3
“ตกลงผมจะแต่งงานตามฤกษ์ที่คุณแม่หามาครับ”
ชวกรขับรถกลับไปยังคฤหาสน์หลังใหญ่ด้วยใบหน้าที่นิ่งและจริงจังพร้อมกับให้คำตอบที่มารดาของเขาให้เวลาไปคิดทบทวนระหว่างการแต่งงานกับการเหลือแต่ตัว
“แม่ดีใจที่ลูกคิดได้ว่าอะไรคือสิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิต”
อมรยิ้มรับคำตอบด้วยความสุขแต่เธอก็ยังมีความสงสัยว่าเพราะอะไรลูกชายถึงได้ตัดสินใจง่ายแบบนี้จากที่ให้เวลาคิด 2 วันแต่นี่ผ่านไปเพียงแค่ไม่กี่ชั่วโมงชวกรกับยอมแต่งงานโดยง่าย
“บอกแม่ได้ไหมว่าเพราะอะไรลูกถึงได้ยอมตัดสินใจแบบนี้”
“เพราะผมมั่นใจว่าระยะเวลา 1 ปีจะทำให้คุณแม่รู้ว่า การแต่งงานไม่ได้ทำให้ผมกับนลินรักกันได้”
ลูกชายเลือกที่จะไม่เล่าความจริงที่สินีเป็นคนจะให้เขาแต่งงานโดยที่เธอพร้อมจะรอแทนการที่ทั้งคู่จะออกไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ในแบบที่เขาจะเหลือแต่ตัว
“แล้วผู้หญิงคนนั้นเขายอมให้ลูกไปแต่งงานหรือลูกไม่ได้บอกเขา”
อมรเมื่อเห็นว่าลูกชายไม่พูดถึงผู้หญิงที่เธอไม่ชอบจึงตัดสินใจถามออกมาตรง ๆ เพราะคิดว่าบางทีเรื่องนี้สินีอาจมีส่วนเกี่ยวข้อง
“ เธอรักผมและไม่อยากให้ผมทำให้คุณแม่ไม่สบายใจครับ”
ชวกรไม่ได้ตอบตามความเป็นจริงเขาเลือกที่จะตอบตามความรู้สึกของเขาเอง เขาเชื่อว่าการที่สินีตัดสินใจให้เขาไปแต่งงานกับผู้หญิงอื่นไม่ใช่เพราะเธอรับไม่ได้ที่เขาจะเหลือแต่ตัวแต่เป็นเพราะหญิงสาวอยากให้เขาเป็นลูกที่กตัญญูทำตามที่แม่ต้องการ
“แม่นึกว่าแฟนของลูกจะไม่อยากได้ชวกรท่านประธานบริษัทจน ๆ ที่ไม่มีสมบัติอะไรติดตัวเสียอีก”
ชายหนุ่มหันมามองสบตามารดาเขาไม่มีคำตอบใด ๆ ให้เพราะสำหรับชวกรแล้วเขาคิดว่าคนเป็นแม่ไม่เคยมองคนรักของเขาในแง่ดี ชายหนุ่มจึงเลือกที่จะไม่โต้ตอบและเดินหนีขึ้นห้องเพราะเขามั่นใจว่ารู้จักคนรักดีกว่าใคร