บทที่ 9
ไม่มีน้ำตาให้กับสิ่งที่สูญเสียไป คงมีแค่เพียงความสมเพช สมหน้าตัวเองที่ดันเผลอไผลไปกับเพลิงสวาท ทอดกายให้มาเฟียตัวร้ายนั่นตักตวงความสุขโดยไม่คิดปัดป้อง ซ้ำร้าย! ยังตอบสนองจังหวะรักอันเร่าร้อนในทุกครั้งที่ถูกเจ้าพ่อหนุ่มผู้นี้กระซิบสั่งด้วย
เมื่อถูกปล่อยให้เป็นอิสระจากร่างใหญ่ล่ำสัน ที่ถอนกายออกจากความชุ่มฉ่ำของกลีบดอกไม้หวาน แล้วหยิบกางเกงมาสวมแค่เพียงตัวเดียว ยังคงเปิดเปลือยแผงอกกว้างเต็มไปด้วยมัดกล้ามให้เห็น นาราภัทรก็รีบขยับกายไปคว้าชุดของตัวเองมาสวมเช่นเดียวกัน
แต่นาราก็ยังช้ากว่าดอนริคคาร์โด้ที่คว้าเสื้อผ้าของเธอ รวมทั้งชั้นในผ้าลูกไม้ทั้งสองชิ้นมาถือไว้ในมือ ใบหน้าคมเข้มกระตุกยิ้มเยาะ ขณะออกคำสั่งด้วยความเคยชิน
“ไม่ต้องใส่ ผมขี้เกียจปอกเปลือกคุณอีกรอบ”
“เอาเสื้อผ้าของฉันคืนมา”
นาราภัทรเกิดอาการลืมตัว ถลาเข้าใส่เจ้าพ่อหนุ่ม มือเล็กพยายามคว้าเสื้อผ้ากลับคืนมาให้ได้ และการถลาไปเช่นนั้น ก็เข้าทางของริคคาร์โด้ที่ตั้งใจหลอกล่อให้เรือนร่างอรชรเปล่าเปลือยของนาราภัทรทาบทับลงมาบนเรือนกายของตน
เสื้อผ้าในมือใหญ่ ถูกขว้างทิ้งไปอีกทาง ไกลเกินกว่านาราภัทรจะเอื้อมไปคว้ามาได้ อีกทั้งเขาก็คงไม่ปล่อยให้นาราภัทรทำเช่นนั้นได้ พอร่างเปลือยทาบทับลงมาบนตัวเขา ก็สวมกอดไว้มั่น กระซิบตอบชิดกับใบหูเล็กให้เจ้าตัวต้องขนลุกซู่
“ก็บอกแล้วว่าไม่ต้องใส่ ผมไม่อยากเสียเวลาจับคุณถอดเสื้อผ้าอีก”
น้ำเสียงห้าวทุ้มที่ดังอยู่ใกล้กับใบหู ลมหายใจอุ่นๆ หอมสะอาด ที่เป่ารินพวงแก้ม ตามด้วยริมฝีปากร้อนผะผ่าว ที่ขบเม้มตรงติ่งหู ทำเอานาราภัทรขนลุกซู่สะท้านเยือกไปกับการถูกปลุกเร้าเพลิงรักอีกหน
“คนเลว ปล่อยฉันนะ”
มือเล็กทั้งสองข้าง ทั้งทุบทั้งข่วนไปตามใบหน้าคมเข้มและแผงอกกว้างของเจ้าพ่อหนุ่ม แต่นาราภัทรก็ทำร้ายคนตรงหน้าได้ไม่นาน พอรำคาญหนักเข้า ดอนริคคาร์โด้ก็พลิกร่างบางเปล่าเปลือยให้นอนราบลงไปบนพื้นพรมหนานุ่ม ดันกายขึ้นทาบทับร่างอรชรไว้อีกครั้ง
“เลิกข่วนตามตัวผมได้แล้ว นารา” เจ้าพ่อหนุ่มเค้นเสียงสั่งห้าม ก่อนจะยั่วให้นาราภัทรต้องอายหน้าแดงร้อนผ่าวไปทั้งตัว
“เก็บแรงไว้ข่วน ตอนผมพาคุณขึ้นสวรรค์ดีไหม”
“ไอ้บ้า คนมักมาก ตัณหากลับ...”
“สิ่งที่คุณด่าผม มันเกิดจากการกระทำของคุณทั้งหมด นารา ผมไม่เคยต้องการผู้หญิงคนไหนเป็นครั้งที่สอง ไม่เคยมีอาการบ้าตัณหาอยากร่วมรักเป็นครั้งที่สองและสามภายในคืนเดียว เหมือนที่กำลังเกิดกับคุณในขณะนี้” ดอนริคคาร์โด้โต้กลับก่อนนาราภัทรจะทันด่าจบ
แน่นอน! เจ้าพ่อหนุ่มที่ทั้งหล่อคมเข้ม ร่ำรวยและมีอิทธิพลที่สุดในเกาะซิซิลี ไม่จำเป็นต้องใช้ผู้หญิงซ้ำหน้ากัน ไม่จำเป็นต้องสนใจว่าคู่ขาที่ถูกเรียกให้มาบำเรอปลดความใคร่ให้กับเขา จะสุขสมอิ่มเอิบไปกับไฟรักที่มีร่วมกันหรือไม่ พวกเธอมีหน้าที่บริการให้ความสุข แลกกับเงินจำนวนมากที่จะได้รับกลับไป ไม่ใช่หน้าที่ของเขาที่จะต้องสนใจว่าผู้หญิงพวกนั้นจะเสร็จสมมีความสุขหรือเปล่า
และไม่เคยมีใครทำให้อยากร่วมรักกับพวกเธอเป็นครั้งที่สอง สาม หรือตลอดทั้งคืน ที่สำคัญไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนที่ทำให้เจ้าพ่ออย่างเขาลืมตัวปลดปล่อยลาวาอุ่น เข้าสู่กายเธอจนหมดสิ้น เหมือนที่เขาเผลอตัวทำกับนาราภัทร
เมื่อตระหนักในประโยคหลัง หัวสมองอันเฉียบแหลมก็เพิ่งนึกขึ้นได้ ร่างใหญ่ล่ำสันก็ผุดลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว พร้อมกับสบถลั่นอย่างหัวเสีย ทำเอานาราภัทรตกใจหน้าถอดสีซีดในทันที
“บัดซบ! โธ่เว้ย! ลืมตัวได้ยังไง”
ดอนริคคาร์โด้สบถเสียงดังก้องห้องทำงาน ยกมือเสยผมให้ยุ่งไปหมด ร่างใหญ่เดินไปเดินมาไม่ต่างจากราชสีห์ติดจั่น
นาราภัทรงุนงงกับอาการของเจ้าพ่อหนุ่ม ที่จู่ๆ ก็ลุกพรวด สบถลั่น ตีหน้าบึ้ง ขึงตาวาววับราวกับโกรธใครมาสักสิบปี อีกทั้งยังงุนงงกับคำสบถในตอนท้ายของอีกฝ่ายด้วย
แต่ไม่ว่าจะงุนงงกับอาการแปลกๆ ของเขามากเพียงใด หญิงสาวก็ไม่ปล่อยให้โอกาสผ่านไปง่ายๆ ขณะเจ้าพ่อหนุ่มเดินไปเดินมาด้วยความหงุดหงิด ก็รีบพุ่งตัวไปคว้าเสื้อผ้ามาถือไว้ ทว่าไม่ทันได้สวมเข้ากับลำตัว ก็มีอันต้องตกใจอีกครั้งกับเสียงที่กระชากถามใกล้ๆ ตัวเธอ
“คุณกินยาคุมหรือเปล่า”
“อะ...อะไรนะ”
นาราภัทรถามเสียงตะกุกตะกัก ใบหน้างามที่ยังคงแดงซ่าน ดวงตากลมโตทั้งคู่ เผยความงุนงงให้เห็น ไม่เข้าใจในคำถามของดอนริคคาร์โด้
“ผมถามว่าคุณกินยาคุมหรือเปล่า” เขากระชากเสียงถามอีกครั้ง
“กินยาคุม?”
คราวนี้นาราภัทรเลิกคิ้ว ทวนคำเสียงสูง พอเริ่มเข้าใจว่าริคคาร์โด้หมายถึงอะไร ก็ถึงกับโกรธจัด ขว้างเสื้อที่อยู่ในมือใส่อีกฝ่ายในทันที เพียงเท่านั้นยังไม่พอ ร่างบางเปล่าเปลือยกระโจนเข้าใส่กายล่ำสันไม่ต่างจากนางเสือที่กำลังโกรธจวนคลั่ง
“สารเลว ถามมาได้ยังไงว่ากินยาคุมหรือเปล่า คุณก็รู้ว่าฉันไม่เคย...”
น้ำเสียงในตอนท้ายขาดห้วงหายไปในลำคอ ใบหน้างามแดงซ่าน ทั้งโกรธและอายที่ถูกดอนริคคาร์โด้เอ่ยถามเช่นนี้ ซึ่งคำถามของเจ้าพ่อหนุ่มนั้นไม่ต่างจากการตบใบหน้าของเธอให้ชาไปทั้งแถบ
“ใช่ ผมรู้ว่าคุณไม่เคยผ่านมือใครมาก่อน” ริคคาร์โด้รับคำเสียงแข็ง
“แล้วคุณถามฉันทำไม”
นาราภัทรตะคอกกลับหน้าดำหน้าแดง ยกมือตบไปตามลำคอและใบหน้าหล่อๆ ของเจ้าพ่อหนุ่มเท่าที่เธอจะระบายความโกรธกับเขาได้
ดอนริคคาร์โด้จับมือเล็กทั้งสองยึดไว้แน่น ใช้มืออีกข้างโอบกอดรัดร่างบางระหงให้แนบมากับลำตัว ทำให้นาราภัทรสงบด้วยการล็อกแขนและตัวเธอไว้กับกายกึ่งเปลือยของตัวเอง สีหน้าเต็มไปด้วยความหงุดหงิด ซึ่งหาใช่เพราะหงุดหงิดในตัวนาราภัทรไม่ แต่หงุดหงิดตัวเองที่ดันลืมตัวหลั่งลาวารักเข้าสู่ตัวนาราภัทรไม่พอ ยังถามหญิงสาวว่าเคยกินยาคุมกำเนิดหรือเปล่า ทั้งๆ ในใจนั้นรู้ดีว่านาราภัทรนั้นสะอาดบริสุทธิ์และมีเขาเป็นผู้ชายคนแรกของเธอ และจะเป็นคนเดียวของเธอด้วย
“ก็ถามเพื่อความมั่นใจเท่านั้น ว่าคุณไม่ได้ย้อมแมวขายเหมือนผู้หญิงคนอื่นๆ”
เจ้าพ่อหนุ่มเจอกับตัวมานักต่อนักแล้ว ปากก็บอกป่าวๆ เสแสร้งว่าตนเองเป็นสาวบริสุทธิ์ผุดผ่อง แต่ก็ไม่มีใครสามารถหลอกดอนริคคาร์โด้ได้แม้แต่คนเดียว
“ฉันไม่เหมือนผู้หญิงทุกคนที่คุณเจอมา และจะไม่มีวันเหมือนพวกเธอด้วย” นาราภัทรตะโกนตอบ ร่างบางเปล่าเปลือยยังคงถูกมาเฟียร้ายสวมกอดไว้แน่น
“แน่นอน ผมรู้ว่าคุณไม่เหมือนใคร” ดอนริคคาร์โด้รับคำ ก่อนจะกระซิบชิดกับใบหูเล็กให้นาราภัทรต้องร้อนผ่าวไปทั้งตัว
“ไม่เคยมีใครทำให้ผมอยากจูบ อยากร่วมรักด้วยในทุกนาที ไม่เคยมีใครทำให้ผมอยากร่วมรักด้วยเป็นครั้งที่สองสาม ภายในไม่กี่นาทีหลังจากที่เพิ่งผ่านยกแรกไปหมาดๆ”
‘และไม่เคยมีใครทำให้ผมลืมตัว จนกระทั่งปล่อยความสุขสมให้เข้าไปอยู่ในตัวคุณทั้งหมด’
ดอนริคคาร์โด้เอ่ยตอบประโยคท้ายอยู่ในใจ จากนั้นก็อุ้มร่างบางระหงไว้ในอ้อมแขน โดยไม่สนใจอาการดิ้นรนของนาราภัทร
“ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ จะพาฉันไปไหน”
หญิงสาวตกใจหน้าซีดเผือด เมื่อถูกอุ้มไว้ในอ้อมแขนแข็งแกร่ง จากนั้นเจ้าพ่อหนุ่มก็ก้าวเดินตรงไปที่ประตูห้องทำงาน
เขาไม่ตอบคำถามของคนในอ้อมแขน พอเดินตรงไปถึงประตูห้องได้ ก็ใช้เท้าถีบประตูให้เปิดออกกว้าง ก้าวเดินดุ่มๆ ออกจากห้องทำงานในทันที
“ไอ้บ้า ปล่อยฉันนะ” นาราภัทรอายตัวแดงซ่านกับการถูกอุ้มออกมาจากห้องทำงาน โดยไม่มีเสื้อผ้าติดตัวแม้แต่ชิ้นเดียว
ดอนริคคาร์โด้กระตุกยิ้มอยู่ตรงมุมปาก ขณะหลุบสายตามองนาราภัทรที่พยายามทำตัวลีบอยู่ในอ้อมแขนของเขา
“ไม่ต้องอายหรอกนารา ลูกน้องของผมไม่มีนิสัยสอดรู้สอดเห็น อีกอย่างพวกเขาไม่กล้ามองผู้หญิงของดอนริคคาร์โด้อย่างแน่นอน”
เจ้าพ่อหนุ่มกล้าพูดได้เต็มปากเต็มคำว่านาราภัทรเป็นผู้หญิงของเขา และแน่นอนว่าหากเผอิญมาเห็นเขากำลังอุ้มนาราภัทรซึ่งเปล่าเปลือยไปทั้งตัว ลูกน้องของเขาไม่มีทางกล้ามองนาราภัทรแม้แต่วินาทีเดียว
คำปลอบของมาเฟียร้ายไม่ได้ทำให้นาราภัทรรู้สึกดีขึ้น หญิงสาวยอมขายวิญญาณให้กับเจ้าพ่อหนุ่ม ด้วยการซุกหน้าลงกับแผงอกกว้าง หลับตาแน่น อายเกินกว่าจะสู้หน้าเขาได้
เมื่ออุ้มนาราภัทรเข้ามาในห้องนอนใหญ่ได้แล้ว ริคคาร์โด้ก็โยนร่างเล็กอย่างไม่ปราณีปราศรัยลงไปนอนอยู่กลางเตียงใหญ่ ที่ส่งให้นาราภัทรดูเล็กถนัดตา เมื่อตกมานอนแผ่อยู่กลางเตียงหนานุ่ม
“ไอ้บ้า ฉันเจ็บนะ” นาราภัทรตะโกนด่าหน้าดำหน้าแดง คว้าหมอนใบใหญ่ได้ก็ขว้างใส่เจ้าพ่อหนุ่มด้วยความโกรธจัด
“รอผมอยู่ในห้องนี้นะนารา แล้วผมจะกลับมาคุยเรื่องพี่สาวของคุณต่อ”
ดอนริคคาร์โด้สั่งเสียงห้วนๆ คว้าเสื้อเชิ้ตสีดำในตู้เสื้อผ้ามาสวมลวกๆ ก่อนจะเดินเร็วๆ ออกไปจากห้องนอน และด้วยรู้ดีว่านางแมวป่าอย่างนาราภัทรต้องหาทางออกไปจากห้องนอนของเขาอย่างแน่นอน จึงจัดการล็อกห้องจากด้านนอก ขังหญิงสาวให้เป็นนกน้อยในกรงทองชั่วขณะ
ทางด้านของนาราภัทร พอร่างใหญ่ล่ำสันเดินออกไปจากห้องแล้ว เธอจึงวิ่งตรงไปยังประตูห้อง แต่พอจับลูกบิด ก็รู้ว่าถูกล็อกจากด้านนอก จึงตะโกนพรุสวาทใส่เจ้าของห้องด้วยความโมโหจัด
“ริคคาร์โด้ คนสารเลว เปิดประตูให้ฉันเดี๋ยวนี้”