บทที่ 15 หาทางช่วย
สมเจตต์ตกใจกับคำพูดของคนรัก การกักขังคนไม่ใช่เรื่องเล็กๆ แพรดาวทำผิดกฎของซัสส์หรือผิดกฎของบ้านอิบราฮิมจึงต้องถูกขัง แต่คนอย่างแพรดาวไม่เคยสร้างความเดือดร้อนให้กับใคร การทำงานของเธอเป็นไปตามขั้นตอน สุนีย์ขออนุญาตเป็นทางการกับอิบราฮิมแล้วทำไมแพรดาวจึงถูกจับได้
“คุณนี มันเรื่องอะไรกัน รีบเล่ามาเร็วๆ แล้วตอนนี้ยายแพรเป็นยังไงบ้าง”
สุนีย์ถอนใจอีกครั้งก่อนจะเล่าตามที่ประพนธ์รายงานหล่อนให้สมเจตต์ฟังทั้งหมด ชายหนุ่มถอนใจดังกว่าเจ้านายสาว
“ยายแพรนะยายแพร ชอบทำอะไรไม่คิด แล้วยังงี้จะช่วยยังไง งานก็ไม่เสร็จ จะให้หลานชายคุณอิบราฮิมกำกับ คงได้เรื่องหรอก” เขาบ่นอย่างหงุดหงิด
“ฉันถึงเรียกคุณมาช่วยคิดนี่ไง เราจะทำยังไงให้คุณไซฟาลปล่อยตัวยายแพร” หล่อนมองหน้าเขา
“มีทางเดียว บอกคุณอิบราฮิม” สมเจตต์พูดโดยไม่ต้องคิด เพราะเขาหมดหนทางช่วย คนที่สามารถช่วยแพรดาวได้คือเจ้าของบ้านเท่านั้น
“จะดีหรือคุณ เท่ากับเราฟ้องคุณอิบราฮิมเลยนะ เขาจะเชื่อเรารึเปล่า ถ้าเขาเข้าข้างหลานเขาล่ะ ยายแพรต้องถูกลงโทษแน่”
สุนีย์ค้านความคิดเห็นของสมเจตต์ หล่อนไม่รู้จักอิบราฮิมเป็นการส่วนตัว เขาอนุญาตให้เข้าไปถ่ายทำสารคดีในเขตบ้านของเขาก็นับว่าโชคดีมากแล้ว มหาเศรษฐีระดับนี้ไม่ยอมให้ใครเข้าออกบ้านของพวกเขาได้ง่ายนัก ยกเว้นจะสนิทสนมกันจริงๆ เท่านั้น
“นั่นสิ แล้วจะทำยังไงดีล่ะ ผมคิดไม่ออก” เขายกมือกุมขมับ เอนศีรษะพิงพนักเก้าอี้อย่างหมดหนทางจริงๆ สุนีย์มองเขาแล้วถอนใจอีกเฮือก
“ไม่มีทางเลือกก็ต้องทำอย่างที่คุณบอกแล้วละ”
เจ้านายสาวลุกจากเก้าอี้เดินไปที่โต๊ะทำงาน ยกหูโทรศัพท์ขึ้น เปิดสมุดเล่มเล็กข้างเครื่องโทรศัพท์ ปลายนิ้วไล่รายชื่อลูกค้าและบุคคลสำคัญที่หล่อนจดเบอร์โทรศัพท์ไว้ ปลายนิ้วชี้หยุดลงที่ชื่อ มิสเตอร์อิบราฮิม หล่อนกดตัวเลขตามนั้นทันที
สมเจตต์ขยับตัวนั่งตรง สายตาจับที่ใบหน้าหญิงสาว หล่อนมองมาที่เขาแล้วส่ายหน้าก่อนจะวางโทรศัพท์ลงบนแป้น
“ไม่สามารถติดต่อได้” หล่อนพูดลอยๆ เดินกลับมานั่งที่เดิม
“ลองใหม่อีกที เผื่อติด” สมเจตต์ยังมีความหวัง
“อีกชั่วโมงค่อยโทร.”
“ได้เรื่องยังไง บอกผมด้วย ผมขอไปทำงานต่อก่อน”
“ถ้ามีปัญหามาก คุณต้องไปทำงานแทนยายแพร”
สุนีย์เอ่ยขึ้นก่อนที่ชายหนุ่มจะลุกขึ้นยืน เขาพยักหน้ารับแล้วเดินออกไปเงียบๆ หญิงสาวนั่งนิ่งอยู่ที่เดิม ความหวังของหล่อนกับสมเจตต์อยู่ที่อิบราฮิมเพียงคนเดียวเท่านั้น ถ้าอิบราฮิมช่วยแพรดาวได้ หล่อนจะตอบแทนเขาด้วยวิธีไหนดี
“ขอให้ช่วยยายแพรได้ก่อนเถอะ เรื่องอื่นค่อยคิด”
หล่อนลุกจากเก้าอี้เดินกลับไปนั่งที่โต๊ะทำงาน เปิดแฟ้มเอกสาร สลัดความกังวลในใจออกไป หล่อนเชื่อว่าไซฟาลคงไม่ทำร้ายแพรดาวมากไปกว่ากักขังเท่านั้น
สุนีย์โทรศัพท์ถึงอิบราฮิมหลายครั้งแต่ไม่สามารถติดต่อได้ หมดทางช่วยแพรดาว หล่อนจะทำอย่างไร บินตามไปช่วยแพรดาวที่เมืองซัสส์หรือรอความช่วยเหลือจากอิบราฮิมอยู่ที่นี่
“ทำไงดีวะ โอ๊ยกลุ้มโว้ย” หล่อนร้องเสียงดัง เดินออกจากห้อง เมื่อคิดถึงสมเจตต์ หล่อนเคาะประตูห้องทำงานของเขาแล้วผลักเข้าไป
“ว่าไงคุณ ได้เรื่องมั้ย” เจ้าของห้องเอ่ยถาม สายตาจับนิ่งที่แผ่นกระดาษในมือ
“ติดต่อไม่ได้เลย ทำไงดีคุณ ฉันต้องบินตามพวกนั้นมั้ย” คำถามเป็นกังวล
“คุณกล้าไปหรือ” เขาเงยหน้ามองแล้วยิ้ม
“ไม่กล้า”
“ถ้าไม่กล้าก็ต้องรอติดต่อคุณอิบราฮิมอีกที ผมว่ามันต้องมีทางออกสิน่า”
เมื่อคนรักไม่มีคำปรึกษาที่ดีกว่านี้ หล่อนจึงต้องรออย่างที่เขาบอก แต่การรอของหล่อนมันช่างทรมานจนนั่งไม่ติด หล่อนลุกจากเก้าอี้เดินไปที่ประตู
“ถ้าติดต่อได้อย่าลืมบอกผมบ้างนะ”
เขามองมาที่เจ้านายสาว หล่อนพยักหน้าแล้วเปิดประตูก้าวออกไป ประตูปิดลงสมเจตต์ปิดแฟ้ม เขาเป็นห่วงแพรดาวเช่นเดียวกับสุนีย์ แต่เขาทำอะไรไม่ได้นอกจากรอฟังข่าวจากสุนีย์หรือประพนธ์เท่านั้น
การทำงานไม่น่ามีปัญหาถ้าแพรดาวไม่บ้าระห่ำกับงานจนลืมความถูกต้องของกฎในบ้านเมืองของแหล่งข่าวที่ให้เกียรติหนังสือและรายการสารคดีเข้าไปถ่ายทำ ถ้าเขารับงานนี้คงไม่เกิดเรื่อง นึกถึงแพรดาวทีไรอยากเขกกระโหลกเธอให้หายบ้า
“ยายแพรเอ๊ย พี่ไม่น่าให้แกไปเลยจริงๆ”
หนุ่มใหญ่ทำงานไม่รู้เรื่อง จึงต้องเดินมาที่ห้องสุนีย์ เขาเคาะประตูแล้วผลักเข้าไป เจ้าของห้องเงยหน้าขึ้นมอง
“มีอะไรคะ”
“เปล่า มาดูคุณว่าติดต่อคุณอิบราฮิมได้รึยัง”
เขาเดินไปนั่งเก้าอี้ตรงข้ามกับหล่อนที่มุมรับแขก เขาทำงานกับสุนีย์มานานรู้จักหล่อนดีและเข้าใจความรู้สึกของหล่อนที่มีต่อแพรดาว นอกเหนือจากรู้ใจเจ้านายสาวเขายังรักหล่อน รักก่อนที่หล่อนจะหันมามองเขาในฐานะคนรักเสียอีก เพราะเขาตามตื๊อหล่อนหนัก ตื๊อแบบทุ่มเทแรงกายแรงใจให้กับงานของหล่อน จนกระทั่งรายการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ได้รับรางวัลจากสถานีวิทยุโทรทัศน์ สุนีย์จึงเห็นใจเขาและยอมรับความรักที่เขามีให้แต่ก็ยังวางตัวเป็นเจ้านายที่เข้มงวดต่องานเช่นเดิม