บทที่ 4 ยิ้มเข้าไว้ 1.3
“เรามีเงินตั้งเยอะแยะ ให้ๆ ไปเถอะ เรื่องมันจะได้จบ หรือว่าคุณอยากเป็นข่าวใหญ่โต คุณจะเสียหน้าเอานะ อย่าลืมสิว่าคุณก็เป็นสมาชิกในสมาคมสตรีแห่งชาติ ถ้าเรื่องโก้ทำร้ายเมียตัวเองหลุดออกไป หน้าตาคุณจะพังเอานะ เผลอๆ ตำแหน่งนายกสมาคมที่คุณวาดหวังไว้ก็จะกระเด็นไปด้วย คุณต้องเลือกแล้วล่ะว่า จะเสียทั้งหน้าและเงิน หรือเสียเงินอย่างเดียว” ยุรนันท์อยากให้เรื่องนี้ยุติลงด้วยดี เพราะตอนนี้เครือญาติของแก้วมณีรู้เรื่องนี้กันหมดแล้ว และคงตกเป็นขี้ปากไปอีกนาน
“แต่ฉันไม่อยากเสียเงินให้มันนี่ ตั้งยี่สิบล้าน” นึกถึงตัวเลขก็ยิ่งเสียดาย
“ถ้าจี้เอาเรื่องนี้ไปแจ้งความข้อหาทำร้ายร่างกายก็ทำได้นะ แม้ว่าจะเป็นผัวเมียกันก็เถอะ ยิ่งลูกเรามีผู้หญิงคนอื่นทั้งที่ยังไม่ได้หย่ากับจี้ ยังไงเราก็ผิดเต็มๆ อีกอย่างจี้เองก็ไม่ได้ทำตัวเสียหาย เรามองไม่เห็นทางชนะเลยนะ” ยุรนันท์พูดด้วยเหตุผล
“คุณเข้าข้างใครกันแน่เนี่ย ฉันเป็นเมียคุณนะ” คราวนี้มาลงที่ยุรนันท์
“ก็เพราะเป็นเมียไงถึงพูด คุณก็รู้เต็มอกว่าอะไรเป็นอะไร รู้ผิดรู้ถูก เพียงแค่คุณมองข้ามมันไปก็เท่านั้น” ยุรนันท์ใจเย็นพูดกับภรรยา
“คุณแม่ให้มันไปเถอะ เรื่องมันจะได้จบ ไม่งั้นมันฟ้องเรา เราขายหน้านะครับคุณแม่” ชินกรอยากจบเรื่อง “เราจะได้อยู่อย่างสงบสุข ไม่ต้องทนเห็นหน้ามันให้รำคาญลูกตา”
“ก็ได้ ฉันจะเซ็นเช็คให้” แก้วมณียอมจบลงด้วยดี “พรุ่งนี้ไปเจอกันที่เขต ฉันจะให้เงินต่อเมื่อมันเซ็นใบหย่าแล้ว”
“ไม่ค่ะ เงินต้องมาก่อน คุณป้าเซ็นเช็คให้วันนี้ พรุ่งนี้จี้เอาไปขึ้นเงิน ถ้าขึ้นเงินได้ค่อยหย่า เพราะไม่งั้นอาจถูกเบี้ยวง่ายๆ”
กรรัมภาเป็นคนรอบคอบ แก้วมณีถึงกับเนื้อเต้นที่ถูกต่อรอง เสียหน้าไม่พอ ยังเสียเงินอีก คิดแล้วก็เจ็บใจ
“ฉันก็กลัวแกเบี้ยวเหมือนกัน ได้เงินแล้วไม่หย่าฉันก็เสียเงินฟรีๆ น่ะสิ”
“ง่ายมากค่ะ เราไปลงบันทึกประจำวันกันไว้ที่โรงพักดีไหมคะ ถ้าจี้ผิดคำพูดไม่ทำตามข้อตกลงให้จับจี้ดำเนินคดีได้เลย แค่นี้คุณป้าคงสบายใจ” กรรัมภามีทางออกเสมอ
“ฉันก็ว่าวิธีนี้ดีนะ แฟร์ดี” ทุกคนหันไปมองคนพูดคือหญิงสูงวัยแต่ยังคงมีสุขภาพร่างกายแข็งแรงนามว่า มณฑาทิพย์ “เธอก็มีเงินหลายร้อยล้าน จะมางกอะไรกับเงินแค่นี้ ที่สำคัญที่สุดฉันถือว่าเป็นเงินค่าปิดปากเรื่องชั่วๆ ของโก้ด้วย ถ้าเรื่องนี้หลุดออกไป เธอขายหน้ามากนะ อาจถูกตราหน้าว่าเป็นแม่ที่ด้อยคุณภาพไม่อบรมสั่งสอนลูก ลูกถึงได้ทำร้ายผู้หญิงแบบนี้ มันดูต่ำและเลวทราม”
แก้วมณีกับชินกรถึงกับหน้าชาดิก เมื่อถูกวาจาของมณฑาทิพย์ ที่สองแม่ลูกให้ความเคารพคนหนึ่ง แล้วที่มณฑาทิพย์ออกมาพูด เพราะอยากช่วยทั้งสองฝ่ายให้จบลงด้วยดี
“ค่ะคุณป้า ตกลงตามนี้ค่ะ” แก้วมณีไม่มีเหตุผลค้านต่อ มณฑาทิพย์ออกโรงเองแบบนี้ คงค้านอะไรไม่ได้ ในที่สุดจิราพรก็ได้รับเช็คมูลค่ายี่สิบล้านจากแก้วมณี
หลังจากทุกอย่างเรียบร้อย สี่สาวได้พากันเดินกลับไปที่รถ ขณะนั้นได้มีรถหรูคันหนึ่งมาจอดเทียบรถยนต์ของกรรัมภา ชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลา รูปร่างสูงใหญ่ราวกับนักกีฬาก้าวลงมาจากรถ เขามองหน้ากรรัมภาที่สวยสะดุดตาที่สุดในกลุ่ม จะไม่ให้สะดุดตาได้อย่างไร เพราะกรรัมภาแต่งหน้าจัดมากแถมปากยังแดงแจ๊ด ปากเด่นมาแต่ไกล ก่อนมองหน้าจิราพรที่ยกมือไหว้
“สวัสดีค่ะพี่กันต์” กันต์ณธีร์ยกมือรับไหว้แล้วยิ้มให้ วินาทีที่เขายิ้มนี้เองกำลังทำให้หัวใจของกรรัมภาเต้นโครมคราม เต้นแรงมากราวกับสาววัยละอ่อนได้เจอกับรักแรกพบ
โอ้...มายก๊อด หน้าตานิ่งๆ ว่าหล่อแล้ว เวลายิ้มโคตรหล่อเลย
หล่อวัวตายควายล้ม...
“จะไปไหนล่ะ แล้วหน้าไปโดนอะไรมา” กันต์ณธีร์ถาม
“จี้จะกลับแล้วค่ะ ส่วนเรื่องหน้าจี้โดนพี่โก้ซ้อมค่ะ” จิราพรตอบตามตรง คนได้รับคำตอบถึงกับตกใจ ไม่อยากเชื่อเรื่องที่ได้ยิน
“มันเกิดอะไรขึ้นทำไมโก้ทำแบบนี้”
น้ำเสียงค่อนข้างซีเรียส เขาไม่ชอบผู้ชายที่ใช้ความรุนแรงกับผู้หญิง แล้วไม่คิดว่าญาติสนิทของตนจะเป็นคนเช่นนี้
“คุณเข้าไปในงานก็จะรู้เองค่ะ ฉันขอตัวพาจี้กลับบ้านก่อนนะคะ”
กรรัมภาบอกกับกันต์ณธีร์ที่ตวัดสายตามองด้วยความสงสัยและใครรู้ ไม่มีใครพูดคำใดจิราพรยกมือไหว้กันต์ณธีร์อีกครั้ง ก่อนทั้งสี่จะขึ้นรถ กรรัมภานำรถยนต์ออกจากบ้านชินกรในเวลาต่อมา