บท
ตั้งค่า

บทที่ 7

“แล้วเพื่อนชายของคุณเป็นใคร” เขาจับตามองแหวนวงที่สวมสอดอยู่ในนิ้วนางข้างซ้าย มันคล้ายกับเธอจะสําเหนียกความแปลกเปลี่ยนในน้ำเสียงที่ถาม มันมีความมั่นใจน้อยลง และดูเหมือนจะสะท้านน้อย ๆ เสียด้วยซ้ำ...

“คู่หมั้นฉันชื่อบาร์ท สแตนตัน เป็นนักธุรกิจอยู่ในฮิวสตัน”

เสียงหัวเราะของเขาหยันเยาะเช่นเดียวกับครั้งแรก

“บาร์ท สแตนตัน...บาร์ท...พระเจ้า...” เขาพูดกลั้วหัวเราะ “สงสัยว่าเขาคงขับเอล โดราโด้ โดยมีเขาลองฮอร์นตั้งไว้บนหน้าหม้อรถด้วยสินะ”

“ฉันจะไม่ทนกับการดูหมิ่นของคุณอีกแล้วนะ มิสเตอร์บาร์เรทท์”

“คุณจะต้องทน และผมก็จะพูดและทําทุกอย่างเท่าที่พอใจจะทําด้วย” เขาระเบิดออกมา ท่าทางขบขันเมื่อครู่หายไปหมดสิ้น “ผมจะบอกให้คุณรับรู้ไว้ด้วยว่า เรื่องที่คุณเล่ามาทั้งหมดผมไม่ได้เชื่อถือเลยแม้แต่คําเดียว ไม่ว่าคุณจะอ้างว่าตัวเองเป็นใครมาจากไหนก็ตาม ถึงยังไงผมก็ยังมั่นใจว่าคุณจะต้องมีการติดต่อกับไลแมนก่อนหน้านี้ด้วยวิธีการไม่อย่างใดอย่างหนึ่ง คุณมาหาเขาที่นี่ในวันนี้ตามที่นัดหมายกันไว้ แต่บังเอิญมาเจอผมเข้า แล้วคุณก็แต่งนิยายขึ้นมาเล่าให้ผมฟัง ด้วยความหวังว่าผมจะเชื่อ ลองหวังแล้วก็ลองเดาต่อไปอีกสิคุณผู้หญิง”

“นี่...คุณกรุณาเลิกเรียกฉันว่าคุณผู้หญิงเสียทีได้ไหม ในเมื่อคุณก็รู้จักฉันดีแล้วนี่”

“อย่างน้อยก็แค่ชื่อที่คุณบอกผมเท่านั้น มิสโอ’เชีย...แต่คุณจะชื่ออะไรไม่สําคัญ...เอาละ....ผมพอจะรู้อยู่ว่า โอ’เชียเป็นชื่อสกุลไอริช แล้วคุณก็บอกว่ามีคนขอคุณไปเลี้ยงจากสถานเลี้ยงเด็กกําพร้าคาธอลิค มันมีความเป็นไปได้อย่างมากทีเดียวที่เงินจํานวนเจ็ดแสนห้าหมื่นเหรียญนั่นจะถูกนำไปใช้ในการซื้ออาวุธเพื่อส่งไปไอร์แลนด์เหนือ...จริงไหม...หรือไม่คุณอาจจะมาที่นี่เพื่อขายยาเสพติด...ไม่ก็มาซื้อยาเสพติด ตอนนี้ผมยังไม่รู้อะไรก็จริง แต่รับรองว่าผมจะต้องสืบหาจนได้แน่”

“คุณมันบ้า” เธอด่าใส่หน้าอย่างไม่เกรงใจ “ถ้าคุณอยากจะรู้อะไรเกี่ยวกับตัวฉันก็ตรวจสอบได้เลย โทรรศัพท์ไปที่บริษัท หรือติดต่อไปหาบาร์ทก็ได้”

“ผมว่าสําเนียงพูดของคุณไม่ได้มีเค้าชาวเท็กซัสเลยนะ”

“ก็ฉันอยู่นิวยอร์คมาตั้งห้าปี จะให้สำเนียงเป็นอย่างเดิมได้ยังไงกันล่ะ”

“เอาละ...สมมุติว่าเรื่องที่คุณเล่ามาทั้งหมดเป็นความจริง มีใครรู้บ้างว่าที่คุณเดินทางมาครั้งนี้เพื่อจะมาตามหาพี่ชายที่หายสาบสูญไป”

“ทุกคนที่ฉันทํางานอยู่ด้วย...บาร์ทก็รู้...แม่ฉัน...มิสซิสเมิร์ล โอ’เชีย...ตอนนี้อยู่ที่เชอร์ฟเวพอร์ต, หลุยส์เซียน่า”

เขาจดทุกคําพูดของเธอลงไว้ในสมุดบันทึกเล่มเล็กที่หยิบออกมาจากกระเป๋าเสื้อ

“คุณบอกว่าแม่คุณอยู่ในฮิวสตันไม่ใช่หรือ” เขาถามอย่างยอกย้อน

“ครั้งหนึ่งเคยอยู่ แต่พอพ่อฉัน...เจอรัลด์ โอ’เชีย ตายลง แม่ก็ย้ายไปอยู่กับน้องสาวในหลุยส์เซียน่า”

“แล้วน้องสาวของแม่คุณชื่ออะไร” เขาถามห้วน ๆ และเอรินก็ตอบอย่างรวดเร็วทันใจ “หมายเลขโทรศัพท์ล่ะ” ซึ่งเธอก็ให้ทั้งหมายเลขโทรศัพท์และตําบลที่อยู่ของน้าสาว

“เชิญนั่งอยู่ในห้องนี้ตามสบายก่อนนะ มิสโอ’เชีย ผมจะไปพูดโทรศัพท์” เมื่อถึงประตูเขาก็หันมาบอกเธอว่า “แล้วก็อย่าสร้างความลําบากให้ตัวเองล่ะ เพราะไมค์จะเฝ้าอยู่ตรงหน้าประตูห้องนี้ตลอดเวลา”

“คุณคิดว่าฉันจะกระชากปืนกลจากใต้กระโปรงออกมายิงคุณหรือไง” เธอถามอย่างดุเดือดด้วยแรงอารมณ์

“เปล่าเลย...” เขาทอดหางเสียงตอบ “เพราะผมรู้อยู่แล้วนี่ว่าใต้กระโปรงของคุณมีอะไร” เขากวาดสายตาไปทั่วร่างอย่างหยาบคายอีกครั้งก่อนจะก้าวออกจากห้อง และปิดประตูตามหลังลง

เอรินฟูมฟายน้ำตาด้วยความคั่งแค้นเจ็บใจในตัวมิสเตอร์บาร์เรทท์กับการกระทําของเขาอยู่อีกครึ่งชั่วโมง เมื่อการกระทําดังกล่าวไม่สามารถจะช่วยให้สถานะของเธอดีกว่าที่กำลังเป็นอยู่นี้ได้ เธอก็คุกเข่าลงเก็บเสื้อผ้าทั้งหมดเข้ากระเป๋า จัดเรียงให้เรียบร้อยตามนิสัย อดสะท้านลึก ๆ อยู่ในใจไม่ได้ เมื่อหยิบเสื้อนอนสีฟ้าตัวที่เขาลูบคลำอยู่เมื่อครูขึ้นมาพับและวางลงไว้

เขาช่างเป็นมนุษย์ที่ร้ายกาจที่สุดเท่าที่เธอเคยพบเห็นมา วางอํานาจใส่ทุกคน ดูหมิ่นเหยียดหยามเธอทั้งที่ไม่มีสาเหตุ การกระทําทุกอย่างล้วนแต่หยาบคาย บ่งบอกถึงความเป็นคนมีจิตใจโหดเหี้ยม แม้แต่ตอนที่จูบเธอด้วย...

ทําไมจิตใจของเธอจึงหมกมุ่นอยู่แต่เรื่องนั้นนะ...ในเมื่อเธออยากจะผลักไสมันออกไปให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้เสียด้วยซ้ำ...

สิ่งหนึ่งที่เธอพอจะหยิบยกขึ้นมาปลอบใจตัวเองได้ก็คือ...เขาไม่ใช่พี่ชาย...เพราะฉะนั้นการกระทําของเขาจึงไม่ถือว่าเป็นความผิดบาป...

ฉันจะไม่คิดถึงจูบนั้นของเขาอีก...เธอพยายามหลีกเลี่ยงความคิดของตัวเอง และจะไม่นึกถึงความปั่นป่วนที่เกิดขึ้นในจิตใจทุกครั้งที่มิสเตอร์บาร์เรทท์จ้องมองเธอด้วยดวงตาสีฟ้าเข้มคู่นั้น การที่ริมฝีปากของเธอเผยอขึ้นเพื่อสนองรับต่อจูบของเขานั้น มันเป็นปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นด้วยความไม่ตั้งใจแม้แต่น้อย ตัวตนที่แท้จริงของเอริน โอ’เชีย ไม่เคยปรารถนาในจูบนั้น...

ก็ไหนว่าจะไม่คิดเรื่องนั้นอีกแล้วไงล่ะ...เธอถกเถียงตัวเองอย่างวุ่นวายใจ...

เธอทอดศีรษะอยู่กับพนักโซฟาพร้อมกับปิดเปลือกตาลง ตอนที่เขาเปิดประตูเดินกลับเข้ามาในห้องพอดี มันทําให้เธอถึงกับสะดุ้ง ไม่แน่ใจว่าเมื่อครู่เผลอหลับไปหรือเปล่า

“รู้สึกว่าวันนี้คุณจะโชคไม่ดีเสียแล้วละ มิสโอ’เชีย”

“คุณหมายความว่ายังไง” เธอโกรธตัวเองที่น้ำเสียงสั่นพร่าอย่างนั้น

“ผมต่อโทรศัพท์ทางไกลไปที่บริษัทสปอตไล้ท์แล้ว แต่ไม่มีคนรับสาย”

“อะไรนะ...” เธอร้องออกมาด้วยความตกใจ แต่แล้วก็นึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ว่าเพราะเหตุใดจึงเป็นเช่นนั้น ยกนาฬิกาข้อมือเรือนทองขึ้นมาดูและบอกเขาว่า “ในฮิวสตันตอนนี้มันหกโมงครึ่ง ใคร ๆ เขาก็กลับบ้านกันหมดแล้ว”

“บาร์ท สแตนตัน เองก็เดินทางไปแพนแฮนเดิ้ล ไปติดต่อธุระที่นั่นสองวัน ส่วนที่เซอร์ฟเวพอร์ตก็ไม่มีคนรับสายอีกเหมือนกัน”

เธอยกมือขึ้นกดหว่างคิ้ว บอกตัวเองอยู่ว่า...คิดสิเอริน...คิดเร็ว ๆ เข้า...

แต่ดูเหมือนสมองของเธอจะไม่ยอมทํางานเอาเสียเลย มันยังมึนงงกับเหตุการณ์ที่เกิดติดต่อกันมาสองสามชั่วโมงก่อนหน้านี้ มีความรู้สึกว่า ตั้งแต่ก้าวลงจากเครื่องบินจนกระทั่งถึงเวลานี้ เวลามันนานนับศตวรรษทีเดียว เธอทั้งเหน็ดเหนื่อยอ่อนเพลียจนไม่อาจคิดอะไรด้วยสมองที่ปลอดโปร่งแจ่มใสได้ มันมีเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นมากมาย และมันก็ระดมเข้าใส่เธอมาตลอดทั้งบ่าย

“แต่มีอยู่เรื่องหนึ่งที่ผมอยากจะบอกให้คุณรับทราบไว้ ซึ่งอาจจะพอเรียกว่าเป็นข่าวดีได้ คือผมสอบถามมิสซิสไลแมนว่า สามีของเขาเป็นลูกบุญธรรมของใครหรือเปล่า ซึ่งเขาก็ยอมรับว่าเป็นความจริงตามนั้น”

“ถ้าอย่างนั้นคุณคงเชื่อเรื่องที่ฉันเล่าแล้ว...” เธอชิงชังน้ำเสียงอ้อนวอนที่เอ่ยออกไปเสียเหลือเกิน และยังหยาดน้ำตาที่ขึ้นมาคลอคลองอยู่ในดวงตาคู่สีดำนั่นอีกด้วย

“ก็จวนแล้ว” เขาตอบอย่างยอมรับ

“โอ....ขอบคุณมากเลยค่ะมิสเตอร์บาร์เรทท์ ถ้าคุณไม่รังเกียจละก้อ ฉันเห็นจะต้องขอตัวไปก่อนนะคะ วันนี้เป็นวันที่ฉันเหนื่อยหนักที่สุดในชีวิตก็ว่าได้ ฉันจะพักอยู่ที่แฟร์มองท์นะคะ ถ้าคุณต้องการจะสอบปากคําฉันเพิ่มเติมละก้อติดต่อไปที่นั่นได้เลย...”

“ฉันยอมรับค่ะว่าเสียใจกับเรื่องที่พี่ชายก่อขึ้นอย่างมาก แต่ขณะเดียวกันนั้นก็ยังอยากรู้ด้วยว่ามันมีอะไรเกิดขึ้นกับเขาบ้าง ฉันจะยังไม่เดินทางออกจากซานฟรานซิสโกหรอกค่ะ จนกว่าเรื่องนี้จะเคลียร์เสียก่อน”

เธอเดินไปหยิบกระเป๋าถือกับเสื้อคลุมรวมทั้งเสื้อคลุมหนังตัวนั้น ขยับจะเดินออกจากห้อง แต่ไม่อาจทําอย่างที่ใจหวังได้ เพราะมิสเตอร์บาร์เรทท์จับไหล่เธอไว้ พร้อมกับดึงกระเป๋าถือไปจากมือ

“คุณเข้าใจผิดถนัดเลยนะมิสโอ’เชีย คุณจะยังไปไหนไม่ได้ทั้งสิ้น จะต้องนอนค้างที่นี่ อยู่กับผมที่นี่แหละ”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel