14. มหาอุตม์
ผู้ใหญ่ดาวและชาญยังคงรอกลุ่มคนงานของตัวเองเช่นกัน แต่คนที่หวังจะชวนกำนันไปทานข้าวเช่นทุกครั้งอย่างดาว ก็ยังยืนขนาบข้างเขาไม่ผละออก
ก่อนจะชะงักกับคำพูดของกำนันหนุ่มที่เปล่งออกมาไม่ถนอมน้ำใจเธอพอๆ กับที่เคยทำกับเพลินเลย
“ผู้ใหญ่ชาญ ยังไงฝากผู้ใหญ่ดาวกลับบ้านด้วยนะครับ แล้วก็วันหลังถ้าเป็นเรื่องด่วนของตำบล แนะนำว่าอย่าให้ผู้ใหญ่ที่เป็นผู้หญิงไปที่บ้านผมบ่อยนัก ถ้าไม่ได้เกี่ยวกับหมู่บ้านนั้นโดยตรง ก็ช่วยให้พวกผู้ชายไปตามผมแล้วกัน ไม่ก็โทรมาก็ได้มือถือผมก็มี เข้าใจกันนะครับ”
พอเสียงทุ้มเอ่ยจบเขาก็หันมาคว้ามือเล็กให้เดินตามไปขึ้นรถ ทำเอาทุกคนต่างก็แปลกใจที่เห็นแบบนี้
“อะไรกัน นั่นมันผู้ชายไม่ใช่เหรอ ทำไมกำนันดูแลดีขนาดนี้ หรือว่าที่ไม่แต่งงานเพราะชอบแบบนี้วะ”
“มึงก็พูดไป นั่นอาจจะเป็นหลานเขาก็ได้ เห็นคนบ้านแปดทิศพูดอยู่ว่ากำนันมีหลานมาอยู่ด้วย สงสัยจะคนนี้ล่ะมั้ง มาจากกรุงเทพด้วย คงห่วงกลัวเป็นลมนั่นแหละ”
“เออ กูก็ได้ยินมาแบบนั้น เห็นว่าโดนแดดก็เลือดกำเดาไหลเลย นี้แกก็คงกลัวจะเป็นเหมือนวันนั้นอีกล่ะมั้ง”
“เอ้าเหรอ กูก็นึกว่าแกเปลี่ยนรสนิยมซะอีก เห็นประคบประหงมซะขนาดนี้นี่หว่า”
“มึงไม่รู้อะไร กำนันเขามีเด็กสาวๆ เยอะจะตาย จะมาสนผู้ชายด้วยกันทำไม หล่อๆ อย่างกำนันแค่กระดิดนิ้วก็ได้กินแล้ว ไม่เหมือนพวกเราหรอก”
“มึงนี่รู้ดีนะไอ้สิน” ชาวบ้านพูดคุยกันถึงกำนันหลังจากที่รถสี่ประตูเคลื่อนตามรถคันอื่นๆ ออกไป
ข่าวลือของกำนันหนุ่มมักเป็นที่สนใจของทุกคนในตำบล เรื่องราวของเขาล้วนถูกเล่าต่อกันไปจนถึงตัวอำเภอก็มีในบางครั้ง โดยเฉพาะกิติศัพท์เรื่องของสาวๆ ที่เพื่อนเขามักจัดสรรหามาให้ไม่เคยขาด ขอแค่กำนันเอ่ยปาก ทำเอาตอนนี้ผู้ใหญ่ดาวแสนสวยถึงกับหน้าถอดสีเมื่อได้ยิน
แม้จะได้ฟังข่าวลือเกี่ยวกับเรื่องนี้มาบ้างก็เถอะ โดยเฉพาะข่าวที่ว่ากำนันไม่ยุ่งกับของใกล้ตัว หรือคนในตำบลและเพื่อนร่วมงาน วันนี้เธอได้รู้ซึ้งแล้ว แต่ก็ใช่ว่าจะยอมแพ้ ยังไงเธอก็ต้องหาทางใกล้ชิดกับเขาให้ได้
17:00 รถสี่ประตูดำที่กำลังขับมาจนถึงทางเปลี่ยวรอยต่อระหว่างสองหมู่บ้าน เพื่อจะเข้าสู่เส้นทางของตัวตำบลแปดทิศ จู่ๆ รถที่ถูกขับอย่างระมัดระวังมาตลอดทางก็ควบคุมไม่อยู่ จนพวงมาลัยหักไปชนเข้ากับต้นไม้ใหญ่ข้างทาง ถุงลมนิรภัยพุ่งออกมาทำหน้าที่ของมันทันที
“เป็นอะไรหรือเปล่าธาม” พรายถามคนข้างตัวทันที
“ไม่ครับ ลุงกับพี่โรมเจ็บหรือเปล่า” ธามถามคนด้านหลังเช่นกัน ก่อนจะได้รับคำตอบที่น่าพอใจออกมา
“ทุกคนรีบลงจากรถมาทางฝั่งนี้” พรายพูดขึ้น พร้อมกับดึงเอาร่างของธามลงมาด้านฝั่งคนขับ ซึ่งมันทำให้คนตัวเล็กกว่าตกอยู่ในอ้อมกอดกำนันหนุ่มในทันที
“มีคนทำให้รถเป็นแบบนี้ คงเป็นพวกที่วางระเบิดฝาย”
“เดี๋ยวผมโทรตามเซียงหรั่งใหม้มันพาคนมานะครับ”
ลุงฉ่ำเอ่ยบอกก่อนจะกดมือถือหาคนในหมู่บ้านให้ช่วย เพราะตอนนี้แก้วคงกำลังเดินทางกลับมาจากไปสอบต่างจังหวัด คงยังมาไม่ถึงแน่
“เฮ้ย! คิดเหรอว่าจะหลบพ้น วันนี้มึงไม่รอดแน่ไอ้กำนัน กูจะดูซิว่ามึงจะติดปีกหนีไปยังไง”
เสียงจากชายฉกรรจ์จำนวนมากที่ดังขึ้นพร้อมกับเสียงรถดับลง พวกมันกำลังเดินอ้อมมายังข้างรถที่ชนเข้ากับต้นไม้จนด้านหน้าพังยุบ แต่ยังไม่ทันที่พวกมันจะได้ก้าวมาเห็นหน้าคนที่คิดว่าหลบอยู่ ก็ถูกลูกตะกั่วยิงเข้ามาปะทะร่างเสียก่อน
ทำเอาพวกมันต้องหาที่หลบกันเป็นพัลวัน พลแม่นปืนอย่างโรมมีเหรอที่จะปล่อยให้ใครลูบคมเอาง่ายๆ ไม่ต่างจากหนุ่มหน้าหวานที่ทุกคนคิดว่าไม่มีพิษสงอะไร เขาก็ศิษย์เอกของโรมนี่แหละ กระสุนทุกนัดเลยไม่พลาดเป้า ดับชีพในนัดเดียวทุกครั้งที่ลั่นไก
พรายมองไปยังร่างเพรียวที่ยืนหลบอยู่หลังต้นไม้ใหญ่ตรงข้ามกับเขา ซึ่งก่อนนั้นทั้งคู่ผละออกไปก่อนที่คนกลุ่มนี้จะมาถึง การยิงต่อสู้เกิดขึ้นเกือบสิบนาที ก็ดูเหมือนทุกอย่างจะสงบลง เพราะเสียงรถที่จอดดับสนิทอีกฝั่งดังขึ้น พร้อมกับเสียงเหยียบคันเร่งเพื่อไปให้พ้นโดยเร็ว
“ดูเหมือนเราจะปลอดภัยแล้วนะครับกำนัน” ลุงฉ่ำพูดด้วยเสียงสั่น เพราะเกิดมาไม่เคยถูกลอบยิงแบบนี้มาก่อนเลย แม้แต่พรายเองก็ไม่เคยเจอเหตุการณ์รุนแรงนัก ที่กะเอาเขาถึงตาย เพราะปกติจะแค่ขู่เท่านั้น
“พวกมันไปหมดแล้วครับ เหลือก็แค่คนตาย” โรมพูดขึ้น หลังจากที่เดินสำรวจรอบๆ แล้ว จึงเรียกให้กำนันและลุงฉ่ำออกมาจากข้างรถ ธามเดินมาหยุดมองภาพคนตายที่มีไม่น้อยกว่าห้าคน เขาก็หันมาหากำนันทันที เพราะดูท่าคนเหล่านี้จะไม่ใช่ศัตรูของเขาแน่ เพราะมันดูไม่มืออาชีพเอาซะเลย อาวุธก็แค่ปืนที่หาได้ตามตลาดมืด จะบอกว่าเป็นพวกคนละระดับกับที่เขาเคยเจอก็ได้
“กำนันมีศัตรูด้วยเหรอครับ” โรมถามขึ้นในสิ่งที่เขาสงสัย เพราะความคิดก็ไม่ต่างจากธามนัก แต่ยังไม่ทันที่พรายจะได้ตอบอะไรออกไป เขาก็เห็นว่ามีเงาตะคุ่มของใครหลบอยู่ที่ต้นไม้ และยังเล็งปืนมาที่ร่างเพรียวอีกด้วย
ตอนนี้เขาไม่ได้คิดอะไรเลยสักนิด ร่างแกร่งรีบเอาตัวเองบังคนตัวเล็กกว่าทันที พร้อมกับเสียงปืนที่ดังสนั่นขึ้นอีกครั้งรัวๆ โรมรีบชักปืนออกมายิงกระหน่ำไปที่ต้นไม้เช่นกัน แต่ดูเหมือนมันจะไม่อยู่ตรงนั้นเสียแล้ว ก่อนที่เขาจะรีบวิ่งกลับมาดูกำนันที่เอาตัวเข้ารับกระสุนแทนธาม
“อาพราย อาพรายทำไมทำแบบนี้ ฮื่อฮื่อ” ธามร้องไห้ออกมาราวกับเด็กก็ไม่ปาน เพราะเขารู้ว่าคนตัวโตรับกระสุนแทนไปเต็มๆ เสียงปืนที่ดังขึ้นมีไม่ต่ำกว่าห้านัด แน่นนอนว่าคนในอ้อมกอดคงไม่รอดแน่ แต่!
“โอ๊ย!จุกเป็นบ้า ลุงเอาน้ำให้หน่อย” ลุงฉ่ำยื่นน้ำให้โดยที่มีสายตาของโรมและธามมองอย่างแปลกใจ และตกใจไปพร้อมกัน ธามจับไหล่อีกฝ่ายแน่น ก่อนจะเอียงตัวเอี้ยวไปมองด้านหลัง ซึ่งมันมีแค่รอยดินปืนเท่านั้น ไม่มีเลือด ไม่มีรอยขาดของเสื้อที่ควรจะถูกกระสุนเจาะ ทำเอาคนที่ถูกโอบกอดไปในตัวถึงกับนั่งนิ่ง
เพราะเด็กหนุ่มตรงหน้าแทบจะปีนขึ้นมานั่งบนตักเขาด้วยซ้ำ การกระทำทั้งหมดของธามอยู่ในสายตาของลุงฉ่ำ แต่โรมนั้นไม่ได้สนใจเจ้านายเลย เพราะเขาเดินไปนั่งอยู่ด้านหลังกำนัน และพิจารณาดูเสื้อไม่ต่างจากธาม ผิดก็แค่ร่างเพรียวคุกเข่าโอบกอดกำนันหนุ่มเอาไว้ทางด้านหน้า มือเรียวยกขึ้นจับที่เอวเล็กซึ่งพอได้สัมผัสแล้วเขาก็ไม่อยากปล่อยมันเลยจริงๆ ก่อนจะยกร่างนี้เพื่อให้พ้นจากอกแกร่งของเขาที่มันกำลังเต้นแรงจนกลัวอีกฝ่ายได้ยิน