ตอนที่ 5 ขาดสะบั้น
ในสายตาปารียาพาทิศคือผู้ชายที่เป็นสุภาพบุรุษ รูปหล่อ ขยัน เป็นพี่ชายที่อบอุ่นและแสนดีที่เธอไม่เคยได้รับจากใครมาก่อนแม้กระทั่งพ่อของเธอเอง หลายครั้งที่พาทิศขอมีอะไรกับเธอแต่ปารียาก็ปฏิเสธทุกครั้งไป และเขาก็ไม่เคยว่าอะไรเธอเลยสักครั้ง แต่มาวันนี้เขากลับมาทำให้ความเชื่อใจของเธอที่มีต่อผู้ชายขาดสะบั้นลงอีกครั้ง ลับหลังเธอพาทิศพารุ่นน้องในแผนกไปค้างที่คอนโดเขาเกือบทุกวัน นี่คือเหตุผลที่เขาไม่ค่อยมีเวลารับโทรศัพท์หรือตอบไลน์เธอ
“เธอมันโง่ปารียา เธอมันอ่อน” ปารียาเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงที่เมามาย ตอนนี้เธอซดเบียร์กระป๋องแรกหมดไปแล้ว กำลังต่ออีกเรื่อย ๆ อย่างไม่มีวี่แววว่าจะหยุด
เธอไม่ค่อยเปิดใจคุยกับใครง่ายนัก ทั้งที่มีหนุ่ม ๆ เข้ามาขายขนมจีบให้เธอมากมายแต่ด้วยความที่เธอมีความหลังฝังใจเกี่ยวกับผู้เป็นพ่อ จึงทำให้ปารียายังไม่กล้าตัดสินใจมีครอบครัวสักที พาทิศเป็นแฟนคนที่สองของเธอตั้งแต่เธอโตเป็นสาวมา คนแรกตอนเรียนมหาวิทยาลัย ตอนนั้นปารียายังไม่คิดจริงจังอะไรมาก พอทำงานก็แยกย้ายกันไปแต่กับรักครั้งนี้หล่อนจริงจังมาก
เช้าวันอาทิตย์แสงแดดอ่อน ๆ ส่องผ่านบานกระจกเข้ามาภายในห้อง ปารียาขยี้ตาตื่นมาด้วยอาการมึนงงจากฤทธิ์แอลกอฮอล์ ที่ดื่มเข้าไปเพียงไม่กี่กระป๋องแต่อาการย่ำแย่ราวกับดื่มยกลัง ก็ร่างกายเธอไม่ได้ลิ้มรสแอลกอฮอล์บ่อยขนาดนั้น จะดื่มก็แค่ตอนมีงานเลี้ยงสังสรรค์เท่านั้นเอง พอได้รับเข้าไปหน่อยเดียวก็รู้สึกแย่เกินทน
“โอย ทำไมปวดหัวมากขนาดนี้นะ นี่หลับตอนไหนไม่รู้เรื่องเลยเหรอเนี่ย” ปารียาโอดครวญกับตัวเองแล้วเดินไปชงกาแฟดื่ม สภาพเธอตอนนี้ดูไม่ได้เอาซะเลย ภาพสาวสวยหน้าใสหายวับไปกับตา ตาบวมที่เกิดจากการร้องไห้ต่อในช่วงดึกที่เมาได้ที่แล้วเพราะกลั้นไม่อยู่ทำให้ตื่นขึ้นมาตาแทบจะปิด
“เฮ้อ…ฉันจะใช้เวลาเยียวยาตัวเองนานเท่าไหร่กันนะ”
ปารียานั่งเหม่อลอยจิบกาแฟอยู่ที่เดิม เธอแทบไม่อยากทำอะไรเลยตอนนี้ มันอ่อนล้าไปหมด ปารียาเคยสงสัยว่าทำไมคนอกหักมันเจ็บที่หัวใจ แต่ทำไมร่างกายถึงพลอยไม่มีเรี่ยวแรงไปด้วย วันนี้เธอเข้าใจแล้วจริง ๆ ยิ่งการถูกหักหลังมันยิ่งทำให้เธอเจ็บมากกว่าหลายเท่า
ชานนท์เปิดประตูก้าวลงจากรถคันหรูแล้วเดินเข้าไปในโรงแรมรามิลซึ่งใช้เป็นสถานที่ที่ใช้จัดงานเลี้ยงต้อนรับท่านรองประธานบริษัท AKP นั่นเอง เขาเดินไปยังเพื่อนรักที่กำลังนั่งรอเขาอยู่ที่ห้องรับแขกส่วนตัว
“ไม่คิดว่าคุณแม่จะเลือกโรงแรมนี้เป็นสถานที่จัดงานเลี้ยงว่ะ” ชานนท์กล่าวทักรามิล หรรษรักษ์ เจ้าของโรงแรมระดับห้าดาว เมื่อเดินเข้ามาถึงด้วยใบหน้าที่เปื้อนยิ้มละมุน แล้วนั่งลงช้าๆด้วยท่าทางสบายใจ
รามิลเป็นเพื่อนสนิทของชานนท์ตั้งแต่สมัยเรียนปริญญาตรีหลังจากนั้นก็แยกย้ายกันไปเรียนต่อต่างประเทศและตลอดระยะเวลาหลายปีทั้งสองก็ติดต่อกันเสมอมา กลับมาประเทศไทยก็ยังสนิทสนมกันเหมือนเดิม
“ก็ดีแล้วไง กูกับมึงจะได้คุยกันได้นานหน่อย ไม่เจอกันนานมาก หล่อยังกับดาราเลยนะมึง”
“มึงก็พูดเกินไป มึงก็ใช่ย่อยนะไอ้เสือ”
“ก็เสือทั้งคู่ล่ะว้า เออ…กูได้ยินว่าแม่มึงจะชวนคุณโยษิตานางแบบชื่อดังมางานนี้ด้วยนี่ คงอยากให้มึงเลือกคู่ล่ะมั้งกูว่า”
“ลูกเพื่อนแม่กู แม่น่าจะรู้จักกูดีแต่ก็ช่างเถอะกูยังไม่พร้อมเรื่องนั้นว่ะ ขอใช้ชีวิตชายโสดให้คุ้มก่อน ตอนเรียนเรียนหนักชิบเป๋ง ยังไม่อยากมีแม่คนที่สองตอนนี้หรอกว่ะ” ชานนท์พูดด้วยสีหน้าเซ็ง ๆ กับผู้หญิงที่เข้ามาในชีวิตของเขา
สองหนุ่มนั่งคุยจิบกาแฟกันไปตามประสาเพื่อนรักที่ไม่ได้เจอกันนาน