บท
ตั้งค่า

ขยี้ครั้งที่ 10 - ผู้มีพระคุณ

“พี่แอนนา”

ในที่สุดจิรัชญาก็หนีหน้าคนที่ตัวเองจงใจไม่รับสายทั้งวันไม่พ้น ผู้จัดการที่เปรียบเสมือนพี่สาวแท้ ๆ นั่งกอดอกอยู่บนโซฟากลางเพนท์เฮ้าส์ ใบหน้าของหล่อนบึ้งตึง แอนนาเหลือบมองน้องเล็กน้อย ก่อนจะหันหน้าไปทางอื่นด้วยความโกรธ

ครั้งนี้เธอโกรธน้องจีจริง ๆ

“จีขอโทษนะคะ”

ร่างบอบบางขยับเข้าไปโอบกอดร่างที่สูงใหญ่กว่าตัวเองอย่างลุแก่โทษ แอนนาเป็นผู้หญิงข้ามเพศที่แปลงเพศแล้ว แต่เพราะโครงร่างใหญ่แบบผู้ชายมาตั้งแต่กำเนิด ทำให้เธอตัวสูงและหนากว่าจิรัชญาพอสมควร

แต่ตอนนี้พี่สาวตัวโตกำลังน้อยใจน้องสาวตัวเล็กมาก ๆ น้อยใจจนไม่ยอมหันมาคุยด้วยเลย จิรัชญาเลยต้องงัดลูกอ้อนที่มีออกมาใช้ทั้งหมด

“พี่แอนนาขา พี่แอนนาคนสวย”

“ไม่ต้องมาทำเสียงแบบนั้นเลยค่ะ ครั้งนี้พี่โกรธน้องจีจริง ๆ”

“แต่จีมีเหตุผลนะคะ” หญิงสาวแย้งเสียงอ่อย “จีแค่ไปหาตัวต้นเรื่องที่ปล่อยคลิปมา...”

แอนนาหันขวับ เธอรีบสำรวจร่างกายน้องว่ามีตรงไหนบุบสลายหรือเปล่า พอเห็นว่าทุกอย่างปกติดีก็โล่งใจ

“พี่แอนนาเป็นห่วงจีเหรอคะ”

“ไม่ห่วงหรอกค่ะ น้องจีเก่งออกขนาดนั้น” ประชดไปหนึ่งที ก่อนจะเชิดหน้าไปอีกทางเพราะไม่ยอมหายงอนง่าย ๆ

“เพื่อนเก่าจีเป็นคนปล่อยคลิปนั้นเองค่ะ ซินดี้”

“ซินดี้? ยัยนางแบบปลายแถวนั่นน่ะเหรอคะ?” แอนนาหันกลับมาถามน้องเพื่อความแน่ใจ ดวงตาลุกวาวเมื่อน้องจีพยักหน้ารับ “นั่งเด็กนั่น! พี่จะจัดการมันเอง”

“ไม่ต้องหรอกค่ะ”

“น้องจี! จะใจดีกับคนที่ทำร้ายตัวเองอีกแล้วเหรอคะ?”

“จีไม่ได้ใจดี เกือบตบซินดี้ไปแล้วด้วยซ้ำ แต่ว่า...” ท้ายประโยคจบลงแค่นั้น เพราะจิรัชญาเผลอนึกถึงคนที่เข้ามารับตบนั้นไปเต็ม ๆ ก่อนลงจากรถเธอเห็นรอยนิ้วมือของตัวเองบนแก้มขาวด้วย ตบไปซะเต็มแรงขนาดนั้น แต่กลับไม่ได้ขอโทษเขาสักคำ

เธอรู้สึกผิด ไม่รู้ว่าจะได้เจอกันอีกไหม แต่ถ้ามีโอกาสได้เจอกันครั้งหน้าเธอจะต้องขอโทษเขาให้ได้

“แต่ว่าอะไรคะ?”

“ซินดี้คิดว่าจีแย่งทุกอย่างของเธอไป ชุดเมื่อคืนที่จีสวมก็เป็นของเธอ เธอคงแค้นน่ะค่ะเลยทำแบบนี้”

“แต่ชุดนั่นน้องจีไม่เกี่ยวเลยนะคะ ดีไซน์เนอร์เป็นคนให้น้องจีใส่เองแท้ ๆ ไม่เห็นเขาบอกว่าเป็นชุดของใคร แล้วยัยคนนั้นจะมาแค้นน้องจีได้ยังไง? พี่ไม่ยอมค่ะ! พี่จะไปจัดการให้ซินดี้ออกมาขอโทษน้องจีเอง”

“ช่างเถอะค่ะพี่แอนนา จีถือว่าจีชดใช้ให้แล้ว หลังจากนี้เราไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีก จีอยากให้เรื่องมันจบลงแค่นี้ค่ะ”

“น้องจี!!” แอนนาโวย แค่เรื่องชุดงี่เง่านั่นกับชื่อเสียงน้องจีมันแทนกันได้ที่ไหน

จิรัชญาถอนหายใจเฮือกใหญ่ เธอไม่ได้เป็นแม่พระจนยอมปล่อยคนที่ทำร้ายตัวเองไปง่าย ๆ แต่เพราะเรื่องนี้เธอเองก็มีส่วนผิด ไม่ว่าจะเมื่อก่อนหรือตอนนี้ ถ้าเธอใส่ใจความรู้สึกของเพื่อนบ้างเรื่องมันคงไม่เป็นแบบนี้

“แต่พี่แอนนาไม่ต้องกังวลนะคะ เพราะถ้าหลังจากนี้ยังกัดกันไม่ปล่อย...จีไม่ยอมอีกแน่ ๆ ค่ะ”

แค่ครั้งนี้ครั้งเดียวเท่านั้นที่จิรัชญาจะยอม นางร้ายที่ร้ายทั้งในจอและนอกจออย่างเธอ ไม่ยอมให้ชื่อเสีย(ง)ที่สะสมมานานหายไปเด็ดขาด ถือว่าครั้งนี้เธอชดใช้ให้หมดแล้ว แต่ถ้ายังไม่หยุด...ก็จะได้เห็นดีกัน เพราะเธอคือนางร้าย ไม่ใช่นางเอก เธอไม่ยอมถูกกระทำฝ่ายเดียวแน่ ๆ

“ส่วนเรื่องข่าว จีขอปรึกษากับพี่นนท์ก่อนนะคะ ถ้าทางนั้นอยากให้จีออกมาแก้ข่าวจีก็จะทำ แต่ถ้าไม่...จีก็จะปล่อยมันไป อีกไม่นานคนก็ลืม ข่าวไม่มีมูลพวกนี้ทำอะไรจีไม่ได้หรอกค่ะ ก็เหมือนกับเฟคนิวส์ที่จีเคยเจอมาตลอดนั่นแหละ”

“แต่พี่ว่าครั้งนี้น้องจีคิดผิดนะคะ” แอนนาถอนหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนจะยื่นมือถือของตัวเองให้น้องสาวดู “น้องจีคงไม่ได้เข้าโซเชียลเลยสินะคะ ถึงไม่รู้ว่าตอนนี้เรื่องมันลุกลามใหญ่โตขนาดไหนแล้ว”

จิรัชญาขมวดคิ้วด้วยความไม่เข้าใจ ก่อนจะรับมือถือเครื่องหรูมาเลื่อนอ่านข้อความในนั้น แค่วันเดียวมีคนพูดถึงเธอเป็นแสน ๆ ส่วนใหญ่เป็นข้อความสาปแช่งด่าทอ มีบางส่วนที่ออกมาปกป้อง และมีคนอีกจำนวนไม่น้อยเลยที่ออกมาพูดถึงเรื่องที่ไม่เคยเกิดขึ้นจริง และข้อความพวกนั้นก็ถูกส่งต่อไปเป็นหมื่น ๆ ครั้ง โดยที่ไม่มีใครคิดจะสืบหาความจริงเลย

“มีคนปั่นเฟคนิวส์น้องจีเต็มไปหมดเลยค่ะ ออกมาพร้อม ๆ กันจนน่าสงสัย เหมือนมีคนส่งมา”

‘คอนเฟิร์ม คนนี้นิสัยแบบนี้จริง ๆ ชอบแย่งของชาวบ้าน ถ้ารู้ว่าผู้ชายคนไหนมีแฟนจะรีบเสนอตัวให้ทันที เพื่อนของเพื่อนฉันก็โดนนางแย่งแฟนไปจ้า’

‘สมัยเรียนก็ใช่ย่อยนะแก ได้ข่าวว่าแตกกับเพื่อนเพราะไปอ่อยแฟนเพื่อนด้วย’

‘คนนี้แรงจริง ผู้หญิงด้วยกันดูออกหมดแหละ มีแต่พวกผู้ชายหวังกินของฟรีที่หลับหูหลับตาเชื่อว่าหล่อนสูงส่ง’

‘ฉันเห็นชีคนนี้ไปบาร์เป็นประจำ ไปทีไรก็หิ้วหนุ่มกลับไปด้วยทุกที ไม่รู้ว่าคันอะไรขนาดนั้น’

‘ชีป่วยปะ เป็นโรคขาดผู้ชายไม่ได้ ยิ่งคนไหนมีเจ้าของยิ่งอยากแย่ง น่ากลัวนะคนแบบนี้’

‘แล้วสวยขนาดนั้น อ้าขาให้ทำไมผู้ชายจะไม่เอา ของฟรีใครก็อยากได้’

‘ได้ข่าวว่าที่เลิกกับแฟนบ่อย เพราะชีคันมากจนนอกกายแฟนไปนอนกับคนอื่นบ่อย ๆ ไม่มีใครทนได้ก็เลยเลิก’

‘ฉันเคยโดนนางแย่งแฟนมากับตัว บอกเลยว่าคนนี้ด้านกว่าที่คิด สงสารปู่นางอะ มีหลานสาวแบบนี้คงตรอมใจ รวยแค่ไหนก็ทำอะไรไม่ได้ ของแบบนี้มันอยู่ที่สันดานและความคัน’

“พอเถอะค่ะ ไม่ต้องอ่านแล้ว”

แอนนาดึงมือถือคืน เธอมองใบหน้าที่นิ่งสงบของน้องจีด้วยสายตาเป็นห่วง เริ่มรู้สึกผิดที่ให้น้องอ่านข้อความพวกนี้

แอนนาแค่อยากให้จิรัชญารู้ว่าครั้งนี้มันไม่ง่ายเหมือนครั้งก่อน ๆ และน้องจีต้องออกมาปกป้องตัวเอง...เพื่อตัวเอง

เธอไม่อยากให้น้องจีทนอีกแล้ว

“โฆษณาหลายแบรนด์กำลังเร่งประชุมกันว่าจะปลดน้องจีออก ผู้จัดละครก็มีท่าทีไม่ค่อยดี งานอาทิตย์หน้าถูกแคนเซิลทั้งหมด ครั้งนี้น้องจีต้องออกมาปกป้องตัวเองแล้วนะคะ”

แอนนาจับมือน้องมากุมเบา ๆ ถ้าครั้งนี้จิรัชญายังเงียบ หรือไม่มีทางออกที่ดีกว่านี้ ทุกอย่างที่น้องและเธอสร้างมาด้วยกันคงพังไม่มีชิ้นดี

ครืด ครืด

ไม่ทันได้พูดอะไรต่อ มือถือที่สั่นมาทั้งวันเพราะถูกนักข่าวโทรจิกก็สั่นขึ้นอีกครั้ง แอนนาตั้งใจจะไม่รับสายเพราะคิดว่าเป็นนักข่าวเหมือนเดิม

แต่เธอคิดผิด และชื่อของบุคคลสำคัญที่ปรากฎบนหน้าจอ ทำให้แอนนาต้องรีบรับสายนั้นอย่างรวดเร็ว

เจ้าสัวจรินทร์

“สะ สวัสดีค่ะเจ้าสัว”

(พาจีกลับมาที่บ้านเดี๋ยวนี้ แอนนา)

แอนนากลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก เธอสัมผัสได้ถึงความโกรธกรุ่นของเจ้าสัว ที่ผ่านมาไม่ว่าน้องจีจะมีข่าวกี่ครั้งเจ้าสัวก็ไม่เคยยื่นมือเข้ามายุ่ง แต่ครั้งนี้ต่างออกไป โทรหาเธอโดยตรงแบบนี้คงไม่พ้นข่าวพวกนั้น

ดูเหมือนว่างานนี้จะไม่จบง่าย ๆ แล้วจริง ๆ

.

กฤตินกลับมาถึงโรงพยาบาลตอนสามทุ่ม นับดาวกลับบ้านไปแล้ว เธอส่งข้อความมาบอกว่ามีสอนแต่เช้า ส่วนคุณกุสุมากำลังนั่งดูละครอย่างเริงร่าราวกับไม่ใช่คนป่วย พอได้ยินเสียงเปิดประตูก็หันมาส่งยิ้มหวาน ๆ ให้ลูกชาย

“รถติดมากเหรอลูก มาช้าเชียว”

“ครับ...”

ศาสตราจารย์หนุ่มโกหกแม่คำโต เขาไม่กล้าสบสายตาผู้ให้กำเนิด แสร้งเดินไปที่โซฟา วางเสื้อคลุมพาดกับพนักพิงแล้วเดินเข้าไปหาแม่

“แม่รีบนอนนะครับ พรุ่งนี้ต้องออกจากโรงพยาบาลแต่เช้า”

“แม่รู้แล้ว แต่ขอดูละครก่อนนะ กำลังสนุกเลย เอ๊ะ?” กุสุมาแตะปลายนิ้วลงบนแก้มของลูกชาย รอยแดงเป็นปื้นสะดุดตาทำให้คนเป็นแม่อดถามไม่ได้ “แก้มไปโดนอะไรมา ทำไมแดงขนาดนี้”

“อ๋อ น่าจะแพ้พวกแมลงที่ลำปางน่ะครับ ไม่มีอะไรหรอกครับแม่”

“แต่ก่อนหน้านี้แม่ไม่เห็นนะ”

“อาจจะเพิ่งแสดงอาการน่ะครับ ผมเองก็เพิ่งรู้เหมือนกัน แม่ไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ ไม่ได้เจ็บมาก”

“แต่...”

“ผมซื้อองุ่นมาด้วย เดี๋ยวไปล้างให้นะครับ” กฤตินไม่รอให้แม่ซักต่อ เขารีบเปลี่ยนเรื่องและเอาผลไม้ที่ซื้อติดมือมาด้วย ไปจัดการล้างทำความสะอาดที่อ่างล้างมือในห้องน้ำทันที

ชายหนุ่มเปิดน้ำใส่องุ่น ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองตัวเองในกระจก เขาเห็นผู้ชายที่ดูธรรมดาค่อนไปทางจืด ผิวขาวอย่างคนที่มีเชื้อสายจีน ตาชั้นเดียวเฉียงขึ้น จมูกโด่ง ริมฝีปากสีชมพูซีด ใส่แว่นหนาเพิ่มความจืดจนไม่มีอะไรโดดเด่น สิ่งเดียวที่เด่นเป็นสง่าคือรอยตบของหญิงสาวที่ไม่รู้แม้แต่ชื่อบนแก้ม นิ้วที่สากเล็กน้อยแตะที่รอยนั้นเบา ๆ ดูเหมือนมันจะบวมขึ้นนิดหน่อย

มือหนักมากจริง ๆ

กฤตินเลิกสนใจรอยนั้น รีบล้างทำความสะอาดองุ่นผลไม้โปรดของแม่ ใช้เวลาไม่ถึงสิบนาทีทุกอย่างก็เสร็จ แต่ตอนที่ก้าวออกมาจากห้องน้ำ เขากลับสัมผัสได้ถึงบรรยากาศในห้องที่เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง

“ไม่ดูละครแล้วเหรอครับ”

แม่ปิดทีวีไปแล้ว ทั้ง ๆ ที่บอกว่าจะดูละคร ไหนจะท่าทีที่ไม่ร่าเริงเหมือนก่อนหน้านี้ กฤตินรีบวางจานองุ่นลงแล้วเดินเข้าไปหาแม่ทันที

“แม่ แม่เป็นอะไรไปครับ เจ็บปวดตรงไหนหรือเปล่า? ผมเรียกหมอดีกว่า”

“ไม่ต้องหรอก แม่ไม่ได้เจ็บปวดอะไร”

“แล้วทำไมแม่ซึมไปแบบนี้ล่ะ มีอะไรไม่สบายใจหรือเปล่าครับ”

กฤตินถามไถ่ด้วยความเป็นห่วง จะไม่ให้เขาห่วงได้ยังไง ตั้งแต่จำความได้เขาแทบไม่เคยเห็นแม่เป็นแบบนี้เลย แม่เป็นคนสดใสร่าเริง ทั้ง ๆ ที่เป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวเลี้ยงลูกคนเดียวมาตลอด แต่แม่ก็ยังเต็มไปด้วยความสดใสเสมอ ขนาดหกล้มต้องนอนโรงพยาบาลยังยิ้มแย้มได้ แล้วอะไรกันที่ทำให้รอยยิ้มของแม่เขาหายไปแบบนี้

“เมื่อกี้เจ้าสัวจรินทร์โทรมา”

กุสุมาเอ่ยเสียงแผ่ว ก้มมองมือด้วยเองด้วยความลำบากใจ กฤตินรู้สึกได้ถึงลางสังหรณ์แปลก ๆ ปกติเจ้าสัวไม่ค่อยโทรหาเขา ยิ่งกับแม่ เจ้าสัวไม่เคยโทรหาแม่มาก่อน

“มีอะไรหรือเปล่าครับ”

“เจ้าสัวมีเรื่องขอร้องแม่” เธอเงยหน้าขึ้นมองลูกชายเพียงคนเดียว ในใจมันหนักอึ้งไปหมด ไม่รู้จะเริ่มยังไงดี “เรื่องเกี่ยวกับลูก”

“ครับ?”

“เจ้าสัว...ต้องการให้กฤตหมั้นกับหลานสาวคนเดียวของท่าน”

หมั้น? กับหลานสาว?

กฤตินตกใจกับเรื่องที่ได้ยินพอสมควร แต่ท่าทีของเขายังคงนิ่งสงบ แม้แต่คนเป็นแม่ก็มองไม่ออกว่าลูกชายกำลังคิดอะไรอยู่

“เจ้าสัวไม่ได้บังคับหรอกนะ ถ้ากฤตไม่ยินดีแม่จะช่วยคุยกับท่านให้”

กุสุมาจับมือลูกชายมาบีบเบา ๆ เธอรู้ว่ากฤตินยังไม่มีแพลนเรื่องพวกนี้ ขนาดเธอเชียร์ให้ลูกชายกับนับดาวคบหากันบ่อย ๆ กฤตินยังไม่เคยหวั่นไหวเลยสักครั้ง แล้วจะให้หมั้นกับคนที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน แถมกำลังมีข่าวฉาวแบบนี้ ลูกของเธอไม่มีวันยอม

และถ้าให้พูดตรง ๆ เธอเองก็ไม่ได้อยากได้ลูกสะใภ้เป็นเด็กคนนั้นเหมือนกัน ยอมให้ลูกชายอยู่เป็นโสดไปตลอดชีวิตยังจะดีซะกว่า

“ไม่เป็นไรครับแม่” กฤตินใช้เวลาตัดสินใจไม่นาน “ผมจะหมั้นครับ”

“กฤต!”

“แม่ก็รู้ว่าเจ้าสัวมีบุญคุณกับผมมาก”

กฤตินรู้จักเจ้าสัวมานาน ท่านเป็นคนมีเมตตา ใจดี เงินที่เขาใช้เรียนและทำวิจัยก็ได้เจ้าสัวคอยสนับสนุนมาตลอด เจ้าสัวจรินทร์มอบทุนให้เขาตั้งแต่ปริญญาตรีจนเรียนจบปริญาเอกโดยไม่เคยเรียกร้องอะไรตอบแทนเลยสักครั้ง

ที่คนอย่างกฤตินมีโอกาสได้รับการศึกษาดี ๆ มีหน้าที่การงานดี ๆ ทำ นอกจากความพยายามของตัวเองแล้ว เจ้าสัวก็เป็นบุคคลสำคัญที่ผลักดันจนเขามาถึงจุดนี้

เป็นผู้มีพระคุณ ที่กฤตินตั้งใจไว้ว่าสักวันนึงจะต้องตอบแทนให้ได้

และถ้านี่คือการตอบแทนบุญคุณ...เขาก็ยินดี

“กฤตรู้หรือเปล่าว่าหลานสาวเจ้าสัวคือใคร? กฤตรับมือไม่ไหวหรอก ผู้หญิงคนนั้น...”

“ไม่จำเป็นต้องรู้หรอกครับ เพราะไม่ว่าเธอจะเป็นใคร เป็นผู้หญิงแบบไหน ยังไงผมก็ต้องหมั้นกับเธออยู่ดี”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel