บทนำอุ่นเตียง (2) ข้าไม่ควรเกิดมา
เมื่อเช้านี้นางดีใจจนแทบบ้า เมื่อสาวใช้เดินมาบอกว่าประมุขเตียวและคุณหนูเตียวผู้เป็นแฝดพี่เรียกหานาง เฟยฟาคิดว่าการมีชีวิตอยู่อย่างสงบเสงี่ยมเจียมตน ขยันขันแข็งทำความสะอาดจวนดั่งทาสผู้ภักดีจะทำให้บิดาและพี่สาวใจอ่อนในสักวันหนึ่ง
แล้ววันที่นางเฝ้ารอคอยก็มาถึง
นางถูกเรียกเข้าไปในเรือนใหญ่ ถูกจับอาบน้ำแต่งกายด้วยเสื้อผ้าที่แสนงดงาม ก่อนที่บิดาจะสั่งให้นางดื่มยาลูกกลอนเม็ดขม จากนั้นบิดาก็ร่ายคาถาเปลี่ยนสีผมของนางจากสีดำให้เป็นสีเงินยวง เปลี่ยนดวงตาสีดำให้กลายเป็นสีฟ้า และเปลี่ยนสีผมของพี่สาวจากสีเงินยวงให้กลายเป็นสีดำ เปลี่ยนดวงตาสีฟ้าให้เป็นสีดำ
เฟยฟาแปลกใจเมื่อเห็นพี่สาวสวมใส่เสื้อผ้าสกปรกมอมแมมของตน ในขณะที่ตนสวมใส่เสื้อผ้าสะอาดสะอ้านกลิ่นหอมฟุ้งของพี่สาว
จังหวะที่นางจะเปล่งเสียงถามด้วยความแปลกใจ นางกลับไม่สามารถเปล่งเสียงออกมาได้
‘อา... อา! อา!’
ตกใจจนแทบสิ้นสติสมประดี ทว่าบิดากลับไม่แม้แต่จะชายตามองมายังนางแม้เพียงเสี้ยวลมหายใจ สายตาของบิดาจับจ้องมองไปยังบุตรสาวคนโตด้วยความรักความห่วงใย ก่อนจะดึงเตียวเฟยหงเข้าไปกอด
‘จำไว้นะหงเอ๋อร์ นับจากนี้เจ้าคือเฟยฟา! จงละทิ้งตัวตนเดิมของเจ้าเสีย’
‘เจ้าค่ะท่านพ่อ ข้าจะเป็นเฟยฟาและจะทำทุกอย่างเพื่อให้ท่านพ่อรอดชีวิตให้จงได้ ท่านพ่อรีบหนีไปเถอะเจ้าค่ะ หากช้ากว่านี้คงไม่ทันการ’
‘ดูแลตัวเองด้วยนะลูก พ่อคนนี้รักเจ้ายิ่งกว่าสิ่งใดๆ ในโลก’
กอดร่ำลาเสร็จประมุขเตียวผู้เป็นบิดาก็รีบหนีไปพร้อมกับคนคุ้มกันมากฝีมือกลุ่มหนึ่ง เตียวเฟยฟายังคงมึนงงไม่เข้าใจปราดเข้าไปจับแขนพี่สาวต่างมารดาแล้วส่งเสียงร้องถาม
‘อา...อา’
‘น่ารำคาญ! ถอยไป!’
เตียวเฟยหงผลักน้องสาวฝาแฝดจนหงายหลังล้มลงไปกองกับพื้น ใบหน้าแฝดผู้พี่ฉายชัดว่ากังวลใจกลัวว่าบิดาจะหนีไม่พ้นเงื้อมมือของแม่ทัพปีศาจ โชคดีที่สายข่าวของบิดาได้รับข้อมูลสำคัญว่าแท้จริงแล้วแม่ทัพปีศาจที่กำลังตามไล่ล่าสกุลเตียวก็คือ ‘หยางตงเฉิน’ หากเป็นเช่นนั้นละก็แม่ทัพผู้นี้ไม่มีทางฆ่าฝาแฝดผู้น้องของนางแน่
เพราะเมื่อสิบปีก่อนตอนที่บิดาฆ่าล้างตระกูลหยางและคุมขังหยางตงเฉินเอาไว้ในคุกเพื่อเค้นถามถึงที่ซ่อนสูตรโอสถลับ เฟยฟาเป็นเพียงคนเดียวที่แอบเอาอาหารไปให้จนถูกท่านพ่อจับได้เฆี่ยนตีไปหลายครั้ง
เมื่อบิดารู้ว่าแม่ทัพปีศาจคือใคร จึงได้ออกอุบายให้นางปลอมตัวเป็นเตียวเฟยฟาเพื่อให้นางมีชีวิตรอด และให้แฝดน้องสังเวยชีวิตไร้ค่าตายแทนนาง อีกทั้งยังให้แฝดน้องกินยาพิษ ‘กลืนเสียง’ เพื่อไม่ให้เปล่งเสียงแพร่งพรายความจริงอีกด้วย
ผลัวะ!
เท้าหนักๆ ถีบประตูเข้ามาอย่างแรง เตียวเฟยหงแฝดพี่รีบยอบกายลงไปนั่งกับพื้นด้วยใบหน้าเศร้าหมองราวกับกำลังถูกรังแก ในขณะที่เตียวเฟยฟาแฝดน้องยังคงยืนอึ้งด้วยความมึนงง ทว่าดวงตาของนางนั้นจ้องจดไปยังใบหน้าคมคร้ามของผู้บุกรุกไม่วางตา
‘อา...’
นางจำได้ไม่ลืม ‘อาตง’ เด็กชายในคุกมืดผู้เป็นสหายเพียงคนเดียวของนาง ละ...แล้วเหตุใดเขาจึงบุกมาที่นี่เล่า หรือว่าเขาจะมาแก้แค้นบิดาของนาง
ถะ...ถ้าเช่นนั้นก็หมายความว่า!
เตียวเฟยฟาหน้าซีดเผือด ก้มมองเสื้อผ้าและเรือนผมสีเงินยวงบนเรือนกายตนเองแล้วปะติดปะต่อเรื่องราวต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว
‘นำตัวนางไปขัง!’
‘ขอรับท่านแม่ทัพ’
ทหารสองนายตรงเข้ามาจับกุมเฟยฟา ในขณะที่แม่ทัพหนุ่มยอบกายลงตรงหน้าแฝดผู้พี่ที่เสแสร้ง ก่อนจะเอื้อมมือไปสัมผัสที่ใบหน้าของอีกฝ่ายอย่างห่วงใย
‘เจ้ากระต่ายน้อยข้ามารับเจ้าแล้ว’
‘อา! อา อา!’
เตียวเฟยฟาส่งเสียงร้องประท้วง ยิ่งเขาเรียกขานว่า ‘เจ้ากระต่ายน้อย’ หญิงสาวก็ยิ่งมั่นใจว่าเขาคืออาตง ชายเพียงคนเดียวที่นางรักมาโดยตลอด
‘อา! อา!’