บท
ตั้งค่า

3 วิถีของมิสเตอร์ชาร์ตัน!

ดารินเงยแหงนใบหน้าขึ้นมองตึกสูงอย่างอดเสียดายปนเสียใจไม่ได้ ทั้งๆที่เธอเพิ่งจะเข้ามาทำงานไม่ทันครบหนึ่งเดือนก็มีอันต้องจากลา เพราะเธอจะไม่กลับเข้าไปทำงานอีกอย่างแน่นอนไม่ว่าวันไหนๆก็ตาม คว้ากระเป๋าสะพายออกมาได้ก็มุ่งหน้าลงลิฟต์ออกจากบริษัทในทันทีอย่างไม่ลังเลเมื่อไอ้มิสเตอร์ชาร์ตันบ้ากามนิสัยเสียนั่นติดธุระสำคัญกะทันหันเธอเลยรีบฉวยโอกาสนั้นหลบออกมา แม้พี่อารีย์จะถามว่ากำลังจะไปไหนเธอก็แค่ยิ้มไม่ตอบอะไรทั้งนั้น ไม่ใช่ว่าหยิ่งหรือจองหองแต่คิดว่ามันไม่มีความจำเป็นที่จะต้องอธิบาย ถ้ามัวแต่แคร์ความรู้สึกคนอื่นเธอเองนั่นแหละที่จะหนีจากไอ้ตี๋บ้านั่นไม่รอด และที่เขาว่ากันว่าฟ้าหลังฝนนั้นมักสวยงามเสมอไม่เห็นว่ามันจะจริงเลยสักนิด มันค่อนข้างมัวหมองหดหู่เหมือนกำลังจะเกิดพายุระลอกใหญ่อย่างไรอย่างนั้น

“อุ๊ย! อะไรกันล่ะเนี่ย มายุ่งกับฉันทำไมกัน” ใบหน้าสวยออกอาการตกใจเมื่ออยู่ๆก็ถูกกระชากแขนจากทางด้านหลังอย่างรุนแรงโดยไม่ทันได้ตั้งตัวแต่อย่างใดก่อนจะต้องย่นคิ้วหนักกว่าเดิมเมื่อเห็นหน้าคนกระทำการป่าเถื่อนกับตนเอง

“จะหนีไปไหนไม่ทราบครับทูนหัว แค่ผัวหันหลังออกไปคุยธุระเดี๋ยวเดียวก็ออกฤทธิ์เลยนะแม่ตัวดี น่าจับฟาดให้สลบคาอกจริงๆจะได้ไม่มีแรงลุกขึ้นมาวิ่งหนีอยู่แบบนี้ ดื้อนักนะสงสัยอยากถูกลงโทษสถานหนัก” ดีที่เขาตามลงมาทันไม่อย่างนั้นคงต้องเล่นเกมส์วิ่งไล่จับให้เสียเวลาอีก งานนี้ต้องขอขอบคุณเลขาคนดีที่สั่งได้อย่างสั่งทำตามอย่างไม่กล้าบิดพลิ้ว

“นี่! พูดจาให้มันดีๆนะฉันยังไม่มีผัวต้องให้ย้ำอีกกี่ครั้งถึงจะเข้าใจภาษามนุษย์ห๊ะ! แล้วก็ช่วยเลิกพูดจาหื่นๆใส่ฉันด้วยไอ้คนทุเรศลามกที่สุด” ถลึงตาใส่พลางบิดแขนออกจากการจับกุมที่เหนี่ยวแน่นยิ่งกว่ากาวตราช้างกาวดักหนูอีกมั้ง เธอว่าตัวเองเร็วมากแล้วนะแต่ก็ดันช้าเกินไปเลยทำให้ไอ้คนบ้านี่ตามลงมาทันจนได้ อยากจะกรีดร้องเสียงดังๆให้สาสมกับความอัดอั้นตันใจในขณะนี้แต่ก็ได้แค่คิด

“จะเดินเข้าตึกเองดีๆหรือต้องให้อุ้มเข้าไปเลือกมาเดี๋ยวนี้ดาร์ลิ่ง” ถามเสียงเรียบไม่มีแววล้อเล่นแต่อย่างใด ในใจล่ำๆอยากจับจูบมันตรงหน้าตึกให้รู้แล้วรู้รอดกับความปากดีที่ขยันปฏิเสธว่าไม่ใช่ผัวให้ปากเจ่อปากบวมไปสักสามสี่วัน เจอหน้ากันได้ไม่ถึงวันก็ทำให้ปวดหัวไปหมดแล้ว

