บท
ตั้งค่า

ตอน 3

เมื่อแม็กส์คาดคั้นภูริรวมทั้งหากไม่เล่าความจริงทั้งหมดเขาคงต้องไล่ภูริออก ลองคิดดูสถาปนิกถูกไล่ออกจะมีองค์กรไหนยอมรับเข้าทำงานในคดีความมีเรื่องกับผู้หญิงไม่ดีแน่ เขาจึงจำนนเล่าเหตุการณ์ในวันนั้นให้เจ้านายฟังทั้งหมด เมื่อฟังจบแม็กส์จึงหันมาทางโรสสราให้เธอเริ่มต้นเล่าของเธอบ้างทั้งที่เป็นเรื่องเดียวกัน นั่นคือการปกครองคนของแม็กส์ เขามักให้ความยุติธรรมต่อลูกน้องใต้บังคับบัญชาเสมอ แม้ค่อนข้างเอนไปทางโรสสราเกินครึ่งเขาต้องให้ความยุติธรรมกับทั้งสองฝ่ายให้มากที่สุด ผู้เสียหายคือโรสสรา หากว่าภูริก็ได้รับบาดเจ็บ

ฉะนั้นผลการตัดสินคือทั้งคู่โดนพักงานร่วมสองสัปดาห์จนกว่าจะปรองดองกันได้ โรสสราฮึดฮัดบ้าง หากแต่ก็ต้องยอมรับคำตัดสินอย่างน้อยยังดีกว่าถูกไล่ออกให้ประวัติการทำงานด่างพร้อยไปด้วย เธอคิดว่ายังต้องการทำงานด้านนี้ต่อไปจนกว่าจะเบื่อจึงต้องปูทางให้อาชีพของตัวเองดำเนินไปได้

โรสสรานำเรื่องราวบาดหมางกับเพื่อนร่วมงานรวมทั้งการโดนพักงานมาเล่าให้บิดาฟังในวันหนึ่ง ท่านถึงขนาดสั่งเด็ดขาดให้เธอลาออกจากงานสายที่ตัวเองรักโดยยื่นเสนอออกทุนให้ไปเรียนจัดดอกไม้ทั้งในไทยและต่างประเทศร่วมสองปีแล้วที่โรสสราละทิ้งงานสถาปนิกมาจับดอกไม้แทนดินสอเขียนแบบและเครื่องมือในการประกอบอาชีพสถาปนิก ชีวิตเธอตอนนี้มีแต่ดอกไม้ใบหญ้าสีสันสวยงามรายล้อม ประหลาดนักกลับมีความสุขกับมันได้ราวเกิดมาเพื่อสิ่งนี้

งานแต่ละวันทยอยเข้ามาไม่ขาดสาย ออเดอร์หลายสิบออเดอร์จัดแทบไม่ทันจนต้องจ้างฟรีแลนซ์เพิ่มจากที่มีสามคนต้องจ้างเพิ่มอีกสามคน ตอนแรกที่เธอรับปากกับบิดาเพราะท่านให้เหตุผลไว้อย่างไม่มีช่องว่างให้คนเลือดร้อนอย่างเธอได้ปฏิเสธได้ในการเปิดร้านดอกไม้อันตรงข้ามกับความต้องการของเธอโดยสิ้นเชิง เธอยอมไปเรียนจัดดอกไม้ ยอมไปคลุกคลีอยู่กับความสวยความงามมากกว่าความเข้มแข็งของตึกรามบ้านเรือน

หันมาเรียนรู้งานด้านนี้อย่างจริงจัง จนรู้มากกว่าเจ้าของสวนดอกไม้บางคนซะอีก ก็เพราะเธอเป็นเธอแบบนี้เมื่อตัดสินใจทำอะไรแล้วต้องทำให้สุด เช่นการเรียนรู้ในการจัดดอกไม้ทุกชนิดทุกประเภท ทุกสายพันธุ์แม้จำไม่หมดเกี่ยวกับดอกไม้ในโลกนี้ แต่สำหรับดอกไม่ที่เธอหลงรักโดยไม่รู้ตัวเช่นดอกกุหลาบเธอจึงเต็มใจเข้าไปศึกษามันจนรู้จักกุหลาบแทบทุกสายพันธุ์เลยก็ว่าได้

โรสสรากำลังง่วนอยู่กับการจัดช่อบูเก้ด้วยดอกกุหลาบสีส้มให้กับลูกค้ารายสำคัญเรียกว่าเจ้าประจำเลยก็ว่าได้ลูกค้ารายนี้สั่งช่อดอกไม้ได้ทุกวันไม่เคยขาดหากใครได้เป็นแฟนคงนั่งนอนดูช่อดอกไม้ที่คนนี้ส่งให้ทุกวันด้วยความสุขเขาสั่งช่อดอกไม้ไม่เคยซ้ำแต่เน้นย้ำดอกกุหลาบเท่านั้น

“เจ้อย่าลืมงานใหญ่ที่เราต้องไปจัดดอกไม้ในงานแต่งงานในโรงแรมนธารา ซีซั่นล่ะ” สมิทเอ่ยเตือนเจ้านายสาวแสนสวยที่วันๆง่วนอยู่กันการจัดดอกไม้ขยันกว่าพนักงานในร้านซะอีก สมิทคือเด็กส่งดอกไม้ที่รู้เส้นทางในกรุงเทพทุกซอกทุกมุมโรสสราดีใจที่ได้สมิทมาช่วยงานโดยการแนะนำของบิดา ท่านช่วยเธอทุกอย่างเพียงแต่ปล่อยให้บริหารงานเอง ถ้าเมื่อไหร่ที่โรสสราต้องการความช่วยเหลือท่านนายพลพร้อมจะหยิบยื่นให้บุตรสาวเพียงคนเดียวโดยไม่เกี่ยงงอน ร้านดอกไม้โรสเดลี่ ฟลาวเวอร์ คือความภาคภูมิใจของท่านนายพลรัฐสิทธิ์ มากกว่าโรสสราซะอีก

“ป่านนี้เจ้าพียังไม่กลับมาอีกเหรอ” เด็กส่งดอกไม้อีกคนที่ชื่อพีระมักซิ่งเวสป้าสีสันสะดุดตาเสียงดังเป็นเอกลักษณ์ไปส่งดอกไม้ให้กับลูกค้ารายแรกของวันยังไม่กลับมาร่วมสองชั่วโมงแล้ว พีระเป็นเด็กหนุ่มที่ดันไปพลั้งพลาดทำเด็กสาวรุ่นน้องท้องโตจนต้องรับผิดชอบด้วยการรับเลี้ยงทั้งลูกทั้งแฟนสาวซึ่งยังเด็กมากนักเพราะพ่อแม่ฝ่ายผู้หญิงไม่ยอมถ้าไม่รับผิดชอบมีหวังได้ไปนอนในคุกแน่เพราะเด็กสาวเพิ่งสิบห้าแตกเนื้อสาวหมาดๆ ด้วยความคึกคะนองของพีระไม่รู้จักป้องกันเด็กสาวเลยป่องกลาง พีระเองก็เพิ่งยี่สิบหยกๆ จึงต้องเลิกเรียนออกมาหาเลี้ยงเมียและลูกอ่อนไป

วันหนึ่งที่พีระเดินเข้ามาสมัครงานโดยเล่าประวัติตนเองโดยไม่คิดปิดบังต่อโรสสราเธอจึงเห็นใจรับเข้าทำงาน ในเรื่องานพีระทำงานได้ดีต่างจากบุคลิกเด็กแว้น เสียอยู่อย่างเดียวชอบอู้หนีงานไปหาลูกกับเมียเท่านั้นส่วนงานในหน้าที่มักทำได้ดีไม่มีที่ติ

“เจ้าพีคงแอบไปส่งข้าวส่งน้ำลูกเมียล่ะมั้งเจ้” สมิทกล่าวอย่างรู้จักเพื่อนร่วมงานรุ่นพี่ ความจริงสมิทอายุมากกว่าพีระถึงสองปีแต่ยกให้เป็นรุ่นพี่เพราะสมิทยังไม่มีแฟนและยังไม่ได้เป็นพ่อคนแถมเข้ามาทำงานหลังพีระซะอีก

โรสสราคุยกับสมิทไปจัดช่อบูเก้ดอกกุหลาบสีส้มตามที่ลูกค้าคนสำคัญสั่งมือบางกำลังจัดใบเฟิร์นนาคราชไว้รอบช่อกุหลาบ

“สมิทส่งสำลีให้เจ้หน่อยสิ” ปากพลางสั่งสมิทให้ส่งสำลีชุบน้ำเพื่อนำมาห่อหุ้มก้านกุหลาบสำหรับชะลอยืดอายุดอกไม้ให้สดสวยอยู่ได้หลายๆวันแล้วห่อหุ้มด้วยถุงพลาสติกอีกทีมือบางจัดแจงห่อโคนดอกกุหลาบด้วยกระดาษสาสีชมพูตัดกับสีของดอกไม้สีสดแจ่มสดใส

“ช่อนี้ส่งเจ้าประจำหรือเปล่าเจ้”

“อืมคุณชาร์ล นิโคลัธ” ว่าพลางนึกถึงใบหน้าหล่อเหลาราวเทพบุตรของคนสั่งเจ้าของโรงแรมที่อยู่ตรงถนนวิทยุย่านนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติหนาตา เขาสั่งดอกไม้ทุกวันนึกแล้วให้อิจฉาผู้หญิงที่ได้ดอกไม้จากผู้ชายมากความหล่อ อีกทั้งพูดจาสุภาพเกินมนุษย์มนาเช่นชาร์ลอย่างที่สุด

“ว่าแต่เจ้คุณชาร์ลอะไรนั่นหล่อกระชากวิญญาณขนาดนี้ สวยๆอย่างเจ้ไม่สอยมาควงมั่งล่ะ”

“เขาหล่อเกินไป”

“อ้าวหล่อเกินไปก็ดีสิผู้หญิงเบี้ยไบ้รายทางจะได้อิจฉาเจ้ไง”

“ไม่ล่ะไม่อยากเสียโฉมอยากคงความสวยไว้แบบนี้”

“ว่าแต่เจ้สวยเหมาะสมกับคุณชาร์ลดีนะเป็นถึงลูกท่านนายพลพอฟัดพอเหวี่ยงกับคุณชาร์ลจะตาย”

“บอกแล้วไงไม่อยากโดนผู้หญิงของเขาตบ ดูสิเขาสั่งดอกไม้ทุกวันไม่ให้แฟนจะให้ใครที่ในยะ” คนสวยที่เจ้าของร้านจับคู่ให้กับชายหนุ่มผู้สูงศักดิ์เจ้าของโรงแรมชื่อดัง คุณสมบัติผู้ชายดีๆอย่างนี้คงไม่เหลือรอดมาถึงมือเธอแน่ เด็กพวกนี้ก็คิดกันเกินจริงบางทีโรสสรารู้สึกเขินเมื่อโดนเด็กในร้านล้อ ทว่าสำหรับเธอชาร์ลเป็นผู้ชายที่จัดได้ว่าหล่อบาดตา เท่ห์บาดใจหากแต่ทำไมเขาไม่สามารถทำให้หัวใจเธอเต้นแรงผิดจังหวะได้สักครั้งนอกจากยังเต้นปกติ

“เออ...นั่นสิ”

“เอานี่ช่อบูเก้เสร็จแล้ว” โรสสราส่งช่อบู้เก้ดอกกุหลาบสีส้มสดให้กับสมิทว่างเป็นต้องพล่ามยุยงให้เธอสอยชาร์ลลงจากโรงแรมมากิน เธอมีศักดิ์ศรีความเป็นผู้หญิงจะให้สอยผู้ชายลงมากินได้อย่างไร ฝ่ายผู้ชายยังไม่เผยความรู้สึก ขณะเธอเป็นหญิงจะวิ่งโล่วางตัวเองใส่พานให้เขาบ้าไปแล้ว

เสียงเวสป้าพีระแล่นเข้ามาจอดหน้าร้านพอดี กับได้มีรถยนต์คันหรูสีดำเงาวับแล่นมาจอด สมิททำท่าจะก้าวออกจากร้านเพื่อนำดอกไม้ที่โรสสราเพิ่งจัดเสร็จไม่ถึงห้านาทีไปส่งให้กับผู้สั่ง

“ไม่ต้องไปส่งแล้วมั้งเจ้”

“ทำไมวะพีระ” สมิทเอ่ยถามขณะพีระเดินสวนเข้ามาในร้านพอดี

“โน่นไงพ่อเทพบุตรสุดหล่อกำลังก้าวลงจากรถสงสัยจะมารับดอกไม้เอง”

พีระเอ่ยชี้นิ้วโป้งไปด้านหลัง ส่วนมือก็วางหมวกกันน๊อกลงกับโต๊ะกระจกเดินมาส่งค่าช่อดอกไม้ที่นำไปส่งให้ลูกค้าแถวสีลมเพิ่งกลับมาให้กับเจ้านายสาว โรสสรารับมาพร้อมกับลงบัญชีไว้เป็นที่เรียบร้อยเก็บเงินลงลิ้นชักมิดชิด หญิงสาวละเอียดเสมอทุกขั้นตอนเพราะบิดาฝากฝังร้านนี้ไว้กับเธอ ฉะนั้นโรสสราไม่ต้องการให้บิดาผิดหวัง ในเมื่อรับปากจะทำร้านให้ดีที่สุดก็ต้องทำให้ได้อย่างคำพูด

“เจ้ผมไม่ต้องไปส่งแล้ว” สมิทแสดงอาการดีใจเกินงามยิ้มล่ายิ่งกว่าสาวโทรมานัดไปดูหนัง เด็กหนุ่มวางช่อดอกไม้ลงบนเคาน์เตอร์ตรงหน้านายสาวพลางหันไปมองประตูที่ติดกระดิ่งกรุ้งกริ้งเพื่อให้สัญญาณเวลามีแขกหรือผู้คนเข้ามาในร้านตอนนี้ฟรีแรนซ์ไม่มีใครอยู่โรสสราอยู่ลำพังกับเด็กส่งดอกไม้ทั้งสองช่วงเย็นถึงจะมีคิวส่งดอกไม้อีกทียาวเหยียด

“ทำไมเทพบุตรของพวกนายต้องมารับดอกไม้เอง หรือว่าเขารีบทั้งๆที่เขานัดเวลาเที่ยงนี่นา ตอนนี้เพิ่งสิบโมงครึ่ง”

“เขาอาจอยากได้กลิ่นหอมๆบนตัวเจ้หรืออาจอยากเห็นหน้างามๆของเจ้ก็ได้” สมิทว่าพลางส่งสายตาไปทางตัวต้นเหตุที่ก่อความสงสัยให้กับพวกเขา “อีกอยากคุณชาร์ลไม่ใช่เทพบุตรของพวกผม ผมกับเจ้าพีระยังแมนทั้งแท่ง” สมิทว่าติดตลกยักคิ้วข้างเดียวให้กับโรสสราเจ้านายสาวสวยที่มีกลิ่นกายน่าอภิรมย์ เข้าใกล้นายสาวทีไรชวนเคลิ้มกับกลิ่นหอมประจำกายนายสาวทุกที ฉะนั้นมีหรือชาร์ลจะเป็นข้อยกเว้น

เสียงกระดิ่งดังกรุ้งกริ้งเมื่อมือหนาของชายหนุ่มร่างสูงมาดเท่ห์ในชุดสูทสีดำแตะลงกับราวจับประตูแล้วออกแรงผลักส่งตัวเองก้าวเข้ามาในร้าน เขายืนตระหง่าน ขยับเสื้อสูทให้เข้าที่ทั้งที่มันเนี๊ยบสุดยอดอยู่แล้ว ชาร์ล นิโคลัธ นักธุรกิจหนุ่มลูกครึ่งไทย อังกฤษ ทายาทรุ่นสามแห่ง นธารา ซีซั่นโรงแรมระดับห้าดาวที่มีแขกเช็คอินเข้าพักไม่เคยว่างเว้น

เขาส่งยิ้มบางให้กับเจ้าของร้านที่ยังตะลึงกับความหล่อบนดวงหน้าสะอาดสะอ้านของเขา ในมือบางยังถือช่อดอกบูเก้ดอกกุหลาบสีส้มในมือด้วยท่าทีราวกับถูกสะกดด้วยมนตราเสน่หา

“นั่นช่อดอกไม้ที่ผมสั่งไว้หรือเปล่าครับ” เสียงทุ้มดังปลุกโรสสราให้หลุดจากภวังค์ เธอเผลอเหม่อมองเขาลืมตัว เมื่อสติมาจึงรับรู้ถึงการก้าวเข้ามาชิดหน้าเคาน์เตอร์เจ้าของร่างสูง

“อ้อ...ชะ...ใช่คะว่าแต่คุณชาร์ลมารับเองเชียวหรือคะ”

“ครับพอดีผมแวะมาชวนสาวทานอาหารแถวๆนี้”

“งั้นหรือคะ นี่คะดอกไม้ที่คุณสั่งไว้” หญิงสาวส่งช่อดอกไม้ที่จัดไว้อย่างสวยงามให้กับเขา มือหนารับช่อดอกไม้จากหญิงสาวถือโอกาสแตะนิ้วกับนิ้วเรียวของหญิงสาวแผ่วเบา กลิ่นกายของเธอหอมเย้ายวนเสมอ ครั้งแรกที่เขาได้รู้จักเธอในโรงแรมของเขาเอง ในวันที่เธอรวมพลพรรคไปจัดดอกไม้ในงานแต่งงานลูกค้าที่ยื่นความจำนงเช่าห้องจัดเลี้ยงเพื่อเลี้ยงฉลองงานแต่งงาน จากวันนั้นเขาไม่เคยลืมกลิ่นกายยั่วอารมณ์ร้อนระอุในกายได้เลย

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel