

8 รู้สึกเกร็ง
“ฉันว่าเราต้องทำอะไรสักอย่างกับบ้านของเธอแล้วนะ ถ้าปล่อยไว้แบบนี้มันน่าจะรกแล้วโทรมลงเรื่อยๆ”
“คุณเธียรจะทำอะไรกับบ้านของบัวคะ บัวไม่ขายบ้านนะคะ นี่มันเป็นสมบัติของคุณยายถึงแม้บ้านมันจะหลังเล็กและที่ดินจะมีแค่นิดเดียวก็ตาม”
“ฉันยังไม่ได้พูดเลยว่าจะให้เธอขายบ้าน แต่ฉันคิดว่าเราน่าจะจ้างคนมาทำความสะอาดจากนั้นก็น่าจะปล่อยให้เช่าดีไหม”
“แต่แถวนี้จะมีคนเช่าเหรอคะมันไม่ได้อยู่ในตัวเมืองสักหน่อย”
“เราต้องทำความสะอาดก่อนจากนั้นก็ฝากผู้ใหญ่บ้านประกาศให้คนเช่า ถ้าไม่มีใครเช่าก็ต้องหมั่นจ้างคนให้เขาเข้ามาทำความสะอาด”
“เดี๋ยบัวฝากป้าจวนไว้ก็ได้ค่ะ ถ้ามีใครสนใจผู้เช่าป้าจวนจะได้ติดต่อบัวไป ส่วนเรื่องจ้างคนมาทำความสะอาดบัวจจะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายตรงนี้เองนะคะ”
“ได้สิ นี่มันบ้านของเธอเธอจะทำอะไรก็ได้ แต่อย่าลืมนะว่าเธอยังไม่ได้ทำงานไม่มีเงินเดือน”
“ใครว่าบัวไม่มีเงินเดือนล่ะ บัวได้เงินเดือนจากคุณเธียรเดือนละตั้งหนึ่งหมื่น ถ้าใช้จ่ายอย่างประหยัดก็มีเงินเก็บเยอะเลย”
“ฉันบอกแล้วไงว่าไม่ต้องประหยัดมาก ใช้จ่ายในแบบที่วัยรุ่นเขาใช้กัน ว่าแต่เงินที่ให้มันพอใช้จริงๆ ใช่ไหม”
เด็กสาวยังไม่ทันตอบเสียงป้าจวนก็ดีงขึ้นมก่อนเธอจึงเดินไปหาป้าจวนและเอาของฝากไปให้ที่บ้านและกลับมาอีกครั้งหลังจากนั้นครึ่งชั่วโมง
“ขอโทษนะคะคุณเธียรที่บัวให้รอนานพอดีบัวคุยกับป้าจวนเพลินไปหน่อยค่ะ”
“แล้วเธอได้บอกเรื่องที่เราคุยกันหรือยัง”
“บอกแล้วค่ะ ถ้างี้นเราก็กลับกรุงเทพได้แล้วเดี๋ยวจะถึงที่นั่นค่ำ”
“ค่ะ” ทั้งสองคนขับรถออกจากบ้านก่อนจะแวะไปเอาของฝากและลาผู้ใหญ่บ้านอีกครั้งจากนั้นรถคันหรูก็มุ่งหน้าสู่กรุงเทพฯ
“เธอจะหลับก็ได้นะ”
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ บัวนั่งคุยเป็นเพื่อนคุณเธียรดีกว่า ขอโทษด้วยนะคะที่ขามาบัวหลับมาตลอดทางเลย”
“เมื่อคืนเธอกับธัญญ่านอนคุยกันเพลินเลยใช่ไหม”
“ใช่ค่ะที่เราคุยกันหลายเรื่องพี่ธัญญ่าเอาเครื่องสำอางและครีมบำรุงผิวให้บัวเยอะแยะเลย”
“ที่โรงเรียนเขาอนุญาตให้ใช้เครื่องสำอางด้วยเหรอ”
“คุณครูอนุญาตให้ใช้ได้แค่พวกลิปสติกค่ะแต่ไม่ได้ให้แต่งหน้าเวลาไปเรียนแต่ถ้าวันหยุดอยู่ที่หอคุณครูก็ไม่บังคับค่ะ”
“อยู่กับหมู่มากก็ต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบแต่ถ้าอยากจะแต่งหน้าแต่งตัวก็ให้ทำตอนที่อยู่บ้านหรือช่วงวันหยุดก็แล้วกันนะ”
“ค่ะคุณเธียร”
“แล้วมีอะไรขาดเหลือที่จะต้องซื้อเข้าหอครั้งนี้ไหม”
“ไม่มีแล้วค่ะ พวกของใช้จำเป็นต่างๆ ที่โรงเรียนก็มีขายค่ะ”
“แล้ววันเสาร์หน้าเธอจะออกมาเที่ยวกับเพื่อนอีกไหม”
“เสาร์หน้าคุณครูพาไปทำบุญค่ะ ส่วนวันอาทิตย์ก็มีกิจกรรมที่หอพักบัวคงไม่ได้ออกมา”
“อยากให้ฉันเอาของไปให้ก็โทรบอกได้”
“บัวไม่อยากรบกวนเวลางานของคุณเธียรหรอกค่ะ”
“ถ้างั้นเธอก็โทรบอกคุณชุสิหรือไม่ก็โทรมาที่บ้านถ้าอยากกินกับข้าวอะไรแล้วที่โรงอาหารไม่มีก็บอกป้าอ้อย ฉันถามคุณครูที่หอพักแล้วว่าเสาร์อาทิตย์ที่ไม่กลับบ้านผู้ปกครองเข้าไปหาได้”
“คุณเธียรจะไปหาบัวเหรอคะ”
“ถ้าฉันผ่านไปแถวนั้นก็อาจจะแวะไปหรือไม่ถ้าเธออยากได้อะไรเพิ่มเติมฉันก็จะให้ลุงอ่ำเอาไปให้ก็ได้”
“คุณเธียรใจดีกับบัวมากๆ บัวก็ยิ่งเกรงใจค่ะ”
“อย่าเกรงใจเลยและอย่าคิดว่าฉันเป็นคนอื่นมีอะไรก็บอกมีอะไรก็พูดอย่าเก็บความกลุ้มใจไว้ข้างใน ถ้าฉันไม่ว่างเธอก็โทรหาเลขาหรือถ้ามีเรื่องส่วนตัวก็ปรึกษาธัญญ่าได้”
เธียรธวัชชวนบัวบงกชคุยจนกระทั่งรถเข้ามาในเขตของจังหวัดอยุธยา
“เธอหิวข้าวหรือยังบัว”
“ไม่หิวค่ะคุณเธียรหิวเหรอคะ”
“ฉันยังไม่หิวแต่ฉันว่าจะแวะสั่งอาหารร้านข้างหน้าสักหน่อยจะซื้อกุ้งแม่น้ำไปกินด้วยกันที่บ้านเพราะธัญญ่าเขาชอบกินกุ้ง มากๆ เธอล่ะกินได้ไหม แพ้กุ้งหรือเปล่า”
“บัวไม่เคยกินกุ้งแม่น้ำหรอกค่ะ แต่บัวกินกุ้งฝอยกับกุ้งทะเลได้นะคะบัวเคยซื้อกินตามตลาดนัด”
“ถ้าอย่างนั้นก็ไม่น่าจะแพ้นะ เดี๋ยวจอดรถแล้วลงไปเข้าไปเลือกอาหารด้วยกัน
บัวบงกชเดินตามไปในร้านจากนั้นก็สั่งอาหารซึ่งคนที่สั่งก็เป็นเธียรธวัชเพราะบัวบงกชเห็นราคาอาหารแล้วไม่กล้าสั่งเลยสักอย่าง ทางร้านก็ใช้เวลาทำเพียงแค่ครึ่งชั่วโมงอาหารทุกอย่างก็เสร็จเรียบร้อยชายหนุ่มเดินเอาไปเก็บที่หลังรถขณะที่บัวบงกชเดินมานั่งรอในตำแหน่งข้างคนขับเรียบร้อย
“อาหารแค่นั้นราคาตั้งหลายพันเลย ถ้ากินแบบนี้ทุกวันคงได้จนแน่ๆ”
“ไม่ถึงกับจนหรอกแต่ใครมันจะไปกินอาหารแบบนั้นซ้ำเดิมได้ทุกวันล่ะ แล้วเวลาอยู่ที่หอเธอกินอาหารซ้ำเดิมหรือเปล่า”
“บัวก็กินวนไปเรื่อยแต่อะไรที่ชอบก็จะกินบ่อยหน่อย”
“แล้วเธอชอบกินอะไรที่โรงเรียน”
“มีสเต็กร้านหนึ่งค่ะคุณเธียรอร่อยมากๆ จานหนึ่งแค่สี่สิบเก้าบาทเองนะคะ”
“อาหารที่โรงเรียนของเธอถูกเหมือนกันนะ เขาคงควบคุมราคาสำหรับทำขายให้นักเรียน”
“ใช่ค่ะ เพื่อนบางคนบอกว่าสเต็กที่ขายในโรงเรียนถ้าซื้อกินข้างนอกจานหนึ่งอย่างต่ำก็เกือบจะสองร้อย แต่บางคนก็บอกว่ารสชาติมันก็ธรรมดามากๆ ไม่ได้อร่อยเท่าไหร่ร้านข้างนอกอร่อยกว่าเยอะ แต่สำหรับบัวแค่นั้นก็อร่อยแล้วค่ะ”
“เอาไว้พรุ่งนี้กลางวันฉันจะพาเธอไปกินอาหารอิตาเลียนก่อนเข้าหอดีไหมล่ะ จะได้รู้ว่ามันต่างกันยังไงชวนธัญญ่าไปด้วย”
“ถ้าพี่ธัญญ่าไปด้วยบัวก็โอเคค่ะ”
“ทำไมพูดแบบนั้นล่ะ เธอไม่อยากไปไหนกับฉันสองคนเหรอ”
“ไม่ใช่แบบนั้นนะคะ แต่เวลาอยู่กับคุณเธียรบัวรู้สึกเกร็งยังไงก็ไม่รู้ ถ้ามีพี่ธัญญ่าไปด้วยบัวก็จะได้คุยมีเพื่อนคุย”
“แล้วอยู่กับฉันคุยไม่ได้รึไงล่ะ”
“คุยได้ค่ะแต่บัวกลัวว่าคุณเธียรจะรำคาญเพราะบัวค่อนข้างพูดมาก บางครั้งก็ลืมไปเลยว่าคุณเธียรเป็นผู้ใหญ่แล้ว”
“เธอกำลังว่าฉันแก่เหรอบัว”
“เปล่านะคะไม่มีคำนั้นหลุดออกมาจากปากของบัวเลย คุณเธรียรต่างหากที่พูดเอง”
“ฉันไม่อยากเถียงกับเด็กอย่างเธอแล้ว” เธียรธวัชพูดแล้วส่ายหัวจากนั้นเขาก็ตั้งหน้าขับรถ
บัวบงกชก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเล่น
“บัวนั่งรถแล้วเล่นโทรศัพท์เดี๋ยวก็ได้เวียนหัวกันหรอก”
“บัวขอตอบไลน์เพื่อนแป๊บหนึ่งนะคะ” บัวบงกชใช้เวลาคุยกับเพื่อนไม่ถึงสิบนาทีเด็กสาวก็เก็บโทรศัพท์เข้ากระเป๋า ตอนนี้รอบข้างเริ่มมืดแล้วเธียรธวัชชะลอความเร็วลงเล็กน้อยเพราะไม่อยากจะทำให้เกิดอุบัติเหตุในเวลาโพล้เพล้
