ตอนที่ 3
เช้าวันต่อมา
“ไงหมอ มาแต่เช้าเลยนะ“ ชินเอ่ยทักทายเมื่อเห็นภาคเดินเข้ามาในห้อง
“เข้าเช้า“ ภาคตอบสั้นๆอีกเช่นเคย แล้วหันหน้าไปมองชินนิ่งๆพร้อมกับส่งสายตาเป็นคำถามไปแทน
“สงสัยหรอว่าทำไมชินมาเช้า“ ชินถาม เมื่อเห็นสายตาที่เพื่อนตัวสูงมองเขาด้วยความสงสัย ภาคพยักหน้านิดๆเป็นคำตอบ
“ชินมาขึ้นเวรกระทันหันอ่ะ พอดีพี่อีกคนแกไม่ว่างชินเลยต้องมาแทน“ ชินตอบเสียงเนือยๆ ดวงตาหวานของชินเป็นหลักฐานได้ดีว่าเขายังไม่ได้นอนพักเลยสักนิด
“อืม อย่าหักโหมละ“ ภาคตอบกลับเสียงนิ่ง ซึ่งมันทำให้ชินดวงตาลุกวาวด้วยความตกใจที่ได้ยิน
“นะ..นี่ภาคเป็นห่วงชินหรอ!“ ชินถามเสียงตื่น ภาคหันไปขมวดคิ้วมองชินด้วยความสงสัยอีกครั้งกับความเล่นใหญ่ของเพื่อนตัวเล็กข้างๆ
“ตกใจอะไร“ ภาคถามกลับไปด้วยความไม่เข้าใจ
“จะไม่ให้ชินตกใจได้ไงอะ กะ..ก็ชินไม่คิดว่าภาคจะพูดเป็นห่วงชินนี่! มะ..มันอเมซิ่งมากๆเลยนะเห้ย! มันแบบ..แบบ หึ๊ยยตื่นเต้นน“ ชินดี๊ด๊ามากจนภาคได้แต่มองด้วยความไม่เข้าใจ
“หาหมอมั้ย“ เสียงนิ่งๆของภาคถามออกไปด้วยความเป็นห่วง
“นี่ภาคคงไม่ได้ด่าว่าชินบ้าใช่ปะ“ ชินพูดอย่างเซ็งๆ
“เปล่า“ ภาคตอบเสียงนิ่งอีกเช่นเดิมเพราะเขาไม่ได้คิดแบบนั้นจริงๆ เพียงแค่รู้สึกไม่ค่อยเข้าใจกับการกระทำของเพื่อนตัวเล็กข้างๆสักเท่าไหร่
“เฮ้ออโล่งอก แหะๆ“ ชินยิ้มแห้งๆส่งไปให้เพื่อนตัวสูง
“เอ้อภาค ชินถามไรภาคหน่อยสิ“ ชินพูดขึ้นเมื่อนึกได้
“.........................“ ภาคมองหน้าชินนิ่ง
“ภาคมีแฟนปะ“ ดวงตาใสซื่อของชินถามภาค
“ทำไม“ ภาคขมวดคิ้วนิดๆ ด้วยความสงสัย
“ก็..ถามดูน่ะ แต่หน้าตาอย่างภาคมีหรอจะไม่มี เนอะ“ ชินส่งยิ้มหวานกลับไป
“....ใครให้ถาม“ ภาคถามชินเสียงนิ่งเพราะเขารู้สึกว่าเพื่อนร่างเล็กตรงนี้คงไม่มีทางมาถามอะไรกับเขาแบบนี้แน่ ถึงแม้ว่าเขาจะรู้จักกับคนตรงหน้าไม่นานแต่ความรู้สึกลึกๆของเขามันก็ค่อนข้างมั่นใจอยู่เหมือนกันว่าอีกฝ่ายคงไม่กล้าที่จะถามเรื่องส่วนตัวอะไรของเขาแบบนี้
“มะ..ไม่มี ใครบ้าจะให้ชินมาถามเล่า ชินแค่..หาเรื่องคุยเรื่อยๆน่ะ ไม่มีไรหรอกน่า อย่าระแวงกันสิเพื่อน“ ชินตบไหล่ภาคเบาๆแล้วยิ้มแหยๆส่งไปให้
“ไม่ได้โง่“ ภาคเงยหน้ามองเพื่อนตัวเล็กแล้วพูดกลับไปนิ่ง เขาเองก็พอดูออกว่าอาจจะมีคนสั่งให้เพื่อนตัวเล็กของเขามาถามเป็นแน่ แต่เพียงแค่ไม่รู้ว่าเป็นใครก็เท่านั้น
“เอ่อ..กะ.ก็รู้แหละ แต่แบบ..เอิ่ม..แบบว่า..เขาไม่ให้ชินบอกอ่า“ ชินหน้างอด้วยความลำบากใจ
“อยากรู้ให้มาถาม ไม่ใช่ใช้คนอื่น“ ภาคตอบเสียงนิ่งและเตรียมตัวที่จะไปตรวจ
“อะ..อื้อ เดี๋ยวจะบอกให้นะ“ ชินส่งยิ้มแหยๆไปให้ภาค
“ไปละ“ ภาคลุกขึ้นและหันมาพูดกับชินเพียงเล็กน้อยแล้วเดินไปทันที
“สะ..สู้ๆละ“ ชินได้แต่บอกภาคตามหลังด้วยความรู้สึกหวั่นใจไม่น้อย
“โอ๊ยยย ทำไมภาคถึงรู้ละว่าคนอื่นให้เรามาถาม นี่ภาคฉลาดมากขนาดนี้เลยหรอเนี้ย เอาใหม่ๆเราจะต้องทำให้มันเนียนกว่านี้ ฮึบ! สู้ๆ“ ชินชูกำปั้นเพื่อให้กำลังใจตัวเอง และเขาตั้งมั่นเอาไว้ว่าครั้งหน้าจะต้องทำให้เพื่อนตัวสูงจับไม่ได้อย่างแน่นอนแต่ครั้งนี้..ช่างมันแล้วกันเนอะ จะให้ภาครู้ไม่ได้เด็ดขาดว่าดอลเป็นคนสั่งให้เขาถาม!
ก๊อกๆๆ
“ขออนุญาตครับ“ เสียงของอองเซียหมอแผนกจิตเวชเอ่ยขออนุญาต ทำให้ชินที่กำลังพูดอยู่คนเดียวนั้นต้องรีบทำตัวปกติในทันที
“พึ่งมาหรอครับพี่เซีย“ ชินทักทายอย่างสนิทสนม เพราะรู้จักกันมานาน แต่เหตุที่อองเซียต้องพูดขออนุญาตก็เพราะว่าหมออหนุ่มคนนี้นั้นเป็นคนที่มีมารยาทและพูดน้อยมากๆจนใครที่นี่ต่างเกรงใจ และตัวของอองเซียเองก็เป็นคนที่คล้ายกับภาคเพียงแต่ว่าใบหน้าของอองเซียนั้นจะไม่ดูดุและนิ่งเหมือนกับภาค แต่จะติดไปทางยิ้มแย้มและมีรอยยิ้มมุมปากอยู่ตลอดเวลามากกว่า
“อื้ม พี่มีเวรเช้าน่ะ“ อองเซียบอกยิ้มๆและเดินไปที่โต๊ะของตัวเองเพื่อวางข้าวของซึ่งโต๊ะของอองเซียนั้นจะอยู่ห่างจากโต๊ะของชินและภาคไม่มากนัก เพียงแค่อาจจะอยู่แถวหลังหน่อยก็เท่านั้น
“อ๋อออ“ ชินพยักหน้ารับรู้
“ แล้วนี่ดอลยังไม่มาหรอ “ อองเซียถามชิน
“ ยังครับ พี่ดอลเข้าบ่ายน่ะ พี่เซียมีอะไรหรือเปล่าครับ “ ชินถามด้วยความสงสัย
“ อ่ออเปล่าหรอก พี่แค่อยากรู้น่ะ “ อองเซียยิ้มให้ชินนิดๆแล้วหยิบเอกสารนำขึ้นมาเรียงบนโต๊ะด้วยท่าทีปกติ
“ครับ“ ชินตอบอีกฝ่ายด้วยรอยยิ้มเช่นกัน
..
..
“วันนี้มีเคสไหนที่ต้องดูบ้าง“ ภาคหันไปถามพยาบาลสาวที่ทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยของเขา
“จะมีเคสนึงค่ะหมอ เคสนี้เขาพึ่งถูกยิงมาเมื่อคืนค่ะ ตอนนี้กำลังพักฟื้นอยู่ค่ะหมอที่ห้องACC882ค่ะ“ เธอตอบพร้อมกับยื่นเอกสารสำหรับเคสที่ภาคต้องดูส่งไปให้
- นายบดินทร์ อักษณพรหมมิล อายุ26ปี ได้รับบาดเจ็บจากกระสุนปืนที่ถูกยิง เมื่อเวลา 21:36น.
แพทย์ที่ต้องดูแล : นายแพทย์ภาคศกร(หมอภาค) –
ทันที่ที่ภาคได้อ่านรายละเอียดทั้งหมดจบ ตัวของเขาก็แข็งทื่อทันที มือไม้เริ่มอ่อนแรง ใบหน้าจากที่ขาวปกติบัดนี้กลับซีดมากเสียจนเหมือนคนป่วยไม่มีผิด ริมฝีปากอ้าค้างด้วยความตกใจ หัวใจเต้นแรงอย่างตื่นเต้นราวกับไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
“แบงค์..“