บทที่ 5 หลานชายมหาเศรษฐี
รถสปอร์ตสีขาวยี่ห้อดังแล่นออกจากรั้วคฤหาสน์อิบราฮิมตรงไปยังบ้านรับรองแขกซึ่งอยู่ห่างจากปราสาทมหาเศรษฐีประมาณ 500 เมตร ชายหนุ่มขับรถให้คนรับใช้อย่างไอนาสนั่งเป็นประจำ ไซฟาลชอบทำอะไรด้วยตัวเองและไม่ชอบความล่าช้าไม่ว่าจะทำอะไรต้องรวดเร็วและทันใจเขาเสมอ
แพรดาวกับทีมงานทานอาหารเสร็จกลับออกมานั่งรอเจ้าของบ้านที่ห้องรับแขกเช่นเดิม เธอถอนใจไม่รู้กี่เฮือกและกี่รอบ ไม่ชอบการรอคอยยืดเยื้อเช่นนี้ เธอลุกจากเก้าอี้เดินไปหยุดยืนหน้ารูปภาพสีน้ำมันขนาดใหญ่
ปุยเมฆสีขาวระยอดเขาหินด้วยท่าทีอ่อนโยนช่วยให้ภูเขาที่ดูแข็งกระด้างอ่อนตามไปด้วย ไม่น่าเชื่อว่า ศิลปินผู้นี้จะเปลี่ยนความแข็งให้นุ่มลงได้ แพรดาวยิ้มแล้วเดินไปที่ประตูบ้าน เธอก้าวเรื่อยๆ ออกไปยังระเบียงด้านข้าง
“ยายแพร จะไปไหน” ประพนธ์เดินตามออกมา
“เดินย่อยหน่อยพี่ รอนานเบื่อจะตาย คนรวยชอบคิดว่าคนรอต้องอดทนเสมอรึเปล่าพี่ แพรไม่อยากทนแล้วนะ รอนานเกินไปแล้ว ไม่รู้ธุรกิจรัดตัวอะไรนักหนา”
ประพนธ์กอดอกจ้องหน้าผู้กำกับสาว คิดหาคำพูดให้เธอเข้าใจแต่ยังไม่ทันคิดอะไรออกรถเก๋งสีขาวก็แล่นเข้ามาจอดหน้าเรือนรับรอง คนขับเปิดประตูก้าวลงจากรถ เขามองเข้ามาแล้วก้าวยาวๆ ตรงมาที่บันไดหินอ่อน ชายคนที่มาต้อนรับครั้งแรกก้าวตามแทบไม่ทัน
ทันทีที่คนขับรถก้าวขึ้นบันได เขาชะงักเท้าที่จะก้าวเข้าไปด้านใน หันมามองชายหนุ่มกับหญิงสาวตรงระเบียง สายตาคมปราบจับนิ่งที่ใบหน้ารูปไข่เกลี้ยงเกลาของหญิงสาว ดวงตาสดใสจ้องมายังเขาไม่กะพริบ เขาเผลอมองริมฝีปากกระจับอ่อนของเธอ ผู้หญิงคนนี้เป็นทีมงานสารคดี ท่าทางมั่นใจไม่ใช่เล่น
“พวกคุณจะมาถ่ายสารคดีที่นี่ใช่มั้ย” เขาถามด้วยภาษาอังกฤษ
“ใช่ครับ ผมประพนธ์แล้วนี่ แพรดาว ครับ” ประพนธ์ตอบเป็นภาษาเดียวกัน เขาก้าวเข้ามายืนตรงหน้าไซฟาล แพรดาวไม่ก้าวตาม
“ยินดีที่ได้รู้จักคุณประพนธ์ ผมไซฟาล หลานชายคุณลุงอิบราฮิม เชิญข้างในแล้วก็ ถ้าไม่จำเป็นกรุณารออยู่ในที่ที่จัดให้นะครับ”
คำพูดแต่ละคำ ดวงตาคมปราบผ่านไหล่ประพนธ์ไปที่ใบหน้าแพรดาวกระด้าง ไม่พอใจกับสิ่งที่เธอกับประพันธ์ทำ หญิงสาวคอแข็งเชิดหน้าขึ้นทันที
“จะให้นั่งรอจนเป็นง่อยรึไง” เธอพูดเบาแต่เขาได้ยิน เขากะพริบตา สายตาที่กำลังเบือนหนีใบหน้างดงามหยุดและเบนกลับมาที่เดิม
“ว่าอะไร” เขายังคงถามเป็นภาษาอังกฤษ
แพรดาวยักไหล่เมินหนีสายตาคมดุของเขา ผู้ชายคนนี้ร่างสูงโปร่ง ผิวสีแทน ผมยักเล็กน้อย คิ้วเข้ม ขนตายาวงอนราวกับหญิงสาว ดวงตาสีนิลช่วยให้ใบหน้าเข้มขึ้นกว่าเดิม จมูกโด่งรับกับริมฝีปากกระจับ บนใบหน้าไม่มีเคราครึ้ม ไม่มีหนวดเช่นผู้ติดตามของเขา
ภาพชายหนุ่มแขกคลุมผ้าที่ศีรษะ สวมชุดคลุมตัวโคร่งปกปิดสัดส่วนแท้จริงไว้มิดชิด หนวดเฟิ้ม เครารกรุงรังนั้นหายไปจากความคิด ไซฟาลคือชายหนุ่มรูปงามตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า เขาเป็นผู้ชายที่ไม่มีเค้าของแขกแถบตะวันออกกลางหลงเหลืออยู่ ยกเว้นคิ้วเข้มตาดุเท่านั้น
การแต่งตัวทันสมัย กางเกงสีขาวเหมือนรถสปอร์ตที่เขาขับ เสื้อเชิ้ตแขนยาวสีน้ำเงินอมฟ้าพับแขนถึงข้อศอก กระดุมหน้าปล่อยเปิด 2 เม็ดเผยไรขนที่หน้าอก น่ามองสำหรับหญิงสาวที่ชอบคนมีขนบนแผงอกยกเว้นแพรดาว นอกจากจะไม่ชอบแล้วยังไม่เคยคิดจะมีแฟนเป็นคนต่างชาติด้วยซ้ำไป
ไซฟาลก้าวยาวๆ เข้าไปในห้องรับแขก ไอนาสยืนรอประพนธ์กับแพรดาวเดินตามไซฟาลแล้วจึงตามไปห่างๆ
ทุกคนที่นั่งรออยู่ในห้องรับแขกลุกขึ้นยืนมองมาที่ไซฟาลเป็นจุดเดียว ประพนธ์เดินมาหยุดยืนข้างเพื่อนร่วมงานที่อยู่ใกล้ที่สุด
“ทุกคน นี่คุณไซฟาล หลานชายท่านอิบราฮิม”
ประพนธ์แนะนำให้ทีมงานรู้จักไซฟาลซึ่งทุกคนยกมือไหว้ชายหนุ่มพร้อมกัน ไซฟาลจะยกมือรับไหว้ตามประเพณีไทยแต่เหมือนคิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ เขาจึงแค่ก้มศีรษะรับเท่านั้น
“เราขอเริ่มงานเดี๋ยวนี้ได้มั้ย” แพรดาวเอ่ยขึ้นเพราะเธอไม่อยากรออีกต่อไปแล้ว
“คุณจะทำอะไร” เขาหันมาจ้องหน้าเธอ ทำไม่รู้กับสิ่งที่เธอพูด
“ถ่ายสารคดีท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ที่อาณาจักรของคุณลุงคุณไงคะ” แพรดาวตอบคำถามของเขา ภาษาอังกฤษของเธอไม่แพ้ประพนธ์
“ที่นี่ไม่ใช่สถานที่ท่องเที่ยว คุณลุงไม่บอกคุณรึไงว่าเราไม่อนุญาตให้ใครเข้ามาถ่ายทำสารคดีหรือหนังสืออะไรทั้งสิ้น”
แพรดาวอ้าปากค้าง ประพนธ์จ้องหน้าชายหนุ่มต่างวัย พูดไม่ออกกับคำพูดเชิงไม่อนุญาตนั้น สายตาทุกคู่จับที่ใบหน้าคมเข้มของหลานชายมหาเศรษฐีแล้วหันมาที่แพรดาวกับประพนธ์
“แพร มันยังไงกัน พี่นีขออนุญาตแล้วไม่ใช่หรือ ท่านอิบราฮิมก็อนุญาตแล้วพวกเราถึงมาที่นี่ แล้วนี่ยังไง” ประพนธ์ถามเชิงปรึกษากับหญิงสาว
“จะยังไงล่ะก็ไอ้บ้านี่ไม่ยอมให้ถ่ายน่ะสิ เราต้องติดต่อท่านอิบราฮิม”
แพรดาวใส่อารมณ์ ใบหน้าสวยบึ้งขึ้นมาทันควัน ไซฟาลสะอึกกับคำพูดของเธอ พยายามระงับความโกรธแต่กระนั้นกรามทั้งสองข้างขบเข้าหากันแน่น