บทที่ 2 เมื่อต้องอยู่ร่วมห้องเดียวกัน (4)
“ค่ะ ขอบคุณค่ะ"
แพรววนิตเลือกเสื้อเชิ้ตลายสก็อตกับกางเกงขาสั้นตัวใหญ่เข้าห้องน้ำ เธอตะลึงกับความโอ่อ่า นั่นอ่างจากุชซี่ที่เคยเห็นในทีวีใช่ไหม เธอจินตนาการภาพตัวเองกึ่งนั่งกึ่งนอนแช่น้ำที่มีฟองสีขาวเกาะตามผิว ลูบไล้ฟองไปตามเรียวแขนและลำคอ มันคงเป็นอะไรที่ฟินจนบรรยายไม่ถูก แต่ในตอนนี้เธอควรรีบอาบน้ำให้เร็วที่สุด
ไม่นานนักเธอก็เปลือยเปล่าอวดสัดส่วนเด็กสาวแรกแย้ม เอาผ้าที่ใส่แล้วหย่อนลงตะกร้า ส่วนชุดของลูเซียโน่ที่เธอเลือกมานั้นได้แขวนไว้ตรงราวอลูมิเนียมที่ผนังฝั่งหนึ่ง
เธอสำรวจไปทั่ว มองตัวเองที่กระจกบานใหญ่แล้วนึกอาย รีบหันหลบฉากมายืนใต้ฝักบัว
หมุนตรงนี้หรือเปล่านะ
มือน้อยหมุนลูกบิดเบาๆ ทันใดนั้นหยดน้ำก็พรั่งพรูรินรดทั่วกายเธอ
“ว้าว อุ่นจัง” เธออุทานอย่างตื่นเต้น แบบนี้ให้อาบสักชั่วโมงก็ยังได้
สบู่เหลวจากฝรั่งเศสที่ราคาคงแพงน่าดู เพียงใช้ไม่กี่หยดก็หอมละมุนกรุ่นตลบห้องน้ำ ผิวเธอเนียนลื่นทันตาเห็น ยิ่งขัดยิ่งถูยิ่งเพลิดเพลิน
ยี่สิบนาทีต่อมา เธอก็อาบเสร็จ ใส่เสื้อตัวเดียวก็ยาวถึงเข่าแล้ว เลยตัดสินใจไม่ใส่กางเกงเพราะเอวหลวมและขาบานมากสำหรับเธอ
แพรววนิตเปิดประตูห้องน้ำออกไปด้วยใบหน้าแป้นแล้น ทักทายเขาที่นั่งเล่นโทรศัพท์มือถือรออยู่บนเตียง
“เสร็จแล้วค่ะ ลุงลูซจะเข้าไปอาบต่อไหม”
“ฉันกินข้าวเสร็จก่อน ถึงจะอาบ” เขาเหลือบตามอง…เธอเหมือนเด็กจริงๆนั่นแหละ ยิ่งใส่เสื้อของเขา ยิ่งทำให้เธอดูตัวเล็กบอบบางมากขึ้น
หน้ารูปหัวใจเปียกชื้น ดวงตาใสกระจ่าง ผมที่เพิ่งสระเสร็จเปียกลู่แนบแก้ม ยิ่งทำให้เธอดูเหมือนเด็กอายุแค่ 14
“ทำไมไม่เช็ดผมเช็ดตัว”
“ไม่ได้เอาผ้าขนหนูเข้าไปนี่คะ”
“เป่าผมสักหน่อยสิ เดี๋ยวก็เป็นหวัดหรอก”
“เป่าไม่เป็นค่ะ ไม่เคยทำ ใช้แค่ผ้าเช็ดก็พอแล้ว” เธอคว้าผ้าขนหนูผืนสั้นในตู้มาเช็ดผม แต่เพราะอยู่ภายใต้สายตาเขาตลอดทำให้เธอรู้สึกประหม่าจึงทำเงอะงะชวนให้เขาขัดใจชอบกล
ร่างสูงลุกยืนฉวยผ้าไปถือไว้เอง
“มานี่ ฉันทำให้”
“โอ๊ะ ไม่ต้องหรอกค่ะ” เธอรีบห้าม แต่เขาดึงเธอไปยืนหน้าโต๊ะเครื่องแป้งขนาดใหญ่ กดบ่าให้นั่งลงบนเก้าอี้ ก่อนจะใช้ผ้าขยี้เช็ดผมเธอจนยุ่งเหยิง
“เช็ดอย่างเธอ ชาติหน้าก็ไม่แห้งให้หรอก”
เด็กสาวนั่งหัวสั่นหัวคลอน มองเงาสะท้อนหน้ากระจก ภาพใบหน้าจืดๆ ของเธอที่ยิ่งดูจืดมากขึ้นเมื่อมีผมหมาดๆ ชื้นน้ำล้อมกรอบหน้า ส่วนคนที่ยืนอยู่ด้านหลังเธอนั้น…ถึงจะมีหนวดเคราแต่ดวงตาสีน้ำตาลเข้มและจมูกโด่งที่เห็นก็พอจะจินตนาการได้ว่าเขาเป็นคนที่หน้าตาหล่อเหลาไม่ใช่เล่นเลยทีเดียว
เช็ดเสร็จก็พาดผ้าไว้ที่บ่าเธอ จับไดร์ขึ้นมาเสียบปลั๊กแล้วเป่าลมร้อนใส่ผมเธออย่างชำนาญ
“ดูไว้ เขาทำกันแบบนี้ คราวหน้าจะได้ทำเองเป็น” เขาตั้งตัวเป็นคุณครูผู้สอนการใช้ชีวิตขั้นพื้นฐานให้
เธอมองแล้วก็เผลอหัวเราะคิก เขาหน้าตึงขึ้นมาทันที
“หัวเราะอะไรของเธอ”
“ก็ขำลุงลูซน่ะสิคะ ใครจะเชื่อว่าคนท่าทางดุๆ อย่างลุง จะมีโหมดนี้ด้วย”
เขาหวีผมให้เธอจนสลวยสวยเก๋ พลางถาม
“โหมดอะไร”
“โหมดคิตตี้ค่ะ น่ารักมุ้งมิ้ง”
เขาผลักหัวเธอแทบจะทันที ตีหน้าเคร่ง “เพราะเห็นเธอแล้วรู้สึกหงุดหงิดรำคาญหรอกนะถึงต้องทำให้”
“แฟนลุงลูซคงโชคดี”
“โชคดีบ้าบออะไร ฉันยังไม่มีแฟน” พูดเสียงแข็ง
“หืม ? รุ่นลุง หนูนึกว่ามีเมียมีลูกแล้วซะอีก” เธอทำหน้าประหลาดใจ
“ขี้เกียจมี รำคาญผู้หญิง”
ชิ้งงง…
จบคำตอบนั้น เธอและเขาก็สบตากันนิ่งผ่านกระจก ก่อนที่เธอจะหันมองเขาตรงๆ เต็มตา
“รำคาญผู้หญิงหรือคะ”
“ใช่”
“เพราะงี้เลยไม่มีเมีย”
“จะถามย้ำเพื่อ ? ”
“ระหว่างผู้ชายกับผู้หญิง ลุงลูซคิดว่าใครน่ารำคาญกว่ากันคะ”
“ผู้หญิงสิ” ตอบโดยไม่ต้องคิดให้เสียเวลา “ผู้ชายด้วยกันแค่มองตาก็เข้าใจ ไม่งี่เง่าด้วย”