1 ฟ้าหลังฝน
ชาร์ตัน หยาง ชายหนุ่มเลือดผสมระหว่างเชื้อสายจีนแผ่นดินใหญ่มาจากทางฝั่งบิดาและเชื้อสายไทยจากทางฝั่งมารดาที่ล่วงลับลาจากโลกนี้ไปแล้วทั้งสองคน ฮั่น หยาง บิดาของเขาท่านทิ้งธุรกิจให้ลูกชายเพียงคนเดียวสืบทอดกิจการต่อตั้งแต่อายุยี่สิบสามปีจนตอนนี้สามสิบหกเข้าไปแล้ว สิบสามปีเต็มๆที่อยู่ในแวดวงสังคมธุรกิจ ซึ่งกิจการหลักๆที่สร้างเม็ดเงินจำนวนมหาศาลหลักพันล้านก็คือธุรกิจเกี่ยวกับการเดินเรือขนส่งสินค้าทางทะเล โดยใช้ชื่อภายใต้บริษัท หยางฮั่น จำกัด (มหาชน) มีธุรกิจหลักคือ ธุรกิจเดินเรือและธุรกิจบริการที่เกี่ยวข้องกับการเดินเรือ มีทั้งประจำเส้นทางและไม่ประจำเส้นทาง โดยจะวิ่งจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และประเทศจีนไปยังตะวันออกกลางและแถบเมดิเตอร์เรเนียนเป็นหลักใหญ่
ยิ่งรวยยิ่งงกคงไม่ใช่แต่เป็นเพราะเขาต้องการสร้างรากฐานให้มั่นคงในระยะยาวให้มากกว่านี้เผื่ออนาคตภายภาคหน้ามีครอบครัว มีลูกมีหลานจะได้สบายๆกับงาน อายุสามสิบปลายๆถึงไม่รีบก็คงต้องรีบแล้วล่ะมั้ง คำพูดของเพื่อนๆที่มีครอบครัวแล้วเอ่ยแซวอยู่บ่อยๆแต่ก็ไม่ค่อยได้เก็บมาใส่นักกระทั่งในค่ำคืนนั้นที่เขาบังเอิญได้พบกับสาวสวยนางหนึ่งในคลับที่ดูอายุยังน้อยแต่มีเสน่ห์ชวนมองจนไม่อาจละสายตาไปยังทิศทางอื่นได้
‘ช้านม่ายหวาย มึนเป็นบ้า อือ มึนหัวว มึนๆ’ เสียงอ้อแอ้บ่นงึมงำกับตัวเอง เดินโซเซออกมาจากห้องน้ำแล้วหยุดยืนหลบมุมข้างทางเข้าพลางมือยกขึ้นตบข้างศีรษะเพื่อเรียกสติที่แทบไม่มีหลงเหลือเนื่องจากเกิดอาการเมามายอย่างหนักให้กลับมาดังเดิม และอยู่ๆแข้งขาก็อ่อนแรงฉับพลันดีที่ได้มือใหญ่จับแขนเอาไว้ได้ทันท่วงทีไม่อย่างนั้นได้ลงไปนั่งกองกับพื้นแน่นอน
‘ไหวไหมเนี่ย’ โอบแขนรอบไหล่บางเพื่อช่วยประคองแล้วถามไถ่ พลางลอบมองเครื่องหน้าสวยที่แต่งแต้มด้วยเมคอัพค่อนข้างหนาแต่ก็ไม่ได้ดูเยอะเกินเหมือนผู้หญิงบางคน สวยใช้ได้เลย ไม่สิไม่ใช่แค่ใช้ได้สวยมากเลยต่างหาก ยิ่งได้มองใกล้ๆแบบนี้ยิ่งน่าหลงใหล ว่าแต่เธอดื่มไปเยอะขนาดไหนกันถึงได้มีสภาพเป็นเมรีขี้เมาแบบนี้ ถ้ารู้ว่าคออ่อนก็ไม่น่าหาเรื่องใส่ตัวเองเลย
‘ฮึก คูณณคนนหล่ออขา ช่วยพาช้านปายส่งที่โต๊ะหน่อยด้ายม้ายค๊า ไม่ไหว ช้านเดินไม่ไหวแล้ว’ ซบลงกับอกกระด้างอย่างอ่อนแรงเนื้อตัวอ่อนปวกเปียก พลางอ้อนวอนเสียงอ้อแอ้ มือเกาะเอวหนาไว้แน่นเพื่อเป็นที่ยึดเกาะไม่ให้ตัวเองล้มลงไปกองกับพื้น ดวงตาฉ่ำปรือแทบจะลืมไม่ขึ้น
‘ให้ฉันพาเธอไปส่งที่โต๊ะงั้นเหรอ นี่เธอเห็นว่าฉันใจดีมีเมตตาขนาดนั้นเลยใช่ไหมคนสวย’ กวาดตามองเรือนร่างเย้ายวนที่มีชุดเดรสสั้นรัดรูปแบบสายคล้องคอสีดำสนิทแล้วกระตุกยิ้ม ยอมรับว่าถูกใจ ถูกใจเป็นอย่างมากตั้งแต่ได้เห็นหน้าครั้งแรกแล้ว และตอนนี้แม่กวางน้อยนี่ก็อยู่ในมือเสียด้วยจะปล่อยไปง่ายๆได้ยังไงกัน ปกติไม่ชอบคนเมาแต่วันนี้ขอสักวัน
“บอสครับ ไม่ทราบว่าวันนี้บอสจะเข้าบริษัทไหมครับหรือว่าต้องการพักผ่อนให้หายเหนื่อยจากการเดินทางไกลก่อนครับผมจะได้เตรียมตัวได้ถูก” เขาและเจ้านายเพิ่งจะเดินทางกลับมาจากสหรัฐอเมริกา รถจอดสนิทเทียบหน้าบ้านเมื่อประมาณตีสามเกือบตีสี่ที่ผ่านมานี่เอง เวลาตอนนี้มันก็เพิ่งจะหกโมงเช้าเท่านั้นเองไม่รู้ว่าทำไมเจ้านายถึงไม่ยอมพักผ่อนเอาแรง ส่วนตัวเขาเองน่ะนอนไม่ค่อยหลับเพราะผิดเวลาเลยออกมายืดเส้นยืดสายพอเจอเจ้านายเหนือหัวก็เลยรีบเดินเข้ามาหาทันที แต่จะว่าไปแล้วตั้งแต่เดินทางไปนิวยอร์กบอสก็แปลกๆไปเหมือนคนคิดอะไรในใจอยู่ตลอดเวลา
สายตาคมกริบเหลือบมองหน้าลูกน้องหนุ่มที่เข้ามาขัดจังหวะความคิดของตัวเองอย่างน่าโมโหแถมยังยืนมองไม่วางตาแล้วต้องหัวคิ้วชนกันอย่างไม่ค่อยชอบใจนักกับท่าทางของมันที่แสดงออกมาในขณะนี้ นับวันมันยิ่งน่ากลัวขึ้นมากทุกทีสงสัยต้องหาเมียให้มันสักคนจะได้เลิกใช้สายตาน่าถีบกับเขา
“แกช่วยเลิกทำสายตาเหมือนแกแอบชอบฉันได้ไหมวะไอ้อาหลง ฉันเห็นแล้วมันขนหัวลุกนะโว้ย! ไอ้เวรนี่วอนโดนฉันเตะรับรุ่งอรุณแล้วไหมล่ะ” ยกมือข้างหนึ่งเท้าเอวแล้วอีกข้างชี้หน้าคนสนิทเมื่อมันยังไม่ยอมเลิกทำด้วยท่าทางขึงขัง คนยิ่งหงุดหงิดๆอยู่ชอบมายั่วอารมณ์โมโหให้เพิ่มมากขึ้นกว่าเดิม
“โธ่! ผมไม่ได้แอบชอบบอสนะครับ ผมชอบผู้หญิงร้อยเปอร์เซ็นต์บอสก็รู้ เสียหายหมดถามแบบนี้” สายตาที่ใช้มองเจ้านายหนุ่มเต็มไปด้วยความชื่นชมอย่างปิดไม่มิด ไม่ใช่ว่าคิดไม่ซื่อหรือนิยมชมชอบในไม้ป่าเดียวกันแต่อย่างใด แค่ชื่นชมความหล่อและความสามารถที่เก่งรอบด้านต่างหาก โดยเฉพาะความหล่อไร้ที่ติที่สาวๆต่างพากันปลื้มปริ่มเนี่ยน่าอิจฉาสุด คิ้วเข้มตวัดเฉียงขึ้นเล็กน้อย ตาชั้นเดียวบ่งบอกเชื้อชาติ จมูกโด่งเป็นสัน ริมฝีปากบนหยักเป็นรูปกระจับที่บรรดาสาวน้อยสาวใหญ่อยากครอบครอง
“ฉันไม่รู้หรอกเพราะว่าฉันไม่ใช่ตัวแก คนเรามันเปลี่ยนกันได้ตลอดเวลาอยู่แล้ว ไม่เว้นแม้แต่ตัวฉันเอง หึ!” นิสัยกับใจคนมันเปลี่ยนแปลงกันได้เสมอโดยเฉพาะใจคนเราเนี่ย จากที่ชอบอาจกลายเป็นไม่ชอบและจากที่ไม่ชอบอาจจะชอบขึ้นมาดื้อๆจนตั้งตัวไม่ทัน วงเวียนชีวิตของมนุษย์เรามันจะว่าซับซ้อนก็ซับซ้อนเอาแน่เอานอนไม่ได้เลยจริงๆ เหอะ!
“บอสต้องการจะสื่อความหมายอะไรกับผมมากกว่านี้รึเปล่าครับพอดีว่าผมโง่บอสก็รู้” ถามอย่างไม่ค่อยแน่ใจเท่าไหร่ เพราะฟังแล้วมันแปลกๆหูยังไงชอบกล อารมณ์เหมือนคล้ายรำพึงรำพัน ปกติบอสใช่แบบนี้ที่ไหนกันล่ะ
“ไม่มีอะไรหรอกน่า ฉันก็พูดไปเรื่อยเปื่อยแกอย่าสนใจฉันเลย” พูดเสียงเรียบ อาหลงพยักหน้าหงึกหงักก็จริงแต่แววตาและท่าทางบอกว่าไม่เชื่อสิ่งที่เจ้านายพูดหรอก
“อ่อครับ ไม่มีอะไรก็ไม่มี แล้วตกลงวันนี้บอสจะเข้าบริษัทไหมครับเนี่ย บอสยังไม่ตอบคำถามผมเลย” เมื่อเจ้านายบอกว่าไม่มีอะไรก็คือไม่มีอะไรตามนั้นขืนเซ้าซี้มากมีหวังถูกถีบตกสระว่ายน้ำตอนเช้าตรู่แน่ๆ ยังไม่อยากเปียกตอนนี้เลยไม่กล้าเสี่ยงกับอารมณ์บอส ช่วงนี้ยิ่งขึ้นๆลงๆอย่างกับคนเข้าสู่วัยทอง ปรับตัวตามไม่ค่อยจะทัน ผิดหูหรือผิดใจเข้าหน่อยก็เตรียมองค์ลง ด่าลูกน้องยับเยิน จะว่าไม่ได้ปลดปล่อยกับสาวสวยที่ไหนก็ไม่น่าใช่เพราะบอสเป็นคนบอกว่าไม่ต้องการ ซึ่งเรื่องนี้ก็นับว่าแปลกมาก
“เข้าสิวะ บ่ายนี้ฉันจะเข้าบริษัทไปตรวจดูความเรียบร้อยสักหน่อย ไม่ได้เข้าไปเสียนานเลย อะไรๆมันอาจจะมีการเปลี่ยนแปลง ระหว่างนี้แกจะไปนอนพักผ่อนหรือทำอะไรก็ไปทำเถอะ ตามสบายเลย ไม่ต้องมาคอยอยู่เฝ้าหรอก ฉันจะออกกำลังกายเงียบๆแล้วคิดอะไรลำพังคนเดียว ไปๆ รีบไปเลย เบื่อหน้าแกเต็มทนแล้วเห็นจนเอียน” โบกมือไล่ลูกน้องคนสนิทแล้วถอดเสื้อคลุมที่ผูกเอวอยู่ออกเหลือเพียงกางเกงว่ายน้ำสีดำตัดกับสีผิวตัวเดียวเท่านั้น โชว์แผงอกขาวจั๊วะกว้างกำยำมีกล้ามชวนมอง
เรื่องอื่นไม่สนใจหรอกสนแต่เรื่องที่ว่ามันอาจมีการเปลี่ยนแปลงคืออะไรวะ ทุกอย่างมันก็เรียบร้อยปกติดีเหมือนเดิมนี่หว่า ชอบพูดมีนัยยะให้งงและต้องคิดตามเอาเองอยู่เรื่อยเลยบอสเนี่ย คันปากอยากจะถามให้รู้เรื่องเหลือเกินแต่ก็ไม่ทันเสียแล้วเพราะเจ้านายเขาเข้าสู่โลกส่วนตัวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ขืนกวนใจตอนนี้ได้โดนด่าเปิดเปิงแน่นอน เอาวะไว้มีโอกาสค่อยเลียบๆเคียงๆถามเอาก็ได้
ตู้ม!
น้ำในสระแตกกระจายเป็นวงกว้างเมื่อบุรุษหนุ่มเรือนกายสมบูรณ์แบบอย่างชาร์ตันพุ่งหลาวลงไปแหวกว่ายเป็นปลาฉลามด้วยท่าฟรีสไตล์ ดำผุดดำว่ายอย่างใจเย็นแล้วเปลี่ยนท่าไปเรื่อยโดยไม่มีใครกล้าเข้ามายุ่มย่ามในบริเวณนี้เลยเพราะต่างรู้ว่าตอนนี้คือเวลาส่วนตัวของเจ้านาย
ฟ้าหลังฝนย่อมสวยงามเสมอขอให้มันเป็นอย่างนั้นจริงๆทีเถอะเธอจะได้เริ่มต้นสิ่งใหม่อย่างมีความสุขอีกครั้ง การทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยเลขาผู้บริหารสูงสุดที่บริษัทเดินเรือขนส่งสินค้ายักษ์ใหญ่ระดับภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นี่ก็ผ่านมาแล้วเกือบหนึ่งเดือนเต็มที่ได้รับโอกาสอันดีงาม ไม่คาดคิดมาก่อนเลยว่าจะผ่านการสัมภาษณ์งานแล้วมาถึงจุดนี้ได้ ตอนส่งใบสมัครก็แค่ลองและตัดสินตัวเองไปแล้วว่ายังไงก็ไม่มีทางได้ทำเด็ดขาด แต่ใครจะคิดล่ะว่าเมื่อเวลาผ่านไปหนึ่งอาทิตย์เธอได้รับโทรศัพท์จากฝ่ายบุคคลให้มาสัมภาษณ์ วันต่อมาผู้จัดการก็โทรมาแจ้งด้วยตัวเองเลยว่าเธอสามารถเริ่มงานได้ในอาทิตย์หน้า โปร์ไฟล์เธอไม่ได้ดีมาก ประสบการณ์การทำงานก็ใช่ว่าจะมี เงินเดือนก็ได้สูงลิบมากกว่ามาตราฐานที่กำหนดไว้สองเท่า แม้ว่าจะเป็นแค่ผู้ช่วยเลขาตัวเล็กๆก็ตาม เดิมทีเธอไม่ได้เลือกสมัครตำแหน่งนี้ พอถามฝ่ายบุคคลก็บอกว่าเธอมีคุณสมบัติที่เหมาะสมกว่าตำแหน่งที่สมัครไปเสียอีก ครั้นจะคัดค้านก็ใช่ที่เพราะกลัวเรื่องมากแล้วจะพาลชวดงานที่มั่นคงเธอเลยตัดสินไปว่าโชคช่วย ฟ้าท่านเมตตาหลังจากเจอเรื่องแย่ๆมา
จนตอนนี้เธอก็ยังไม่มีโอกาสได้พบกับบอสใหญ่คนจ่ายเงินเดือนเลยสักครั้งแม้ว่าจะนั่งทำงานอยู่หน้าห้องของเขามาจะครบเดือนแล้วก็ตาม ทราบจากเลขาตัวจริงว่าเขาเดินทางไปต่างประเทศบ่อยมาก บางครั้งก็อยู่เป็นเดือนๆเลยในแต่ละประเทศที่ไป เพราะธุรกิจของเขากระจายอยู่หลายแห่ง แต่ถึงเจ้าตัวไม่อยู่ดูแลทุกอย่างก็เป็นระบบระเบียบเพราะมีการจัดการที่ดี การทำงานของเธอก็ไม่ค่อยจะมีอะไรมากช่วยพิมพ์งาน จัดเรียงนั่นนี่ บางครั้งก็เดินส่งเอกสารเป็นครั้งคราว งานน้อยแต่จ้างแพงถือเป็นโชคของเธอจริงๆนั่นแหละ เพื่อนร่วมงานก็ให้ความเป็นกันเองดีมากแม้ว่าวันๆหนึ่งทั้งชั้นจะนั่งกันอยู่แค่สองคนก็ตาม ถ้าอยู่คนเดียวก็ดูโหวงเหวงยังไงก็ไม่รู้ หรูหราสมเป็นชั้นของผู้บริหารสูงสุด แบ่งแยกโซนไว้เป็นอย่างดีและไม่ใช่ใครก็ได้ที่จะขึ้นมายุ่มย่ามบนนี้ได้หากไม่ผ่านการนัด
ในแต่ละวันมีอะไรให้ทำเพลินๆสมองเลยพอจะไม่ต้องคิดถึงเรื่องนั้นมากนัก ยอมรับตรงๆเลยว่ายังทำใจไม่ได้กับการสูญเสียสิ่งมีค่าในชีวิตลูกผู้หญิงไป เรื่องนี้เธอเก็บเงียบไม่ปรึกษาหรือบอกใครทั้งนั้นกระทั่งเพื่อนสนิท ก้าวขาออกจากคอนโดนั้นได้ก็รีบกวาดสายตามองหาเข้าร้านขายยาเพื่อซื้อยาคุมฉุกเฉินเป็นอันดับแรกเพื่อป้องกันการตั้งครรภ์ที่ไม่พึงประสงค์ โชคดีที่มันอยู่ใกล้กับคอนโดเลยไม่ต้องใช้เวลาในการเดินตามหานาน หลังจากได้สิ่งที่ต้องการและกินมันเสร็จเรียบร้อยเธอก็ตรงดิ่งไปโรงพยาบาลเพื่อตรวจเลือด เดชะบุญที่มันไม่มีโรคร้ายตามมาไม่อย่างนั้นเธอคงมีชีวิตอยู่ต่อไปไม่ได้แน่
ตั้งแต่นั้นก็บอกกับตัวเองไว้ว่าต้องเข้มแข็งและก้าวผ่านมันไปให้ได้ก็ต้องทำให้ได้เพราะชีวิตต้องเดินหน้าต่อถ้ามัวแต่จมปรักจะมีความสุขที่แท้จริงได้ยังไงกัน เธอห้ามร้องไห้ออกมาโชว์คนอื่นเด็ดขาดนะยัยดาริน เธอต้องยิ้มและสดใสเข้าไว้ สู้ๆ เธอชอบเตือนสติของตัวเองแบบนี้ในใจอยู่เสมอยามคิดถึงมัน แต่เอาเข้าจริงพอได้อยู่คนเดียวมันก็ชอบหวนคิดมันจึงต้องคอยหาหนังสือมาอ่านเพื่อไม่ให้สมองว่างเปล่า
“ทำงานๆดาริน เวลานี้ไม่ใช่เวลาที่เธอจะมานั่งเหม่อลอยได้” เตือนสติตัวเองแล้วขับไล่ความคิดทั้งหลายออกจากสมองแล้วเริ่มต้นทำงานของตัวเองต่อ