ตอนที่ 4 ทางเลือก
“สวัสดีค่ะ…อาจารย์จิณณ์~” เป็นปาร์ตี้และต้นหลิวที่เอ่ยทักทายอาจารย์ประจำคณะ ด้วยท่าทีระริกระรี้ ก็อาจารย์หนุ่มตรงหน้า หล่อ แน่น ซะจนสาว ๆ ไม่อยากจะละสายตา
แต่ถ้าใครจับสังเกตได้ก็คงมีแค่มะนาวล่ะมั้ง ที่ยืนแข็งทื่อไม่ปกติอยู่คนเดียว เวลาอยู่ที่คณะ เธอไม่มีสิทธิ์แอบมองหรือเสมองเขา ทำได้แค่ก้มหน้าก้มตา กลัวว่าใครจะผิดสังเกตเอา
“ครับ...” จิณณะตอบกลับอย่างสุภาพ กระตุกยิ้มมุมปากเพียงเล็กน้อย ไม่แสดงท่าทีวางอำนาจและไม่แสดงอาการเจ้าเล่ห์เล่นหูเล่นตามองหญิง แม้กระทั่งน้ำพั้นช์ที่อาจารย์หนุ่มรู้สึกเป็นพิเศษ เขาก็ยังไม่แสดงท่าทีพวกนั้นให้เธอได้รู้เพราะยังไม่ถึงเวลาที่เหมาะสม
“อาจารย์มาพอดีเลย อาจารย์ช่วยพูดกับมะนาวให้เพื่อนหนูหน่อยสิคะ”
“เรื่องอะไรเหรอครับ” จิณณะมองไปทางมะนาวแค่แวบเดียว ก่อนจะละสายตาไปมองน้ำพั้นช์ที่ตอนนี้ยืนยิ้มหวาน ต่างจากอีกคนที่จืดชืดไร้รสชาติ
“เรื่องโปรเจกต์น่ะค่ะ พอดีมะนาวอยากจะทำคนเดียว แต่โปรเจกต์นี้สำคัญมากใช่ไหมคะ อาจารย์คนอื่น ๆ เลยจับสองคนนี้คู่กัน”
คนเป็นต้นเหตุยืนนิ่งฟังปาร์ตี้และต้นหลิวช่วยกันพูด
“ทำไมถึงอยากทำคนเดียวล่ะ!?” เขาถาม
“คือ...หนูไม่สะดวกเวลาจะนัดเจอกันค่ะ”
“เราไปส่งเธอที่บ้านได้มะนาวหรือไม่ก็มาทำที่หอเรา ค้างด้วยกันสักคืนสองคืน นะมะนาวนะ” น้ำพั้นช์ออดอ้อน เขย่าแขนเพื่อให้มะนาวไม่ปฏิเสธ
“...” มะนาวก็นิ่ง ไม่รู้จะเลือกทางไหนดี
“เพื่อนขอคำตอบ อย่ายืนนิ่งสิ” จิณณะกดเสียงต่ำ แววตาสื่อความหมายบางอย่าง
“นาวไม่สะดวกจริง ๆ ขอโทษนะน้ำพั้นช์...”
“...ใกล้เวลาเรียนแล้ว นาวขอตัวเข้าห้องก่อนนะ” มะนาวเอ่ยจบก็ยกมือไหว้อาจารย์หนุ่ม ก่อนจะหมุนตัวเดินออกไปทันที
“อ้าว~” น้ำพั้นช์ย่นจมูกอย่างเซ็ง ๆ เพราะต้องทำโปรเจกต์คนเดียว
“ถ้าพวกคุณติดปัญหาเรื่องโปรเจกต์ ปรึกษาผมได้ตลอดนะครับ” จิณณะทิ้งท้ายไว้แค่นั้นแล้วเป็นฝ่ายเดินจากกลุ่มของน้ำพั้นช์บ้าง
“อาจารย์จิณณ์คะ” ต้นหลิวเรียกไว้ ทำให้ร่างสูงหมุนตัวกลับมาอีกครั้ง
“อย่างนี้เพื่อนหนูก็ทำคนเดียว อาจารย์จิณณ์ช่วยเป็นที่ปรึกษาให้น้ำพั้นช์หน่อยได้ไหมคะ”
“แก!” น้ำพั้นช์ชนไหล่เพื่อน เมื่อขอในสิ่งที่เธอยังไม่เอ่ยปากเองด้วยซ้ำ
จิณณะจึงมองไปที่น้ำพั้นช์...เธอส่งยิ้มหวานแบบเฉื่อย ๆ น่ารักน่าเอ็นดู แล้วแบบนี้ใครจะกล้าปฏิเสธ เขาไม่ได้เสนอ แต่พวกเพื่อน ๆ ของเธอเปิดทางให้เขาเอง
“ยินดีมากครับ”
ช่วงเช้าที่แสนทรมานผ่านพ้นไปด้วยความอึดอัด ตลอดคาบเรียนของอาจาร์ยจิณณะ มะนาวเอาแต่นั่งเงียบ สงบเสงี่ยมอย่างเจียมตัว
เธอไม่อยากเดือดร้อนและไม่อยากให้ใครมองเขาในแง่ร้าย อย่างน้อยเขาก็มีพระคุณกับเธอ ต่อให้สิ่งที่เขาให้จะเป็นสิ่งที่เธอต้องได้รับ แลกกับการเปลืองตัว แต่เธอก็ยินดีมาโดยตลอด
ระหว่างที่มะนาวเดินลัดเลาะมาทางหลังมหาวิทยาลัยตามที่เขาส่งข้อความมา มั่นใจว่าไม่มีใครเห็นและไม่เป็นที่โดดเด่นต่อสายตาใคร ไม่นานรถคันโปรดของอาจารย์จิณณะก็ขับมาจอดตามที่นัดหมาย
“ขึ้นรถ!” ก่อนกระจกรถจะเลื่อนลงพร้อมกับเสียงทุ้มต่ำเป็นการออกคำสั่ง
“เธอไปพูดอีท่าไหน ทำไมคุณน้ำพั้นช์เขาถึงอ้อนให้เธอคู่กับเขาต่อ” ทันทีที่ขึ้นมานั่ง เจ้าของรถก็เอ่ยถามทันควัน ไม่คิดจะเห็นใจร่างบางที่เดินมาไกลกว่าจะมาถึงที่นัด
“นาวพูดตามที่คุณจิณณ์สั่งทุกอย่างค่ะ”
“จะโทษว่าเป็นเพราะฉันงั้นเหรอ”
“...” มะนาวหันไปสบตาคนขับด้วยความรู้สึกบางอย่าง
“มองอะไร ฉันถามว่าเธอจะโทษฉันเหรอ!?” เขากดเสียงทุ้มต่ำอีกครั้ง
“เปล่านะคะ นาวพยายามปฏิเสธแล้ว แต่น้ำพั้นช์ไม่อยากเปลี่ยนคู่ อาจารย์คนอื่น ๆ เขาก็อยากให้เราคู่กัน”
“อย่าเอาคนอื่นมาอ้างเลย เธออยากคู่กับน้ำพั้นช์ก็พูดมาดีกว่า”
“นาวทำคนเดียวได้ ไม่จำเป็นต้องคู่กับใครหรอกค่ะ” ด้วยความน้อยใจหรือเพราะอะไร มะนาวก็ไม่รู้เหมือนกัน จู่ ๆ เธอก็เถียงกลับทันที ไม่ยอมให้เขายัดเยียดสิ่งที่เธอไม่ได้คิดเลยสักนิด
เธอเองก็ไม่ได้อยากให้ความลับแตก มันไม่น่าภูมิใจหรอกนะกับการเป็นของเล่นของใคร
“...” จิณณะเลิกคิ้ว สบตาคู่งามนั้นอย่างคิดไม่ถึง ก่อนที่เขาจะขับรถออกไปโดยด่วน
ตลอดทางมีแต่ความเงียบงัน แม้แต่เสียงเพลงในรถก็ยังไม่มีและเมื่อถึงบ้าน ร่างสูงก็สาวเท้าเข้าบ้านท่าทางฉุนเฉียว
“เดี๋ยวนาวไปเตรียมน้ำให้นะคะ” เธอบอกอย่างที่เคยทำมา ก่อนหน้านี้ถึงจะมีปากเสียงกัน ทว่ามะนาวก็รู้หน้าที่
“ไม่ต้อง ต่อไปนี้ไม่ต้องเข้าห้องฉันอีก”
“ทำไมล่ะคะ”
“ฉันไม่อยากให้เธอเข้าไปในพื้นที่ส่วนตัวฉันอีก”
“แล้วถ้านาวจะทำความสะอาดล่ะคะ”
“นั้นมันหน้าที่ที่ต้องทำ แต่หน้าที่อื่น...”
“...ฉันจะลงมาหาเอง เมื่อก่อนฉันหน้ามืดไปหน่อย เลยลืมเลือกที่เลือกทาง”
คำพูดแทงใจดำที่ร่างสูงพ่นออกมา ทำเอาร่างบางเจ็บจี๊ดกลางอก รู้สึกเหมือนหายใจไม่ออกอย่างไงอย่างงั้น
จิณณะมองมะนาวด้วยหางตา สำรวจชุดนักศึกษาที่เขาเห็นจนชินตา แต่ก็ไม่เคยหยุดมองความอวบอิ่มที่ซุกซ่อนภายในชุดนั้นได้
มือหนาแกะเนกไทคลายปมเพื่อไม่ให้อึดอัดกับอารมณ์ที่ปะทุตอนนี้
มะนาวเห็นอย่างนั้นจึงสืบเท้าเข้าไปช่วยอย่างที่เคยทำมาตลอดทุกวัน
หมับ!
“ไม่ต้อง” เขาบอกเสียงเรียบ
“แต่...” มะนาวยังคงยื่นมือเพื่อจะช่วย
“ฉันไม่ชอบพูดซ้ำ อย่าพยายามเอาใจฉันเพื่อให้ฉันเห็นใจ” นัยน์ตาคมกริบก้มมองใบหน้าสวยที่สบตาเขากลับมา ดวงตาหวานสั่นระริก เธอกัดปากอวบอิ่มจนแน่น อ่อนไหวกับสิ่งที่เขาพูด หากแต่คนใจดำไม่สนว่าเรียวปากที่เขาเคยสัมผัสจนนับครั้งไม่ถ้วนจะเจ็บปวดแค่ไหนเพราะเขายังทิ้งท้ายไว้อย่างเจ็บแสบ
“ผู้หญิงซื้อได้ด้วยเงิน...ออดอ้อนมาก ๆ มันน่ารำคาญ!”
มะนาวชะงักหยุดอยู่กับที่ การที่เธอจะช่วยเขาแค่นี้ เขากลับมองเธอในแง่ร้ายได้ขนาดนั้นเลยเหรอ ที่ผ่านมาในสายตาเขา เธอเป็นแค่ ‘อีตัว’ อย่างนั้นสินะ
“ต่อไปนาวคงหมดหน้าที่แล้วใช่ไหมคะ” น้ำเสียงสั่นเครือเอ่ยถาม ตัดพ้อด้วยความน้อยใจ เธอผิดอะไรหนักหนา เขาถึงทำท่ารังเกียจ
“...” ร่างสูงก็เงียบ แววตาไร้ความรู้สึก
“เรียนจบนาวขอกลับไปอยู่กับตานะคะ” ในที่สุดมะนาวก็ข่มใจกลืนก้อนโต ๆ ผ่านลำคอแล้วบอกในสิ่งที่น่าจะทำให้เจ้าของบ้านดีใจที่สุด
“อืม ก็คงต้องเป็นแบบนั้น”
และใช่ จิณณะตอกกลับทันที ไร้วี่แววจะยื้อ อย่างกับเต็มใจรอคอยวันนั้นให้มาถึงเร็ว ๆ ด้วยซ้ำ
มะนาวพยักหน้ารัว ๆ ย้ำเตือนตัวเองกับสิ่งที่ร่างสูงแสดงออกมา
เธอขยับถอยหลังไปสองก้าว ไม่เข้าใกล้อีก จะไม่ล้ำเส้นอีกเช่นกัน
แผลในใจก็ปล่อยให้เป็นแผลสดอยู่แบบนี้ วันหนึ่งเมื่อถึงเวลาจะได้ไม่เจ็บปวดซ้ำรอยเดิม
“…” จิณณะมองท่าทีพวกนั้นแล้วรู้สึกหมั่นไส้ขึ้นมา เขากระชากแขนเล็กให้ขยับเข้ามาใกล้
มะนาวไม่ขัดขืน เต็มใจที่ถูกกระทำ เพราะเธอยังรับเงินเขา มันไม่แฟร์สำหรับเขา ถ้าเธอจะผิดเงื่อนไขและเขาจะได้ไม่ต้องมากล่าวหาได้ว่าเธอบกพร่องต่อหน้าที่
“อวดดีให้ตลอดแล้วกัน” สิ้นเสียง คนตัวสูงย่อตัวต่ำเพื่อยกหญิงสาวพาดบ่า ก้าวเท้าเร็ว ๆ ไปที่โซฟาห้องรับแขก ก่อนจะโยนเธอลงอย่างไม่ปรานี
“…” มะนาวนิ่วหน้าด้วยความจุก ความรุนแรงทำให้น้อยใจจนน้ำใส ๆ กลิ้งวนในดวงตา
ความอ่อนโยนและคำพูดหวาน ๆ เขาไม่เคยใช้กับเธอเลย ต่างจากอีกคนที่มักเรียกรอยยิ้มได้จากเขาเสมอ
“อย่าบีบน้ำตา ฉันไม่ชอบน้ำตาเธอ” จิณณะเอ่ยไปถอดเข็มขัดไป จากนั้นจึงรั้งแขนหญิงสาวให้ลุกขึ้นมา โดยที่เขานั่งคร่อมไม่ถอยห่าง นิ้วเรียวปาดเรียวปากอวบอิ่ม ประคองใบหน้าสวย ก้มลงประกบปากสอดแทรกความเร้าร้อนแทนความเกลียดชัง
เขาเคยครอบครองเธอมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน
ไม่ว่าเธอจะต้องการหรือไม่ต้องการ
แค่เขาสะกิดนิดเดียว ไฟปรารถนาจากเด็กผู้หญิงคนนี้…ยังตอบสนองได้เป็นอย่างดี
สมกับที่เขาปล้ำสอนมานาน
“อื้ออ…” มะนาวหลับตาปริ่ม ต่อให้นาทีต่อจากนี้เขาจะลากเธอลงนรก ไม่สุขสมเหมือนอย่างเคย เธอก็จะทน อดทนจนกว่าจะเรียนจบและย้ายออกจากบ้านหลังนี้ ให้เขาเอาคนอื่นขึ้นมายกย่องแทนของเล่นเก็บซ่อน ที่ไม่เคยได้รับเกียรติหรือคุณค่าใด ๆ จากผู้ชายคนนี้
ดวงตาคู่คมไล่มองใบหน้าสวยที่แต่งเติมอ่อน ๆ ไม่โดดเด่นมากนัก
ความจริงมะนาวเป็นคนมีทุนตั้งแต่หัวจรดเท้า หากแต่รักสบายใช้วิธีที่เขาเกลียดในการหาเงิน ยิ่งมองเขาก็ยิ่งเกลียด ผู้หญิงที่ใช้วิธีง่าย ๆ มานาน หลังจากนี้จะติดเป็นนิสัยไหม จะยังชอบใช้วิธีนี้หาเงินอีกหรือเปล่า
“ทำไมชอบทำในสิ่งที่ฉันเกลียดด้วยวะ!” จู่ ๆ จิณณะสบถออกมาอย่างหัวเสีย
แค่คิดว่าหลังจากนี้จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง มันก็พาลให้ร้อนรุ่ม
“ต่อให้นาวอยู่เฉย ๆ คุณจิณณ์ก็เกลียดนาวอยู่ดี”
“ใช่ ฉันเกลียดเธอ!” เอ่ยจบร่างสูงจึงรั้งท้ายทอยหญิงสาวเข้ามาใกล้ ปลดกระดุมเสื้อเธอออกด้วยความเร็ว
“เกลียดกันนักก็อย่าเข้าใกล้สิคะ”
“มีสิทธิ์อะไรมาต่อรอง เสนอตัวมาเอง ฉันไม่ได้อยากได้ตั้งแต่แรก”
ยิ่งเขาพูด คนฟังยิ่งเจ็บ เจ็บจะตายอยู่แล้ว…