2
“ผมรักคุณนะสินี”
ชายหนุ่มบอกกับตัวเองว่าทั้งชีวิตนี้เขาคงรักใครไม่ได้อีกแล้วนอกจากสินีถึงแม้ว่าเธอกับเขาจะมีฐานะครอบครัวที่ต่างกันมากแต่เขาเชื่อว่ารักแท้มันไม่ได้ดูแค่เพียงภายนอกแต่มันคือความเข้าใจที่มาจากหัวใจที่แท้จริง
“ผมจะไม่แต่งงานแม้คุณแม่จะยื่นคำขาดว่าผมจะไม่เหลืออะไร”
ชวกรเล่าเรื่องราวทั้งหมดที่มารดายื่นคำขาดจะไม่ให้เขามีส่วนเกี่ยวกับสมบัติใด ๆ ทั้งสิ้นเว้นไว้แค่เพียงเงินเดือนในฐานะของท่านประธานบริษัทเท่านั้นส่วนทรัพย์สินทั้งหมดอมรจะเขียนพินัยกรรมยกให้หลานสาวถ้างานแต่งงานไม่เกิดขึ้น
“ทำไมคุณแม่กรถึงใจร้ายแบบนี้”
สินีหน้าถอดสีทันทีทั้งที่ความจริงเธอควรจะดีใจที่คนรักตัดสินใจทิ้งทุกอย่างเพื่อเลือกเธอ
“ไม่เป็นไรเงินเดือนจากบริษัทก็พอใช้จ่ายไม่จำเป็นต้องร่ำรวยอะไรก็ได้ขอแค่เรามีกันก็พอ”
ชายหนุ่มจับมือคนรักมาบีบไว้แน่น ใบหน้าของเขามีรอยยิ้มแห่งความหวัง เขาไม่ต้องการทรัพย์สินเงินทองอะไรขอแค่เพียงได้อยู่กับผู้หญิงที่เขารักก็พอ
“ไม่ค่ะ”
สินีตกใจเมื่อเห็นความแน่วแน่ในสายตาของชวกรว่าเขาคงยอมทิ้งสมบัติทั้งหมดเพื่อจะได้มาแต่งงานกับเธอเพราะในสายตาของชายหนุ่มคงคิดว่าทางเลือกนี้เป็นทางเลือกที่จะทำให้เธอมีความสุขที่สุดซึ่งความจริงแล้วมันไม่ใช่
“ทำไมล่ะสินีอยู่คุณอยากให้ผมแต่งงานหรือไง”
“ไม่ใช่ค่ะ คุณเป็นดั่งดวงใจเป็นทุกอย่างในชีวิต สินีไม่มีทางยอมให้คุณลำบากเอาแบบนี้แล้วกันนะคะ ในเมื่อคุณแม่บังคับให้คุณแต่งงานแค่เพียงปีเดียว สินีจะรอค่ะ วันนั้นคุณจะได้ไม่ต้องสูญเสียทรัพย์สมบัติและก็ไม่เสียสินีไปด้วย”
หญิงสาวรีบตีบทเศร้าทันทีเมื่อเริ่มรู้สึกว่าคนรักของเธอกำลังตกใจที่เธอพร้อมจะยอมให้เขาแต่งงานกับผู้หญิงอื่น
“ผมไม่ได้รักผู้หญิงคนนั้นและไม่มีทางรักด้วยแต่ถ้าคุณคิดว่ามันเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด ผมก็พร้อมจะทำตาม”
ชวกรสวมกอดแฟนสาวเขารู้สึกซาบซึ้งในน้ำใจของสินีนักที่เธอยอมที่จะรอเขาอีก 1 ปีเพื่อแลกกับการที่เขาไม่ต้องสูญเสียอะไร
วันนี้ชายหนุ่มตั้งใจแล้วว่าเขาจะแต่งงานและทำให้ว่าที่เจ้าสาวของเขาได้รู้ว่าการไม่ยอมช่วยเขาปฏิเสธงานแต่งครั้งนี้ เธอจะต้องเสียใจไปตลอดชีวิตเหมือนอย่างที่สินีต้องเจ็บปวดเพื่อรอเขา