บทที่ 7 ตอน 1
พัลลภาขับรถกลับบ้านด้วยความรู้สึกที่ไม่ดีนัก เธอจำแววตาที่เดาอารมณ์ไม่ออกของเขาได้ มันดูว่างเปล่าจนเธอใจหาย เธอจำแววตานั้นได้ดีพอๆกับสัมผัสของเขา
เขาจะโกรธเธอหรือเปล่า ที่เธอทำแบบนี้
พัลลภาถอนหายใจอยู่แบบนั้น กังวลมากว่าเขาจะโกรธ เมื่อทนความอึดอัดต่อไปไม่ไหว เธอเลยเข้าแอพลิเคชั่นไลน์แล้วส่งข้อความหาเขา
Pearl : พี่นัทคะ ไปถึงร้านหรือยังคะ
เมื่อส่งไปแล้วก็นั่งมองโทรศัพท์อยู่แบบนั้น ไม่มีวี่แววว่าเขาจะเปิดอ่าน ผ่านไปห้านาที สิบนาที ยี่สิบนาที ก็ไม่มีวี่แววว่าเขาจะอ่านข้อความ
Pearl : พี่นัทโกรธเพิร์ลหรือเปล่าคะ
เงียบไม่มีสัญญาณใดๆตอบกลับมา พัลลภาคิดมากจนอยากจะร้องไห้ เมื่อเช้าใจของเธอยังพองฟูอยู่เลย แต่มาตอนนี้มันห่อเหี่ยวไปหมด อยากจะร้องไห้ออกมา
เขาต้องโกรธเธอแน่ๆ
เมื่อไม่รู้จะทำยังไง เธอเลยโทรหาเพื่อน รอไม่นานปลายสายก็รับสายของเธอ เสียงของสุธาสินีดูแจ่มใสมาก
“ฮัลโหลเป็นยังไงบ้างแก รออยู่อยากโทรหาก็ไม่กล้า กลัวว่ายังไม่แยกกับพี่เขา พี่เขาขอแกเป็นแฟนหรือยัง เป็นยังไงบ้างเล่ามาให้หมดนะ เล่ามาเล่ามา”
สุธาสินีร่ายยาวน้ำเสียงร่าเริงมาตามสาย ลุ้นไปกับเพื่อนด้วย
“ส้ม”
พัลลภาเบะปากเตรียมร้องไห้ทำไมต้องอ่อนไหวขนาดนี้ด้วย เธอไม่เข้าใจตัวเอง
“เป็นไรแก ทำไมทำเสียงแบบนั้นล่ะ เกิดอะไรขึ้น”
สุธาสินีตกใจที่เพื่อนทำเสียงเหมือนจะร้องไห้
“พี่นัทเขาต้องโกรธฉันแน่ๆเลย”
พัลลภาเสียงเครือแบบคนที่พร้อมจะร้องไห้ ออกมาจริงๆ
“เฮ้ย โกรธเรื่องอะไร”
เมื่อเช้าตอนเพื่อนถ่ายรูปที่นั่งม้วนผมเองส่งมาให้ดูเพื่อนยังดีดีอยู่เลย ออกไปเดทกับผู้ชายแป๊บเดียวทำไมเป็นแบบนี้
“ก็ ก็”
พัลลภาไม่แน่ใจว่าจะพูดออกไปดีไหม ทั้งอยากปรึกษาอยากจะเล่าให้เพื่อนฟัง ทั้งอายเพื่อนไม่กล้าเล่า ความรู้สึกสับสนวุ่นวายตีกันไปหมด
“ก็อะไรแก เล่ามา”
สุธาสินีถามอย่างเป็นห่วง
“พี่นัทเขาขอมีอะไรกับฉัน แล้วฉัน..ไม่ยอม บอกว่าไม่พร้อม เขาเลยมาส่งฉันแล้วก็หายไปเลย”
พูดจบเธอก็ร้องไห้โฮออกมา
“เฮ้ย!เพิร์ลแกว่าอะไรนะ ไอ้พี่นัทมันขอมีอะไรกับแกเหรอ แล้วพอแกบอกไม่ยอมมันก็โกรธเนี่ยเหรอโอ๊ยไอ้เลว มาฉันจะพาไปด่ามัน ด่าให้ลืมทางไปคณะเลย”
สุธาสินีพูดแล้วของขึ้น เสียแรงที่เชียร์เสียแรงที่มองว่าเป็นคนดี ที่แท้ก็จะมาหลอกฟันเพื่อนของเธอเนี่ยนะ ไอ้สารเลว
“ไม่ใช่ ไม่ใช่อย่างนั้นนะส้ม”
พัลลภาร้อนลนเมื่อดูเหมือนกับว่าเพื่อนกำลังจะเข้าใจผิดผู้ชายที่เธอชอบ เธอไม่อยากให้เพื่อนโกรธเขา เธออาจจะเล่าสั้นไปหน่อย
“แล้วมันยังไง เท่าที่แกว่ามาเนี่ยมันผู้ชายเฮงซวยชัดๆ หนอยขอมีอะไรกันในเดทแรกเนี่ยนะ แล้วพอไม่ให้ก็โกรธ ไม่เรียกว่าเลวจะเรียกว่าอะไร”
พูดอีกก็ขึ้นอีก แบบนี้มันหวังฟันชัดๆ
“ไม่ใช่แบบนั้นนะแก พี่นัทเขาไม่ได้แย่ขนาดนั้น ฉันอาจจะพูดไม่ละเอียด วันนี้เขาดีกับฉันมาก ตอนไปดูหนังเรามีจับมือกันนิดหน่อย แล้วในโรงหนังมันค่อนข้างหนาวน่ะแก เขาก็เลย...กอดฉันเอาไว้ แล้วทีนี้มันเลยเกินเลยมาที่จูบ”
เสียงของเธอแผ่วลง เขินอายกับเรื่องที่เล่า ยิ่งพอนึกถึงจูบแรกแล้วก็สั่นสะท้านขึ้นมาอีก ยอมรับแบบไม่อายว่าเธอชอบสัมผัสของเขา
“ว้าย ทำไมหนังฆาตกรรมข่มขืนมันถึงได้กลายเป็นหนังโรแมนติกแบบนั้นล่ะเพิร์ล”
สุธาสินีปรับอารมณ์ไม่ทันเมื่อได้ฟังน้ำเสียงที่เพื่อนใช้เล่า ฟังตอนแรกเหมือนเขาจะขืนใจดูเป็นหนังฆาตกรรมข่มขืนมากๆฟังไปฟังมากลายเป็นหนังโรแมนติกสะงั้น
รู้สึกเขินขึ้นมาทันที นึกไปถึงซีรีส์เกาหลีที่เคยดู จูบแรกกับผู้ชายที่เราแอบปลื้มในเดทแรก อุ๊ยโรแมนติก
แต่เอ๊ะแล้วมันยังไง ถึงได้ไปขอมีอะไรกันจนกระทั่งโกรธกันได้
“แล้วมันยังไงต่อเพิร์ล”
สุธาสินีถามต่ออย่างอยากรู้
“แล้วมันก็ดีมากน่ะแก พี่เขาจูบฉันจนตัวฉันเหมือนจะลอยไปหมด มันก็เคลิ้มๆใช่ไหม ก็เคลิ้มทั้งคู่นั่นแหละ อารมณ์ฉันมันกระเจิดกระเจิงไปหมด ทีนี่พี่เขาเลยชวนฉันไปต่อ แต่ฉันบอกกว่าฉันไม่พร้อม”
พัลลภาไม่กล้าลงรายละเอียดว่าณัฐนันท์พาเธอไปทัวร์โรงแรมม่านรูดมาแล้ว กลัวว่าเพื่อนจะเกลียดเขา เธอยังอยากได้คนช่วยซัพพอร์ทอยู่
“เขาเลยโกรธแกเหรอเพิร์ล”
ถึงจะโรแมนติกยังไงแต่ถ้ามาโกรธกับเรื่องแค่นี้ ก็ไม่โอเคนะ
***