2 ตอน หมอผีขนอม
อาจารย์ขนอมส่งเสียงมากด้วยอำนาจลึกลับที่แฝงเอาไว้จนดังกังวาน ผวนรีบรับคำแล้วขยับร่างที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามคลานต้วมเตี้ยมมาหา
“ขอรับอาจารย์ มีสิ่งใดเรียกใช้บอกมาเถอะขอรับ”
ด้วยกิริยานอบน้อมของศิษย์คนโปรด อาจารย์ขนอมมองผวนที่มีแค่เพียงผ้าเตี่ยวสีน้ำตาลเข้มปกปิดเบื้องล่างด้วยสายตาวาววับตามด้วยเสียงหัวเราะชอบใจดังขึ้น
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า อ้ายผวนเอ็งนี่เป็นศิษย์คนแรกที่รักข้าด้วยหัวใจ เอาเถอะข้าจักทำน้ำมันพรายให้เอ็งอีกขวด เมื่อก่อนเอ็งทำหกจนหมด ดีดใส่นังเหลงไม่ได้ต้องเอาลูบ ๆ ทาตามตัว มันก็คงไม่ได้ผลมากนักดอกเพียงแค่ให้นังเหลงมันหันมาชอบใจเอ็งเท่านั้น แต่คราวนี้ล่ะเอ็งจักได้ดีดใส่มันเต็มที่ อ้ายผวนเอ๋ย เอ็งสมหวังแน่ ข้าเชื่อว่าอย่างนั้น"
ผู้มากด้วยคาถาอาคมต้องการสนองคุณให้ศิษย์รักสมใจกับผู้หญิงที่ชื่นชมสมกับความซื่อสัตย์ที่ปรนนิบัติพัดวีเป็นเวลายาวนาน นับตั้งแต่รู้จักกัน ผวนไม่ยอมไปไหนเฝ้าคอยดูแลอาจารย์ขนอมเป็นอย่างดี จนพ่อแม่ตัดขาดไม่ยอมให้เข้าบ้านกลัวจะนำสิ่งไม่ดีติดตามเข้ามา
“เป็นพระคุณล้นเหลือแล้วขอรับอาจารย์ อ้ายผวนจักไม่ลืมบุญคุณในครั้งนี้ ฉันเชื่อว่าน้ำมันพรายครั้งใหม่นี้จักทำให้นังเหลงยอมทอดกายให้อย่างเต็มใจ ฉันมั่นใจในอาคมของอาจารย์ว่าทรงอิทธิฤทธิ์ยิ่งกว่าสิ่งใด ๆในโลกา”
ลูกศิษย์เอกมั่นใจว่าจะต้องพิชิตความสาวของหญิงผู้หมายปองได้ ถ้าเจอฤทธิ์น้ำมันพรายดีดใส่ อาจารย์ขนอมตบเข่าฉาดใหญ่ต่อคำชม
“ฮ่า ฮ่า เอ็งเข้าใจยอข้า เออ อ้ายผวนเอ็งเตรียมตัวเอาไว้ให้ดี คืนนี้ห้าทุ่มข้าจักลนคางผีในป่าช้าวัดป่าใหญ่ ได้ข่าวว่ามีผู้หญิงท้องแก่ตายทั้งกลม”
สิ้นคำอาจารย์ผู้เรืองเวทย์ ลูกศิษย์สะดุ้งโหยงหน้าซีดเผือดแล้วเหล่มองไปตามทิศที่ตั้งของป่าช้าวัดป่าใหญ่ความกลัวเริ่มเกาะกุมหัวใจ หลายครั้งหลายคราได้ติดสอยห้อยตามอาจารย์ขนอม รู้เห็นพิธีกรรมลนน้ำมันพราย ฤทธิ์นังผีตายทั้งกลมน่ากลัวไม่น้อย ภาพความน่าเกลียดน่ากลัว ยังสยองทุกครั้งในยามหลับตา กว่าจะกำราบผีร้ายลงได้ทำเอาขวัญหนีดีฝ่อ อีกทั้งเสียงกรีดร้องโหยหวนเมื่อเจอเทียนเล่มใหญ่จุดไฟจ่อใต้คาง มันคงทรมานร้องครวญครางหน้าตาบิดเบี้ยวเหยเก แล้วตบท้ายด้วยคำสาปแช่งให้ได้รับความหายนะวายวอด ผวนเองยังร้อน ๆ หนาว ๆ ไม่กล้านำออกมาใช้เกรงว่าจะได้รับผลกรรมตามคำแช่งของผีร้าย
“คืนนี้เลยรึ อาจารย์”
เสียงสั่น ๆ ของศิษย์บอกออกมาว่าหวาดหวั่นต่อผีร้าย อาจารย์ขนอมพยักหน้าหงึกพลางกดหัวที่เต็มไปด้วยผมดกหนาตรงหน้าให้ต่ำลงมา ผวนรีบก้มพนมมือเพราะรู้ดีว่าผู้ทรงเวทมนตร์จะต้องทำอะไรสักอย่างให้แก่ตนเพื่อเป็นขวัญและกำลังใจ
“เออ เอ็งอย่าหวั่นไปเลย มาข้าจักเป่ากระหม่อมให้ เรียกขวัญให้รวมอยู่ในที่เดียวกัน โอม...เพี้ยง !”
อาจารย์ขนอมเป่าลมพรวดลงไปโดยแรง ผวนสะดุ้งโหยงรู้สึกเย็นวาบไปทั่วตัว ความฮึกเหิมกลับมาเป็นหนึ่งเดียวอีกครั้ง ร่างกำยำดีดลุกขึ้นสลัดเนื้อตัวชกลมไปมา สองเท้าเปล่าเปลือยขยับย่ำอยู่กับพื้นจนเกิดรอยประทับซ้ำซ้อนผสมด้วยเศษฝุ่น เมื่อถูกลมหอบพัดจนรอยนั้นไร้รูปทรงแล้วเลือนหายไป
“ทำไมเอ็งไม่หาคีบตีนมาใส่เหมือนคนอื่นบ้าง หนามกระสุนในป่าช้ามันมีมากจักทิ่มตำให้บาดเจ็บเปล่า ๆ”
อาจารย์ขนอมเป็นห่วงลูกศิษย์เกรงว่าจะถูกหนามแหลมคมทิ่มตำบาดเจ็บซึ่งผู้คนทั่วไปคร้ามเกรงต่อหนามกระสุนซึ่งเป็นลูกเล็กๆ มีปุ่มแหลมสั้นยาวยื่นออกมารอบ ๆ หัว หากใครเหยียบลงไปถูกเป็นต้องชักเท้ากลับตามด้วยเสียงโอดโอยด้วยความเจ็บปวด
“อ่า ฉันยังหาหนังวัว หนังควายดี ๆไม่ได้เลยขอรับ กะว่าจะทำใส่สักคู่ จนแล้วจนรอดก็ไม่ได้ อาจารย์พอจะมีคีบตีนให้ฉันยืมใส่สักคู่บ้างไหม แค่คราวเดียวก็พอ”
“เออ ก็พอมีอยู่แต่มันเก่า เอ็งเอาไปซ่อมใส่ก็แล้วกันไม่ต้องคืนข้าดอก ข้ายังมีเหลืออีกสองคู่จักเก็บเอาไว้ใช้คราวจำเป็น ไปเถอะเอ็งเตรียมตัวจัดข้าวของให้ครบ งานนี้เพื่อเอ็งโดยเฉพาะเชียวนาโว้ย”
ผวนได้ยินดังนั้นรีบพนมมือก้มกราบอีกครั้ง ด้วยสำนึกในบุญคุณของอาจารย์เขมรผู้มากด้วยมนตรา มือใหญ่นิ้วข้อแตกแบแยกออกจากกันเมื่อหน้าผากจรดลงไป
“สาธุ อาจารย์ของอ้ายผวน พระคุณช่างล้นเหลือ ชาตินี้อ้ายผวนจะขอรับใช้จนกว่าอายุจะหาไม่”
“ลุกขึ้นเถิดอ้ายผวน เอ็งอย่าพูดเช่นนั้นเลยข้าไม่ได้คนดิบดีอันใดนักดอก แค่เพียงใฝ่หาความรู้ทางด้านมนตรา เมื่อขยันท่องมันก็แก่กล้าเอง สักวันหนึ่งเถอะอ้ายผวนเอ๋ย ข้านี่แหละจักเป็นผู้ถ่ายทอดเวทมนตร์ต่าง ๆ ให้เอ็งจนหมดไส้หมดพุง”