2
“สวัสดีค่ะพี่นับ” ขวัญข้าวที่เดินตามมายกมือไหว้พี่ชายเพื่อนด้วยรอยยิ้ม
“สวัสดีครับ เดี๋ยวพี่จัดการขนของให้นะครับ เราสองคนหิวกันหรือยัง”
“ยังเลยค่ะ เดี๋ยวพวกเราช่วยขนค่ะ ข้าวของไม่เยอะ ส่วนพวกเครื่องใช้ไฟฟ้าขายต่อให้รุ่นน้องที่หอในราคาย่อมเยาไปแล้วค่ะ จะได้ไม่ต้องขนอะไรกลับไปเยอะ”
“ดีครับ ที่บ้านก็มีเครื่องใช้ไฟฟ้าอยู่แล้วขนกลับไปอาจจะไม่ได้ใช้” นับเงินเห็นด้วยกับน้องสาว เขาช่วยขนข้าวของน้อยชิ้นของสองสาวขึ้นรถก่อนจะพาทุกคนไปรับประทานอาหารด้วยกัน
นับเงินเป็นคนสุภาพเรียบร้อย เขาเป็นกันเองกับลูกน้องและคนงาน ดังนั้นนายเพิ่มศักดิ์จึงมานั่งรับประทานอาหารโต๊ะเดียวกันได้โดยไม่แบ่งชนชั้นวรรณะ
“พี่นับคะ ไข่พะโล้ที่พี่นับชอบค่ะ” ขวัญข้าวตักไข่พะโล้ให้เขาเพราะจำได้ว่าเขาชอบ
“ขอบใจจ้ะ” นับเงินกล่าวขอบใจก่อนที่น้องสาวจะสะกิดเบาๆ จนเขาต้องหันไปมองอย่างสงสัย
“พี่นับตักผัดบล็อกโคลี่กุ้งให้ข้าวสิคะ ข้าวเขาชอบกินนะ”
“ครับ” นับเงินรับคำน้องสาว ตักของโปรดใส่จานให้เธอด้วยรอยยิ้ม
“ขอบคุณค่ะ” ขวัญข้าวกล่าวขอบคุณ เหลือบมองเพื่อนก็เห็นอีกฝ่ายกำลังอมยิ้มส่งมาให้ เธอยิ้มตอบกลับไปอย่างเขินๆ
หลังรับประทานอาหารเสร็จสิ้นทั้งหมดก็ออกเดินทางมุ่งหน้าไปยังจังหวัดเหนือสุดของประเทศไทย นับเงินพาสาวๆ แวะเที่ยวระหว่างทางถือว่าเป็นรางวัลที่สองสาวสำเร็จการศึกษา
“พี่นับถ่ายรูปกับเพื่อนของนิหน่อย” นิตาดึงให้เพื่อนมายืนใกล้ๆ กับพี่ชายก่อนจะเป็นตากล้องให้คนทั้งสอง
“ยิ้มค่า แบบนั้นแหละ” คนถ่ายรูปยิ้มกว้างเดินไปหาเพื่อนก่อนจะกระซิบอะไรบางอย่าง
“เดี๋ยวเราส่งรูปไปให้นะ เอาไว้เก็บไปนอนฝันคืนนี้”
“ขอบใจนะ” คนกล่าวขอบคุณยิ้มในหน้า ในขณะที่คนที่ถ่ายรูปคู่กับเธอไม่รู้อีโหน่อีเหน่อะไรเสียเลย เดินไปซื้อชานมไข่มุกมาให้สองสาวอย่างใส่ใจ
“พี่นับจำได้ด้วยว่าเราสองคนชอบกินชานมไข่มุก”
“จำได้สิครับ” คนตอบยิ้มให้น้องสาว เผื่อแผ่ไปยังคนที่ยืนอยู่ข้างๆ น้องสาว
“ออกเดินทางกันต่อเถอะค่ะ เดี๋ยวมืดเสียก่อน” นิตาเอ่ยชวนพี่ชายกับเพื่อนรัก ทั้งหมดออกเดินทางอีกครั้ง เพราะแวะเที่ยวไปตลอดทางทำให้หลายวันกว่าจะเดินทางถึงไร่
ขวัญข้าวมองอาณาเขตของไร่องุ่นที่ไกลจนสุดลูกหูลูกตาด้วยรอยยิ้ม ถนนที่ทอดตัวไปสู่บ้านหลังใหญ่ที่อยู่บนเนินที่ห้อมล้อมไปด้วยสวนดอกไม้ทำให้เธอตื่นตาตื่นใจไม่น้อย เพราะปิดเทอมต้องทำงานพิเศษเลยไม่เคยมาเที่ยวไร่องุ่นของพี่ชายเพื่อนอย่างที่เพื่อนขอเลยสักครั้ง นี่จึงเป็นครั้งแรกที่เธอเดินทางมาที่นี่
บรรยากาศของไร่องุ่นและทุ่งดอกไม้ทำให้จนเธอต้องสูดลมหายใจเข้าปอดแรงๆ ลึกๆ อย่างมีความสุข อยู่ที่นี่เธอสามารถสูดลมหายใจได้เต็มปอดไม่เหมือนอยู่ในเมืองใหญ่ที่เต็มไปด้วยควันพิษ
“ที่นี่อากาศหนาวพี่นับเลยปลูกดอกไม้ส่งขายด้วยจ้ะ” นิตาบอกเพื่อนรักหลังจากลงมาจากรถเรียบร้อยแล้ว
“อากาศดีจังเลยค่ะ สดชื่นและเย็นสบายมาก”
“ฤดูร้อนก็ร้อนตับแตกเหมือนกันจ้ะ” นิตาเดินตามพี่ชายและคนงานที่ช่วยหิ้วกระเป๋าเข้าไปไว้ในบ้าน จับมือเพื่อนรักให้เดินตามเข้าไปด้วย
“บ้านสวยจังเลยจ้ะ” บ้านไม้สักหลังใหญ่และเครื่องเรือนสีน้ำตาลเข้มปนอ่อนทำให้เธอรู้สึกอบอุ่นใจยามได้เหยียบย่างเข้ามา
“พี่ให้คนจัดห้องเอาไว้ให้แล้วนะครับ นี่แม่อาบครับน้องข้าว เป็นแม่บ้านเก่าแก่ตั้งแต่รุ่นคุณพ่อคุณแม่ คอยช่วยดูแลบ้านหลังนี้ให้พี่ครับ” น้ำเสียงของนับเงินบ่งบอกถึงความรักและเคารพอายบุญเป็นอันมาก
“สวัสดีค่ะ” ขวัญข้าวยกมือไหว้หญิงวัยกลางคนตรงหน้าอย่างอ่อนน้อม
“ไหว้พระเถอะค่ะ วันนี้ป้าทำอาหารไว้ต้อนรับคุณๆ เยอะแยะเลยค่ะ ไปอาบน้ำอาบท่าแล้วลงมารับประทานอาหารเย็นพร้อมกันนะคะ ป้าจะให้คนจัดโต๊ะอาหารรอ” ป้าอาบบุญพูดแล้วยิ้มให้ทุกคนก่อนจะขอตัวเข้าไปในครัวอีกครั้ง
“ห้องพักน่าอยู่จังเลยจ้ะ” ขวัญข้าวบอกเพื่อนรัก
“ข้าวพักห้องนี้นะจ๊ะ เราพักอีกห้อง จะได้เป็นส่วนตัว แต่ถ้าคิดถึงเรา จะไปนอนคุยกันก็ได้นะ”
“ขอบใจมาเลยจ้ะ” ขวัญข้าวกล่าวขอบใจเพื่อนรักด้วยรอยยิ้ม
“เราไปก่อนนะ อาบน้ำแล้วเดี๋ยวลงไปกินข้าวพร้อมกัน รับรองว่าฝีมือป้าอาบอร่อยมากๆ เลยจ้ะ ข้าวต้องติดใจจนอยากอยู่ไปตลอดชีวิตแน่ๆ” คนพูดอมยิ้มอย่างมีเลศนัย คนฟังพลอยเขินตามไปด้วย