3 ข้อเสนอ
ผ่านมาหลายวันแล้วนลินภัสร์ก็ยังคิดไม่ตกกับเรื่องหนี้สินของตัวเอง หญิงสาวไม่ได้กู้เงินกับเจ้าของร้านเหล้าที่เธอไปทำงานแต่เธอได้รับคำแนะนำอีกอย่างหนึ่งคือให้ออกไปกับลูกค้าข้างนอกเพราะการออกไปแต่ละครั้งก็ได้เงินค่อนข้างมากแต่นลินภัสร์ก็คิดว่ามันน่าจะมีวิธีอื่นที่ดีกว่าการเอาความสาวไปแลก
วันนี้เป็นวันที่เธอมีนัดคุยกับศรุตหญิงสาวเลิกเรียนแล้วก็ตรงมาที่บริษัททันทีเพราะกลัวจะไม่ทันเวลาเลิกงานของชายหนุ่ม เมื่อมาถึงพนักงานหลายคนก็ทยอยกันกลับบ้าน หญิงสาวมานั่งศรุตหน้าห้องทำงานไม่นานนักประตูห้องของเขาก็เปิดออกและนรเทพก็เรียกให้เธอเข้าไปคุยกับที่รออยู่ในห้อง
“สวัสดีค่ะคุณศรุต”
“อืม...นั่งก่อนสิ เธอมีเงินมาใช้หนี้ฉันแล้วใช่มั้ย”
“ระยะเวลาแค่อาทิตย์เดียวมายด์คงหาเงินมากมายขนาดนั้นไม่ได้หรอกค่ะที่มายด์เข้ามาก็อยากจะมาคุยกับคุณ”
“จะคุยอะไรล่ะ”
“อีกเทอมเดียวมายด์ก็จะเรียนจบแล้วถ้ามายด์ใหม่จบมาจะทำงานและมีเงินเดือนถึงตอนนั้นมายด์ค่อยทยอยใช้หนี้คุณได้ไหมคะ”
“เธอคิดเหรอว่าเด็กจบใหม่จะหางานง่ายๆ เหรอมายด์เดี๋ยวนี้การแข่งขันค่อนข้างสูงถ้าไม่มีเส้นสายก็ยากที่จะได้เข้าทำงานนะ ที่ฉันพูดไม่ได้จะดูถูกความรู้ที่เธอเรียนมาหรอกนะ แต่พูดตามหลักความเป็นจริง ฉันจะมั่นใจได้ยังไงล่ะว่าเธอจะมีเงินมาใช้หนี้ฉัน”
“ถ้าคุณศรุตอยากให้มายด์มีเงินใช้หนี้คุณจริงๆ คุณก็ให้มายด์มาทำงานที่นี่สิคะ คุณจะได้หักเงินเดือนจากมายด์ในแต่ละเดือนได้เลย และคุณจะได้มั่นใจด้วยว่ามายด์ไม่มีทางจะหนีคุณไปไหน” นลินภัสร์คิดมาแล้วว่าเขาจะต้องยอมแน่ๆ เพราะถ้าเธอไม่มีงานทำเขาก็ไม่มีทางได้เงินคืน แต่เขาจะยอมรับข้อเสนอของเธอหรือเปล่าเธอเองก็กำลังลุ้นอยู่ในใจ
“เด็กจบใหม่เงินเดือนก็คงไม่มากเท่าไหร่ถ้ายังจะถูกหักมาใช้หนี้อีกเธอคิดว่าจะพอเหลือใช้เหรอ”
“มายด์ทำงานเป็นเด็กนั่งดริ้งค์ที่ร้านเหล้าด้วยค่ะ คิดว่ารายได้ตรงนั้นน่าจะพอกับค่าหอและค่ากินอยู่ส่วนเงินเดือนที่นี่มายด์ให้คุณหักได้เต็มที่เลยค่ะ”
“แต่ตอนนี้ที่บริษัทฉันไม่มีนโยบายรับพนักงานเพิ่มเลย ถ้าเธออยากมาทำงานกับฉันจริงๆก็มาเป็นผู้ช่วยนรเทพ”
“เป็นผู้ช่วยเลขาของคุณศรุตเหรอคะ”
“อือ ตอนนี้งานของเขาค่อนข้างเยอะ ถ้าได้เธอมาช่วยเขาก็น่าจะดี”
“ได้ค่ะ งานอะไรมายด์ก็ทำได้หมดนั่นแหละ”
“เธอบอกว่าอีกไม่กี่เดือนก็จบแล้วแสดงว่าตอนนี้อยู่ในช่วงฝึกงานใช่ไหม”
“ใช่ค่ะอาจารย์กำลังติดต่อเรื่องฝึกงานให้”
“เธอเรียนอะไรมาล่ะมายด์”
“มายด์ไม่เรียนเลขานุการค่ะ”
“ถ้างั้นก็ดีเลยมาฝึกงานที่นี่ไหมฉันเพราะไหนๆ เรียนจบมาเธอก็จะทำงานที่นี่จะได้เรียนรู้งานไปทีเดียวเลย”
“แต่มายด์เลือกที่ฝึกงานไม่ได้หรอกนะคะคุณศรุตอาจารย์จะเป็นคนเลือกที่ฝึกงานเอง”
“แค่เธอบอกว่าอยากฝึกงานที่นี่หรือเปล่าเดี๋ยวฉันคุยกับอาจารย์ที่มหาวิทยาลัยให้เอง”
“ถ้าคุณศรุตให้มายด์ฝึกงานที่นี่และจะรับมายด์เข้าทำงานมายด์ก็ตกลงค่ะ”
“ถ้างั้นก็ตามนี้เมื่อถึงเวลาฝึกงานเธอจะมาฝึกงานเป็นผู้ช่วยของนรเทพ จากนั้นเรียนจบเธอก็จะทำงานที่นี่เพื่อเป็นการใช้หนี้ตกลงไหม” เพราะเห็นแก่ยายสนที่ทำงานเป็นแม่บ้านที่บริษัทมาตั้งแต่เขาเริ่มก่อตั้งบริษัทศรุตเลยยอมให้หญิงสาวมาฝึกงานและทำงานที่นี่
“ตกลงค่ะ”
“ฉันให้งานเธอแล้วเธอยังจะไปทำงานเป็นเด็กนั่งดริ้งค์อีกไหมล่ะ”
“ทำสิคะ นั่นมันทำกลางคืนส่วนฝึกงานและทำงานมายด์ก็มาทำเวลากลางวัน”
“เธอคิดว่าตัวเองจะไม่ง่วงในเวลางานเหรอ”
“ไม่หรอกค่ะ มายด์มาทำแบบนี้มาตั้งหลายปีเวลาไปเรียนก็ไม่เคยง่วงเลยสักครั้ง”
“ฉันไม่ห้ามเธอหรอกนะ แต่ขออย่างเดียวอย่าให้งานตรงนั้นมากระทบกับงานของฉันก็พอ มีอีกอย่างหนึ่งที่เธอควรรู้ถ้าจะทำงานกับฉันครั้ง บางครั้งเธออาจจะต้องออกต่างจังหวัดบ้าง เธอรู้ใช่ไหมว่าบริษัทเป็นบริษัทอะไร”
“รู้ค่ะ มายด์เห็นร้านของคุณมีอยู่หลายที่เลยแถวมหาวิทยาลัยยังมีหลายสาขา”
“ใช่ร้านของฉันมีเกือบทั่วประเทศ บางครั้งฉันก็อาจจะต้องไปตรวจสาขาต่างๆ บ้างเธอจะโอเคกับตรงนี้ไหมล่ะ”
“ไม่มีปัญหาค่ะ มายด์ไปกับคุณและคุณนรเทพทุกที่”
“ถ้าอย่างนั้นก็ตกลงตามนี้ มีอะไรจะพูดกับฉันอีกหรือเปล่า”ศรุตเห็นท่าทางอึดอัดของนลินภัสร์ก็ถามเพราะดูเหมือนหญิงสาวยังมีเรื่องที่จะคุยกับเขา
“คุณศรุตคะที่บริษัทมีนโยบายให้พนักงานยืมเงินใช่ไหมคะ”
“ใช่เธอจะถามทำไม อย่าบอกนะมายด์ว่าเธอจะยืมเงินฉันทั้งที่หนี้เก่ายังไม่ใช้เลยสักบาท มายด์ก็แค่ถามดูค่ะ” หญิงสาวไม่กล้าจะขอกู้เงินเขาเพิ่มเพราะหนี้มีอยู่มันก็มากจนนึกไม่ออกว่าอีกกี่ปีถึงจะใช้หนี้หมด
“เธอมีความจำเป็นจะต้องใช้เงินเหรอมายด์”
“ค่ะ แต่หนี้ที่มายด์มีอยู่มันก็เยอะมากแล้ว เอาไว้มายด์ค่อยหากู้ที่อื่นก็ได้ค่ะ”
“เธอมายด์ถึงไปกู้เงินพวกหนี้นอกระบบแบบเหรอ”
“ค่ะ”
“เธอจะเอาเงินไปทำอะไรไหนเธอบอกว่าพอมีรายได้จากการทำงานพิเศษและเป็นเด็กนั่งดริ้งค์ไง”
“ถ้าแค่ลำพังตัวมายด์เองมายด์ก็ดูแลตัวเองได้ไม่มีปัญหาหรอกค่ะ แต่ตอนที่มายด์พยายามโทรหาพี่ชายเพื่อนพี่ชายของมายด์บอกว่าพี่ของมายด์ติดเงินเขาอยู่อีกสามหมื่นและถ้ามายด์ไม่เอาเงินจำนวนนี้ไปใช้เขาจะบอกเจ้าหนี้คนอื่นๆ ของพี่ชายมายด์ด้วย มายด์ไม่อยากมีปัญหากับเจ้าหนี้คนอื่นก็เลยคิดว่าจะหาเงิน สามหมื่นมาใช้หนี้เขาค่ะ”
“เธอคิดว่ามันจะจบแค่สามหมื่นเหรอเขาเป็นคนเอาเงินไปก็ให้เขามาใช้หนี้เอง”
“เงินสามหมื่นมันอาจะดูน้อยเมื่อเทียบกับเงอนที่ยายยืมคุณไป มาดืเข้าใจว่าคุณอยากจะให้มายด์ใช้หนี้คุณก่อน แค่บางที่เพื่อนพี่ไม้เขาอาจจะจำเป็นต้องใช้เงินจริงๆ”
“คิดว่าฉันเห็นแก่ตัวใช่ไหม เงอนสี่แสนถ้าฉันจะยกให้ยายเธอไปเลยก็ได้นะเพราะยายเธอทำงานกับฉีมานานแต่ถ้าฉันทำแบบนั้นมันก็ไม่ยุติธรรมกับพนักงานคนอื่นที่กูเงินเงินบริษัทฉันเลยต้องทำให้มันถูกต้อง”
“มายด์ไม่ได้คิดแบบนั้นนะคะ”
“ถ้าอย่างั้นก็อย่าไปยุ่งเลย”
“แต่มายด์ก็รับปากเขาไปแล้วว่าจะเอาเงินไปใช้หนี้เขา”
“พวกเขามีหลักฐานอะไรมายืนยันไหมล่ะ ว่าพี่ชายเธอเป็นหนี้”
“ไม่มีค่ะ เราคุยกันทางโทรศัพท์”
“ฉันว่าเธอตามใช้หนี้ให้พี่ชายของเธอไม่หมดหรอกอยู่เฉยๆดีกว่า”
“แล้วถ้าเขาหลักฐานการกู้ยืมเงินล่ะคะ”
“ก็ให้เขาเอาหลักฐานนั้นไปตามกับพี่ชายของเธอสิ ถ้าพวกเขาพยายามทวงที่เธอเธอก็แค่บอกว่าจะแจ้งความเท่านั้น หนี้นอกระบบพวกนี้มันไม่ชอบยุ่งกับตำรวจหรอก”
“ก็ได้ค่ะ มายด์จะไม่ยุ่งเกี่ยวกับหนี้ของพี่ชาย”
นลินภัสร์เห็นด้วยกับศรุตเพราะลำพังเงินที่เป็นหนี้ศรุตอยู่ตอนนี้มันก็มากอยู่แล้วถ้าหากจะต้องตามใช้หนี้พี่ชายไปอีกเรื่อยๆ ชาตินี้ก็คงไม่มีทางใช้หมดหนี้