อุ่นเตียงที่ 1 ลานประหาร
อุ่นเตียงที่ 1
ลานประหาร
ชีวิตไร้ค่า
เตียวเฟยฟาถูกขังอยู่ในคุกเหม็นอับแห่งนี้โดยไม่รู้วันไม่รู้คืน เจ็บปวดหัวใจและนึกสมเพชตัวเองที่หลงดีใจว่าบิดาและพี่สาวจะยอมรับตนเองเป็นหนึ่งในครอบครัว แท้ที่จริงก็แค่หลอกใช้ และผลักให้นางออกไปตายแทนอย่างเลือดเย็น
พวกเขาไม่เคยรักและไม่เคยเห็นนางเป็นคนในครอบครัว เผลอๆ นางอาจมีค่าน้อยกว่าสุนัขข้างถนนเสียอีก
‘เฟยฟา...สวรรค์คงชิงชังเจ้าแล้ว ชีวิตของเจ้าจึงได้พบเจอแต่ความทุกข์ระทมเช่นนี้’
เตียวเฟยฟาพูดกับตนเองในใจ ด้วยไม่อาจเปล่งเสียงออกมาได้ดั่งแต่ก่อน
ทว่าไม่กี่อึดใจต่อมาทหารก็ปราดเข้ามาเปิดประตูห้องคุมขังของคุณหนูเตียวออก ก่อนจะฉุดกระชากลากนักโทษสาวออกไปอย่างไม่ปรานี
เวลานี้หญิงสาวแทบไม่มีน้ำตาสักหยด แม้จะอยู่ในคุกใต้ดินแต่นางก็ได้ยินเสียงร้องโหยหวนของบิดาที่ดังมาจากลานประหารเบื้องบน เสียงของบิดาขาดหายไปพร้อมกับเสียง ‘ฉัวะ!’ ราวกับต้องการจะให้นางรับรู้ว่านางจะถูกฟันคอตายหาใช่แขวนคอตาย
‘ถูกต้องแล้ว เพราะข้ามันไร้ค่า ข้ามันเลวทรามทำให้ท่านแม่ต้องตาย ท้ายที่สุดข้าจึงต้องถูกชายที่ข้ารักมากที่สุดฆ่าตายสินะ’
หัวใจของเฟยฟาเจ็บปวดเจียนบ้า ได้แต่หวังว่าแฝดผู้พี่จะทำให้อาตงของนางมีความสุข และวอนขออย่าให้อาตงระแคะระคายว่ามีการสลับตัว นางไม่อยากให้เขาต้องเจ็บปวดที่สังหารผิดคน เพราะมันจะกลายเป็นตราบาปที่ทำให้ชีวิตของเขาร่วงหล่นไปยังหุบเหว
ชีวิตของหยางตงเฉินเจ็บปวดมามากพอแล้ว เขาสูญเสียบิดามารดาไปอย่างอยุติธรรม ตระกูลหยางล่มสลาย ต้องหลบหนีใช้ชีวิตราวกับหนูสกปรกในท่อระบายน้ำ กว่าที่เขาจะมายืนอยู่ในจุดนี้ได้ต้องผ่านความอุตสาหพยายามอย่างมาก ดังนั้นนับจากนี้นางจะเฝ้าอ้อนวอนต่อสวรรค์ขอให้เขาพบเจอแต่ความสุขตลอดไป
ดวงตาแดงช้ำจากการร้องไห้อย่างหนักหรี่ลงเมื่อถูกกระชากลากออกมายังลานประหาร แสงเจิดจ้าจากภายนอกทำให้ดวงตาไม่อาจสู้แสง กระนั้นเมื่อดวงตาค่อยๆ คุ้นชินนางจึงมองเห็นแม่ทัพปีศาจได้อย่างชัดเจน ข้างๆ กันนั้นคือพี่สาวฝาแฝดที่ยืนเกาะแขนแม่ทัพหนุ่มเอาไว้แน่นดั่งกำลังแสดงความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของ
เขาโตขึ้นมาก...
ไม่ใช่เด็กชายวัยสิบสองปีที่เก้งก้างผอมแห้งอีกต่อไปแล้ว เวลานี้เขามีรูปร่างสูงใหญ่ แผงอกกว้างแข็งแกร่ง ดวงตาคมกร้าวดุดันดั่งปีศาจร้ายสมกับฉายา ใบหน้าของเขาหล่อเหลาแต่ก็น่าหวาดหวั่นดั่งไฟร้อนที่ไม่อาจเฉียดใกล้
‘ลาก่อน...อาตง ขอบคุณนะที่ไม่ลืมคำสัญญาระหว่างเรา คำสัญญาที่เจ้าบอกว่าจะมารับข้าออกไปจากสถานที่ราวกับนรกแห่งนี้ เจ้าทำมันสำเร็จแล้วนะอาตง แม้ว่าสตรีผู้นั้นจะไม่ใช่ข้าก็ตาม’
เตียวเฟยฟายิ้มให้กับแม่ทัพปีศาจ เป็นยิ้มที่หม่นเศร้าจนน่าใจหาย ดวงตาของนางหม่นมัวราวกับดวงดาวที่ไร้แสงประกาย ก่อนที่ศีรษะและลำคอของนางจะถูกกดลงบนแท่นประหาร เพชฆาตเงื้อดาบยาวโง้วอยู่เบื้องหน้าราวกับมัจจุราชจะมาคร่าชีวิต
เตียวเฟยฟาหลับตา ความเหนื่อยล้า ความเสียใจ ความเจ็บปวด บีบรัดจนร่างบางสลบเหมือดทันทีที่ลำคอวางลงบนแท่นประหาร ทว่าก่อนที่สติของนางจะขาดวิ่นนางกลับได้ยินเสียงของแม่ทัพหยางตะโกนมาจากไกลๆ
“เดี๋ยว!”
จากนั้นทุกสิ่งอย่างก็ดับมืดลง
“ท่านพี่! เหตุใดจึงสั่งให้หยุดเจ้าคะ”
เฟยหงเขย่าแขนของแม่ทัพหนุ่มด้วยความร้อนใจ หัวใจของนางกระตุกแรงเมื่อเห็นว่าน้องสาวฝาแฝดยังคงมีชีวิต ทั้งที่มันควรจะรีบๆ ตายไปได้แล้ว
“รอก่อนเถอะเจ้ากระต่ายน้อย ข้าเพียงคิดว่าการตายมันสบายเกินไป ในเมื่อสตรีผู้นั้นรังแกเจ้าไว้มากมิใช่หรือ ข้าก็แค่อยากจะทรมานมันให้เจ็บปวดดั่งที่เจ้าเคยได้รับก็เท่านั้นเอง”
แม่ทัพหนุ่มโกหก!