บทที่ 2 เมื่อต้องอยู่ร่วมห้องเดียวกัน (3)
ลูเซียโน่เล่าให้มารดาฟังอย่างคร่าวๆ ตลอดเวลานั้นเด็กสาวเอาแต่นั่งเกร็ง บีบมือบนตักแน่น เหมือนรอฟังคำพิพากษาอย่างไรอย่างนั้น
หลังจากนิ่งฟังจนจบ โชติกาก็เอ่ยขึ้น
“สรุปคือยศกรจะให้น้องสาวตัวเองมาขัดดอกงั้นสิ”
“ครับ แต่ผมเอาทองเขามาแล้ว”
“ทำแบบนี้จะโดนข้อหาพรากผู้เยาว์”
“หนูอายุ 19 แล้ว และก็ยินยอมเองค่ะ”
“ผมคิดว่าจะหางานกับที่พักราคาถูกให้แพรว”
โชติกาพินิจมองหน้าเด็กสาว ก่อนพูดขึ้นว่า “ให้ทำงานกับเราก็ได้นี่”
“บ้านเรามีงานอะไรให้ทำล่ะครับ” ถามกลับอย่างฉงน
“คนรับใช้ไง” เหยียดยิ้ม สักพักก็เบิกตากว้าง “แต่คิดไปคิดมา ให้เป็นสาวใช้ส่วนตัวของลูซดีกว่า”
“ผมไม่ใช่เด็กแล้วนะครับ จะได้มีพี่เลี้ยง” เสียงห้วนไม่พอใจ
“ไม่ใช่พี่เลี้ยง” มารดาย้ำชัดเจน “แต่เป็นคนรับใช้ส่วนตัวที่คอยอำนวยความสะดวกให้ลูซโดยตรง”
“ไม่มีเหตุผลที่ต้องทำอย่างนั้นเลย ในเมื่อผมโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว และก็ไม่ได้เป็นง่อยด้วย”
“ระหว่างหางานที่เหมาะสมให้แพรว ลูซก็รับแพรวเข้าทำงานกับตัวเองก่อนจะเป็นไรไป”
“งานน่ะหาได้ง่ายครับ ผมจะฝากงานให้เดี๋ยวนี้เลยก็ยังได้”
“มันก็จริงที่ลูซมีเส้นสายเยอะ แต่แม่อยากให้ลูซคิดให้ดีๆ นะ แพรวเรียนจบอะไรมา ถนัดด้านไหน ลูซมีเพื่อนที่ทำงานด้านธุรกิจ แต่ส่วนมากเขาก็รับแต่คนจบปริญญาตรีหรือไม่ก็ ปวส. ฉะนั้นถ้าลูซอยากช่วยแพรวจริงๆ ตอนนี้ก็ให้เขาทำงานอยู่กับเราไปก่อนสักสัปดาห์หนึ่งคงหางานที่เหมาะกับแพรวได้”
ชายหนุ่มเหลือบตามองคนตัวจ้อยที่นั่งหนีบขา ตัวลีบ ไม่ยอมสบตาใคร ก่อนทอดถอนหายใจ
“ครับแม่” จากนั้นก็พูดกับเด็กสาวโดยตรง “งั้นช่วงนี้เธออยู่ที่นี่ไปก่อนก็แล้วกันนะ”
“ค่ะ” เธอว่าง่ายอยู่แล้วล่ะ เพราะเธอก็ไม่มีที่ไป และไม่มีเงินติดตัวเลยแม้แต่บาทเดียว
“งั้นจะให้คนใช้จัดห้องให้ พรุ่งนี้แพรวจะต้องปรับเปลี่ยนตัวเองซะใหม่ โดยเฉพาะการแต่งตัว หวังว่าจะไม่มีข้อโต้แย้งนะ” สายตาคมเค็มของโชติกาเพ่งมองมา เด็กสาวได้แต่พยักหน้ารับคำ
“ค่ะ สุดแท้แต่คุณนายจะเมตตา”
“ครับ จะให้แพรวอยู่ห้องไหนดี”
“คืนนี้นอนห้องของลูซก่อนแล้วกัน”
“หา ! ” ชายหนุ่มลุกผึง เสียงกร้าว “พูดอะไรของแม่น่ะ”
“นี่มันกี่โมงกี่ยามแล้ว ฮึ คนใช้ก็กลับบ้านกันไปหมดแล้ว จะให้ใครมาจัดห้องให้ล่ะ ถ้าให้แม่เก็บกวาดให้ แม่ไม่ทำหรอกนะ”
“หนูทำเองได้ค่ะ บอกมาว่าให้หนูอยู่ห้องไหน เรื่องปัดกวาดเช็ดถู หนูถนัดมาก”
“มืดแล้ว หาข้าวหาปลากินแล้วก็เข้านอนเถอะ พรุ่งนี้ค่อยว่ากันอีกที”
สีหน้าของลูเซียโน่เต็มไปด้วยความไม่สบายใจ
“แต่ผมว่า...”
“ทำไมล่ะ หรือลูซจะบอกแม่ว่ากลัวหักห้ามใจตัวเองไม่ได้ที่อยู่ห้องเดียวกับเด็กสกปรกคนนี้”
เด็กสาวสะอึกกับคำว่า ‘สกปรก’ เม้มปากแน่น หยดน้ำรื้นคลอหน่วยตา
“ผมไม่คิดเรื่องพรรค์นั้นกับเด็กหรอกครับ ตกลง ให้แพรวอยู่ห้องผมคืนหนึ่งก็ได้” มือใหญ่คว้าข้อมือเล็กฉุดให้ลุกขึ้น “ฉันจะพาไปที่ห้อง เธอจะได้อาบน้ำ”
แพรววนิตกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ การเข้าห้องพร้อมผู้ชายที่รูปหล่อและมีเสน่ห์เหลือร้ายอย่างเขาทำให้เธอประหม่า ใจเต้นแรง และที่สำคัญ...มีความกลัวแฝงอยู่ด้วย
แต่คิดอีกที คนที่มีพร้อมทุกอย่างเช่นเขา ทั้งคุณสมบัติ ทรัพย์สมบัติ รูปสมบัติ ผู้หญิงคงรายล้อมรอบตัวอยู่แล้ว ไม่มีทางเหลียวแลคนไม่สวย ที่เนื้อตัวปอนๆ อย่างเธอหรอก
และในเมื่อตอนนี้เธอตัดสินใจแล้วที่จะหนีจากขุมนรกที่ชื่อว่าพี่ชาย เธอก็ควรจะเดินหน้าให้สุดกำลัง อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด เธอไม่มีทางเลือกอื่นอีกแล้วจริงๆ อิทธิพลของลูเซียโน่จะช่วยให้เธอรอดพ้นจากความอำมหิตของยศกรได้
เธอก้มหน้าเดินตามแรงดึงของเขาขึ้นบันไดวนสีทองอร่าม
ห้องของลูเซียโน่อยู่ใกล้บันไดชั้นบน ภายในห้องกว้างขวาง…กว้างกว่าบ้านเธอทั้งหลังเสียอีก มีห้องน้ำอยู่ในตัวเสร็จสรรพ เขาชี้นิ้วไปที่ตู้ไม้สักหลังใหญ่
“ใส่เสื้อผ้าของฉันไปก่อนก็แล้วกัน คุ้ยๆ หาเอาเองว่ามีตัวไหนพอจะใส่ได้บ้าง”
“ค่ะ รับทราบค่ะ”
“ห้องน้ำใช้ตามสบาย อาบน้ำอาบท่าซะ จะได้ลงไปกินข้าวพร้อมกัน ฉันจะรอนะ เพราะเธอคงยังไม่รู้ทางว่าต้องไปตรงไหน”