ตอนที่5 มีคนรักบ้าง
“แม่จ้ะ พอดีงานที่ลิสากับเพื่อนทำเมื่อคืนต้องแก้ ลิสาออกไปหาเพื่อนก่อนนะ” ชลิสาที่จัดของเข้าที่และพึ่งหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูก่อนจะเห็นข้อความที่ถูกส่งเข้ามาเกือบชั่วโมงก็ร้อนรนขึ้นทันทีก่อนจะรีบปั้นคำโกหกต่อผู้เป็นแม่ออกไปอย่างรู้สึกผิด
ทั้งที่เธอพึ่งกลับมาเมื่อเช้า แต่ตอนนี้ก็ต้องออกไปอีกแล้ว ยังดีที่เธอช่วยงานแม่จนเสร็จเรียบร้อยดีแล้ว
“อืม แล้วคืนนี้จะกลับบ้านไหมลูก”
“ถ้าเสร็จเร็วลิสาจะรีบกลับแม่ไม่ต้องรอนะจ้ะ แล้วถ้ามีอะไรก็รีบโทรหาลิสานะ”
“ไปเถอะๆ แม่ไม่เป็นอะไรหรอก” ผู้เป็นแม่ที่รู้ว่าลูกสาวใกล้จบและมีโครงการที่ต้องทำก็ไม่ได้ติดใจอะไร อีกอย่างเธอก็รู้นิสัยลูกของเธอดี ทำให้เธอไม่ได้สงสัยหรือต้องถามอะไรลูกสาวมากนั่นเอง
เมื่อบอกแม่เสร็จชลิสาก็รีบเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าและสะพายกระเป๋าออกจากบ้านไปทันที เธอไม่อยากคิดเลยว่าไปถึงแล้วคชาจะเป็นยังไง เพราะตอนนี้เขาคงรอเธอนานมากแล้ว อารมณ์ของเขาคง...
สุดท้ายร่างบางก็มาถึงคอนโดหรูที่คุ้นเคยก่อนจะตรงไปยังลิฟท์และกดชั้นที่เธอต้องการจะไปด้วยใจที่ว้าวุ่นโดยไม่ได้หยุดพักหายใจเลยสักนิด เธอรีบสุดความสามารถแล้วจริงๆ แต่เพราะวันนี้เป็นวันเสาร์เป็นเวลาบ่ายแก่ๆแล้วด้วยทำให้รถค่อนข้างติด กว่าเธอจะมาถึงคอนโดแห่งนี้ก็กินเวลาไปนานกว่าปกติ
ติ๊ด แกร็ก ร่างบางสแกนคีย์การ์ดที่ได้รับไว้กับตัวก่อนจะเปิดประตูห้องเข้าไป พอเธอถอดรองเท้าและเดินพ้นบริเวณหน้าห้องเข้าไปเท้าเล็กก็ชะงักนิ่งทันทีกับร่างสูงที่นั่งนิ่งอยู่ที่โซฟากลางห้องด้วยใบหน้าเรียบนิ่งมองมายังเธอ
“คุณคชา เรียกลิสามามีอะไรคะ” แม้จะรู้ว่าเหตุผลเดียวที่เขาเรียกเธอมาคืออะไร แต่เพราะว่าเธอพึ่งกลับออกไปจากห้องเขาเมื่อช่วงเช้ามืด เธอจึงไม่อยากจะคิดว่าเขาจะเรียกเธอมาเพื่อทำเรื่องอย่างว่าอีกในตอนนี้
“ที่ฉันป้อนให้เธอเกือบทุกวัน เธอไม่อิ่มงั้นหรอ” คำถามเรียบนิ่งของชายหนุ่มที่ลุกขึ้นตรงมายังร่างบางถามขึ้น
“คุณคชาพูดเรื่องอะไรคะ” แน่นอนว่าร่างบางที่ค่อนข้างหัวอ่อนย่อมไม่รู้ความหมายที่คชากำลังพูดอยู่แล้ว
“ตั้งแต่เมื่อไหร่” คชาไม่ได้ตอบ แต่เลือกถามในสิ่งที่อยากรู้ออกไปแทนทันที
“อะไรคะ” เธอก็ยังคงไม่เข้าใจสิ่งที่คชาพูดตั้งแต่แรกอยู่ดี
“ตั้งแต่เมื่อไหร่ ที่อยากมีผัวสองคน!” น้ำเสียงรอดไรฟันดังขึ้นจากปากของคชาทันที
หมับ! พร้อมกับฝ่ามือใหญ่ที่บีบกรอบหน้าเล็กของชลิสาอย่างแรง และใบหน้าดุดันที่ก้มลงมาใกล้กับใบหน้าของหญิงสาว
“คุณคชาพูดเรื่องอะไรคะ” ชลิสาพยายามดึงมือคชาที่บีบกรอบหน้าเธออยู่ออกพร้อมเอ่ยถามออกไปทั้งกลัวและไม่เข้าใจ เธอไปอยากมีผัวสองคนอย่างที่เขาพูดตั้งแต่เมื่อไหร่ เธอก็ไม่เคยยุ่งกับผู้ชายที่ไหนเลยนี่
“เธอคิดว่าฉันไม่เห็นงั้นหรอ ว่าเธออยู่ในรถกับไอ้นั่นนานสองนานกว่าจะลงจากรถ...”
“แล้วตอนอยู่บนรถทำอะไรกันล่ะ รถจอดแล้วถึงไม่คิดจะลง” เพราะชานนท์จอดรถติดกับประตูหน้าบ้านของคชามาก ทำให้ตอนออกจากบ้านคชามองรถจากฝั่งขวามือตัวเองไม่เห็น ตอนนั้นเขารู้สึกหงุดหงิดจนอยากจะลงไปด่าเจ้าของรถที่จอดหน้าบ้านคนอื่นไม่พอ ยังจอดใกล้กับทางออกขนาดนี้ แต่ใครจะไปคิดว่าอยู่ๆเขาจะเห็นชลิสาลงจากรถคันนั้น และไม่นานก็มีผู้ชายลงตามมาและเป็นผู้ชายที่เขาเคยสั่งชลิสาเมื่อหลายปีก่อนว่าอย่าใกล้ชิดมันอีก แต่สุดท้าย...หึ
“ลิสาไม่ได้ทำอะไร” เธอก็แค่ลาและพูดกับชานนท์นิดหน่อย แต่มันก็ไม่ได้นานขนาดที่ต้องคิดว่าเธอทำอะไรบนรถไม่ใช่หรอ
“หึ ทำหรือไม่ทำฉันไม่รู้ แต่ที่ฉันรู้คือ ใครใช้ให้เธอไปไหนมาไหนกับผู้ชายสองต่อสอง!” เรื่องทำอะไรบนรถไหมเขาไม่รู้แน่นอนเพราะว่ารถนั้นติดฟิล์มดำ แต่อย่างเดียวที่เขารู้ตอนนี้ก็คือ ชลิสาไปกับผู้ชายสองคนนั่นเอง และมันเป็นสิ่งที่เขาเคยสั่งห้ามเธอไว้แล้ว
“ลิสาก็แค่เจอพี่นนท์ที่ห้าง แล้วช่วยพี่นนท์ซื้อของนิดหน่อย พี่นนท์ก็เลยมาส่งลิสาก็แค่นั้นเองค่ะ” คนซื่อที่เล่าความบริสุทธิ์ใจตัวเองออกมาให้อีกฝ่ายได้รู้ แต่เธอกลับไม่รู้เลยว่าการที่เธอเล่าอะไรออกมาหมดแบบนี้ บางทีมันก็เป็นภัยให้กับเธอ
“ช่วยซื้อของงั้นหรอ เป็นอะไรกับมันถึงต้องไปช่วยซื้อของล่ะ” คำถามพร้อมแรงบีบที่ใบหน้าเพิ่มขึ้นทันที การช่วยกันเดินซื้อของสองคนชายหญิงมันไม่ต่างจากคนรักกันเลยไม่ใช่หรือไง แล้วแบบนี้ยังบอกว่าไม่มีอะไรงั้นหรอ
“คุณคชาลิสาเจ็บ” กรอบหน้าของเธอเหมือนกับจะแตกเป็นเสี่ยงๆอยู่แล้ว เขาบีบจนมันระบมไปหมด
“เจ็บแล้วคิดว่าจะรู้จักจำไหม จำว่าฉันเคยบอกว่าเธอไม่มีสิทธิ์ใกล้ชิดผู้ชายที่ไหนน่ะห๊ะ!”
“.....” ร่างบางน้ำตาคลอเบ้าจ้องมองร่างสูงตรงหน้าด้วยความกลัว มือเล็กพยายามดึงฝ่ามือใหญ่ออก แต่ไม่ว่าจะแกะยังไงมันก็ไม่หลุดออกได้
“เธอขัดคำสั่งฉัน แล้วเธอยังให้ฉันรอเป็นชั่วโมง เธอคิดว่าเธอต้องรับผิดชอบยังไงลิสา” เสียงเยือกเย็นถามขึ้นพร้อมกับนิ้วเรียวของมืออีกข้างไล้ใบหน้างามอย่างอ่อนโยน
“ลิสาจัดของเข้าที่อยู่ค่ะเลยไม่ได้เห็นข้อความ ส่วนที่ลิสามาถึงช้าเพราะว่ารถติดมาก...”
“ไม่ต้องแก้ตัว! ไม่ว่าเหตุผลของเธอจะเป็นอะไร ผิดก็คือผิด!” เสียงเข้มสวนขึ้นโดยไม่รอให้ชลิสาพูดจบ นั่นทำให้ร่างบางสะดุ้งเงียบไป
“ลิสา ไม่ได้แก้ตัวค่ะ” เสียงแผ่วเบาตอบออกมาจนเกือบไม่ได้ยินเพื่อบอกให้เขารู้ว่าเธอไม่ได้แก้ตัว แต่มีหรอที่คนเอาแต่ใจอย่างคชาจะฟังสิ่งที่เธอพูด
“ถอดเสื้อผ้าออกซะ” เสียงเข้มสั่งออกมาตามความต้องการของตัวเองทันที
“.....” ชลิสาส่ายหัวปฏิเสธทันที เธอยังเจ็บอยู่เลยแล้วอารามณ์เขาตอนนี้ก็ไม่ควรเล่นด้วยเลยสักนิด
“ฉันบอกให้ถอด!”
“คุณคชากำลังจะแต่งงานไม่ใช่หรอคะ ลิสาว่าเราไม่ควรทำแบบนี้” สิ่งที่เธอได้ยินเมื่อเที่ยงของวันมันดังเข้าหัวของเธออีกครั้ง เรื่องที่คุณท่านของบ้านได้เกริ่นเรื่องแต่งงานกับฝ่ายหญิงไว้ และคชาเองก็ไม่มีท่าทีปฏิเสธเลยสักนิด แบบนี้เขากับเธอก็ไม่ควรทำแบบนี้อีก แม้ว่าเธออยากจะ...ครอบครองเขาไว้ก็ตาม
“ควรไม่ควรเป็นสิ่งที่ฉันตัดสินใจเอง ไม่ใช่เธอ...ถอดเสื้อผ้า!”
“ทำไมลิสาถึงใกล้ผู้ชายไม่ได้คะ” และร่างบางตัดสินใจถามสิ่งที่อยากรู้ออกมา ที่เขาสั่งห้ามเธอตั้งแต่ช่วงแรกๆว่าไม่ให้เธอใกล้ชิดหรือสนิทกับผู้ชายที่ไหนเพราะเขาไม่ชอบนั้น เธออยากรู้ว่าเพราะอะไร
“ฉันไม่ชอบใช้ของร่วมกับใคร!” เสียงเข้มตอบรอดไรฟันออกมาทันที เพราะคำถามนี้มันไม่ควรจะถามออกมาเลยสักนิด เธอถามแบบนี้เหมือนกับว่าเธออยากใกล้ชิดผู้ชายอย่างนั้น
“แต่อีกไม่นานคุณคชาก็ต้องแต่งงาน ต่อไปคุณคชาก็ต้องอยู่กับภรรยาของคุณ คุณคชาก็ไม่ต้องใช้ลิสาแล้วไม่ใช่หรอคะ” นั่นก็หมายความว่าเขาต้องทิ้งเธอ เธอไม่ใช่ของของเขาอีกต่อไป เธอก็ต้องมีชีวิตเป็นของเธอไม่ใช่หรอ
“ทำไม อยากมีผัวใหม่มากหรือไงวะถึงได้ถามแบบนี้ห๊ะ!” ร่างสูงตะคอกขึ้นอย่างโมโหกับสิ่งที่เธอถามและพูดออกมา ที่มันฟังแล้วเหมือนกับว่าเธอกำลังจะบอกว่าเมื่อเขาแต่งงานชีวิตเธอจะทำอะไรหรือใกล้ชิดผู้ชายที่ไหนก็ได้อย่างนั้น
“ถ้าคุณคชาแต่งงาน แล้วลิสาจะมีคนรักบ้างไม่ได้หรอคะ” มันไม่ใช่คำถาม แต่มันความน้อยใจที่เธออยากประชดเขา เพราะเธอไม่อยากให้แต่งงาน ถ้าเขาไม่อยากให้เธอใกล้ชิดกับผู้ชายคนอื่น งั้นเขาก็ไม่ต้องแต่งงานสิ เธอจะได้เป็นของเขาตลอดไป
“เธออยากรู้ไหมลิสา ถ้าเธอคิดจะมีคนรักชีวิตเธอจะเป็นยังไง!”