บท
ตั้งค่า

บทที่ 4 คฤหาสน์อิบราฮิม

คฤหาสน์บนเนื้อที่เกือบ 100 ไร่ ตั้งเด่น ท่ามกลางเมกไม้ยืนต้นแปลกตา ไม้ดอกที่แพรดาวไม่คุ้นตาและคุ้นเคยสำหรับดอกไม้จากต่างแดน เธอยิ้มกับสิ่งที่เห็นทั้งหมด ความเข้าใจตั้งแต่แรกผิดไปเมื่อได้สัมผัสกับของจริงที่เธอยอมรับว่าสวยถูกใจ

เพียงแค่รอบนอกยังสวยขนาดนี้ถ้าเป็นภายในบ้านจะงดงามสักเพียงไหน หญิงสาวคิดอยู่ในใจ เธอกวาดสายตาไปรอบๆ แล้วหันมาที่ประพนธ์

“พี่พนธ์ เจ้าของบ้านให้เรารอที่ไหน”

“ไม่รู้สิ คนมารับให้รอตรงนี้ก่อนเดี๋ยวจะมีคนพาไป”

“ทำตัวเหมือนพระราชาแห่งเมืองเชียวนะเนี่ย เข้าพบก็ยาก ออกมาก็ยาก ชีวิตคนรวยนี่ลำบากแบบนี้ทุกคนรึเปล่าพี่”

“ไม่รู้โว้ย ไม่เคยรวยมากขนาดนี้” ประพนธ์สั่นศีรษะ แพรดาวหัวเราะ

“เชิญทุกคนไปที่เรือนรับรองครับ”

ชายหนุ่มร่างสันทัดผิวสีเข้ม เดินเข้ามายืนตรงหน้าแพรดาว พูดกับเธอเป็นภาษาอังกฤษ เธอพยักหน้ารับแล้วหันไปบอกทีมงานให้เดินตามชายผู้นั้นไปยังเรือนรับรองที่พอแพรดาวก้าวผ่านประตูห้องเข้าไปแทบจะเป็นลมล้มลงตรงนั้นเพราะเรือนรับรองกว้างใหญ่กว่าบ้านเธอหลายเท่า

ของตกแต่งภายในล้วนแต่มีราคาแพงลิบลิ่วที่คนธรรมดาๆ อย่างเธอไม่สามารถซื้อมาเป็นเจ้าของได้

“ถึงเวลาทานอาหารมื้อเที่ยงแล้วครับ เชิญทุกคนที่โต๊ะอาหารด้านนี้ครับ”

“คุณอิบราฮิมให้เราทานอาหารก่อนเข้าพบหรือครับ” ประพนธ์เอ่ยขึ้น

“ครับ เชิญครับ” คำตอบรับสั้นๆ หลุดออกมาจากริมฝีปากหนาใต้หนวดสีเข้ม

แพรดาวเดินตามประพนธ์ไปเงียบๆ เลยจากห้องรับแขกเป็นห้องรับประทานอาหาร โต๊ะตัวยาวตั้งอยู่กลางห้อง เก้าอี้จำนวน 18 ตัวตั้งโดยรอบ โต๊ะอาหารตัวนี้ยาวที่สุดเท่าที่แพรดาวเคยเห็นมา เธออดคิดไม่ได้ว่า นี่เป็นฉากในละครหรือเปล่า ตัวเธอเป็นตัวละครสำคัญในเรื่องนี้แต่ไม่ใช่นางเอกเพราะเธออยากเป็นนางร้ายมากกว่าเพราะไม่ต้องทำตัวเป็นหญิงสาวแสนดี ไม่ต้องเก็บกดอารมณ์ไว้ภายในให้ปวดศีรษะ มีอะไรก็ระเบิดออกมา

“แพร กินสิ นั่งจ้องกับข้าวอยู่ได้ กินไม่เป็นรึไง หัดไว้ เราต้องอยู่ที่นี่อีกยี่สิบเก้าวัน”

ประพนธ์เอียงหน้าเข้ามากระซิบข้างหูแพรดาวนั่นแหละเธอจึงรู้ตัวว่าคิดไกลเกินตัว เธอพยักหน้าแล้วตักอาหารใส่จาน เหลือบมองเพื่อนร่วมงานที่ทำหน้ากระอักกระอ่วนกับรสชาติอาหารที่ทานเข้าไป

“อร่อยมากเลยหรือ ทำหน้ายังกับถูกบังคับให้กินข้าวบูด”

“พูดมากยายแพร กินไป” ประพนธ์เอ็ดหญิงสาวเบาๆ เพราะชายหนุ่มที่นำพวกเขามาทานอาหารจ้องหน้าแพรดาว

“เขาจะยืนจ้องเราอีกนานมั้ยพี่” หญิงสาวพูดเสียงดัง ไม่กลัวชายหนุ่มที่ยืนมองเธออยู่ได้ยินเพราะถ้าได้ยินก็ไม่เข้าใจที่เธอพูด

“เบาๆ สิ” ประพนธ์ตีแขนเธอ

“เขาไม่รู้เรื่องหรอกน่ะ” เธอไม่ฟังคำเตือนของประพนธ์ ตักข้าวเข้าปากเคี้ยวทันทีที่รสชาติอาหารแตะลิ้นเธอถึงกับชะงักไปครู่หนึ่งก่อนจะเคี้ยวต่อและทานอย่างเอร็ดอร่อย

ไอนาสถอยห่างจากโต๊ะอาหารแล้วหมุนตัวเดินออกไป แพรดาวมองตามแล้วยิ้มขำๆ เธอแกล้งทำทีเป็นอร่อยแต่ความจริงอยากคายทิ้งตั้งแต่คำแรก เธอไม่คุ้นกับอาหารแปลกๆ ที่มีแต่เนื้อนมเนยจนรู้สึกอยากอาเจียนแบบนี้ยังดีที่มีข้าวสวยให้ทาน

ไอนาสจอดรถในโรงรถที่มีรถราคาครึ่งร้อยล้านจอดเรียงกันอยู่หลายคัน ชายหนุ่มเดินกึ่งวิ่งเข้าไปยังตัวคฤหาสน์ของอิบราฮิมแต่ไม่เข้าตัวตึกเลยไปอีกหลังซึ่งอยู่ถัดเข้าไปด้านในเป็นบ้านของหลานชายคนโตท่านอิบราฮิมที่ไม่ชอบวุ่นวายกับตึกใหญ่

ไซฟาลขอแยกมาอยู่เพียงลำพัง อิบราฮิมและซาร่าไม่ขัดใจหลานชายสร้างบ้านหลังใหญ่ให้อยู่อย่างสบายๆ หลังจากเรียนจบปริญญาโทด้านบริหารมาจากเมืองผู้ดี ไซฟาลไม่ทำให้ลุงอย่างอิบราฮิมผิดหวัง เขารับงานส่วนหนึ่งมาบริหารเองโดยมีกาซี่ลูกชายน้าสาวเป็นผู้ช่วยแข็งขัน

ไอนาสเดินเข้ามาในห้องโถงรับแขก ไซฟาลนั่งอ่านหนังสืออยู่บนเก้าอี้หนังสีดำ เขาเหลือบมองไอนาสแล้วปิดหนังสือในมือ

“มีอะไร”

“แขกคุณท่านกำลังทานอาหารครับ จะให้บอกหรือเปล่าครับว่าคุณท่านติดธุระยังมาต้อนรับไม่ได้” คนรับใช้ที่เป็นเสมือนเพื่อนสนิทรายงานนายหนุ่ม

“ไม่ต้อง ฉันจะไปรับแขกพิเศษของคุณลุงเอง เตรียมรถให้ด้วย” เขาลุกขึ้นยืนเต็มความสูง

“คุณจะขับไปเองหรือครับ”

“ใช่ อาหารมื้อเที่ยงของฉันเรียบร้อยรึยัง” น้ำเสียงยังคงเรียบเช่นเดิม ไอนาสโค้งศีรษะแทนคำตอบ

ชายหนุ่มก้าวยาวๆ ออกจากห้องโถง ผ่านประตูด้านในเข้าสู่ห้องอาหาร ที่เขานั่งรับประทานเพียงลำพัง ชารีฟยืนสงบนิ่งรอคำสั่งเจ้านายอยู่ข้างโต๊ะอาหาร ไซฟาลทรุดนั่งคลี่ผ้ากันเปื้อนออกวาง ชารีฟตักข้าวใส่จานแล้วถอยห่างออกไป

“ไอนาส กินข้าวด้วยกัน เธอด้วยชารีฟ”

“เอ่อ..คุณไซครับ” ไอนาสมองเจ้านาย ไม่ขยับเท้าเข้าไปนั่งเก้าอี้

“อย่าขัดคำสั่งฉัน ถ้ายังอยากอยู่กับฉันต่อ รึว่าแกอยากไปอยู่ตึกใหญ่กับคุณลุง ถ้าอย่างนั้น ฉันจะเปลี่ยนตัวคนมาดูแลฉัน” นายพูดโดยไม่มองหน้าคนรับใช้

“เอ่อ.ไม่ครับ ผมอยากอยู่กับคุณไซ”

“ถ้าอย่างนั้นก็นั่ง กินข้าวด้วยกัน” คำสั่งเด็ดขาด ทำให้ไอนาสกับชารีฟรีบนั่งบนเก้าอี้นุ่ม

“กินข้าวเสร็จแกไปกับฉัน ยังไม่ต้องบอกคุณลุง เดี๋ยวฉันจัดการเอง”

ไซฟาลพูดขึ้นก่อนจะลงมือทานอาหาร ไอนาสจำเป็นต้องรับคำนายหนุ่มทั้งที่อิบราฮิมสั่งไว้ว่า หากทีมงานสารคดีมาถึงให้เรียนท่านทันทีแต่ไซฟาลออกปากอย่างนี้ เขาจะกล้าหรือ เขากลัวถูกไล่ให้ไปทำงานที่ตึกใหญ่ซึ่งเขาชินกับบ้านของไซฟาลและความเงียบสงบนี่แล้ว ชารีฟก็คิดเช่นเดียวกับเขา

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel