บทที่ 8
นาราภัทรมั่นใจว่าตัวเองตะโกนบอกริคคาร์โด้ ทว่าน้ำเสียงที่หลุดออกมากลับกลายเป็นเสียงกระซิบขาดห้วงฟังแทบไม่ได้ศัพท์
เจ้าพ่อหนุ่มเหลือบดวงตาคมกล้าจ้องมองเจ้าของปทุมถันหวานฉ่ำ พอเห็นใบหน้างามแดงซ่าน ดวงตาหวานเยิ้มไปด้วยพิษรัก ก็ลอบยิ้มด้วยความพึงพอใจ รู้ว่าตนเองเป็นคนแรก ที่ได้สัมผัสครอบครองเรียวปากสีกุหลาบ และกำลังจะครอบครองปทุมถันอะร้าอร่ามที่อยู่ตรงหน้าด้วย
“คนอย่างดอนริคคาร์โด้ไม่เคยทำร้ายผู้หญิง”
เจ้าพ่อหนุ่มกระซิบตอบอย่างทะนงตน ริมฝีปากร้อนผะผ่าวเลาะเล็มขบเม้มติ่งหู ก่อนจะไล่เรื่อยลงมาตามสันคาง วกกลับมาบดขยี้จุมพิตบนเรียวปากอิ่มแดงช้ำ ซึ่งเขารับรู้แล้วว่ารสชาติหวานล้ำรัญจวนใจยิ่งนัก
นาราภัทรถูกความวาบหวามกำซ่านเข้าแทรกซึมทั่วเรือนกาย หัวสมองมึนงงหนักอึ้งคิดอะไรไม่ออก นอกจากริมฝีปากร้อนผะผ่าวที่กำลังมอบความกระสั่นซ่าน ปลุกอารมณ์รักที่ซุกซ่อนอยู่ในตัวเธอ ให้ลุกฮือขึ้นมาตามธรรมชาติเรียกร้อง
“ผมอยากเห็นคุณทั้งตัว”
ริคคาร์โด้ผละริมฝีปากออก กระซิบแนบกับร่องปทุมถันเต็งตึง มือใหญ่เอื้อมไปปลดบราเซีย์ผ้าลูกไม้ออกอย่างรวดเร็ว รวมทั้งชั้นในผ้าลูกไม้บางๆ ที่มีผ้าปิดสะโพกผายมนแค่ไม่กี่นิ้ว ถูกกระชากขาดออกจากการปกปิดดอกไม้หวานฉ่ำไว้
“สวย...สวยมาก...”
ดอนริคคาร์โด้ครางออกมาอย่างลืมตัว ดวงตาสีฟ้าคมกริบทอดมองเรือนร่างอรชร หน้าอกอวบอิ่มกลมกลึง ดอกไม้หวานขาวผ่องที่อยู่เบื้องหน้า ตั้งแต่หัวจรดเท้า ความงดงามของนาราภัทร ทำให้เขาแทบลืมหายใจ เลือดในกายทุกหยดเดือดพล่านด้วยความต้องการ ที่แล่นมารวมกันอยู่ตรงแก่นกายแข็งขึงประกาศความใหญ่โตดุนดันกางเกงเนื้อดีจนเขาปวดหนึบไปทั้งตัว
และเมื่อไม่อาจทนให้ผิวกายที่ร้อนผ่าวเสียดสีกับเสื้อผ้าได้อีกต่อไป ริคคาร์โด้จึง
กระชากเสื้อผ้าออกจากกายล่ำสัน ปลดปล่อยกายแข็งขึงให้เป็นอิสระ อวดความใหญ่
โตเร่าร้อนต่อสายตาของนาราภัทร
นาราภัทรไม่เข้าใจว่าตนเองถูกสะกดด้วยสายตาคมกริบ และความใหญ่โตของกายแข็งขึงหรืออย่างไร แทนที่จะเบือนหน้านี้ ดวงตาคู่สวยกลับหลุบมองกายแข็งขึงของมาเฟียร้าย ก่อนจะตวัดปลายลิ้นสีชมพูโลมเลียไปตามเรียวปากของตนเอง โดยไม่รู้เลยว่าการกระทำของเธอ ยิ่งเพิ่มไฟรักในตัวริคคาร์โด้ให้ลุกซ่านแทบทนรอการจมดิ่งอยู่ในกลีบดอกไม้หวานไม่ไหว
“โอ้...นารา...คุณเป็นดาวยั่วตัวฉกาจ”
เขาอยากจับนาราภัทรให้นอนราบไปกับพื้นห้องแล้วร่วมรักกับเธอทันที ลิ้นสีชมพูที่เจ้าตัวเผยอให้เห็น ดวงตากลมโตหวานเยิ้มที่ทอดมองตอบ ทั้งเผยความหวาดกลัว ความตื่นเต้นอยากเรียนรู้ในเพลิงสวาท ส่งให้เขาถูกความปวดหนึบเล่นงานจนคิดอะไรไม่ออก นอกจากเรียวปากสีกุหลาบและเรือนกายหอมกรุ่นที่อยู่ตรงหน้า
เจ้าพ่อหนุ่มบดขยี้ริมฝีปากร้อนรุ่มลงไปบนเรียวปากอิ่ม ปลุกอารมณ์รักของนาราภัทรให้ลุกฮืออีกครั้ง จากนั้นก็ลากลิ้นร้อนๆ ลงมาครอบครองยอดถันสีชมพูที่เขาอยากพรมจุมพิต ดูดกลืนพิสูจน์ความหวานตั้งแต่เห็นยอดถันดุนดันอยู่ในบราเซียร์สีดำแล้ว
“โอ้...นารา...”
ความหวานฉ่ำจากยอดถันสีหวาน ที่แข็งเป็นไตบวมเป่งตอบรับสัมผัสจากปลายลิ้นร้อนๆ ทำเอาริคคาร์โด้ต้องครางออกมาด้วยความถูกใจเป็นที่สุด เจ้าพ่อหนุ่มตวัดปลายลิ้นรัวไล้ทั่วยอดถันสลับกันไปมาทั้งสองข้าง ทั้งขบเม้ม ทั้งดูดกลืนก่อให้เกิดรอยแดงช้ำบริเวณปทุมเต็งตึงทั้งสองข้างในทันที
นาราภัทรร้อนผ่าวตัวแดงไปทั้งตัว เมื่อริมฝีปากและมือร้อนผ่าว สร้างความกระสั่นซ่านให้กับเธอในทุกนาที หญิงสาวครางกระเส่าวาบหวิว ใจเต้นไม่เป็นส่ำ ธรรมชาติของดำฤษณาพร่ำสอนให้หญิงสาวตอบสนองไฟสวาทจากมาเฟียร้ายโดยไม่รู้ตัว
“ดอน...ดอนริคคาร์โด้”
น้ำเสียงสั่นกระเส่าหลุดเรียกชื่อของเจ้าพ่อหนุ่ม พร้อมๆ กับการแอ่นกายเข้าหา
มือใหญ่และริมฝีปากร้อนๆ ที่กำลังเลื่อนต่ำลงมายังหน้าท้องแบนราบของเธอ มือเล็กทั้งสองที่ถูกปล่อยให้เป็นอิสระ ยกขึ้นสอดเข้าไปในกลุ่มผมนุ่มของเจ้าพ่อแห่งเกาะซิซิลี กดศีรษะของอีกฝ่ายให้แนบชิดกับแอ่งสะดือของเธอให้แนบแน่น ราวกับที่กำลังแนบชิดอยู่ยังไม่เพียงพอสำหรับเธอ
ดอนริคคาร์โด้กระตุกยิ้มด้วยความพึงพอใจอย่างยิ่งยวด มือเล็กที่สอดเข้ามาในกลุ่มผม แล้วนวดคลึงอย่างไม่ประสีประสา กำลังทำให้เขาคลั่งด้วยคลื่นแห่งความรัญจวน ซึ่งปะทุเดือดเต็มที่รอเวลาระเบิดดังภูเขาไฟลูกใหญ่
“ผมอยากจูบคุณที่นี่”
ปลายลิ้นร้อนๆ ลากไล้สร้างความหฤหรรษ์ลงมาถึงเนินเนื้อนุ่มยิ่งกว่าแพรไหม ริมฝีปากและจมูกโด่งเป็นสันกดจุมพิตหนักหน่วง ขบเม้มลงไปบนกลีบดอกไม้หวาน ซึ่งเขารู้ดีว่าหวานล้ำสะอาดบริสุทธิ์ผุดผ่องและไม่เคยต้องภมรดอมดมมาก่อนหน้านี้
นาราภัทรสะดุ้งเฮือก เมื่อรับรู้ได้ถึงปลายลิ้นร้อนๆ ไม่ต่างจากเปลวไฟได้โลมไล้ทั่วกลีบดอกไม้หวาน ความร้อนรุ่มของปลายลิ้น ไรเคราที่อยู่แถวๆ สันครางซึ่งสัมผัสกับกลีบดอกไม้หวาน สร้างความหรรษากำซ่านให้กับเธอถึงที่สุด จนไม่อาจกักกั้นเสียงครางลั่นไว้ได้
เสียงครางด้วยความสุขสมของนาราภัทร เป็นตัวเร่งให้ความต้องการของริคคาร์โด้พุ่งสูงมากกว่าเดิม เจ้าพ่อหนุ่มอยากพรมจุมพิตดอกไม้หวานชุ่มฉ่ำด้วยลาวารักให้เนิ่นนานกว่านี้ แต่ก็ไม่อาจทนต่อความปวดหนึบที่แล่นพล่านทั่วทุกเส้นเลือดจนกายเขาสั่นสะท้านไปทั้งตัว
โซฟาหนังสีดำที่ตั้งอยู่กลางห้องดูเหมือนอยู่ไกลเกินไปสำหรับเขา กายแข็งขึงที่ต้องการฝั่งตัวให้จมมิดเข้าไปในกลีบดอกไม้หวาน ไม่อาจทนรอได้อีกต่อไป พื้นห้องทำงานที่ปูด้วยพรมหนานุ่มถูกใช้ไม่ต่างจากเตียงนอน ร่างบางระหงทรุดกายลงไปนอนราบบนพรมหนานุ่มตามแรงบังคับของริคคาร์โด้
ดวงตาคมกริบสีฟ้าทอดมองร่างบางเปล่าเปลือย ที่นอนหอบหายใจรัวเร็วอยู่บน
พื้นพรม เส้นผมยาวนุ่มสลวยยุ่งเหยิงไปด้วยฝีมือของเขา ปทุมถันเต็มตึงนุ่มเนียนมือมี
รอยแดงช้ำเพราะพิษรักไปทั่วบริเวณ รวมทั้งผิวกายขาวผ่องเหนือกลีบดอกไม้หวานด้วย
“สวย...นารา...ผมชอบคุณ”
เจ้าพ่อหนุ่มยอมรับเต็มปากว่า เรือนร่างอรชรที่อยู่ตรงหน้า ทำให้เขาหายใจติดขัดนับครั้งไม่ถ้วน นาราภัทรงดงามยิ่งนัก ปทุมถันอวบอิ่ม กลีบดอกไม้หวานที่เต้นระริกชุ่มฉ่ำเพราะริมฝีปากของเขา ทำให้ใจเขาสั่นสะท้านสะดุดลมหายใจของตัวเอง และเมื่อยื่นมือใหญ่จับปลีน่องเรียวยาวให้แยกออกจากกัน เผยให้เห็นปุ่มของความหฤหรรษ์หรรษาก็ไม่อาจทนได้อีกต่อไป
กายแข็งขึงเร่าร้อนใหญ่ตัว ค่อยๆ ดุดันเข้าไปในความชุ่มฉ่ำ เจ้าพ่อหนุ่มต้องกัดฟันแน่นจนเส้นเลือดปูดโปน เมื่อล่วงล้ำเข้าไปพานพบกับความบริสุทธิ์ผุดผ่องที่ไร้ภมรดอมดม เขารู้ว่านาราภัทรยังไร้ซึ่งประสบการณ์รัก ยังอ่อนหัดกับลำนำรักที่เขากำลังนำพาขับกล่อมอยู่ในขณะนี้ อีกทั้งยังหวั่นว่านาราภัทรจะเจ็บแปลบกับการตอบรับกายแข็งขึงของเขา จึงค่อยๆ มอบกายแข็งขึงเข้าไปในความชุ่มฉ่ำทีละนิด ไม่บุ่มบ่ามตามใจตัวเอง ทั้งๆ ที่ปกติแล้วเขาไม่เคยสนใจความรู้สึกของพวกผู้หญิงมาก่อน
นาราภัทรนิ่วหน้าเพราะความเจ็บแปลบ ขณะกายแข็งขึงใหญ่โตค่อยๆ กดจมดิ่งเข้าสู่ตัวเธอ มือเล็กทั้งสองยกขึ้นจับบ่าแข็งแกร่งหมายจะผลักร่างใหญ่ให้ถอยออกห่าง แต่ก็ถูกริคคาร์โด้กดจุมพิตเร่าร้อนลงมาบนเรียวปากอิ่ม กวาดปลายลิ้นทั่วเรียวปาก ก่อนจะสอดเข้าชอนไชภายใน มอบจุมพิตดูดดื่มดุดัน ทำให้เธอลืมความเจ็บแปลบที่ได้รับอยู่ในขณะนี้
ริคาร์โด้ช่างช่ำชองในเพลิงสวาท รู้ว่าต้องทำเช่นใดให้นาราภัทรลืมความเจ็บปวด พอหญิงสาวขยับกายถอยหนีผลักเขาออก ก็รีบประจบจูบเร่าร้อน มือใหญ่เคล้นคลึงสร้างความกระสั่นซ่านทั่วปทุมถันทั้งสองอีกครั้ง เพื่อให้นาราภัทรลืมมีความเจ็บปวดที่กำลังได้รับ
เมื่อไม่มีปฏิกิริยาต่อต้านใดๆ จากนาราภัทร มีแค่เสียงครางลั่นหลุดออกมาจากเรียวปากอิ่ม ริคคาร์โด้ก็เริ่มขยับกายช้าๆ ส่งความหรรษาเสียวซ่านให้กับนาราภัทรอย่างนุ่มนวล
พอมาเฟียร้ายเริ่มขยับกายโจนจ้วงโรมรันทำนองเพลงสวาท นาราภัทรก็ลืมความเจ็บปวดเสียสิ้น รับรู้ได้แค่ความหวานฉ่ำ เสียวซ่านในทุกวินาทีที่กายแข็งขึงได้โหมกระหน่ำกดกายแข็งขึงให้จมดิ่งดำลึกเข้ามาในกลีบดอกไม้ชุ่มฉ่ำลาวารัก
ริคโค้โรมรัน กระแทกกระทั้น โจนจ้วงกายแข็งขึงเข้าไปจนสุดความใหญ่โต เขาสูดปาก คำรามลั่นในทุกนาทีที่กลีบดอกไม้หวานตอดรัดกายแข็งขึงเขาไว้แน่น กลิ่นเหงื่อ กลิ่นกายสาว ที่หอมกรุ่น เสียงหอบกระเส่าครวญครางดังลั่นเพราะความเสียวซ่านของนาราภัทร เป็นตัวเพิ่มพลังให้เขากดกายเริงระบำรักได้หนักหน่วงและดุดันมากที่สุด
ความกระสั่นซ่าน หฤหรรษ์หรรษาถาโถมเข้าใส่ใกล้ถึงที่สิ้นสุดของความสุข ริคคาร์โด้กดกระแทกกายดุดันหนักหน่วงรัวเร็วอีกหลายครั้ง ส่งให้ตัวเขาและนาราภัทรหวีดเสียงครวญครางลั่น กายกระตุกเกร็ง เพราะความซาบซ่านของความสุขสมในรสรักที่แตกซ่านไปทั่วทุกอณูของร่างกาย พร้อมกันนั้นก็ปลดปล่อยพลังแห่งความหรรษา ให้ธารลาวาแห่งความรักไหลเข้าสู่ตัวนาราภัทร ให้กลีบดอกไม้หวาน กลืนกินลาวารักอันแสนอบอุ่นเข้าไปจนหมดสิ้น พร้อมกับบดขยี้จุมพิตซึมซับเอาเสียงครวญครางกระเส่าจากเรียวปากอิ่ม
“คุณเป็นของผม นารา คุณเป็นของผม”
ดอนริคคาร์โด้กระซิบบอกเสียงทรงอำนาจ เมื่อหลุดปากพูดออกไปแล้ว ก็ต้องแปลกใจตัวเองที่ลั่นวาจาออกมาเช่นนี้ ทั้งๆ ที่ไม่เคยพูดกับผู้หญิงคนไหน อีกทั้งไม่เคยปลดปล่อยให้ลาวาแห่งรัก หลั่งไหลเข้าสู่ตัวของหญิงสาวผู้ใดมาก่อนเลยชั่วชีวิต