บทย่อ
กินเด็กเป็นอมตะคือนิยามการเลือกแฟนของฟ้ารุ่ง ภูมิที่หล่อแต่อายุห่างกันเป็นสิบปีจึงไม่เคยถูกมองในฐานะอื่นๆ นอกจากน้า และจะไม่มีวัน คิดว่ามันจะเป็นอย่างนั้นแต่เมื่อเวลาผ่านไป เฮ้อ! ก็ว่าจะไม่แล้วเชียว “เมื่อกลางวันพี่ผู้หญิงถามฟ้าด้วยค่ะว่าน้าภูมิมีแฟนหรือยัง” “จริงเหรอ แล้วเราตอบว่าไง” ภูมิถามโดยที่สายตายังไม่ได้ละจากจอสี่เหลี่ยมเล็กๆ ในมือ “ฟ้าบอกว่า ฟ้านี่แหละแฟนน้าภูมิ” เด็กน้อยจีบปากจีบคอพูดไปตามประสา แต่คนฟังถึงกับชะงัก วางโทรศัพท์ลงแล้วหันมามองใบหน้ากลมๆ แก้มป่องๆ แล้วถามกลับยิ้มๆ ว่า “ทำไม ต้องเป็นเราด้วยล่ะ” “ก็พี่เขาบอกว่า แฟนคือคนที่รักกันอยู่ด้วยกันและแต่งงานกันเหมือนคุณพ่อคุณแม่นี่คะ ฟ้าก็รักน้าภูมิจะอยู่กับน้าภูมิ และจะแต่งงานกับน้าภูมิด้วย น้าภูมิจะแต่งงานกับฟ้าไหมคะ” ภูมิถึงกับยกมือกุมขมับหลังจากถูกขอแต่งงานแบบไม่ทันตั้งตัว พรุ่งเขาจะเทศนาพวกเพื่อนๆ ให้หนักเลย ที่มาพูดมาสอนอะไรก็ไม่รู้ให้กับหลานของเขา
ตอนที่ 1 สมาชิกใหม่ (1)
1
สมาชิกใหม่
นภามองเพื่อนเดินเข้ามาในร้านกาแฟ ที่นัดกันไว้พร้อมกับเด็กหนุ่มรูปร่างสูง หน้าตาหล่อเหลาแล้วยิ้มให้ พร้อมกับรับไหว้อีกฝ่าย ก่อนจะหันไปมองหน้าเพื่อนรักแล้วเอ่ยล้อ
“มองยังไงภูมิก็น่าจะเป็นลูกแกจริงๆ ดื่มก่อน” เธอเลื่อนแก้วกาแฟ และโกโก้เย็นให้กับสองพี่น้อง ที่สั่งไว้ หลังจากโทรหาทั้งคู่ และรู้ว่าอีกไม่ถึงสิบนาทีจะมาถึง
“เอ้อ โดนทักตลอดทั้งที่ไม่มีผัว แต่ลูกจะเรียนม.ปลายแล้วเนี่ย ทักอยู่ได้ ลูกชายหน้าเหมือนแม่เลยนะคะ บ้าบอ” ภูริตายกกาแฟขึ้นดื่มพลางกลอกตามองบน กับคำทักของคนแปลกหน้าที่ได้ยินบ่อยมาก โดยเฉพาะช่วงหลังๆ มานี้คงเพราะน้องชายหน้าตาดีคนเลยชมและอยากชมมาถึงคนที่อยู่ข้างๆ ที่คิดว่าเป็นแม่ แต่จริงๆ มันใช่ที่ไหน เป็นพี่น้องที่อายุห่างกันยี่สิบปีต่างหากเล่า
“พี่ก็ไม่เห็นเคยปฏิเสธ” ภูมิแย้งเบาๆ
“สงสารน้อง”
“สงสารตัวเองมากกว่า ที่ปูนนี้แล้วยังเกาะคานแน่น”
“ไอ้ภูมิ ปากอย่างนี้ปล่อยให้อยู่ข้างถนนเลยดีไหม” ภูริตาหันมาแวดใส่น้องชายตัวดี ที่ขยันต่อปากต่อคำกับเธอเหลือเกิน หลายคนบอกมันเงียบ เย็นชา ลองมาดูตอนอยู่บ้านสิ เถียงไม่เท่าไหร่ แต่ความปากร้ายนี่สุดจริงๆ ส่วนหนึ่งก็เพราะตัวเองนี่แหละ เลี้ยงมาเหมือนเพื่อน ตามใจค่อนข้างมาก ทุกวันนี้ มันไม่กระโดดกัดหัวก็บุญเท่าไหร่แล้ว ดีที่ยังรู้ว่านี่คือพี่ที่อายุมากกว่ามันเกือบสองรอบ
“ลองดูก็ได้ครับ ถ้าพี่กล้า บอกว่าจะเช่าห้องอยู่คนเดียวยังไม่ยอมเลย”
ภูริตาถอนหายใจ หาข้อโต้แย้งน้องชายไม่ได้ เพราะมันคือความจริงทุกประการ ภูมิอยากจะอยู่ห้องเดิมต่อ แต่เธอไม่ยอม กำลังวัยรุ่นกลัวหลายๆ อย่าง ถ้าได้อยู่กับคนที่วางใจได้ เธอก็คงสบายใจในระดับหนึ่ง และคนที่พอจะมองเห็นก็มีแต่เพื่อนสนิทอย่างนภานี่แหละ
“ปากอย่างนี้ แกดูแลได้ใช่ไหม” เธอถามย้ำ อย่างกลัวเพื่อนเปลี่ยนใจ
“สบายมาก ภูมิเป็นเด็กดีจะตาย อีกอย่าง ยายฟ้าจะได้มีเพื่อนด้วย” นภาบอกยิ้มๆ แม้ต่อหน้าภูริตาจะแกล้งว่าน้องอย่างนั้นอย่างนี้ แต่ลับหลัง ก็ชมไม่ขาดปากว่าเป็นเด็กดี ไม่เคยสร้างความเดือดเนื้อร้อนใจให้เลยตั้งแต่เล็กจนโต
“ยังไงก็ฝากด้วยนะแก มีค่าใช้จ่ายอะไรเพิ่มเติมก็บอกมาได้เลย ถ้าทุกอย่างเข้าที่เข้าทาง เดี๋ยวฉันจะมารับมันไปอยู่ด้วย” ภูริตาบอกอย่างเกรงใจ แม้เจ้าตัวกับสามีจะรับปาก แต่ยังไงน้องชายเธอมันก็คือคนอื่นอยู่ดี
“เฮ้ย...พูดเป็นคนอื่นคนไกลไปได้ รู้จักกันมากี่ปีแล้ว น้องแกก็เหมือนน้องฉันนั่นแหละ”
“ผมจะเป็นเด็กดี ไม่สร้างความลำบากให้พี่ๆ ทั้งสองคนแน่นอนครับ ผมสัญญา” ภูมิเอ่ยแทรกขึ้นอย่างหนักแน่น เขารับรู้ถึงความลำบากของพี่สาวมาตั้งแต่เด็กจนโต ดังนั้นเขาสัญญากับตัวเองเสมอว่าจะไม่สร้างมันเพิ่มขึ้นมาอีก
“แล้วจะเดินทางวันไหน”
“มะรืนนี้” พูดถึงเรื่องเดินทางก็อดที่จะหันมามองหน้าน้องชายเพียงคนเดียวไม่ได้
“ภูมิย้ายมาบ้านพี่เลยก็ได้นะ”
“ขอเป็นวันที่พี่เดินทางได้ไหมครับ” เด็กหนุ่มต่อรอง เพราะเหลือเวลาอยู่กับพี่สาวอีกแค่ไม่กี่วัน แม้จะไม่ได้ตายจาก แต่ทั้งเขาและพี่ไม่เคยห่างกันไกลแบบนี้มาก่อน เลยอดที่จะใจหายไม่ได้
“ติดพี่เหมือนกันนะเราเนี่ย” ภูริตาแซวน้องชายอย่างพอใจ
“มีกันอยู่แค่นี้ ไม่ติดพี่จะไปติดใครล่ะครับ”
“แน่ะ ไม่มีสาวๆ ให้ติดเลยหรือไง น้องชายพี่ออกจะหน้าตาดีขนาดนี้” ไม่พูดเปล่า ภูริตายังใช้มือทั้งสองข้างจับหน้าคมเข้มหันมาทางตัวเอง แล้วนึกชื่นชมผิวสีน้ำผึ้งเกลี้ยงเกลาของน้องชายไม่ได้ นี่สินะวัยรุ่น ไม่เหมือนคนสามสิบปลายๆ จะเฉียดสี่สิบอย่างเธอที่มีริ้วรอยตามกาลเวลา
“แอบชมตัวเองก็บอกเถอะ” ภูมิทำเสียงฮึขึ้นจมูก เพราะใครๆ ก็บอกว่าหน้าตาเขาเหมือนพี่สาว แม้คนส่วนใหญ่ที่ไม่รู้ จะทักว่าเป็นแม่ลูกก็ตามที
“เฉไฉ” ภูริตาผลักหน้าของน้องชายให้ออกห่างอย่างหมั่นไส้
“ไม่มีครับ ยังไม่เจอที่ถูกใจ”
“จ้า...พ่อคนหล่อเลือกได้ ระวังจะได้ไปขึ้นอยู่บนคานกับพี่”
“ไม่ดีเหรอครับ แก่ตัวไปผมจะได้เลี้ยงพี่ไง”
“ความคิดดีนะเนี่ยเรา” นภาชม แต่พี่สาวของเจ้าตัวกลับมองค้อน “อย่ามา มันชอบแอบแขวะฉันเรื่องขึ้นคานอยู่เรื่อย คอยดูเถอะไปทำงานครั้งนี้ พี่จะสอยฝรั่งมาเป็นแฟนให้ดู”
“ให้มีก่อนเถอะค่อยโม้”
“ดูมันสิแก มันปากร้ายกับฉันตลอด” ภูริตาครางเสียงอ่อน ก่อนอดที่จะเตือนน้องชายไม่ได้ “ไปอยู่กับนภาห้ามพูดอะไรแบบนี้นะรู้ไหม”
“ครับๆ” ภูมิรับเสียงยานคางก่อนจะหันไปสนใจเครื่องดื่มในแก้ว
“น้องฟ้าด้วย ห้ามแกล้งน้องเด็ดขาด”
“เห็นผมเป็นคนเกเรขนาดนั้นเลยเหรอครับ” ภูมิขยับหลอดไปมาพลางคิดว่า น้องฟ้านี่น่าจะอายุเท่าไหร่แล้วนะ หกขวบได้แล้วมั้ง จำได้ว่าตอนนั้น เขาสิบขวบหนูน้อยเพิ่งจะเกิดและก็เป็นครั้งนั้นครั้งเดียวที่ได้เห็นหน้า เพราะไปกับพี่สาว หลังจากนั้นก็ไม่ได้เจออีกเลย แทบจะไม่หลงเหลือในความทรงจำ
“ก็ไม่รู้ เห็นแกเจอเด็ก ก็จ้องจนร้องไห้” ว่าแล้วก็ปิดปากหัวเราะ และหันไปเม้ามอยเรื่องน้องชายชอบทำเด็กร้องไห้กับเพื่อนรักอย่างออกรสชาติ
“ผมไม่เคยมีน้อง ไม่รู้จะทำยังไงนี่ครับ เห็นตัวเล็กๆ ดุ๊กดิ๊กๆ ดี ก็เลยมอง แต่จ้องนานไปหน่อยเท่านั้นเอง” ภูมิแก้ตัวเสียงแผ่ว
“แกไม่ยิ้ม ยิ้มสิยิ้ม ปากเป็นตะคริวหรือไง ไม่ก็หาอะไรน่ารักๆ ไปให้ เช่นตุ๊กตาอะไรเทือกนี้”
“ให้ใครครับ” ภูมิถามพลางเลิกคิ้วอย่างงงๆ เมื่อพี่สาวเหมือนจะเปลี่ยนเรื่องคุยหรือพูดคนละเรื่องเดียวกันกับเขาหรือเปล่า
“พี่หมายถึงน้องฟ้า ลูกสาวของนภาที่แกจะไปอยู่ด้วยนี่ไง”
“ครับแล้วผมจะลองดู” รับปากทั้งที่ยังไม่รู้หรอกว่า จะเอาอะไรไปผูกมิตรกับเด็กหกขวบดี ตุ๊กตาเหรอ แล้วมันตุ๊กตาแบบไหนละ เอาไว้ค่อยหาแล้วกัน
หลังจากส่งพี่สาวขึ้นเครื่อง เด็กหนุ่มก็เดินทางมาที่บ้านของนภาพร้อมกับข้าวของที่ไม่ได้มากมายนัก
“สวัสดีครับ”
นายก้องภพที่รออยู่แล้ว รับไหว้เด็กหนุ่มพร้อมกับรอยยิ้มอบอุ่น ทั้งคู่ไม่ได้เป็นคนแปลกหน้าต่อกัน เคยเจอ เคยพูดคุยกันบ้าง แต่ก็ไม่บ่อยเท่าภรรยาที่มักออกไปเจอกับพี่สาวของเด็กหนุ่มเสมอ “ทำตัวตามสบายนะ กินข้าวกันมาหรือยังล่ะ”