10 ต่างแอบชอบ
“พูดดัง ๆ ก็ได้ ไม่เห็นจะต้องกลัวคนรู้เลย”
“ว่าอะไรนะคะ เพื่อน”
“ไม่มีอะไร เชิญตามสบาย คุณพีเมียร์กลับบ้านไปเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วมาใหม่ก็ได้นะคะ รู้สึกว่าที่นี่จะเปิดถึงเช้า อย่างว่าเส้นใหญ่ก็อย่างนี้แหละ”
“ถ้าพ่อเลี้ยงฉัตรได้ยินเกิดเรื่องนะครับ”
พงพันธ์เตือนด้วยความหวังดี กลัวลูกน้องของพ่อเลี้ยงฉัตรได้ยินแล้วเอาไปรายงานเจ้านายให้รับทราบเพราะรู้มาว่าพ่อเลี้ยงคนนี้ไม่ธรรมดา ใครก็ตามที่ขัดขวางจะต้องถูกเล่นงานอย่างหนัก เรื่องแบบนี้เคยได้ยินข่าวมาบ้างแล้ว
“ไม่หรอกค่ะ พ่อเลี้ยงฉัตรเป็นคนบอกกับฉันเอง”
“คุณกุล นี่เขากล้าพูดอย่างนี้เลยหรือครับ แน่มากเลยนะ”
“ไม่รู้สิคะ ว่าแต่คุณจะไปเปลี่ยนเสื้อผ้าหรือเปล่าล่ะคะ ฉันจะได้รอ หรือไม่ก็ล้างในห้องน้ำก็ได้ ไม่มีปัญหาหรอกค่ะ”
หลังจากดื่มไปพอสมควร กุลดาเริ่มมีเค้าว่าสนใจพีเมียร์ขึ้นมาทันที แต่ไม่มีใครสังเกตเห็น คิดว่าเธอเอาใจใส่ในฐานะคนรู้จักกัน อีกทั้งพีเมียร์พยายามพูดให้เธอกับพงพันธ์ปิ๊งกัน ทำเอากระอักกระอ่วนไปหมด
“ดีใจจังเลยค่ะที่ได้รู้จักคุณทั้งสอง”
“ครับ ผมเองก็ไม่คิดว่าจะเจอคนนิสัยดีอย่างคุณกุล สมควรแล้วล่ะที่เจ้าพีเมียร์ว่าคุณเป็นผู้หญิงน่ารักสุด ๆ”
“คุณพีเมียร์พูดอย่างนั้นหรือคะ ยอกันหรือเปล่า”
“จริงครับ แค่ได้พูดกันผมก็รู้แล้ว เจ้าพงก็คนดีมาก น่าจะคุยกันเยอะ ๆ”
“คุณก็ดี ยายนาถก็ดีค่ะ”
ในเมื่อเสือกไสไล่ส่งนัก จับคู่เขากับนาถฤดีเสียเลย ทำเอาเขาอึ้งพูดไม่ออก นาถฤดีเช่นกันไม่กล้าที่จะมองไปทางชายหนุ่ม ดื่มเบียร์เพียงอย่างเดียว กระทั่งเวลาล่วงเลยไปเกือบตีหนึ่ง ทุกคนต่างแยกย้ายกันกลับ
ระหว่างที่นั่งรถมาด้วยกัน นาถฤดีมองเพื่อนด้วยสายตาไม่ชอบใจนัก ขุ่นขวางชอบกลซึ่งก็ทำให้ผู้ที่กำลังขับรถรู้สึกได้
“มองอะไร เธอจะกินฉันเหรอ”
“เออ ไม่ได้กินแต่เคือง”
“เรื่องอะไร หรือว่าไม่ได้ไปจุ๊กกรูกับพ่อเลี้ยงฉัตร”
“ไม่ใช่อย่างนั้น แหม อีตานั่นถูกลากออกไปก็ดีแล้วล่ะ ไม่ต้องมาวุ่นวายกับพวกเราน่าเบื่อมากเลย”
“หรือจ๊ะ คิดว่าชอบเสียอีก”
“ชอบก็บ้าแล้ว เจ้าชู้ยักษ์ขนาดนั้น ใคร ๆ ก็รู้ว่าไม่ใช่เรื่องที่ดีเลย เราไม่ชอบที่เธอพยายามจับคู่เราให้กับคุณพีเมียร์นั่น”
ในที่สุดเพื่อนรักโพล่งออกมาว่าไม่ชอบให้จับคู่กับพีเมียร์ซึ่งก็เรียกเสียงหัวเราะได้เป็นอย่างดี หญิงสาวส่ายหน้าเล็กน้อย รอยยิ้มหวาน ตาฉ่ำตามประสาคนดื่มเข้าไปมากย่อมเกิดอาการที่เปลี่ยนไปจากเดิม กล้าพูด กล้าทำ ไม่กลัวอะไร สนุกเพียงอย่างเดียว
“ไม่ชอบลูกครึ่งเหรอ หล่อจะตายไป”
“ไม่ชอบเลย เราคิดกับเขาแค่คนรู้จักกันเท่านั้นนะ”
“เหรอ ถ้าคิดอย่างนั้นก็คงไม่เป็นไรหรอก เอาเป็นว่าเราจะไม่พูดแบบนี้อีก แต่ถ้าเขาปิ๊งเธอขึ้นมาจริง ๆ ล่ะจะทำยังไง”
“ไม่หรอก ดูยังไงก็ไม่ใช่ เขามองเธอมากกว่าฉันอีกนะ”
“หา ว่าไงนะ อย่าโม้ เค้านั่นแหละชอบเชียร์ฉันให้กับคุณพง เย้าอยู่นั่นแหละ รำคาญจะตาย คุณพงก็ไม่ได้สนใจฉันเท่าไหร่ เงียบแล้วเฉย ในเมื่อผู้ชายไร้ท่าทีอย่างนั้น ฉันเป็นตัวอะไร น่าอายมากใช่ไหมที่ไร้คนชอบ”
หญิงสาวรำพันออกมาด้วยสีหน้าเศร้า ๆ เพราะรู้ว่าผู้ชายไม่ได้คิดกับเธอแบบชู้สาว มีแต่พีเมียร์คนเดียวพยายามเชียร์อยู่นั่นแหละ จากที่เธอแอบชอบเขากลายเป็นว่าอาย ทั้งพีเมียร์และพงพันธ์ไม่ได้คิดแบบนั้นกับเธอเลย
ทั้งที่สาว สวย รวย เหนือกว่าสาวชาวบ้านทั่วไป ทำไมผู้ชายสองคนถึงไร้รสนิยมสิ้นดี
“เธอไม่ชอบคุณพงเหรอ”
“ไม่เลย หล่อก็จริง แต่มีความรู้สึกว่าไม่ใช่สเป็ก ช่างเถอะเรามาเที่ยวพักผ่อนสมอง ไม่ใช่มายุ่งกับเรื่องแบบนี้ กลับไปนอนดีกว่าพรุ่งนี้คงจะตื่นเช้าไม่ใช่แล้ว...อาจจะสายเลย”
“ตามใจ พร้อมเมื่อไหร่บอกเราแล้วจะไปหา”
“จ้ะเพื่อนรัก เราจะไปส่งเธอที่บ้านนะ เด็กดีอย่างนี้ สงสัยพ่อแม่เป็นห่วงแย่เลย”
เย้าเพื่อนเล่น ๆ ไปอย่างนั้นเอง ทั้งที่รู้ว่าอายุขนาดนี้แล้ว พ่อแม่วางใจไม่คิดมาก ปล่อยให้ออกนอกบ้านเพราะรู้ว่าดูแลตัวเองได้เป็นอย่างดี สิ่งที่ขอเวลานี้ก็คือ อย่าไปค้างที่ไหน ถ้าไปก็ต้องบอกให้รู้ว่าอยู่กับเพื่อนที่รู้จักมักคุ้นถึงจะยอมอนุญาต
ทางด้านพีเมียร์ เขานั่งรถมากับพงพันธ์ ฮัมเพลงอย่างมีความสุข นัยน์ตาทอประกายวิบวับ เมื่อนึกถึงสาวสวยที่ชื่อกุลดา ชอบใจเวลาที่เขาพูดชักจูงให้สนใจพงพันธ์แต่เธอกลับทำท่าแปลก ๆ จึงรู้ว่าเธอไม่ได้คิดแบบนั้น
“มีความสุขเสียจริงเพื่อนเรา สงสัยถูกใจคุณนาถ”