บทที่ 6 ขอเวลา
“เพื่อคนที่เรารักมันไม่ยากเลยสักนิด พี่ทำได้แน่นอนครับ” ใครจะบอกเธอล่ะว่าเขาอยู่ได้เพราะอะไรมันเป็นเรื่องน่าอายมากสำหรับผู้ชายขนาดปัญญาที่ว่าแน่ยังแอบกินแฟนสาวก่อนเลย แต่เขาจะไม่ทำแบบนั้นปัญชรีไม่เหมือนเพลินพิศที่ไม่ได้แคร์เรื่องนี้เธอเป็นคนมั่นใจตัวเองและปัญญาก็ไม่ได้เป็นแฟนคนแรกและเขาก็ได้เตือนเพื่อนรักไปแล้ว
“ลองดูก็ได้ค่ะ หากพี่เล็กทำไม่ได้ก็บอกปัทนะคะ” ปัญชรีพูดจบก็เดินออกไปหาเพื่อนที่ยืนรอหน้าร้าน
“น้องปัท” ชาติชายดีใจที่ปัญชรียอมคบกับเขาถึงแม้จะอยู่ในช่วงทดลองแต่เขาทำได้แน่นอนรับรองว่าภรรยาในอนาคตของเขาก็คือปัญชรีจึงรีบเดินตามแฟนหมาดๆไปอย่างรวดเร็วและพาสามสาวไปส่งถึงคอนโดด้วยความปลอดภัย
เวลาผ่านไปทุกคนก็มีวิถีชีวิตของตัวเองเช้าทำงานเย็นเลิกงานก็พบเจอเพื่อนฝูงบ้างบางคนก็รีบกลับบ้านไปหาครอบครัวหรือไปช๊อปปิ้งกันบ้าง
“น้องรุ้งยังไม่กลับอีกเหรอคะ” ฟองจันทร์ถามผู้ช่วยของเธอที่ยังทำงานอยู่ทั้งที่เลยเวลาเลิกงานมากว่ายี่สิบนาที
“รุ้งอยากทำให้เสร็จค่ะพี่ฟอง เหลืออีกนิดเดียวเองและรอพี่ทิวมารับด้วยค่ะ”
"ว่าแต่เมื่อไหร่จะมีข่าวดีล่ะจ้ะ" ฟองจันทร์ถามน้องสาวคนสนิทเพราะทำงานมาด้วยกันนานแล้วและมี่หนุ่มตี๋หน้าตาดีเทียวรับส่งมานาน
"ยังอีกนานค่ะพี่ฟอง รุ้งว่าสักสามสิบค่อยแต่งค่ะ"
“อย่าปล่อยไว้นานนะน้องรุ้ง สมัยนี้ผู้ชายดีๆหายากด้วย งั้นพี่กลับก่อนนะจ้ะ นัดเจ้าตัวเล็กไว้เขาอยากไปว่ายน้ำป่านนี้เตรียมตัวรอแล้วมั้ง” ฟองจันทร์บอกผู้ช่วยของเธอแล้วเก็บของเพราะนัดลูกชายไว้
“เชิญค่ะพี่ฟอง” เมื่อฟองจันทร์กลับไปแล้วทอรุ้งก็เร่งทำงานจนเสร็จก็เก็บของแล้วลงไปรอแฟนหนุ่มที่สวนดอกไม้หน้าตึกนั่งมองผู้คนที่รีบกลับบ้านและบางคนยังทำโอทีต่อ ชีวิตในเมืองช่างวุ่นวายจริงๆเธออยากอยู่กับธรรมชาติอากาศบริสุทธิ์ต่างจังหวัดที่ไม่ต้องแก่งแย่งชิงดีชิงเด่นกันแบบนี้แต่คงไม่มีโอกาส
“ปรี้นนๆ.”
ธงทิวขับรถเข้ามาจอดที่ประจำก็บีบแตรรถเมื่อเห็นแฟนสาวนั่งที่ม้านั่งหินอ่อนริมสวนหน้าบริษัทก็ที่ประจำของทอรุ้งที่มานั่งรอเขามารับ
“พี่ขอโทษนะครับน้องรุ้ง รถติดมากจริงๆ” ธงทิวขอโทษแฟนสาวที่เขาเลทเกือบครึ่งชั่วโมงเพราะรถติดกว่าจะฝ่าจราจรมาได้
“ไม่เป็นไรค่ะ ช่วงนี้งานเยอะเหรอคะพี่ทิว” หญิงสาวถามแฟนหนุ่มที่ไม่ค่อยได้เจอกันเพราะเขางานยุ่ง
“ครับ พอดีที่บริษัทได้จ๊อบใหม่ก็เลยวุ่นวายกันหน่อยครับ พี่อาจจะไม่ค่อยมีเวลามาเจอน้องรุ้ง.” ธงทิวตอบแฟนสาวที่เข้าใจเรื่องงานของเขาดี
“อย่าลืมดูแลตัวเองนะคะ ไม่ใช่ว่ามัวแต่ทำงานแล้วกินอาหารผิดเวลาจะเป็นโรคกระเพาะได้นะคะ” ทอรุ้งพูดด้วยความเป็นห่วงแฟนหนุ่ม ธงทิวก็ขับออกไปจากบริษัท
“งั้นน้องรุ้งก็มาดูแลพี่สิครับ” ธงทิวถามแฟนสาวทันทีเขาพร้อมจะสร้างครอบครัวอยากแต่งงานกับเธอแต่ติดที่ ทอรุ้งอยากทำงานก่อนและบ่ายเบี่ยงมาตลอด
“รุ้งว่าเราคุยเรื่องนี้กันแล้วนะคะ รุ้งอยากทำงานให้เต็มที่ก่อนอีกสักสองสามปีแล้วเราค่อยมาคุยกันนะคะ” เธอกำลังสนุกกับงานและไม่ได้รีบร้อนจะแต่งงานอยากตอบแทนบุญคุณป้ากับลุงให้เต็มที่ก่อนยังมีเวลาอีกหลายปีกว่าเธอจะสามสิบมันไม่สาย หากเธอแต่งงานออกเรือนไปก็จะมีเวลาดูแลพวกท่านน้อยลงเพราะต้องดูแลครอบครัวเป็นหลัก
“สักปีไม่ได้เหรอครับหรือเราจะหมั้นกันไว้ก่อนดีครับ” ธงทิวต่อรองแฟนสาวเสียงอ่อยตอนนี้เขาก็มีคอนโดมีรถมีเงินเก็บพร้อมจะมีครอบครัวแล้วแต่ก็เข้าใจทอรุ้งที่อยากตอบแทนบุญคุณของป้ากับลุงที่เลี้ยงดูมาจนโตถ้าเธอยังไม่อยากแต่งก็หมั้นไว้ก่อนก็ดีเขาโอเคทุกทาง
“รุ้งไว้ใจพี่ทิวค่ะ ไม่จำเป็นต้องหมั้นรุ้งอยากหมั้นแล้วแต่งเลยไม่อยากทำหลายขั้นตอน อนาคตเป็นสิ่งไม่แน่นอนค่ะ” ไม่ใช่ว่าเธอไม่รักแฟนหนุ่มแต่เธอก็รักครอบครัวของเธอและไม่อยากเลือกฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง
“รุ้งพูดเหมือนไม่ได้รักพี่” ธงทิวน้อยใจแฟนสาวที่พูดเหมือนไม่ได้แคร์เขา
“ที่เราคบกับมาหลายปีนี่พี่ทิวยังไม่รู้อีกเหรอคะ รุ้งแน่ใจตัวเองรุ้งถึงคบกับพี่ทิว.” เธอไม่รู้อนาคตข้างหน้าว่าจะเป็นยังไงตอนนี้ทุกอย่างมันกำลังไปได้ดีและไม่มีใครหยั่งรู้ได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น
“พี่..” ธงทิวพูดไม่ออกเขาเร่งรัดเธอมากไปหรือเปล่าทั้งที่แฟนสาวบอกตลอดว่ายังไม่พร้อมจะแต่งงาน
“ไปส่งรุ้งที่บ้านด้วยค่ะ” ทอรุ้งไม่อยากไปกินอาหารเย็นกับแฟนหนุ่มเธอรู้สึกหงุดหงิดอย่างบอกไม่ถูก
“น้องรุ้งครับ พี่ขอโทษต่อไปจะไม่พูดเรื่องนี้อีกครับ” ธงทิวขอโทษแฟนสาวหน้าละห้อย
“รุ้งก็ขอโทษพี่ทิวด้วยเหมือนกันค่ะ รุ้งอาจจะเห็นแก่ตัวมากเกินไปที่ขอให้พี่ทิวรอ หากวันหนึ่งคนนั้นของพี่ทิวไม่ใช่รุ้งก็ขอให้บอกรุ้งนะคะ”
“พี่รักน้องรุ้งและจะรอวันที่น้องรุ้งพร้อมแล้วเราจะแต่งงานกันครับ” ธงทิวบอกแฟนสาวอย่างหนักแน่นก่อนจะหันมามองสบตากับทอรุ้งขณะที่รถติดไปแดง
“ขอบคุณค่ะพี่ทิว ที่เข้าใจรุ้ง.” หญิงสาวยกมือไหว้ขอบคุณแฟนหนุ่ม คนสองคนจะอยู่ร่วมกันได้ไม่ใช่รักอย่างเดียวต้องเข้าใจกันมีเหตุและผลพูดคุยปรึกษากัน ยามมีปัญหาก็ช่วยกันแก้ไข หากไม่มีความเชื่อใจเชื่อมั่นต่อกันก็จะทำให้ชีวิตครอบครัวพังได้ง่ายๆ
“งั้นเราไปกินข้าวที่ห้างเหมือนเดิมนะครับ” ธงทิวอยากมีเวลาอยู่กับแฟนบ้างหากไปบ้านเธอทอรุ้งก็จะช่วยป้าร้อยทำโน่นนี่นั่นตลอดทำให้ไม่ค่อยได้คุยกัน
“ก็ได้ค่ะ” หญิงสาวก็เปลี่ยนใจเพราะสงสารแฟนหนุ่มเหมือนกัน เมื่อกินอาหารเย็นอิ่มแล้วทั้งสองก็เดินเล่นกันพักใหญ่ธงทิวก็ไปส่งแฟนสาวที่บ้านและเข้าไปสวัสดีป้าร้อยกับลุงบุญแล้วเขาก็กลับคอนโด
บ้านไร่ ภูหมอก ตั้งอยู่อำเภอสวนผึ้ง
พื้นที่ราบและเนินเขาหลายลูกนับพันไร่ถูกปรับปรุงพื้นที่ให้อุดมสมบูรณ์ด้วยบึงน้ำขนาดใหญ่ที่ไหลมาจากภูเขาสูงสู่บึงน้ำขนาดใหญ่ที่รายล้อมด้วยภูเขาที่เจ้าของไร่ขุดขึ้นเพื่อการเกษตรที่เขามาบุกเบิกเมื่อแปดปีก่อนปีก่อนจนเดี๋ยวนี้ในไร่เต็มไปด้วยองุ่นหลากหลายสายพันธ์ที่เจ้าของไร่เสาะแสวงหามาปลูกทดลองจนประสบความสำเร็จและผลิตไวน์ภายใต้ชื่อ ชาโต เดอ ภูหมอก แปลงองุ่นกว่ายี่สิบสายพันธ์ปลูกแยกกันเป็นแนวยาวสุดลูกหูลูกตาเป็นภาพที่สวยงามมาก เพราะโอบล้อมไปด้วยภูเขาน้อยใหญ่ยามดวงตะวับลับขอบฟ้าบรรยากาศก็สุดแสนจะโรแมนติกส่วนตอนเช้าดวงอาทิตย์โผล่พ้นภูเขาสูงกระทบน้ำค้างบนยอดหญ้าและต้นองุ่นที่เขียวชุ่มชื้นไอหมอกส่องสะท้อนแวววาวสวยงามน่าหลงใหล
หนุ่มลูกครึ่งสุดหล่อนั่งบนหลังม้าตัวใหญ่สายพันธ์อาหรับ สีดำสนิทขนมันเงาวับอาชาคู่ใจไปตามถนนลูกรังตามแปลงองุ่นเพื่อดูคนงานตัดแต่งกิ่งใบและลูกองุ่นที่ไม่สมบูรณ์ทิ้งก่อนจะไปหยุดที่คนงานกลุ่มใหญ่ที่มุงดูอะไรสักอย่าง
“นายชนม์ครับ นังแสงหล้ามันเป็นลมครับ.” นายสนหัวหน้าคนงานรายงานเจ้านาย
