเธอไปฝึกงานนะเธอจะสนใจนะหน้าตาของเจ้าของบริษัททำไม”
“อาจารย์ขาพวกหนูก็แค่อยากรู้ว่าเจ้าของบริษัทเขาจะหน้าตาหล่อมากไหมเป็นอาหารตาเวลาฝึกงานไหมไงคะอาจารย์” ชยาภรณ์รีบแก้ตัว
“ขอให้เป็นอาหารตาจริงๆ เถอะนะ อย่าไปทำอะไรรุ่มร่ามกับเขาเป็นอันขาดมันจะเสียชื่อมาถึงมหาวิทยาลัย”
“พวกเราไม่ทำอย่างนั้นหรอกค่ะ อาจารย์แต่ขอถามหน่อยได้ไหมคะ”
“จะถามอะไรอีกล่ะรู้สึกว่าพวกเธอจะมีคำถามเยอะเหลือเกินนะ”
“หนูอยากรู้ว่าเราไปฝึกงานเราได้เงินเดือนไหมคะ”
“การไปขอฝึกงานคือการไปขอความรู้จากเขานะ เขาไม่เรียกเก็บเงินพวกเราก็ดีเท่าไหร่ บางบริษัทเขาก็ไม่รับนักศึกษาฝึกงานเพราะถือว่าไปทำให้งานเขาล่าช้า”
“อาจารย์พูดแบบนี้หมายความว่าเราจะไม่ได้เงินเดือนใช่ไหมคะ”
“ใช่ บริษัทเขาไม่มีเงินเดือนให้หรอกนะแต่บริษัทนี้เขามีเบี้ยเลี้ยงให้ ถือว่าเป็นค่าเดินทางและค่าอาหาร”
“เยอะไหมครับอาจารย์”
“ก็น่าจะประมาณครึ่งหนึ่งของก็จะประมาณครึ่งหนึ่งของแรงงานขั้นต่ำพวกเธอก็น่าจะได้ประมาณคนละสอวร้อยบาท”
“แล้วบริษัทอื่นล่ะคะอาจารย์”
“บางบริษัทก็ได้บางบริษัทก็ไม่ได้แต่พวกเธอโชคดีมากที่คะแนนอยู่ในลำดับต้นๆ อาจารย์ก็เลยเลือกให้ไปฝึกงานในบริษัทที่ค่อนข้างใหญ่แบบนี้ ถือว่าพวกเธอโชคดีมากๆ ที่เจ้าของบริษัทเขา เสนอให้พวกเธอไปฝึกงาน เอาละใครมีอะไรจะถามอีกไหม”
“ไม่มีแล้วค่ะ”
“อาจารย์จะบอกพวกเธอนะ เวลาไปฝึกงานก็ตั้งใจฝึกอย่าเอาแต่เล่น พยายามเก็บเกี่ยวความรู้มาให้ได้มากที่สุดและอย่าทำให้มหาวิทยาลัยเสียชื่อเสียงเป็นอันขาด เพราะถ้าพวกเธอไปฝึกงานแล้วมีผลงานที่ดีมันก็หมายความว่าปีจะต่อไปรุ่นน้องของพวกเธอจะได้เข้าไปฝึกงานที่นี่อีก ถ้าตั้งใจฝึกงานดีๆ บางทีเขาอาจจะรับพวกเธอเข้าทำงานเลยก็ได้นะ เพราะบริษัทเขากำลังขยายตัวมากขึ้นเรื่อยๆ อาจารย์ได้ยินมาว่านอกจากร้านเดิมที่เขามีอยู่แปดร้อยกว่าสาขาแล้วเขากำลังวางแผนจะเปิดอีกธุรกิจเพิ่มอีก ซึ่งก็คงมีสาขามากๆ ไม่ต่างจากธุรกิจเดิมหรอกนะ”
“ถ้าเขารับพวกเราเข้าทำงานเลยก็ดีสิคะ จะไม่ต้องสมัครงานให้เหนื่อย”
“แต่ก็อย่าคาดหวังนะทำทุกอย่างให้มันเต็มที่แค่นั้นก็พอ”
“ขอบคุณค่ะอาจารย์”
เมื่ออาจารย์เดินออกไปแล้วนลินภัสร์ก็นั่งคุยต่อกับเพื่อนที่
“ไม่อยากจะคิดเลยนะมายด์ว่าเราจะได้เข้าไปฝึกงานในบริษัทนี้น้ำซื้อสินค้าเขาบ่อยมากๆ เดินผ่านทีไรแวะตลอด”
“มายด์ก็ซื้อเหมือนกันสินค้าเขาถูกมากๆ”
“วิไม่เคยรู้มาก่อนเลยนะว่ามีสาขามากขนาดนี้”
“นั่นน่ะ พวกเราโชคดีมากๆ ที่เขาเลือกพวกเราให้ไปฝึกงานที่นั่น”
“น้ำตื่นเต้นมากๆ เลย มายด์ล่ะตื่นเต้นไหม”
“ตื่นเต้นสิน้ำ มายด์จะบอกความลับอะไรให้อย่างหนึ่ง”
“อะไรเหรอ” วิชัญญาขยับเข้าใกล้ด้วยความสนใจ
“บริษัทนี้ยายของมายด์เคยทำงานเป็นแม่บ้านที่นี่ด้วยแหละ”
“เหรอแล้วมายด์เคยเข้าไปในบริษัทไหม”
“เคยเข้าไปอยู่สองครั้ง”
“เคยเจอเจ้าของบริษัทหรือเปล่าเขาหล่อไหมใจดีหรือเปล่า”
“เคยเจอ เขาหล่อดูดีมากๆ เลยแหละ”
“มายด์ก็โชคดีมากๆ เลยเนอะได้ทำงานกับเจ้านายหล่อๆ แล้วเขามีแฟนหรือยัง”
“เรื่องนี้มายด์ก็ไม่รู้เหมือนกันนะน้ำ”
“อย่าลืมไปสืบมาด้วยว่าเขามีแฟนหรือยัง”
“ทำไมล่ะน้ำ”
“ก็ถ้าเขาไม่มีแฟนก็เป็นโอกาสของพวกเราไงเผื่อจะมีแฟนหล่อรวยเป็นถึงเจ้าของบริษัทบ้าง ยิ่งมายด์ได้ทำงานใกล้ชิดกับเขาก็โอกาสเยอะมากกว่าคนอื่น”
“อย่าคิดอะไรแบบนั้นเลย มายด์ว่าเขาไม่สนใจมองเด็กอย่างพวกเราหรอกอาจารย์ก็บอกอยู่ว่าเขาอายุสามสิบกว่าแล้ว อายุห่างจากพวกเราเป็นสิบปีเลยนะวิ”
“ต่างสิยิ่งดี เดี๋ยวนี้ผู้ชายเขาชอบมีแฟนเด็กๆ นักศึกษาอย่างพวกเราก็ชอบมีแฟนอายุมากกว่ากันทั้งนั้นมันลงมากเลยนะมายด์”
“มายด์ยังไม่อยากคิดอะไรมากหรอก แค่อยากจะรีบฝึกงานให้เสร็จจะได้เรียนจบแล้วรีบทำงาน”
“มายด์เป็นอะไรหรือเปล่าทำไมหน้าตาดูไม่ค่อยโอเคเท่าไหร่ มีปัญหาอะไรอยู่ใช่ไหม”
“ก็นิดหน่อยนะ”
“เล่าให้เราสองคนฟังสิมายด์ยังไงก็เป็นเพื่อนกัน”
“ปัญหาเรามันค่อนข้างหนักอยู่เหมือนกัน”
“หนักแค่ไหนถ้าได้ระบายออกมามันก็จะดีนะเล่าให้เราฟังหน่อยได้ไหมก็ได้”