“ทำไมไม่ปล่อยให้เรื่องมันจบลงแล้วต่างคนต่างอยู่เหมือนเดิมมิสเตอร์ชาร์ตัน คุณจะรังควานฉันทำไมอีกกัน คุณได้ทำลายศักด์ศรีฉันไปแล้วนะ ปล่อยฉันไปเถอะนะคะ” พูดอย่างอ่อนใจครั้นจะด่ามันตรงนี้ก็อายสายตาคนรอบข้าง

“เราจะไม่พูดถึงเรื่องนี้กันตรงนี้ดาริน กลับเข้าข้างในกับฉันเดี๋ยวนี้! อย่ามางอแงหาเรื่องโยกโย้ คนเยอะแยะไม่อายหรือไงฮึ! หรืออยากเป็นจุดสนใจ” จ้องใบหน้าเศร้าสร้อยอย่างไม่ยอมใจอ่อน ดารินเองก็ดื้อกว่าที่คิดเอาไว้เยอะ

“งั้นฉันขอเวลาคิดอะไรสักหน่อยละกัน คุณกลับเข้าไปด้านในส่วนฉันจะกลับบ้าน ไว้ฉันพร้อมคุยด้วยเมื่อไหร่ฉันจะเดินมาหาคุณที่นี่เอง ฉันขอแค่นี้คุณควรจะให้เพราะถ้าคุณไม่ให้ฉันจะถือว่าคุณใจดำอำมหิตผิดมนุษย์” เธอต้องตั้งใช้เวลาในการตั้งหลักเพื่อคิดวิธีจัดการปัญหาบ้าๆนี้ ไม่อยากพูดดีด้วยแต่อะไรหลายๆอย่างสอนให้เธอเอาตัวรอดจากเงื้อมมือของผู้ชายคนนี้ที่มีอำนาจเหนือกว่าในทุกทาง อย่างน้อยๆก็ตอนนี้เวลานี้ที่เธอต้องรอดไปให้ได้

“เธอเห็นว่าฉันใจดีเป็นพ่อพระมากงั้นเหรอถึงได้กล้ายื่นข้อเสนอแบบนี้ให้ฉัน จะบอกอะไรให้ฟังนะทูนหัว ผัวเธอไม่ได้โง่ เขาก็ไม่มีงอกขึ้นมาประดับบนหัวด้วยเนี่ย” พูดเสียงเสียงเหี้ยมอย่างรู้ทันความคิดเด็กๆของเธอ พลางชี้นิ้วให้ดูที่หัวตัวเองอย่างประชดประชัน ปล่อยให้กลับบ้านแล้วหวังให้มาหาที่บริษัทเองน่ะเหรอเป็นไปไม่ได้เด็ดขาดเอาหัวรับประกันเลย กลับไปเก็บเสื้อผ้าหอบหนีน่ะสิไม่ว่า ดารินกำหมัดแน่นเมื่อมันไม่เป็นไปตามต้องการ

“นี่! มันจะมากเกินไปแล้วนะ ฉันแค่จะกลับบ้านมันจะอะไรกันนักกันหนา คุณมาบังคับให้ฉันทำตามใจตัวคุณเองไม่ได้นะมิสเตอร์ชาร์ตัน” เถียงสู้ท่ามกลางอากาศร้อนอบอ้าวอย่างไม่คิดยอมแพ้ง่ายๆ เพราะยังไงก็ต้องไปให้ได้

“ดื้อด้าน เถียงทุกคำ เป็นเด็กกล้าต่อปากต่อคำกับผัวที่แก่กว่าเธอเป็นสิบปีได้ยังไงกัน ชอบท้าทายอำนาจมืดกันดีนักแล้วถ้าโดนฉันทำอะไรขึ้นมาจะมาโวยวายว่าหรือด่าฉันทีหลังไม่ได้นะดาริน” ต่อว่าเสียงขุ่นหน้าตาก็บึ้งตึง ใจดีด้วยแล้วใช้ไม่ได้ผลก็ต้องเล่นบทโหดเผื่อจะได้เกรงกลัวเขาบ้าง

“ว้าย! ปล่อยฉันลงเดี๋ยวนี้นะ” ร้องเสียงหลงเมื่อถูกอุ้มขึ้นพาดบ่าหัวห้อยลงพื้นเข้าไปด้านในบริษัทท่ามกลางสายตาของพนักงานที่เดินกันไปมาและหยุดมองอย่างสนใจ ตาบ้านี่เล่นใหญ่อะไรเบอร์นี้เนี่ยดารินอายแสนอาย

“จะมองอะไรกันนักหนาครับ งานการในแผนกนี่ไม่มีให้ทำกันหรือยังไงฮ้า! ถ้ายังไม่รีบกลับไปทำหน้าที่ของตัวเองฉันจะสั่งตัดเงินเดือนมันเดี๋ยวนี้แหละ” เสียงทรงอำนาจตวาดกร้าวดังลั่นล็อบบี้บริเวณประชาสัมพันธ์ที่มีไว้ให้คนนอกมาติดต่องานอย่างไม่สนใจใครหน้าไหนทั้งนั้น เท่านั้นแหละพนักงานใต้การปกครองต่างคนต่างรีบหลบสายตาเจ้านายเป็นพัลวัน

“คุณก็ปล่อยฉันลงสักทีสิ ฉันไม่อยากตกเป็นขี้ปากของคนทั้งบริษัทนะ!” กัดฟันพูดเสียงขุ่น ถ้ามุดดินได้มุดไปแล้ว บ้าที่สุดเลยมาอุ้มต่อหน้าธารกำนัลหลายสิบคนแบบนี้ งานนี้คงเม้าท์กันสนุกปากเลยท่านประธานอุ้มพนักงานสาวเข้าบริษัท

“ใครกล้านินทาเมียฉัน ฉันจะไล่ออกให้หมด ไม่เชื่อก็ลองดูได้อยากท้าทายอำนาจมืดก็จะจัดให้อย่างสาสม” พูดเสียงดังให้ได้ยินกันถ้วนทั่วก่อนจะก้าวขาเดินต่ออย่างไม่สะทกสะท้านต่อหมัดเล็กๆที่ระดมทุบและเสียงกรีดร้องเรียกชื่อเขาอย่างเจ็บใจแม้แต่น้อย

“ชาร์ตัน!”

ป๊าบ!

เสียงตบก้นงอนงามภายใต้กระโปรงตัวสวยไม่เบานักเมื่อแม่เนื้อนิ่มดีดดิ้นไม่เลิกลา เข่าเล็กแต่ทรงอานุภาพร้ายแรงไม่ใช่เล่นเมื่อมันกระแทกเข้าที่หน้าท้องหลายครั้งจนจุกอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ กัดฟันแล้วกัดฟันอีก

“ถ้าอยากแทงเข่าใส่ฉันมากขนาดนี้สนใจเปลี่ยนมาเป็นแทงอย่างอื่นกันดีไหมรับรองว่ามันซาบซ่านถึงใจจนเธอร้องครวญครางไม่หยุดแน่” บีบขยำแก้มกก้นงอนงามภายใต้กระโปรงทรงสอบเมื่ออยู่ลำพังภายในลิฟต์ส่วนเป็นการเอาคืนแบบเบาะๆ

ตุ๊บ!

กำปั้นเล็กทั้งสองข้างทุบกลางหลังไม่ออมแรงพอดีกับที่ประตูลิฟต์ถูกเปิดออกเมื่อถึงชั้นที่ต้องการเป็นที่เรียบร้อย ปวดหัวแทบระเบิดปนอับอายสายตาอยากรู้อยากเห็นของคนอื่นจนไม่อยากเจอหน้าใครทั้งนั้นในตอนนี้

“คุณมันบ้า! ในหัวคงมีแต่เรื่องสกปรก”

“บอส น้องริน” อารีย์รีบละมือจากคอมพิวเตอร์แล้วยืนตัวตรงเมื่อเห็นเจ้านายหนุ่มแบกรุ่นน้องสาวพาดบ่ากลับมาด้วย พลางส่งสายตาลุแก่โทษให้เมื่อตนเองเป็นคนแจ้งเจ้านายว่าดารินคว้ากระเป๋าออกไปด้วย ความจริงก็ไม่อยากทำเท่าไหร่แต่เพราะมันเป็นคำสั่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ลูกน้องเช่นเธอก็ต้องทำตาม

“ผมไม่รับแขกนะอารีย์เพราะมีเรื่องต้องเคลียร์อีกเยอะเลยแหละ” เน้นคำว่าเยอะแล้วปรายตามองคนบนบ่าที่ยอมสงบนิ่งลงกว่าเดิมมาก สงสัยจะใกล้สิ้นฤทธิ์แล้ว แต่ก็ยังไม่อยากวางใจนักหรอกเพราะที่ผ่านมามันทำให้เขาต้องระวัง

“เอ่อคือว่า คุณมารตีมานั่งรอบอสอยู่ด้านในสักพักแล้วล่ะค่ะ ดิฉันบอกไปแล้วว่าบอสติดธุระไม่รู้ว่าจะเสร็จเมื่อไหร่แต่เธอก็ยืนยันว่าสามารถรอได้ค่ะไม่ว่าจะนานแค่ไหนก็ตาม ดิฉันขอประทานโทษนะคะบอสที่ยอมปล่อยให้เธอเข้าไปนั่งรอในห้องทำงานก่อนได้รับอนุญาตจากบอส” เลขาสาวรีบแจ้งเสียงอ่อยอย่างรู้สึกผิดเมื่อไม่เป็นไปตามความต้องการของเจ้านาย

