บทที่ 7
“นรก!”
ริคคาร์โด้สบถลั่น ใบหน้าถมึงทึง ดวงตาสีฟ้าวาวโรจน์ด้วยดวงไฟลูกใหญ่เพราะความโกรธจัด เกิดมาไม่เคยมีใครกล้าตบหน้าเขามาก่อน และยิ่งเป็นผู้หญิงด้วยยิ่งไม่สามารถทำแบบนี้กับเขาได้
นาราภัทรไม่ได้เตรียมตัวเตรียมใจ ที่จะรับผลจากการกระทำของตัวเอง แต่พอได้ยินเสียงสบถดังลั่นทำลายความเงียบสงัดภายในห้องทำงานใหญ่ กอปรกับร่างใหญ่ล่ำสันกำลังเดินช้าๆ ด้วยท่วงท่าหมายมาดจะซัดเธอให้น่วมตามแบบฉบับของเขา ก็ถึงกับหน้าถอดสีเผือด ถอยกรูดไปข้างหลังทีละก้าว โดยมีร่างใหญ่เดินดาหน้าเข้าใส่ในทุกฝีก้าวเช่นเดียวกัน
“อย่าเข้ามานะ ถอยไป” นาราภัทรตะโกนสั่งเสียงดัง ในใจนั้นภาวนาให้ริคคาร์โด้เชื่อฟัง และทำตามที่เธอสั่งออกไป
แต่! มีหรือเจ้าพ่อผู้หญิ่งใหญ่อย่างเขาจะยอมเชื่อฟัง “เธอกล้ามากแม่นกพิราบน้อย กล้าตบหน้าคนอย่างดอนริคคาร์โด้”
“ฉันจะไม่ตบหน้าคุณ ถ้าคุณไม่ทำร้ายฉันก่อน”
“ผมทำร้ายคุณยังไง แม่นกพิราบน้อย” ริคคาร์โด้ถามเสียงเย็น ยังคงเดินหน้าเข้าใส่ร่างบางระหงที่ถอยร่นไม่เป็นท่า ขณะเดียวกันดวงตาคมกริบยังจับจ้องมองเขม็งไปยังเรียวปากอิ่มที่แดงช้ำเพราะรสจูบของเขา
นาราภัทรร้อนผ่าวไปทั้งตัวกับสายตาที่จ้องมองมายังเรียวปากของเธอ ถึงแม้จะหวาดกลัวคนที่กำลังเดินล่าเธอมากเพียงใด หญิงสาวก็ไม่วายตะคอกใส่เขา
“หยุดเรียกฉันว่านกพิราบน้อยได้แล้ว ฉันไม่ได้เป็นเหมือนที่คุณพูด”
“คุณเอาจดหมายและแหวนหมั้นจากพี่สาวของคุณมาให้ผม ถ้าหน้าที่นี้ไม่เรียกว่าเป็นนกพิราบคาบข่าวมาแจ้งผม แล้วจะให้เรียกว่าอะไร”
“จะเรียกว่าอะไรก็ช่าง แต่ไม่ใช่นกพิราบน้อยเหมือนที่คุณกำลังเรียกอยู่”
“ถ้าไม่ให้เรียกนกพิราบ จะให้ผมเรียกคุณด้วยชื่อไหนดี ให้เรียก นกน้อย ฮันนี่ ยาหยี สวีทฮาร์ท หรือที่รัก”
นาราภัทรขนลุกไปกับชื่อที่ดอนริคคาร์โด้เอ่ยออกมา เพราะฟังดูแล้วราวกับว่าคำเหล่านี้ เป็นคำที่อีกฝ่ายใช้เรียกสาวๆ ในสังกัดของเขา
“ฉันชื่อนาราภัทร จะเรียกว่านาราก็ได้”
“โอเค นารา ชื่อนี้ฟังดูไม่เลว” ริคโค้ยอมเรียกชื่อตามที่นาราภัทรต้องการ ก่อนจะเอ่ยพูดต่อให้เธอต้องร้อนผ่าวไปทั้งใบหน้า เกิดกระแสร้อนวูบไปทั้งตัว
“ผมจะครางเรียกชื่อนารา ตอนที่คุณส่งให้ผมถึงจุดไคลแมกซ์”
“ไอ้บ้า ป่าเถื่อน ถอยไปนะ ฉันแค่ทำหน้าที่มาส่งจดหมายและแหวนหมั้นเฮงซวยวงนี้ให้กับคุณเท่านั้น รับของคุณไปซะ ฉันจะได้กลับบ้านสักที”
ไม่ได้ตะโกนบอกปากเปล่า ทั้งซองจดหมาย ทั้งแหวนหมั้นที่ยังคงถืออยู่ในมือ ถูกขว้างใส่หน้าของดอนริคคาร์โด้และการกระทำของนาราภัทรยิ่งเป็นการเพิ่มความโกรธให้กับเขามากกว่าเดิม
ดอนริคคาโด้ร์เบี่ยงกายหนีเล็กน้อย เพื่อไม่ให้แหวนเพชรที่ถูกขว้างเต็มแรงลอยมาปะทะกับใบหน้าของตน ถูกตบหน้าเต็มแรง เจ้าพ่อหนุ่มก็โกรธจัดมากอยู่แล้ว ยิ่งถูกขว้างแหวนใส่หน้า เจ้าพ่อหนุ่มก็ยิ่งโกรธถึงขั้นปรอทแตก และคราวนี้จะไม่มีการปราณีคนที่ถูกต้อนไปจนมุมอยู่มุมห้องแล้ว
“ทั้งตบหน้า ทั้งขว้างแหวนใส่หน้าผม ถ้าหากไม่ถูกสั่งสอนให้หลาบจำ ก็อย่าเรียกผมว่าดอนริคคาร์โด้อีกเลย”
“กรี๊ดด อย่าเข้ามานะ”
นาราภัทรหวีดร้องเสียงหลง เมื่อริคคาร์โด้พุ่งเข้ามาตะครุบตัวเธอไว้ หญิงสาวไม่รู้ว่าตนเองถูกเจ้าพ่อหนุ่มหลอกต้อนให้เดินมาอยู่ตรงมุมห้องตั้งแต่เมื่อไร พอร่างใหญ่ล่ำสันพุ่งเข้าหา ก็ไม่มีทางหลบหนีออกไปได้
“ปล่อยฉันนะไอ้บ้ากาม ไอ้คนกักขฬะ”
เจ้าของร่างบางระหงที่ถูกต้นแขนแข็งแกร่งล็อกตัวไว้แน่น ได้ตะโกนพรุสวาท ดิ้นรนกางเล็บทั้งสิบข่วนไปตามใบหน้า ลำคอ และแผงอกกว้างของดอนริคคาร์โด้เท่าที่เธอจะสามารถทำร้ายอีกฝ่ายได้
“ผมยอมรับเต็มปากเลยนารา ว่าผมเป็นไอ้พวกบ้ากาม แต่ผมกระหายเซ็กส์กับคนปากจัด และไร้มารยาทกับคนอย่างคุณเท่านั้น และตอนนี้ผมก็อยากสั่งสอนคุณเต็มทน ที่บังอาจเสียมารยาทกับดอนริคคาร์โด้ถึงสองครั้งสองคราด้วยกัน”
“ปล่อยฉัน ถ้าแกทำอะไรฉัน...ฉันสาบานว่าจะฆ่าแกให้ตาย”
“ผมยอมตาย ยอมเอาคอไปฟาดบนหลักประหารให้คุณจัดการได้เต็มที่ แต่ก่อนตาย ผมขอสั่งสอนคุณให้ร้องคราง ด้วยฝีมือของคนบ้ากามอย่างผมสักสองสามครั้งก่อน”
“ปล่อย...” นาราภัทรตะโกนสั่งได้เพียงเท่านั้น ถ้อยคำที่เหลือขาดหายไปในลำคอ เมื่อริมฝีปากร้อนผะผ่าวกดกระแทกจุมพิตลงมาอย่างดุดันจาบจ้วงต้องการสั่งสอนคนที่อวดดีกับเขา
ดอนริคคาร์โด้บดขยี้ริมฝีปากลงไปบนเรียวปากอิ่มอย่างไร้ความปราณี ต้องการสั่งสอนให้นาราภัทรรู้ถึงบทลงทัณฑ์ที่เขาตั้งใจจะลงโทษเธอตามวิธีที่เขาถนัด
ปลายลิ้นร้อนๆ พยายามสอดเข้าไปในโพรงปากหวาน แต่ก็เจอปราการป้องกันจากเรียวปากอิ่มที่ขบเม้มไว้แน่น ไม่ยอมให้ลิ้นร้อนๆ รุกรานเข้าไปสำรวจความหวานฉ่ำ
แต่ไม่ใช่ปัญหาใหญ่สำหรับคนที่ช่ำชองในเพลิงสวาทเช่นริคคาร์โด้ เมื่อนาราภัทรไม่เปิดทางสะดวกให้ เจ้าพ่อหนุ่มก็วาดปลายลิ้นไปตามเรียวปากอิ่ม ก่อนจะดูดขบเม้มเบาๆ สลับหนักหน่วง
และขณะริมฝีปากร้อนรุ่มกำลังหยอกเอินหลอกล่อให้นาราภัทรเปิดเรียวปากให้กับตนเอง มือใหญ่ทั้งสองก็ยกขึ้นนวดเคล้นคลึงทั่วขมับเล็กให้นาราภัทรเคลิบเคลิ้มไปกับสัมผัสจากมือใหญ่ จากนั้นก็เลื่อนมือทั้งสองข้าง ลงมานวดตามลำคอระหง แล้วปลดอาภรณ์ออกจากร่างบางระหง คงเหลือไว้แค่เพียงบราเซียร์สีดำสนิทที่ตัดกับผิวยองใยขาวผ่องชวนพิศไปทั้งตัว
“สวย...เธอเป็นเทพีวีนัสกลับชาติมาเกิดใช่ไหม”
ดอนริคคาร์โด้ยอมผละริมฝีปากออกจากเรียวปากอิ่ม เพื่อทอดสายตาคมกริบจ้องมองทั่วเรือนร่างอรชรภายใต้ชุดชั้นในสีดำ ยั่วอารมณ์รักของเขาให้ร้อนฉ่า
“ผมอยากลูบไล้ อยากฝากรอยจูบให้ทั่วเรือนร่างของคุณ”
มือใหญ่ตอบสนองความคิดของผู้เป็นเจ้าของ เริ่มวาดปลายนิ้วลงมาตามลำคอระหงบีบนวดเฟ้นหนักเบา ปลุกให้อารมณ์รักในตัวของนาราภัทรเดือดขึ้นมาทีละองศา
“ปล่อยฉัน”
นาราภัทรครางประท้วง สั่งตัวเองให้ดิ้นรนเพื่อหาความเป็นอิสระจากมือใหญ่และริมฝีปากร้อนรุ่ม มือเล็กทั้งสองยกขึ้นเตรียมจะผลักร่างล่ำสันให้ถอยออกห่าง แต่เจ้าพ่อหนุ่มรู้ตัวอยู่ก่อนแล้ว จึงรวบมือเล็กทั้งสองจับไปไพล่หลังดันร่างอรชรกึ่งเปลือยให้แอ่นอกเข้าหาตัวเองมากยิ่งขึ้น
“ผมต้องการจูบคุณ”
ดอนริคคาร์โด้กระซิบอย่างเอาแต่ใจตนเป็นใหญ่ พอนาราภัทรเผลอตัว เผยอปากออกเพียงเล็กน้อย ก็ผนึกเรียวปากอิ่มไว้แน่นด้วยริมฝีปากร้อนผะผ่าวของตนเอง ปลายลิ้นร้อนๆ เข้าไปชอนไชตักตวงความหวานฉ่ำจากเรียวปากอิ่ม ที่กำลังทำให้เขาหลงใหลความหวานจากเรียวปากคู่นี้
ขณะริมฝีปากร้อนรุ่มบดจุมพิตดูดดื่ม ตักตวงความหวาน มือใหญ่อีกข้าง ก็เลื่อนลงมายังปทุมงามสล้างเคล้นคลึงหนักหน่วงด้วยท่วงทำนองสวาท ที่ส่งให้นาราภัทรต้องหลุดเสียงครางกระเส่าสร้างความพึงพอใจให้กับเจ้าพ่อหนุ่มเป็นที่สุด
มอบความกระสั่นซ่านแค่ด้วยฝ่ามือใหญ่ยังไม่เพียงพอสำหรับเขา ริมฝีปากร้อนผะผ่าวลากปลายลิ้นร้อนๆ ลามเลียลงมาตามลำคอ ผ่านถึงร่องปทุมถันที่ยังคงถูกประคับประคองไว้ด้วยบราเซียร์ผ้าลูกไม้สีดำ ลิ้นร้อนรุ่มโลมเลียไปตามขอบบราเซียร์ ริมฝีปากร้อนผะผ่าวขบเม้มทั่วเนินเนื้อขาวผ่องที่โผล่พ้นชุดชั้นใน ล่อตาล่อใจให้เขาพรมจุมพิตสร้างความกระสั่นซ่านให้กับผู้เป็นเจ้าของ
“หยุด...ได้โปรด...อย่าทำร้ายฉัน”