บทที่ 8 หมอกันต์ณธีร์ 1.3
“มึงไม่ต้องมาสอนกู มันมีหน้าที่ทำงานหาเงินเลี้ยงคนในบ้านก็ถูกแล้ว ค่าข้าวแดงแกงร้อนที่กูเลี้ยงมันมาไง ว่าไงอียิ้ม มึงจะให้เงินกูไหม ถ้าไม่ให้กูจะตบแม่มึงให้หน้าบวมโชว์มึง” ไม่พูดเปล่า ยังกระชากแขนกิ่งแก้ว เงื้อมือขึ้นอีกครั้ง
“พ่ออย่าทำแม่” กรรัมภาห้ามทั้งน้ำตา “พ่อรอเดี๋ยวนะ ยิ้มโอนเงินให้”
กรรัมภาไม่ปล่อยให้มารดาอยู่ตามลำพังกับบิดา เธอจูงมือกิ่งแก้วเข้าไปในห้อง แล้วเดินไปหยิบมือถือกดโทรศัพท์หาใครบางคน และเมื่อปลายทางรับสาย เสียงอันสั่นเครือของกรรัมภาก็ดังขึ้น
“เจ๊...ฮือ...” ปลายทางคือเจ๊ลิลลี่ ผู้จัดการส่วนตัวที่เข้าใจปัญหาของกรรัมภามาตลอด เจ๊ลิลลี่ถอนหายใจออกมาพรืดยาว
“เดี๋ยวเจ๊โอนให้เลย ไม่ถึงนาที” พูดจบก็ตัดสายทิ้ง และทำการโอนเงินเข้าบัญชีกรรัมภา เมื่อนางร้ายยอดกตัญญูได้รับเงิน เธอก็ทำการโอนต่อให้บิดา
“เรียบร้อยแล้วพ่อ หนูโอนเข้าบัญชีพ่อแล้ว” กรรัมภาเดินมาบอกบิดาที่ยืนอยู่หน้าห้อง
“เออขอบใจ” วุฒิพูดสั้นๆ มองกรรัมภาด้วยสายตาที่ไม่เหมือนพ่อมองลูก แล้วยิ่งตอนนี้กรรัมภาใส่ชุดนอนแบบกระโปรงยาว ไม่สวมชุดชั้นในซึ่งเป็นเรื่องปกติของเธอ ประกายตาของวุฒิดูแปลกๆ ชอบกล ทว่าคนถูกมองไม่ได้สังเกตเพราะมัวแต่เสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น
“ไปยิ้ม เข้าห้องลูก” แต่อีกคนเห็น กิ่งแก้วรีบดันตัวลูกสาวเข้าไปในห้องนอน “ได้เงินแล้วก็รีบไปสิ แล้วอย่ามองลูกแบบนี้อีก”
“ก็ลูกสวย มองไม่ได้หรือไง”
วุฒิทำเสียงกวน กิ่งแก้วที่เกรงกลัวสามีรีบปิดประตูทันที นางเดินมาหากรรัมภาที่นั่งร้องไห้บนเตียง ความสงสารลูกแน่นในจิตใจคนเป็นแม่ ที่เลี้ยงดูมาตั้งแต่เกิด
“ยิ้ม...แม่ขอโทษนะลูก แม่ขอโทษ”
กิ่งแก้วรู้สึกผิดทุกครั้งที่เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ ทุกครั้งที่นางถูกวุฒิทำร้ายเรื่องไม่ให้เงิน นางมักถูกตบตีเสมอ และกรรัมภาก็จะเข้ามาช่วย
“ไม่เป็นไรหรอกแม่ ขอแค่แม่ไม่เจ็บตัวก็พอ”
นิสัยไม่ยอมคน รักความยุติธรรม และทนไม่ได้ที่เห็นผู้หญิงถูกทำร้าย หากพบเห็นกรรัมภาจะต้องเข้าไปช่วยด่ากราดไม่ไว้หน้า อย่างเช่นเมื่อคืนนี้ที่ไปเรียกความยุติธรรมให้จิราพร ทว่าเธอกลับไม่ทำนิสัยนั้นในบ้านหลังนี้ กับครอบครัวตัวเอง กรรัมภากลายเป็นคนไม่มีปากไม่มีเสียง ยอมทุกอย่าง ไม่สู้ราวกับว่าไม่เคยมีนิสัยนั้นในสายเลือด เธอต้องทนเห็นกิ่งแก้วถูกวุฒิทำร้ายร่างกายตั้งแต่เด็กจนมาถึงป่านนี้ก็ยังเห็น สาเหตุมาจากเรื่องเงินที่นับวัน บิดายิ่งใช้เงินเยอะมากขึ้น จนเธอหาแทบไม่ทัน
“ยิ้มก็รู้นี่ลูกว่า พ่อเอาเงินไปทำอะไร ยังจะให้อีก” กิ่งแก้วพูดไปช้ำใจไป สงสารลูกสาวจับใจ “ให้ไปไม่เกินวันเดียวเดี๋ยวก็หมด ให้ไปทำไมลูก”
“ถ้าไม่ให้พ่อ พ่อก็ตีแม่อีก ยิ้มทนไม่ไหวหรอกแม่ ถ้าพ่ออยากได้เงินก็ให้พ่อไป เงินน่ะยิ้มหาใหม่ได้ แต่ยิ้มทนเห็นแม่ถูกตี แม่ร้องไห้ไม่ได้” เหตุผลสำคัญคือ กรรัมภารักกิ่งแก้วมาก เธอรักทุกคนในครอบครัว
“โธ่ลูกแม่”
กิ่งแก้วสวมกอดกรรัมภาที่ร้องไห้ไม่หยุด เหตุผลที่ร้องไห้คือเสียใจที่ช่วยเหลืออะไรมารดาไม่ได้มากกว่านี้ เธอเคยบอกมารดาว่าให้ย้ายออกไปจากที่นี่ ไปอยู่ด้วยกันในคอนโดสักแห่ง จะได้รอดพ้นจากเงื้อมมือของวุฒิ ทว่ากิ่งแก้วไม่ไป นางบอกกับลูกสาวว่า หนีไปอยู่คอนโดวุฒิก็ตามไปรังควานอยู่ดี หากวุฒิทำเช่นนั้นอาจทำให้กรรัมภาเสื่อมเสียชื่อเสียง และส่งผลถึงงานแน่นอน
แม้ว่ากรรัมภาจะเป็นดาราที่มีชื่อเสียง รายได้ของเธอมีทุกวันมากน้อยแล้วแต่งาน ซึ่งเธอก็ไม่เกี่ยงงานว่าจะเล็กหรือใหญ่ ขอเพียงมีรายได้เข้ากระเป๋าทุกวันเป็นพอ ตลอดระยะเวลาห้าปีในแวดวงบันเทิงเธอทำเงินได้หลายล้านบาท ทว่าก็หมดไปกับการใช้หนี้แทนวุฒิกับเอกทัศน์ที่ขยันหาหนี้สินมาให้ตลอดเวลา หนี้สินส่วนใหญ่มาจากการพนัน ที่ไม่ว่าจะเป็นพนันบอล หวย พนันออนไลน์และในบ่อน แล้วยังต้องส่งเอกวุฒิน้องชายคนเล็กที่ตอนนี้เรียนอยู่ต่างประเทศ ดีที่ว่าเอกวุฒิเป็นคนรักดี เรียนเก่ง อยู่สหรัฐอเมริกาก็ทำงานไปด้วยเรียนไปด้วย แบ่งเบาภาระกรรัมภาได้ระดับหนึ่ง
หนึ่งปีมานี้วุฒิกับเอกทัศน์ทำตัวน่าปวดหัวหนักขึ้น ทั้งสองเล่นการพนันอย่างหนัก โดยไม่คิดว่า การพนันเป็นสิ่งไม่ดี เล่นไปก็ไม่มีทางรวย เงินจึงเป็นเรื่องจำเป็นสำหรับสองพ่อลูก กิ่งแก้วจึงเป็นเป้าหมายของทั้งสองในการขอเงิน แรกๆ กิ่งแก้วมีให้ ทว่าเมื่อสองพ่อลูกเสียหนักมากขึ้น มาขอถี่ขึ้น และขอในจำนวนเงินหลักแสนหลักหมื่น นางก็เริ่มไม่มีให้ กิ่งแก้วจึงถูกวุฒิทำร้ายร่างกาย และนำทรัพย์สินในบ้านไปขาย ล่าสุดคือรถยนต์ที่กรรัมภาซื้อไว้ให้วุฒิใช้ ก็ถูกเอาไปจำนองเป็นจำนวนเงินสามแสนบาท กรรัมภานำเงินส่วนหนึ่งจากการเป็นพรีเซ็นเตอร์น้ำหอมไปไถ่ถอนรถ แต่ยังไม่ได้ทำตามความตั้งใจ วุฒิก็เอาเงินก้อนนั้นไป หากไม่ให้กิ่งแก้วก็ถูกทุบตี กรรัมภาจึงไม่ห้ามพ่อ อยากได้ก็ให้ และให้ทุกครั้งจนวุฒิรู้ทาง
เงินที่กรรัมภาหาได้เริ่มไม่พอ ไหนจะค่าใช้จ่ายภายในบ้าน ส่งให้น้องชายเรียน เงินเดือนที่ต้องให้วุฒิ กิ่งแก้วทุกเดือน และที่สำคัญหนี้สินที่ต้องตามใช้เป็นจำนวนเงินหลักแสน ทำให้กรรัมภาแทบหมดแรง แต่เธอก็สู้ สู้เพื่อทุกคนในบ้าน โดยเฉพาะกิ่งแก้ว เธออยากให้แม่มีความสุข ไม่มีความทุกข์ แม้จะทำงานหนักและเหนื่อยมากแค่ไหน กรรัมภายอม
กรรัมภาหวังลึกๆ ว่า สักวันหนึ่งบิดากับพี่ชายจะสำนึกได้ แล้วเลิกการพนัน หันหลังให้มันอย่างถาวร ครอบครัวเธอจะได้มีความสุขเหมือนก่อน...เหมือนตอนที่ทั้งคู่เป็นพ่อและพี่ชายที่แสนดี
หวังว่าวันนั้นจะมาถึงเร็วๆ นี้