“เอาล่ะ ไม่ต้องมารู้สึกผิดหรอก มันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรคุณทำหน้าที่ของคุณดีแล้วล่ะอารีย์ คนจะไม่ยอมฟังห้ามยังไงก็ไม่ฟังอยู่ดีนั่นแหละ ผมรู้จักนิสัยของมารตีดี” มารตีเธอคือผู้หญิงที่เขาเคยมีความสัมพันธ์ด้วยแต่ไม่ได้ติดต่อกันมานานแล้ว ใช้วิธีไหนขึ้นมาถึงบนห้องทำงานได้ก็ไม่รู้ สงสัยคงจะต้องให้อาหลงมันไปจัดการให้เรียบร้อยจะได้ไม่เป็นปัญหาในภายหลัง

“คุณควรเข้าไปพบแขกของตัวเองซะ แล้วก็ช่วยกรุณาปล่อยฉันลงยืนเสียทีเลือดมันลงไปหล่อเลี้ยงสมองเยอะเกินจำเป็นจนฉันปวดหัวแทบจะบ้าแล้วนะ” ดารินโวยวายประท้วงขึ้นมาบ้างหลังจากเงียบมานานพอสมควร

“งั้นก็ปล่อยให้รอต่อไปจนกว่าจะเบื่อนั่นแหละ ไม่ต้องเข้าไปบอกล่ะว่าผมไม่อยู่แล้ว เดี๋ยวให้อาหลงมาอยู่รับมือเป็นเพื่อน” ยอมวางร่างหอมลงแต่ก็ไม่ปล่อยให้ห่างตัว พาดแขนโอบรอบเอวอ้อนแอ้นเอาไว้อย่างถือสิทธิ์และป้องกันไม่ให้วิ่งหนี ส่วนใครอยากรอก็ตามนั้นไม่เคยแคร์หรืออยากสนใจอยู่แล้ว

“คุณทำตัวเสียมารยาทมากรู้ไหมคะคุณชาร์ตัน แขกอุตส่าห์มานั่งรอตั้งนานจะหนีไปง่ายๆได้ยังไงกัน เป็นนักธุรกิจซะเปล่าเรื่องแค่นี้ทำไมไม่รู้จักใช้หัวคิดให้เยอะๆ” ต่อว่าพลางหยิกแขนที่เกี่ยวเอวตัวเองเต็มแรงเพื่อจะสะบัดตัวออก ไม่ใช่ว่าไม่อยากให้คนมองเขาในแง่ลบอะไรหรอกนะ เปล่าเลยเธออยากหนีจะแย่ เผื่อเขาเข้าไปแล้วเธอจะได้หาทางชิ่งอีกครั้ง อึดอัดจะแย่อยู่แล้วตอนนี้ งานการไม่รู้จักทำ

“เธออยากจะส่งผัวตัวเองเข้าไปให้ผู้หญิงคนอื่นงาบ คาบไปกินงั้นเหรอดาร์ลิ่ง” คำว่าผัวที่เอื้อนเอ่ยออกมาไม่เบานักเรียกว่าแทบจะตะโกนให้รู้กันทั่วทั้งตึกก็ไม่ผิดนัก

อารีย์ที่อยู่ในวงสนทนารวมถึงอาหลงที่เดินเข้ามาสมทบพอดีอ้าปากค้างเติ่ง นัยน์ตาเบิกกว้างกว่าปกติ ส่วนดารินน่ะเหรอง้างมือขึ้นฟาดเต็มแรงบนหน้าท้องแกร่งสุดกำลังอย่างโมโหสุดขีด ไม่ได้อยากรู้เลยสักนิดว่าใครอยากจะงาบหรือคาบเขาไปแทะเล่นจนเหลือแต่กระดูก

“อย่ามาหยาบคายกับฉันนะชาร์ตัน หุบปากมอมๆของคุณเดี๋ยวนี้เลย วันนี้คุณทำให้ฉันอายมามากพอแล้ว” กัดปากแล้วหยิกสีข้างหนาอย่างโมโห

“จับเลียปากโชว์อารีย์กับอาหลงมันซะตรงนี้เลยดีไหม ชอบดื้อชอบพยศดีนัก” ชาร์ตันทำท่าคุกคามเต็มที่ทั้งหน้าทั้งตาเอาจริงเอาจัง สองมือของดารินเลยรีบยันอกเขาไว้หน้าตาแดงก่ำเพราะอับอายกับคำพูดห่ามๆนี่ถ้ากลั้นใจตายได้ทำไปแล้ว ไม่ยืนอยู่ตรงนี้นานหรอก อารีย์ยืนมองคนทั้งคู่แล้วยังอายแทนรุ่นน้องสาวเลย

“บอสมีเมียตั้งแต่เมื่อไหร่ครับเนี่ย ทำไมผมไม่เคยรู้มาก่อนเลยเก็บเงียบเลยนะครับบอส” อาหลงไม่ปล่อยให้โอกาสหลุดลอยไปรีบถามก่อนที่เจ้านายจะไปไหนเสียก่อน

“ฉันจำเป็นต้องรายงานเรื่องส่วนตัวให้แกรู้ทุกเรื่องไหมอาหลง ดูแลทางนี้ให้ดีล่ะ ฉันจะพาดารินออกไปข้างนอกและจะไม่กลับเข้ามาบริษัทแล้ว จัดการมารตีให้เรียบร้อยด้วยนะ อย่าให้กลับมาก่อความวุ่นวายกับฉันหรือที่นี่ได้อีก”

“ครับบอส”

ดารินนั่งหน้าตึงหน้าตูมหันมองออกนอกกระจกเมื่อถูกลากออกมาจากบริษัทแล้วถูกจับยัดใส่รถทั้งที่ไม่เต็มใจนั่งมาด้วยเลยสักนิด เจอกันแค่ไม่กี่ชั่วโมงแต่ไอ้คนบ้าอำนาจที่พรากสิ่งสำคัญจากเธอไปทำตัวน่าตบน่าตีปากเกือบทุกๆห้านาทีหรือบ่อยกว่านั้น ตอนนี้เหนื่อยเกินจะพูดจะว่าจะด่าจะอะไรทั้งนั้นแล้วเพราะเขาไม่ฟังเธอเลยสักนิด นั่งนับหนึ่งจนจะครบร้อยอยู่แล้วเนี่ย

“จะพาเมียเข้าม่านรูดไหนดีวะเนี่ยเลือกไม่ถูก มีเยอะแยะไปหมด” พูดแล้วเหลือบมองคนข้างๆที่นั่งเหมือนใบ้กินและมันก็ได้ผลดีเกินคาดเมื่อสายตาเขียวๆตวัดมอง

“ฉันไม่เข้าม่านรูดนะ! ห้ามคิดทำอะไรบ้าๆเด็ดขาด เรื่องนั้นมันจะไม่มีทางเกิดขึ้นอีกแน่นอน” อยากร้องไห้และอยากฆ่าคนไปพร้อมๆกันเลยทีเดียว เธอดูไม่ออกหรอกว่าต้องการแกล้งหรือคิดจริงแต่ใจน่ะคิดไปเกินครึ่งแล้วว่ามันไม่ใช่การล้อเล่นเอาสนุก ปากว่ามือถึงไว้ใจไม่ได้แบบนี้สมองก็คงหมกมุ่นด้วย

“ก็เห็นนั่งเงียบเลยคิดว่าอยากเข้าเพื่อทบทวนความหลังอันหอมหวานระหว่างเราที่เคยมีร่วมกันเร็วๆ ส่วนเรื่องที่เธอบอกว่าจะไม่เกิดขึ้นอีกไปเอาความมั่นใจมาจากไหนกันฮึ” ยักไหล่ยิ้มๆเมื่อยั่วได้สำเร็จ พลางโน้มหน้ามาหอมแก้มนวลที่ไม่มีเครื่องสำอางหนาเหมือนคืนนั้นเมื่อรถติดสัญญาณไฟแดงพอดี แบบนี้น่าหอมน่าฟัดกว่าตั้งเยอะเพราะได้สัมผัสเนื้อแท้มากกว่า

“อย่ามาพูดบ้าๆนะ! ฉันอ้อนวอนคุณแทบตายแต่คุณไม่เห็นใจฉันเลยแม้แต่น้อยนิด ยังจะกล้าพูดว่ามันคือความหลังอันหอมหวานอีกเหรอคุณชาร์ตัน! คุณใจร้ายย่ำยีฉันทั้งเป็น ทั้งๆที่เราไม่เคยแม้แต่จะรู้จักกันด้วยซ้ำ ฉันนอนกับใครหน้าไหนก็ไม่รู้ เป็นโรคเป็นคนยังไงก็เดาไม่ออก คุณรู้ว่าฉันเมามากแค่ไหน คุณรู้อยู่แก่ใจไอ้คนเลว พอมีสติฉันขอร้องคุณก็ไม่หยุด คุณทำให้ฉันร้องไห้แทบเป็นแทบตาย เจอกันยังมีหน้ามาประกาศปาวๆว่าเป็นผัวฉันอีก แบบนี้มันสมควรแล้วเหรอคะมิสเตอร์ชาร์ตัน หยาง” ในที่สุดก็ระเบิดความอัดอั้นตันใจออกมาจนหมด ว่าจะไม่ร้องไห้มันก็กลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่

“ฉันขอโทษและฉันก็เกลียดน้ำตาเธอมากด้วยเลิกร้องไห้สักทีขอร้องล่ะดาร์ลิ่ง ฉันขอโทษ ขอโทษจริงๆ” ดึงร่างบางที่กำลังตัวสั่นเทามากอดแนบอกพลางลูบหลังปลอบโยน นึกคำพูดที่ดีกว่านี้ไม่ออกจริงๆ เพราะที่ดารินพูดมาทั้งหมดมันคือเรื่องจริงที่แย้งไม่ได้ด้วย น้ำตาของผู้หญิงคนนี้ทำไมถึงได้มีอานุภาพกับเขานักนะ

“อย่ามากอดฉันนะไอ้คนบ้า! ไอ้คนทุเรศ! คุณมันคนเห็นแก่ตัว แล้วฉันก็ชื่อดารินไม่ใช่ดาร์ลิ่งบ้าบอนั่นเลิกเรียกฉันแบบนั้นสักทีเถอะถ้าเรียกไม่ได้ก็ไม่ต้องเรียก ฉันพูดออกไปตั้งมากมายตอบกลับมาแค่คำว่าขอโทษมันง่ายไปหน่อยไหมห๊ะ!” ทุบไหล่หนาไปด้วยสะอื้นพร้อมโวยวายยาวเหยียดไปด้วย รู้สึกเกลียดที่ตัวเองอ่อนแอแบบนี้ต่อหน้าเขาเหลือเกิน เกลียดจริงๆ

“ฉันจะกอดและฉันก็ชอบชื่อนี้ด้วย ฟังคล้ายๆกับดารินนั่นแหละ” แนบปากลงบนกระหม่อมหอมชื่นใจก่อนจะยอมปล่อยเมื่อสัญญาณไฟเปลี่ยนเป็นเขียวแล้ว “ส่วนเรื่องคืนนั้นถ้าย้อนเวลากลับไปแก้ไขได้ฉันก็ไม่คิดแก้อะไรทั้งนั้น”

“ช่วยจอดรถส่งฉันตรงป้ายรถเมล์ข้างหน้านี้ด้วยค่ะคุณชาร์ตัน ฉันไม่อยากนั่งร่วมทางไปกับคนอย่างคุณ” เสียงเขียวๆเอ่ยสั่งแต่แทนที่เขาจะทำตามเปล่าเลยขับผ่านไปหน้าตาเฉย อยากจะเอื้อมมือไปทึ้งผมเขาให้หายมันเขี้ยว หน้าด้านหน้าทนจนเธอเหนื่อยล้าไปหมดเมื่อต้องพูดกับคนแบบนี้

“พูดมากน่าดาร์ลิ่ง”

ดารินหลับตาแล้วสูดอากาศเข้าปอด พยายามเก็บไม้เก็บมือตัวเองสุดฤทธิ์สุดเดช ขืนทำอะไรลงไปมีหวังรถคงเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุแน่ ขันติท่องเข้าไว้ขันติ ห้ามขันแตกโดยเด็ดขาดยัยริน เธอต้องรอดปลอดภัยกลับบ้าน

รถคันใหญ่ที่นั่งมาพักใหญ่จอดตรงหน้าบ้านหลังขนาดกลางได้อย่างพอดิบพอดีเมื่อคนขับรู้เส้นทางเป็นอย่างดีทั้งที่ดารินไม่ได้เอ่ยปากบอกว่าบ้านตัวเองอยู่ที่ไหนพร้อมดับเครื่องยนต์เสร็จสรรพ เจ้าของบ้านตัวจริงเลยรีบผลักประตูแล้วถลาลงไปยืนจ้องหน้าตัวการจอมรู้มากเขม็งที่ตอนนี้ถอดสูทโยนทิ้งไว้ในรถเหลือเพียงเสื้อเชิ้ตสีขาวที่พับแขนขึ้นมาถึงข้อศอกเท่านั้น

“เชิญคุณกลับไปได้แล้วค่ะคุณชาร์ตัน ฉันอยากพักผ่อนอย่างสงบ ไม่อยากต่อร้อต่อเถียงอะไรกับคุณอีกแล้ว วันนี้ฉันเหนื่อยและปวดหัวมาก ขออยู่คนเดียว คิดอะไรคนเดียวนะคะ” เอ่ยปากไล่เขาทันทีอย่างไม่คิดอ้อมค้อม แม้ว่าภายในใจจะเต็มไปด้วยความสงสัยและอยากถามสิ่งที่คาใจแค่ไหนก็ตาม แต่ก็จำต้องปัดมันออกไปก่อน

“ฉันไม่กลับ อยากพักผ่อนก็พักไปสิ” พูดหน้านิ่งเสียงหนักแน่นแล้วแย่งกระเป๋าสะพายมาค้นหากุญแจบ้าน พอเปิดได้ปุ๊บก็เดินดุ่มๆนำเข้าไปราวกับคุ้นเคย

“คุณควรทำตามที่ฉันบอกนะคะ และควรพึงระลึกถึงความผิดของตัวเองให้มากๆด้วย ไม่ใช่ฉันพูดอะไรคุณก็ดื้อแพ่งไม่ยอมรับฟังอย่างเดียว เรา ไม่สิ คุณกับฉันเริ่มต้นกันไม่ดีเลย แล้วการที่วันนี้คุณมาทำตัวเอาแต่ใจกับฉันทั้งที่นี่คือการพบเจอกันครั้งแรกหลังจากเกิดเรื่องบ้าๆในคืนนั้นแท้ๆ คิดว่ามันสมควรแล้วงั้นเหรอคะมิสเตอร์ชาร์ตัน ฉันขอเวลาคุณคุณก็ไม่ให้” เดินตามแผ่นหลังกว้างเข้ามาติดๆ พยายามไม่ใช้อารมณ์ในการเจรจา ต้องใจเย็นและนิ่งให้มาก

“ฉันก็กลับมารับผิดชอบแล้วนี่ไง ไม่ใช่ไม่รู้สึกผิดอย่างที่เธอเข้าใจสักหน่อย” พ่นลมหายใจยาวเหยียด หน้าตาหงิกงอ พลางยกมือขึ้นขยี้ท้ายทอยตัวเองเมื่อไม่รู้จะเริ่มต้นพูดยังไงดีให้มันฟังแล้วไม่ชวนกระตุ้นต่อมโมโหของดาริน

“รับผิดชอบ!” ร้องเสียงหลง

“อือ รับผิดชอบเธอ ฉันพูดจริงๆนะไม่ได้ล้อเล่นดาร์ลิ่ง” กระตุกยิ้มแล้วคว้าเอวคอดมากอดอย่างถือสิทธิ์ เมื่อคิดว่ามันต้องได้ผลอย่างแน่นอน

“คือว่าฉันมีเรื่องสงสัยน่ะค่ะ ดังนั้นฉันขอถามอะไรหน่อยนะมิสเตอร์ชาร์ตัน หยาง” เว้นจังหวะการพูดและเมื่อเห็นว่าคนที่บอกจะรับผิดชอบเธอพยักหน้าหงึกหงักก็เริ่มพูดต่อ “ถ้าคุณไปบังคับขืนใจใครอีกก็คิดจะรับผิดชอบทุกๆคนเลยงั้นสิพ่อคนดี” เลิกคิ้วรอฟังคำตอบแล้วตีเพี๊ยะเข้าที่หลังมือใหญ่ที่กำลังลูบสะโพกเธอเล่น

“ใครมันจะบ้ารับผิดชอบผู้หญิงทุกคนที่เคยร่วมหลับนอนด้วยกัน กรณีของเธอมันไม่เหมือนใครทั้งนั้นดาร์ลิ่ง ฉันไม่เคยบังคับให้ใครขึ้นเตียงด้วยเลยสักครั้ง เธอเป็นคนแรกที่ฉันเลือกใช้วิธีนั้นเลยนะดาริน แล้วก็โชคดีเป็นบ้าที่ได้เธอเป็นคนแรกและ โอ๊ย!” ใบหน้าหล่อตี๋อินเตอร์เหยเกเมื่อถูกตบสนั่นซีกแก้มด้านซ้ายเต็มแรงจนชาหนึบสมองเบลอเลย เกิดมาจนอายุสามสิบหกยังไม่เคยถูกใครตบเลยครั้งนี้เป็นครั้งแรก และมือก็หนักโคตรๆด้วย ให้ตายเถอะว่ะ มือก็บอบบางนุ่มๆไม่คิดว่ามันจะมีอานุภาพร้ายแรงถึงเพียงนี้เลย

“อย่ามาทะลึ่ง! มันน่าภาคภูมิใจมากงั้นสิที่ชิงความบริสุทธิ์มาจากเจ้าบ่าวในอนาคตของฉันได้น่ะ อ่อแล้วฉันยังจำได้แม่นเรื่องที่คุณกล่าวหาว่าฉันเคยผ่านมือผู้ชายมาแล้วด้วย ซ้ำยังกระทำการป่าเถื่อนอย่างโหดร้าย ดังนั้นเก็บความรับผิดชอบที่ผ่านมาเกือบหนึ่งเดือนกลับไปเถอะค่ะ” ถึงกับหอบหายใจแรงเมื่อพูดจนจบ ไม่เคยคุยกับใครแล้วเหนื่อยมากขนาดนี้มาก่อนเลยในชีวิต อีตาบ้านี่คนแรกและหวังว่าจะเป็นคนสุดท้ายนะ

“ฉันกลับก็ได้ แต่อย่าคิดนะว่าเรื่องของเรามันจะจบลงง่ายๆน่ะดาร์ลิ่ง แล้วไอ้เจ้าบ่าวมโนเพ้อเจ้อของเธอน่ะเลิกคิดถึงมันไปได้เลยดาริน ใครมันจะปัญญาอ่อนเลวทรามอยากขึ้นชื่อว่าเป็นชายชู้ของเธอกันครับ ไม่มีหรอกบอกเลย” มือใหญ่กุมแก้มข้างที่โดนตบไว้แน่น แล้วมองด้วยสายตาขุ่นขวาง

“รีบๆออกไปเลยไป ก่อนที่ฉันจะอดใจคว้ามีดมาไล่แทงคนปากไม่ดีอย่างคุณตายเสียก่อนไอ้คนเฮงซวย! ผัวฉันยังไม่มีใครมันจะมาเป็นชายชู้กับฉันได้ ถึงมีเขาก็คือคนรักของฉัน อย่ามาใช้คำทุเรศๆนะไอ้บ้าชาร์ตัน คนอะไรปากมอมเหมือนหมาบ้าไม่มีผิดเลย” ออกแรงผลักแผ่นอกแข็งกระด้างให้ไปพ้นๆหน้าแต่เจ้าตัวยังคงขืนไว้ไม่ยอมถอยง่ายๆ คนที่เหนื่อยก็คือดาริน

“ด่าผัวอีกแล้วนะดาร์ลิ่ง วันนี้ด่าไปกี่รอบแล้วเคยนับบ้างไหม” เข่นเขี้ยวอย่างเคืองๆ เดินหน้าก้าวประชิดตัวแล้วคว้าลำคอระหงโน้มหน้าลงต่ำจนปลายจมูกแตะกัน สายตาประสานกัน ลมหายใจเป่ารินรดกันและกัน

“จะทำอะไร อื้อ!”

มือใหญ่ประคองใบหน้ารูปไข่ไว้แล้วทาบทับริมฝีปากลงมาบดขยี้เรียวปากอวบอิ่มอย่างหนักหน่วงและทิ้งท้ายดังจ๊วบเสียงดังก่อนจะยอมปล่อยไม่วายยักคิ้วหลิ่วตากวนประสาทผิวปากอย่างอารมณ์ดีออกไปโดยไม่ต้องให้ดารินเอ่ยปากไล่อีกรอบ ที่ยอมให้ไม่ได้แปลว่ากลัวแต่เห็นใจต่างหาก

“หน้าด้าน! ฉวยโอกาสที่สุดเลยไอ้ชาร์ตันบ้า!” กระแทกเสียงตามหลังอย่างโมโหพลางใช้หลังมือเช็ดริมฝีปากเอาเป็นเอาตายและรีบเดินตามเพื่อไปล็อครั้วล็อคประตูรั้วในทันทีเพราะกลัวไอ้คนบ้านี่จะเปลี่ยนใจไม่ยอมกลับ

“เปิดประตูบ้านรอต้อนรับแค่ผัวคนเดียวก็พอเข้าใจไหมดาร์ลิ่ง คนอื่นไม่จำเป็นอย่าไปต้อนรับมัน” ใช้มือยันบานประตูรั้วเอาไว้แล้วสั่งอย่างคนเอาแต่ใจ

“เผอิญว่ายังไม่เจอคนที่จะมาเป็นผัวฉันน่ะสิ แต่ถ้าเจอคนไหนถูกใจก็จะพาเข้าไปนั่งเล่นนอนเล่นในบ้าน เชิญกลับบ้านคุณไปได้แล้วเสียเวลาหาเนื้อคู่ของฉันหมด ชิ้วๆ” ดารินยิ้มเยาะตรงมุมปากแล้วใช้แรงดันประตูรั้วไม้ ใส่กุญแจล็อคอย่างง่ายดายเมื่อแขกไม่ได้รับเชิญลืมตัวปล่อยมือออกเพราะมัวแต่จ้องหน้าเธอเขม็งและเตรียมแยกเขี้ยวใส่เหมือนยักษ์ใจร้าย

“ดาริน!” ชาร์ตันเรียกเสียงรอดไรฟันเมื่อถูกสะบัดบ๊อบใส่อย่างไร้เยื่อใย อยากจะปีนรั้วเข้าไปฟาดก้นงอนๆที่เดินส่ายสะบัดหายเข้าไปด้านในซะเหลือเกิน ฟาดเสร็จพ่อจะจับกลืนลงท้องเคี้ยวให้ไม่เหลือแม้แต่กระดูกเลย เหอะ! แต่มันก็ได้แค่คิดเลยพาลพาโลเตะยางรถยนต์ของตัวเองเป็นการระบายอารมณ์โมโหที่กำลังคุกรุ่นก่อนจะกระชากประตูรถ สตาร์ทแล้วขับออกไป

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel