ตอนที่ 4 ปารียา
ปารียาเองก็นึกชื่นชมท่านรองประธานอยู่เช่นกันแต่พอรู้ว่าเป็นรุ่นน้องเธอ สาววัยสามสิบอย่างปารียากลับไม่ได้สนใจไยดีชานนท์เลยสักนิด อาจจะชื่นชมที่เขาเก่งและหล่อ แต่ถ้าให้ต่อแถวเป็นแฟนก็คงไม่เอาแน่นอน เพราะในความคิดของปารียาแล้วเด็กก็คือเด็กอยู่วันยังค่ำ ดูอย่างพ่อกับแม่เธอสิแรก ๆ พ่อก็ดีทุกอย่างพอมีลูกอะไร ๆ ก็เปลี่ยนไป กลายเป็นแม่ต้องมาแบกรับภาระของครอบครัวทุกอย่าง ท่านรองประธานของเธอก็คงเช่นกันถึงภายนอกจะดูสมบูรณ์แบบแค่ไหน แต่คนรวยก็มีสิทธิ์ที่จะทำอะไรตามใจตัวเองก็ได้ แม้กระทั่งการมีภรรยาหลายคน ถ้าใครเผลอตัวเผลอใจไปรัก ก็มีแต่เจ็บกับเจ็บเท่านั้น
คืนวันเสาร์ภายในคอนโดของปารียา ในมือเธอถือกระป๋องเบียร์ที่ดื่มไปยังไม่ทันจะถึงครึ่งค่อน ร่างก็เริ่มจะโอนเอน เพราะด้วยความที่ไม่ชินกับฤทธิ์ของมันสักเท่าไหร่ แต่ก็ฝืนกระดกมันลงคออย่างยากลำบาก
แววตาเศร้าหมองมองดูภาพถ่ายชายหญิงที่เดินกอดกันและจูบกันในยามราตรีอย่างรักใคร่ ดูสนิทสนมราวกับคู่รักที่คบหากันมานานหลายปี จากภาพมองแค่แวบเดียวก็รู้แล้วว่าผู้หญิงในรูปที่ยืนคู่กับพาทิศนั้นเป็นใคร ตอนนี้ปารียาเข้าใจหมดทุกอย่างแล้วว่าตลอดเวลาหลายเดือนที่ผ่านมาทำไมพาทิศถึงทำตัวห่างเหินกับเธอ
‘ทำไมแกต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ด้วยวะแบม แกเป็นคนไม่ได้เรื่องใช่มั้ย’
ปารียาตัดพ้อตัวเองในใจ นัยน์ตาพร่ามัวแทบจะกลั้นหยดน้ำตาไว้ไม่ไหว ความรู้สึกมันถาโถมเข้ามาทำให้ใจรู้สึกหนักอึ้ง ในหัวมันตื้อไปหมด
ปารียาสาวหุ่นบางร่างสวยที่อยู่ในวัยสามสิบ แต่หน้าตาเธอนั้นยังดูอ่อนเยาว์ราวกับสาวที่เพิ่งจะยี่สิบต้น ๆ ชีวิตปารียาแบกรับภาระของครอบครัวไว้กับตัวเองทั้งหมด ตั้งแต่เธอเรียนจบปริญญาตรีมาเธอก็ทำงานหนักเพื่อส่งเสียน้องเรียนและส่งเงินให้แม่มาโดยตลอด ชีวิตเธอติดลบมาโดยตลอดเพิ่งจะอยู่ตัวเมื่อสองปีให้หลังนี้เอง แต่เงินเก็บก็ใช่ว่าจะมี เพราะตอนนี้ถึงเงินเดือนจะมากขึ้นแต่ภาระก็มากขึ้นด้วยเช่นกัน
พ่อเธอเสียตั้งแต่สิบปีที่แล้ว และแม่ของเธอก็ไม่คิดจะมีครอบครัวใหม่อีกเลย ด้วยเหตุผลส่วนตัวบางอย่างที่ทำให้ปารียาจดจำภาพไม่ดีของผู้ชายที่ได้ขึ้นชื่อว่าพ่อมาตั้งแต่เด็ก ถึงตอนนี้พ่อของเธอยังอยู่ก็คงจะไม่ได้ช่วยอะไร ทำให้เธอไม่กล้าที่จะลงเอยกับใครง่าย ๆ โดยเฉพาะผู้ชายที่อายุน้อยกว่าเธอ ลำพังแม่ขายข้าวแกงก็พอเลี้ยงชีพได้บ้าง แต่การค้าขายรายได้มันก็ไม่ได้แน่นอน
แค่เพียงภาระค่าใช้จ่ายทางครอบครัว เธอยังพอเข้มแข็งและสู้ต่อไปได้แค่รอวันที่น้องชายเธอเรียนจบอย่างเดียวชีวิตเธอก็จะเป็นอิสระ แต่นี่แฟนหนุ่มที่คบกันมาถึงสามปี คนที่เคยบอกว่ารักเธอมากที่สุดขอเวลาอีกปีเดียวพาทิศก็จะขอเธอแต่งงาน เขากลับแอบนอกกายนอกใจไปคบกับรุ่นน้องในแผนกเดียวกันอีกเธอจะเข้มแข็งต่อไปได้อย่างไร
ปารียาใช้เวลาสืบหาความจริงทั้งหมดตั้งแต่วันที่นุชจรีเอ่ยปากบอกเธอด้วยความเป็นห่วง โดยไม่ให้ฝ่ายชายรู้ตัวเป็นเวลาเกือบหนึ่งเดือน วันนี้นักสืบเพิ่งส่งหลักฐานและรูปถ่ายทั้งหมดมาให้เธอ ปารียาถึงได้กลับมานั่งจมจ่อมซดเบียร์ในห้องอยู่แบบนี้เพียงลำพังทั้งที่ตัวเองไม่เคยถนัดเรื่องนี้เลยสักนิด
ตึ๊ด ตึ๊ด โทรศัพท์ที่วางอยู่โต๊ะกลางห้องสั่นเตือน ปารียาปรายตามอง ก็รู้ว่าใครโทรมา เธอกล้ำกลืนน้ำตาให้กลับเข้าไปไว้ภายในเหมือนกลัวใครจะรู้
“ค่ะแม่”
“แบมรอกลับหลังจากจบงานเลี้ยงบริษัทน่ะค่ะ”
“แค่นี้ก่อนนะคะแบมจะรีบแปลงานต่อค่ะ แล้วเจอกันนะคะ” ปารียารีบกดวางสายก่อนที่น้ำตาจะหลั่งรินออกมาดั่งสายธารอาบสองแก้มแดงระเรื่อ เธอนั่งดื่มต่อเป็นเวลานาน ร่างกายเธอแทบจะนั่งต่อไม่ไหวเต็มที ปารียาไม่กล้าแม้จะเอ่ยปากบอกเพื่อนสนิทหรือแม้แต่คนในครอบครัว เธอยังทำใจยอมรับเรื่องที่เกิดขึ้นไม่ได้ แม้แต่จะออกไปข้างนอกเธอก็ยังไม่กล้า เธอกลัวว่าถ้าออกไปแล้วจะเจอภาพที่เธอไม่อยากเห็นมัน ตอนนี้เธอฟุ้งซ่านไปหมด
“พล ทำไมคุณทำกับฉันได้ลงคอ หัวใจคุณทำด้วยอะไร” ปารียาเปล่งเสียงออกมาอ้อแอ้เต็มทน เธอคิดว่าพาทิศคือรักสุดท้าย คือคนที่จะแต่งงานด้วยแล้วใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันไปจนแก่เฒ่า ตลอดเวลาที่ผ่านมาเธอคิดว่าพาทิศรอเธอได้ รอวันที่เธอพร้อมจะมอบทั้งกายและใจให้เขา