บทนำอุ่นเตียง ข้าไม่ควรเกิดมา
บทนำอุ่นเตียง
ข้าไม่ควรเกิดมา
ดะ...ได้โปรดเมตตา
เจ้าของใบหน้าซีดเซียวเปรอะเปื้อนไปด้วยคราบไคลความสกปรกนั่งห่อกายคุดคู้อยู่ในคุกเหม็นอับมืดทึบปราศจากแสงสว่างจากภายนอก มีเพียงแสงริบหรี่จากตะเกียงทางเดินไกลๆ ที่ทอดผ่านมาอย่างสลัวรางเท่านั้น
“อา! อา...อา!”
เตียวเฟยฟายกมือขึ้นกุมลำคอ ดวงตาหม่นเศร้าด้วยความสิ้นหวังเมื่อพบว่าตนไม่สามารถเปล่งเสียงใดๆ ออกมาได้ราวกับคนเป็นใบ้ อีกทั้งสีผมที่เคยเป็นสีดำกลับกลายเป็นสีเงินยวงแวววาว
เส้นผมสีเงินที่นางเคยโหยหาอยากมีอยากได้เฉกเช่นพี่สาว ทว่าเวลานี้เส้นผมสีเงินกลับเป็นบ่วงที่กำลังผูกคอนางกับขื่อคา
มันไม่ควรจะเป็นเช่นนี้!
หยาดน้ำตามากมายไหลพรั่งพรูเปรอะเปื้อนนวลแก้มสกปรก หัวใจปวดแปลบเมื่อสำเหนียกได้ว่าความตายกำลังมาเยือนตนเองในไม่ช้า
แม่ทัพปีศาจผู้นั้นไม่มีทางปล่อยให้นางมีชีวิตรอดไปได้อย่างแน่นอน เขาเกลียดชังผู้คนในสกุลเตียวเหนือสิ่งอื่นใด นั่นเพราะ ‘เตียวโม่โฉว’ เจ้าประมุขตระกูลเตียวคือผู้ที่ลงมือสังหารบิดามารดาของแม่ทัพปีศาจอย่างเลือดเย็นเพียงเพราะต้องการสูตรโอสถลับของตระกูลหยาง
“ปล่อยข้า! ปล่อยข้า! ข้ายังไม่อยากตาย ข้ายังไม่อยากตาย ได้โปรดเถอะ! ข้าต้องการพบบุตรสาวของข้าเดี๋ยวนี้ นางไม่มีทางปล่อยให้บิดาเพียงผู้เดียวต้องถูกประหารชีวิตอย่างแน่นอน ไม่มีวัน!”
“หุบปากได้แล้ว!”
“ได้โปรดไปบอกท่านแม่ทัพให้เว้นโทษแก่ข้าเถอะ เพราะถึงอย่างไรข้าก็คือบิดาของสตรีที่ท่านแม่ทัพรักมิใช่หรือ”
“ลากตัวมันออกไปที่ลานประหาร!”
“ไม่! ข้าไม่ยอมตาย! ข้าต้องได้พบบุตรสาว ต้องได้พบเดี๋ยวนี้!”
เสียงห้องขังข้างๆ ร้องตะโกนโวยวายอยู่นั้นไม่ใช่ใครที่ไหนแต่เป็นประมุขสกุลเตียว ‘บิดา’ ของนางนั่นเอง ทว่าบุตรสาวที่บิดาร่ำร้องถึง หาใช่นางที่ถูกขังอยู่ห้องข้างๆ แต่เป็น ‘เตียวเฟยหง’ แฝดผู้พี่ที่บิดารักมากยิ่งกว่าชีวิตของตน
รักแฝดพี่จนผลักนางซึ่งเป็นแฝดน้องให้ร่วงหล่นลงไปยังหุบเหวนรกด้วยมือของบิดา
เฟยฟาจับเส้นผมสีเงินยวงขึ้นมาดูด้วยแววตาว่างเปล่า สีผมนี้แท้จริงแล้วเป็นสีผมของแฝดพี่ ‘เตียวเฟยหง’ หญิงสาวผู้ถือกำเนิดขึ้นมาพร้อมกับแสงสว่างที่เปล่งประกายเจิดจ้า ดวงตาสีฟ้าสุกสกาวรับกับผมสีเงินยวงทำให้ยิ่งงดงามราวกับจะล่มเมือง
ส่วนนาง ‘เตียวเฟยฟา’ นั้นมีเส้นผมสีดำสนิทรับกับดวงตาสีดำอนธการเคว้งคว้างดั่งเป็นสิ่งมีชีวิตดำมืดจากห้วงแห่งนรก แค่รูปลักษณ์คงไม่เป็นที่เกลียดชังของตระกูลเตียวผู้สืบเชื้อสายเส้นผมสีเงินยวง หากไม่ใช่เพราะการถือกำเนิดของนางนั้นทำให้มารดาต้องตาย
แฝดผู้พี่คลอดออกมาได้อย่างง่ายดาย ใบหน้าอ้วนฉุ ใครเห็นก็ต่างหลงใหล ทว่าแฝดผู้น้องกลับยังคงอยู่ในครรภ์ไม่อาจคลอดตามออกมาดั่งที่ควรจะเป็น ทำให้ประมุขเตียวร้อนใจไม่น้อย
สามวันผ่านไปร่างกายของมารดาสูบเซียว เจ็บปวดทุกข์ทรมาน เสียเลือดเป็นจำนวนมากจนท้ายที่สุดก็สิ้นใจตาย หมอทำคลอดจึงต้องเร่งผ่าท้องควักเอาร่างของแฝดผู้น้องออกมา
ร่างทารกน้อยที่ชุ่มไปด้วยเลือด เนื้อตัวซีดเซียวเพราะอยู่ในร่างของมารดาที่เป็นดั่งศพ
‘นังเด็กนรก!’
นั่นคือสิ่งที่บิดาตะโกนออกมาด่าทอบุตรสาวฝาแฝดคนเล็กด้วยความชิงชัง ก่อนจะกอดร่างไร้วิญญาณของภรรยาด้วยหัวใจที่แหลกสลาย
และนับตั้งแต่วันนั้นเตียวเฟยฟาก็เป็นดั่ง ‘กาลกิณี’ แห่งสกุลเตียว บิดาไม่เคยกอด ไม่เคยอุ้ม ไม่เคยเชิดชูนางในฐานะคุณหนูแห่งสกุลเตียว แต่กลับผลักไสให้นางมีชีวิตดั่งสาวใช้ในเรือนครัว เฝ้ามองบิดากอดหอมพี่สาวด้วยความรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจเรื่อยมา
ไม่เคยได้รับการศึกษา
ไม่เคยได้ใส่เสื้อผ้าสวยๆ
ไม่เคยได้กินอาหารร้อนๆ
ไม่เคยได้นอนในที่อบอุ่น
ทว่า...
เฟยฟาไม่เคยโกรธบิดาที่เกลียดชังนางราวกับกิ้งกือไส้เดือนที่น่าขยะแขยง
เฟยฟาไม่เคยโกรธพี่สาวที่มักกลั่นแกล้งรังแกเย้ยหยัน และมองนางอย่างสมเพชเวทนาอยู่เป็นนิจ
นั่นเพราะนางเฝ้าโทษตัวเองอยู่ทุกคืนวัน ว่าเป็นเพราะนางมารดาจึงต้องเสียชีวิต เป็นเพราะนางบิดาจึงต้องสูญเสียภรรยาอันเป็นที่รัก เป็นเพราะนางพี่สาวจึงต้องกลายเป็นบุตรที่ขาดมารดา
“หากข้าไม่เกิดมาก็คงดี ข้าควรจะตายไปเสียอย่างที่ใครๆ ต้องการ”
เตียวเฟยฟานอนคู้กายไปกับพื้นเหม็นอับสกปรกอย่างหมดอาลัยตายอยาก เสื้อผ้างดงามที่นางสวมใส่อยู่ในขณะนี้นั้นสกปรกราวกับผ้าขี้ริ้วผืนหนึ่ง