บทที่ 12 ลูกบุญธรรม
“กุญแจห้อง คุณลิลลี่จะเอาไปทำไมคะ”
“ฉันจะไปคุยกับคุณแพรดาว”
“ฉันไม่มีกุญแจค่ะ คุณไซไม่ให้ไว้” ชารีฟตอบตามจริง
“ไม่จริง กุญแจมีสองดอกไม่ใช่หรือ แกเอามาให้ฉันเดี๋ยวนี้”
ลิลลี่เสียงแข็ง ใบหน้าบึ้งขึ้นมาทันที ชารีฟเห็นบ่อยยามที่เพื่อนสนิทของไซฟาลโกรธหรือไม่พอใจหล่อนกับคนรับใช้ในบ้านทุกคน
หญิงสาวถือสิทธิพิเศษการเป็นครูสอนภาษาไทยให้ไซฟาล วางอำนาจเป็นเจ้านายทั้งที่ชารีฟและทุกคนไม่ยอมรับสักนิดแต่เพื่อความสบายใจของเจ้านาย พวกหล่อนยอมทำตามที่ลิลลี่ต้องการทุกครั้ง มีบ้างที่ไม่สามารถทำตามได้โดยเฉพาะการขัดกับคำสั่งของเจ้านาย
“ฉันไม่มี ถ้าคุณอยากได้ฉันจะไปขอกับคุณไซให้ค่ะ”
“นี่ อย่านะ” หล่อนจิกเสียง ริมฝีปากสั่นด้วยความโกรธ ชารีฟขัดใจหล่อนหลายครั้ง
“ก็คุณอยากได้กุญแจไม่ใช่หรือคะ ฉันจะไปเอาให้ไงคะ” ชารีฟตีสีหน้าซื่อ
“หยุดเดี๋ยวนี้นะ แล้วก็ห้ามบอกคุณไซ ฉันจัดการเองได้”
ลิลลี่สะบัดหน้าก้าวออกจากห้องครัว ชารีฟมองตามแล้วส่ายหน้าไปมา
“จะเอากุญแจทำไมไม่ไปขอกับคุณไซ มาขอกับเราทำไม พอจะไปขอให้ก็โกรธ ไม่เข้าใจ”
“นังบ้า ถ้าฉันได้เป็นเมียคุณไซเมื่อไหร่คนแรกที่ฉันจะไล่ออกคือแกนังชารีฟ”
หญิงสาวกำมือแน่น ปลายเล็บจิกเนื้อกลางฝ่ามือจนรู้สึกเจ็บ หล่อนอยู่ในคฤหาสน์ของอิบราฮิมอย่างสุขสบายในฐานะครูสอนภาษาไทย นอกจากไซฟาลที่ตั้งใจเรียนกับหล่อน ซาร่าภรรยาอิบราฮิมและกาซี่สนใจเรียนภาษาไทยด้วยแต่ทั้งสองคนเรียนได้แค่พูดได้ไม่กี่คำเท่านั้น
ซาร่าพยายามเรียนแต่ลิลลี่ไม่ใส่ใจเท่าไซฟาล ซาร่ามองออกว่าลิลลี่ไม่อยากสอนหล่อนเท่าไรนัก หล่อนจึงเลิกเรียนและคิดว่าไม่จำเป็นสำหรับหล่อน การติดต่องานเป็นหน้าที่ไซฟาลและกาซี่ หล่อนเป็นนายหญิงของบ้าน ต้อนรับแขก ออกงานสังคมกับอิบราฮิม ส่วนใหญ่สื่อสารด้วยภาษาอังกฤษซึ่งหล่อนพูดได้คล่อง ชีวิตของหล่อนอยู่ตรงนี้มากกว่าแต่ก็เก็บความรู้สึกบางอย่างไว้มิดชิด ไซฟาลให้เกียรติเพื่อนต่างชาติคนนี้มาก หล่อนจำเป็นต้องให้เกียรติไปด้วยแม้บางครั้งไม่พอใจก็ตาม
กาซี่เข้ามาในห้องทำงานของไซฟาล หลังจากเดินไปส่งประพนธ์กับทีมงานถึงห้องพัก ไซฟาลเงยหน้าจากแฟ้มเอกสารตรงหน้า
“ผลการประชุมว่าไง” เขาถามถึงงานโดยไม่รอให้กาซี่นั่งเสียก่อน
“เรียบร้อยดีครับ ยอดออร์เดอร์สั่งแยมกับน้ำผลไม้เข้ามามากจนพวกเราตกใจ หุ้นส่วนเสนอเร่งผลิตแล้วก็เผยแพร่น้ำผลไม้ของเราให้คนรู้จัก พี่คิดว่ายังไง”
กาซี่เข้าเรื่องงานตามไซฟาล เรื่องที่พี่น้องคุยกันได้นานมีเรื่องงานเรื่องเดียวเท่านั้น ส่วนเรื่องส่วนตัว กาซี่ปรึกษาไซฟาลได้เป็นบางเรื่องแต่บางเรื่องเขาก็เก็บเป็นเรื่องส่วนตัว ไซฟาลเองก็เช่นกัน
ไซฟาลยิ้มพอใจกับคำรายงานของกาซี่ อย่างน้อยความพยายามที่เขาคิดและลงมือทำด้วยตัวเองมากว่า 5 ปีเกี่ยวกับแยมและน้ำผลไม้อินทผลัม ประสบความสำเร็จงดงามในวันนี้ถือเป็นข่าวดีของเขาแต่ไม่ใช่ข่าวดีที่สุดในชีวิต
“ทำไมต้องเผยแพร่ เราทำของเราไป ออเดอร์มากเราก็เร่งผลิต” ไซฟาลมองหน้าน้องชาย
“มันต้องเป็นอย่างนั้นอยู่แล้วแต่ที่พวกผู้ใหญ่เสนอมา ต้องการให้คนรู้จักเพิ่มขึ้น”
“พี่เข้าใจ แต่ทำไมต้องผ่านสื่อ” ชายหนุ่มไม่เห็นด้วยกับความคิดของหุ้นส่วนในบริษัท
“เพราะทางนี้จะทำให้คนรู้จักเราเร็วแล้วก็เห็นรูปลักษณ์ด้วย” กาซี่อธิบาย
“เราต้องจ้างสื่อใช่มั้ย” ไซฟาลจ้องหน้าน้องชาย
“ไม่ต้องครับ เราจัดงานเปิดตัวน้ำผลไม้ตัวใหม่ เชิญสื่อมาร่วมงานแค่นี้พวกเขาก็จะช่วย
โปรโมทโดยที่เราไม่ต้องเสียค่าจ้าง”
“เป็นความคิดที่น่าสนใจ แต่พี่ขอเวลาหน่อยนะ ยังไงเราต้องรอคุณลุงกลับมาก่อน รอได้ใช่มั้ยแค่อาทิตย์เดียว”
“รอได้ครับ แล้วเรื่องทีมงานสารคดีล่ะครับ พี่จะทำยังไงต่อไป ออกไปกำกับแทนคุณแพรดาวอย่างที่พูดจริงรึเปล่า” กาซี่จ้องหน้าพี่ชายบ้าง รอคำตอบด้วยใจจดจ่อ เขากำลังหาทางช่วยแพรดาว
“จริง พี่จะทำให้พวกนั้นรู้ว่า การทำอะไรโดยไม่คิดผลออกมามันเป็นยังไง” หน้าเข้มเครียดขึ้นมาทันที
“แต่คุณลุงอนุญาตพวกเขาแล้วนะครับ” กาซี่พยายามใช้เหตุผลกับพี่ชาย
“แต่ไม่ใช่โรงงานผลิตแยมกับน้ำผลไม้ของเรา ถ้าเรายอมให้พวกนั้นเข้าไปถึงอะไรจะเกิดขึ้น กรรมวิธีต้องออกสู่สายตาคนต่างชาติ ถ้าเขาเผยแพร่ในบ้านเรา พี่อาจจะอนุญาตก็ได้”
“จริงหรือครับ” กาซี่ยิ้มออก เขามองเห็นทางช่วยแพรดาวแล้ว
“ทำไมต้องทำท่าดีใจขนาดนั้นด้วย พี่บอกว่า อาจจะเท่านั้น”
ไซฟาลเข้าใจรอยยิ้มของกาซี่ น้องชายของเขาเป็นคนใจอ่อนตั้งแต่เด็กจนโต เขาสอนให้กาซี่เข้มแข็งและเด็ดขาดในบางเรื่องเพื่อให้ความเป็นผู้นำดูน่าเชื่อถือสำหรับบริวาร กาซี่เข้มแข็งขึ้นอย่างที่ไซฟาลต้องการแต่ยังเหลือความใจอ่อนให้เห็นบ่อยๆ
ทางช่วยแพรดาวมืดสนิทเพราะไซฟาลไม่เอ่ยถึงหญิงสาว เขาพูดแต่เรื่องงาน ทั้งเรื่องการประชุมในวันนี้ วางแผนงานเกี่ยวกับแยมและน้ำผลไม้ที่จะส่งให้ลูกค้าและเพิ่มการปลูกอินทผลัมให้มากขึ้น
ซัสส์เป็นเมืองอยู่แถบทะเลทรายก็จริงแต่ซัสส์มีพื้นที่ติดทะเลซึ่งอยู่ห่างจากอาณาจักรของอิบราฮิมไม่มากนัก ที่ดินส่วนใหญ่ของอิบราฮิมปลูกพืชหมุนเวียนอย่างข้าวสาลี ถั่ว ที่สามารถทำเงินให้กับครอบครัวมากทีเดียว แต่งานด้านการเกษตร อิบราฮิมไม่เน้นเท่าหุ้นส่วนในบริษัทเกี่ยวกับน้ำมัน เขามุ่งไปทางนี้ ปล่อยบริษัทเงินทุนให้ไซฟาลดูแลควบคู่กับโรงงานผลิตแยมและน้ำผลไม้ที่หลานชายคิดและลงมือทำจนสำเร็จ
กาซี่หลังเรียนจบเข้ามาช่วยงานไซฟาลเต็มตัวและทำหน้าที่ผู้จัดการกรรมการบริหารแทนเป็นบางช่วงเวลา
ไซฟาลและกาซี่สูญเสียพ่อแม่ในเวลาเดียวกัน พ่อกับแม่ไซฟาลเดินทางไปท่องเที่ยวรอบโลกโดยชวนพ่อแม่กาซี่ไปด้วย ขณะเดินทาง เครื่องบนเที่ยวนั้นเกิดขัดข้องตกลงในทะเล ผู้โดยสารและลูกเรือ เสียชีวิตทั้งลำ
การสูญเสียของอิบราฮิมครั้งนั้นเป็นครั้งใหญ่ที่สุดในชีวิตของเขา น้องสาวสองคนเสียชีวิตพร้อมกัน โชคดีที่หลานชายทั้งสองไม่ร่วมเดินทางไปด้วย ไม่เช่นนั้นชีวิตของเขาคงดำเนินอยู่ต่อไปไม่ได้
ความรักที่อิบราฮิมทุ่มเทให้ไซฟาลกับกาซี่เกินความเป็นลุงหลาน ด้วยสาเหตุเพราะหลานทั้งสองเป็นกำพร้าและตัวเขาไม่มีทายาทสืบสกุล สมบัติที่รุ่นปู่ รุ่นย่า สะสมไว้ให้จะจบสิ้นคนสานต่อเพียงแค่รุ่นของเขาหากไม่มีไซฟาลกับกาซี่
ความรักที่ซาร่ามีต่อหลานสามีไม่ยิ่งหย่อนจากสามีเท่าไร ในเมื่ออิบราฮิมไม่สามารถมีลูกได้ หล่อนจึงรับไซฟาลกับกาซี่เป็นลูกบุญธรรม ทุกสิ่งอย่างที่ไซฟาลกับกาซี่ต้องการหล่อนพร้อมหาให้ ไม่มีคำว่าไม่ได้ สำหรับหล่อน
ไซฟาลรู้ดีว่าลุงกับป้ารักเขากับกาซี่มากเพียงใด ทางเดียวที่เขาสามารถตอบแทนลุงได้คือ ช่วยแบ่งเบาภาระทั้งทางหน้าที่การงานและดูแลบริวารในครอบครัว เขากลายเป็นคนเผด็จการในบางครั้ง
กาซี่ชายหนุ่มผู้มีจิตใจอ่อนโยน หน้าตาละม้ายหญิงแต่เข้มแข็ง ดวงตาสีสนิมไม่เข้มเช่นพี่ชาย จมูกโด่ง ร่างสูงแต่ดูต่ำกว่าไซฟาลเล็กน้อย ผิวดำแดงออกขาวเหลือง ด้วยนิสัยของเขาจึงไม่ชอบการตัดสินใจบางขณะของพี่ชายแต่ทุกครั้งเขาก็ยอมรับด้วยเหตุผลที่ไม่อาจต่อต้านไซฟาลได้