3.ผู้ชายบ้าอำนาจ
"มองคนสวยไงครับ"
ใบหน้าหล่อเหลาที่ยังคงความป่วยอยู่เอ่ยออกมาแบบแซวๆ ก็เธอสวยจริงๆ สวยจนเขาไม่อยากเลิกมอง
"อะไรน่ะ"
แพรไพลินอุทานออกมาอย่างไม่เชื่อหูตัวเอง นี่หน่ะหรอพ่อซุปตาร์ดัง คุยกันครั้งแรกก็ขี้หลีใส่เลยน่ะย่ะ
"นี่ตาโอ ไปแซวคุณหมอเขาแบบนั้นได้ยังไงเล่า"
คุณหญิงอินอรกล่าวดุดุ
"นิดเดียวเองครับคุณแม่ คุณหมอคนนี้ใช่มั้ยครับที่อุส่าห์เสียเวลามารักษาผม"
คลีโอเลิกคิ้วเป็นเชิงหยั่งถาม คุณหญิงอินอรไม่ตอบอะไรเพียงแต่พยักหน้ายิ้มๆ
"ขอบคุณคุณหมอมากนะครับที่เป็นห่วงผม"
คลีโอพูดอย่างเข้าข้างตัวเอง จนทำให้คนฟังอดหมั่นไส้ไม่ได้
"คุณคลีโอคงเข้าใจผิด ที่หมอช่วยเพราะมันเป็นหน้าที่"
แพรไพลินตอบอย่างหักหน้าซุปตาร์ดัง แต่มีหรือคนอย่างคลีโอจะยอมเสียหน้า
"แหม๋ คุณหมอก็ต้องเป็นห่วงคนไข้ทุกคนจริงมั้ยครับ"
คลีโอรีบแก้ต่าง แพรไพลินไม่พูดอะไรต่อ เพียงแต่ให้พยาบาลยกข้าวและยามาไข้คนป่วย จะว่าหายป่วยก็ยังไงถึงมีแรงมาแซวแว้ดๆอย่างนี้
"ได้ข่าวว่าคุณคลีโอทานข้าวได้น้อย ต้องพยายามทานให้ได้มากๆนะคะ จะได้หายเร็วๆ"
แพไพลินเอ่ยไปตามมารยาท ในใจก็กลัวว่าเขาจะหาว่าเธอเป็นห่วงอีก แต่ที่จริงเพียงแค่เธออยากให้เค้าออกจากโรงพยาบาลเร็วๆเท่านั้น เวลามองใบหน้าหล่อคมนั้นมันชอบทำให้เธอใจละลายเสียนี่กระไร
"นี่คุณหมอเป็นห่วงผมใช่มั้ยล่ะครับ"
ไวกว่าความคิด คำพูดเข้าข้างตัวเองก็พุ่งออกมาจนได้
"ก็ข้าวที่โรงพยาบาลมันไม่อร่อย ถ้าจะให้ดี ผมรบกวนคุณหมอทำอาหารมาให้คนป่วยๆอย่างผมทานสักมื้อได้มั้ยล่ะครับ เผื่อว่าผมจะได้หายป่วยเร็วๆ"
คลีโอยังไม่เลิกหยอกเย้า ก็ในสีหน้าเคร่งขรึมที่มีความอ่อนหวานอยู่มันช่างหน้าค้นหาเหลือเกิน เขาจึงอดหยอดไม่ได้
"ตาโอ อยากทานอะไรบอกแม่มา เดี๋ยวจะทำมาให้กิน"
คุณหญิงอินอรดุลูกชายน้อยๆ ลูกชายคนนี้ช่างทำอะไรเกินหน้าเกินตาเสียจริง
"โธ่! คุณแม่อย่าดุพี่โอเลยค่ะ เครสก็อยากลองทานอาหารฝีมือคุณหมอสุดสวยเหมือนกัน"
เครสซี่เอ่ยขึ้นบ้าง เมื่อเด็กน้อยเห็นท่าทางสนใจคุณหมอของพี่ชายจึงช่วยเสริม ความคิดของเด็กหญิงเครสซี่คิดไปว่าถ้าได้มีพี่สะใภ้อย่างคุณหมอคงจะดีกว่ามีพี่สะใภ้อย่าง ยัยนางแบบนมโตนั่น
"เครสซี่ เรานี่ก็อีกคน"
คุณหญิงอินอรหันไปดุเครสซี่อีกครา
"ไม่เป็นไรหรอกค่ะคุณอินอร ถ้าคุณคลีโอกับน้องเครสซี่อยากทาน พรุ่งนี้หมอจะทำมาให้ค่ะ ถ้าไม่มีอะไรแล้วหมอขอตัวนะคะ"
สิ้นเสียงลงคุณหมอแพรไพลินจึงเดินออกไปด้วยท่าทีเรียบขรึม ฝ่ายคลีโอก็ตีมือกับเครสซี่เพื่อเป็นการขอบคุณน้องสาวที่ช่วยส่งเสริมตนเอง
"จริงๆเลยนะคลีโอ ไปแกล้งคุณหมอแบบนั้นได้ยังไง"
คุณหญิงอินอรยังไม่หายเคืองลูกชาย
"ก็คุณหมอน่ารักแล้วก็หน้าแกล้งหน่ะสิครับคุณแม่"
คลีโอตอบกลับหน้าตาเฉย
"คิกๆ เสียดายจังเลยค่ะพรุ่งนี้เครสคงไม่ได้อยู่ทานอาหารฝีมือคุณหมอ"
เครสซี่หัวเราะคิกคักพร้อมคัดพ้ออย่างน่าเสียดาย
"อ้าว ทำไมล่ะ"
คลีโอถามน้องสาว
"ก็เครสต้องไปเรียนร้องเพลงเพื่อเดินตามรอยพี่โอไงคะ"
เครสซี่ตอบอย่างมุ่งมั่น
"ถ้างั้นก็สู้ๆล่ะยัยเด็กแสบ"
"ส่วนแม่ก็มีนัดกับเพื่อน ลูกคงต้องอยู่ที่โรงพยาบาลคนเดียว"
คุณหญิงอินอรพูดเสริม
"สบายมากครับคุณแม่"
คลีโอฉีกยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ในเมื่อทางสะดวกแบบนี้เขาก็คงมีโอกาสได้ใกล้ชิดคุณหมอคนสวยคนนั้นอีกล่ะสิ เพียงแค่เห็นใบหน้าแดงที่เรียบขรึมกลับมีอะไรให้น่าค้นหามากมาย
"แล้วก็อย่าคิดทำอะไรแผลงๆล่ะ ถ้างั้นแม่จะโทรฟ้องเจนี่"
คุณหญิงอิอรผู้รู้ทันลูกชายพูดตัดบทความคิดของคลีโอเสียก่อน
หนึ่งวันผ่านไปวัยเหมือนโกหก รุ่งเช้าคุณหมอแพรไพลินตื่นแต่เช้าเพื่อเข้าครัวทำตามคำขอของสองพี่น้อง ที่ทำให้ก็เพราะเครสซี่ต่างหาก หมอแพรบ่นในใจเมื่อนึกถึงสีหน้าของซุปตาร์หนุ่ม ที่เธอไม่อาจรู้สึกได้ว่าในใจลึกๆก็แอบปลื้มเขาอยู่ไม่น้อย มือบอบบางของแพรไพลินเปิดประตูเข้าไปหาคนป่วยที่เรื่องมากที่สุดในโลก และก็ใช่ เขาเห็นหน้าเธอก็ฉีดยิ้มออกมาทันควัน
"ว้าว ผมคิดว่าคุณหมอจะลืมผมแล้วสะอีก"
คลีโอที่นอนดูทีวีอยู่เริ่มแซวตั้งแต่แพรไพลินก้าวเท้าเข้ามาก้าวแรก
"ฉันไม่ลืมหรอกค่ะ แล้วน้องสาวคุณ...."
เมื่อเข้ามาในห้องไม่พบคนที่เธอตั้งใจทำข้าวต้มมาให้ทานคุณหมอจึงถามหา
"เครสซี่ไม่ว่างครับ ไปเรียน"
คลีโอตอบพร้อมใบหน้ายิ้มร้าย
"ค่ะ นี่คะข้าวต้ม ทานเสร็จแล้วทานยาเลยนะคะ ถ้าไม่มีอะไรแล้วฉันขอตัว"
เมื่อปะทะกับสายตาหวานเยิ้มแพรไพลินจึงไม่สามารถอยู่กับเขาเพียงลำพังได้
"ใจร้ายจัง"
ยังไม่ทันที่จะก้าวขาได้ น้ำเสียงน้อยอกน้อยใจก็พุ่งมากระทบหู
"ใจร้าย..."
หมอแพรไพลินหันไปทวนคำพูด ใจร้ายหรือ เธอใจร้ายอะไรกัน
"ก็คุณหมอปล่อยให้ผมอยู่คนเดียว โดยไม่สนใจใยดี แบบนี้เรียกว่าใจร้ายได้หรือปล่าว"
คลีโอเริ่มแสดงละคร
"ฉันปล่อยให้คุณอยู่คนเดียว เมื่อไรกัน"
แพรไพลินผู้ถูกโดนกล่าวหา ถามกลับ
"ตอนนี้ไงครับ คุณหมอกำลังจะเดินจากผมไป ปล่อยให้ผมอยู่คนเดียว"
คลีโอยิ้มกร่าย
"แต่ฉันมีคนไข้คนอื่นต้องดูแล"
แพรไพลินเถียงกลับ อันที่จริงเธอเดินออกไปโดยไม่สนใจคำพูดของเขาเลยก็ได้ แต่เธอเลือกที่จะอยู่ต่อ เพราะอะไรกัน
"โธ่คุณหมอครับ แค่เสียเวลามาป้อนข้าวผมสักหน่อย คงไม่เป็นไรมาก จริงมั้ยครับ"
จากน้ำเสียงขี้เล่นเปลี่ยนผันมาเป็นน้ำเสียงขรึมอย่างเห็นได้ชัด เขาแค่ขอแค่นี้ทำไมต้องเล่นตัวนักหนา ถ้าเป็นคนอื่นคงเสนอตัวให้เขาตั้งแต่แรกแล้ว
"แล้วทำไมฉันต้องป้อนข้าวคุณด้วย"
คุณหมอแพรเริ่มไม่เข้าใจ เขาต้องการอะไรกันแน่
"คุณหมอรู้มั้ยครับ ว่าไม่มีใครกล้าขัดคำสั่งผม"
ร้อยยิ้มที่เริ่มผันเปลี่ยนเป็นยิ้มที่เอาแต่ใจ ทำให้แพรไพลินตกใจไม่น้อย แต่เธอเลือกที่จะเก็บอาการไว้ ที่แท้พ่อซุปตาร์ดังหน้าตาหล่อเหลา เบื้องหลังก็ไม่ต่างอะไรกับซาตาน
"หรอคะ อันนี้ฉันคงยังไม่ทราบ"
แพรไพลินไม่ยอม เธอยิ่งไม่ชอบคนที่เอาแต่ใจอยู่ด้วย แล้วมีเหตุผลอะไรที่เธอต้องสนใจ
"หึหึ หรอครับ งั้นคุณหมอคงยังไม่ทราบว่าผมก็มีหุ้นส่วนในโรงพยาบาลเเห่งนี้เช่นเดียวกัน"
ซุปตาร์หนุ่มประกาศดังลั่น เธอยั่วโมโหเขาด้วยใบหน้าเรียบเฉยที่มาพร้อมกับวาจาอันไม่ค่อยจะเข้าหู แค่อยากให้มาป้อนข้าวแค่นี้ทำเป็นหยิ่งนักน่ะคุณหมอ อยากรู้นักว่าไอ้ปากแข็งๆของคุณหมอจะเเข็งแค่ไหน
"คุณคงจะบอกว่าคุณรวย แล้วมีสิทธิ์ทำอะไรก็ได้"
แพรไพลินยิ้มหยันให้เขาบ้าง เธอก็พอจะรู้มาบ้างว่าเขารวยเป็นอันดับต้นๆของโลก แล้วไงข้าวก็ต้มมาให้กินแล้ว นี่ต้องประเคนถึงปาก อีกจะมากไปแล้วพ่อซุปตาร์บ้าอำนาจ
"ก็คงงั้น แล้วผมก็มีสิทธิ์ทำให้คุณไม่มีงานทำด้วย"
เมื่อพูดจาดีๆหยอดคำหวานๆแล้วแม่คุณไม่ยอมเล่นด้วย คงต้องใช้อำนาจข่มเหงกันบ้าง ก็ช่วยไม่ได้น่ะคุณหมอ ผมก็แค่ตื่นเต้นกับของใหม่ๆกระมัง
"น่ารังเกียจ"
แพรไพลินเชือดเฉือนวาจาด่าอย่างสุภาพ หน้าตาก็ดีแต่นิสัยนี่สิ
"ขอบคุณที่ชมครับ ว่าแต่คุณหมอจะยอมมาป้อนข้าวผมหรือปล่าว ถ้าไม่ยอมผมจะได้โทรบอกคุณ อำพล ว่าคุณหมอแพรไพลินทำหน้าที่ขาดตกบกพร่อง อื้มม คิดดีๆสิครับคุณหมอ"
คลีโอพูดพลางหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา หวังว่าจะขู่แม่ตัวดี อำพล คือ ผอ.ของโรงพยาบาล ถ้าคลีโอโทรไปบอกแบบนั้นจริงๆเธอคงจะตกงาน จากนั้นแพรไพลินจึงถอนหายใจเฮือกใหญ่แล้วยอมเดินเข้ามาป้อนข้าวคนเอาแต่ใจ
"พูดง่ายๆแบบนี้ก็ดีครับ"
คลีโอยิ้มอย่างผู้ชนะ
"ค่ะ ฉันจะถือว่าทำทาน"
เมื่อได้ยินคำว่าทำทาน ผู้ชายซึ้งไร้ความอดทนแบบคลีโอจึงใกล้จะหมดความอดทนในทันที ผู้หญิงอะไรปากร้ายชะมัด
"คุณหมอรู้มั้ยครับ ว่ากำลังเล่นกับใคร"
คลีโอทวนถามอีกครั้ง นี่เป็นสัญญาณเตือนว่าความอดทนเขาใกล้จะหมด
"เด็กน้อยบ้าอำนาจหน่ะสิคะ ถึงได้ใช้อำนาจข่มขู่ให้คนอื่นป้อนข้าวให้"
แพรไพลินตอบกลับแบบประชด ถึงเธอจะเงียบแต่ไม่เคยยอมใคร