บท
ตั้งค่า

กล้วยไม้ล้อมตะวัน 2

ณิชากลับเข้าห้องนอน หรือจะเรียกให้ถูกคงเป็นห้องส่วนตัวที่เธอใช้ทำทุกอย่าง ไม่ว่าจะหมกตัวทำงาน เธอสามารถขังตัวเองให้อยู่ในนี้ได้เป็นวันๆ ถ้าไม่จำเป็นก็ไม่ออกไปพบใคร เว้นแต่คนรับใช้เก่าแก่ที่อยู่ด้วยกันตั้งแต่สมัยพ่อแม่ยังอยู่

ในแต่ละวันถ้าจะออกไปก็เพื่อรดน้ำดูแลซุ้มกล้วยไม้ ซึ่งเป็นงานที่เธอไม่ยอมปล่อยให้อยู่ในมือของใครอื่น นับจากพ่อได้จากไป ณิชาก็เฝ้ามอง ดูแลมันด้วยตัวเองตลอดมา เพราะเป็นสิ่งเดียวที่หล่อเลี้ยงหัวใจของเธอให้คงอยู่

แม้กระทั่งห้องรับประทานอาหารที่จัดไว้อย่างหรูหราสมเกียรติที่ครอบครัวเคยใช้ประจำ ณิชาก็ไม่เฉียดใกล้มานานแล้ว เพราะมันได้กลายเป็นห้องหนึ่งที่เจ้าของคนใหม่กับแขกไม่ซ้ำหน้าของเขาใช้ประจำแทบทุกวัน ใช้จนเกินคุ้มทีเดียว

โต๊ะรับประทานอาหารสำหรับณิชาจึงเปลี่ยนเป็นโต๊ะม้าหินอ่อนในห้องครัวเก่า...สถานที่ที่มีคนรับใช้เก่าแก่ห้อมล้อมเธออยู่ ที่แห่งเดียวที่ไม่ทำให้เธอรู้สึกว่าเหลือตัวคนเดียวโดดเดี่ยว

หญิงสาวหยิบผ้าขนหนูในตู้เสื้อผ้าแล้วเข้าห้องน้ำ ชำระร่างกายอย่างไม่อ้อยอิ่ง ตลอดเวลาที่ทำธุระส่วนตัว หัวใจยังไม่อาจกลับเข้าสู่ปกติ เหตุปะทะคารมกับผู้ชายคนนั้นยังตรึงอยู่ในหัว ไม่บ่อยนักหรอกที่เธอจะยอมเข้าใกล้เขา และครั้งนี้ณิชาก็ได้รับสัญญาณเตือนชัดเจน...มันมาพร้อมรังสีอันตรายจากกายของเขาเอง

ยิ่งเข้าใกล้ ยิ่งรับรู้เรื่องของไรวินทร์มากขึ้น ก็ยิ่งทำให้ณิชาจมอยู่กับความเครียด มองไม่เห็นทางออกของปัญหา

การจะให้เขาออกไปจากบ้าน มันไม่ง่ายหรอก หล่อนไม่เห็นทางอื่น...นอกจากรอให้เขาจากไปเอง

แต่จะด้วยเหตุผลอะไรล่ะ เมื่อบ้านเป็นของเขา เขามีสิทธิ์ครอบครองเต็มๆ เธอต่างหากที่กลายเป็นผู้อาศัย หรืออาจต่ำต้อยกว่าตรงที่การอยู่ของเธอเป็นการดึงดันไม่ยอมย้ายออกไปเอง

จะเรียกตัวเองว่าเป็นกาฝากได้ไหม

ณิชาหลับตา รับรู้ถึงหยาดน้ำใสจากดวงตาที่เอ่อท้นออกมาปนกับสายน้ำ

ทำไมชีวิตต้องจนมุมอย่างนี้ด้วยนะ อีกกี่วันกี่ปี ถึงจะเห็นแสงสว่างกัน

น้ำเย็นกระทบผิวกายขาวผ่อง ไหลลู่ตามส่วนโค้งเว้าของเรือนกายเป็นสาย ขณะที่เจ้าของร่างยังยืนนิ่ง จมอยู่กับความคิด พลันสีหน้าหม่นหมองก็เพิ่มความเคร่งเครียดขึ้น...เงินก้อนสุดท้ายที่เคยคิดจะใช้เป็นทุนรอนในอนาคต เงินก้อนเดียวที่เหลืออยู่ก็หายไปแล้ว...หายไปพร้อมกับผู้ชายที่พร่ำบอกว่าเข้าใจและเห็นใจในสิ่งที่เธอต้องเจอ

พีระ...ผู้ชายที่บอกจะอยู่เคียงข้าง ช่วยทำให้ฝันของเธอเป็นจริง แต่แค่ไม่ถึงขวบปีจากนั้น เธอก็ได้เห็นธาตุแท้ของเขาว่าเป็นคนอย่างไร ถ้อยคำที่บอกเป็นการสัญญา แท้จริงก็แค่ลมปาก ไม่มีความหมายอะไรเลย แต่เธอกลับโง่พอที่จะหลงเชื่อตาม

ณิชาเชื่อไปได้อย่างไรว่าลูกชายของนายตำรวจใหญ่แห่งเมืองเชียงราชคนนั้นจะรักมั่นถึงขั้นเสียสละความฝันของตัวเองเพื่อให้ความฝันของเธอเป็นจริง แล้วยังไงล่ะ หลังจากพ่อของเธอเสียชีวิตไม่ถึงเดือน เธอก็เสียทั้งหัวใจรักและเงินก้อนใหญ่ไปพร้อมเขาอีก

‘นิดก็รู้ว่าทุกอย่างไม่เหมือนเดิมแล้ว พีชจะบอกทางบ้านให้ยอมรับนิดยังไงดี พีชหาเหตุผลไม่ได้จริงๆ ...หรือนิดคิดให้ได้ล่ะ’

คำพูดก่อนเขาจะหันหลังจากไปยังก้องอยู่ในหัว...

เรียวปากอิ่มของหญิงสาวเม้มแน่น หัวใจบีบรัดตามอารมณ์ที่พุ่งสูง

ในตอนนั้นเธอยังหน้ามืดตามัว เศร้าเสียใจที่ผู้ชายลวงโลกคนนั้นตีจาก จนไม่ทันเอะใจถึงเงินก้อนเดียวที่เขาหยิบยืมใช้เป็นทุนรอนไปเรียนภาษาในประเทศอังกฤษเมื่อตอนเรียนจบวิทยาลัยกันหมาดๆ

กว่าจะนึกได้ กว่าจะตั้งตัวทัน เธอก็ควานหาตัวผู้ชายคนนั้นทั่วเชียงราชไม่เจอแล้ว

ไม่อยากเชื่อเลยว่าเธอทั้งโง่และซื่อให้นายพีระหลอกอย่างง่ายดาย...ณิชากำมือแน่น ปล่อยให้เล็บจิกเนื้อจนรู้สึกเจ็บ

“ผู้ชายน่ารังเกียจทุกคน!”

ให้ตายยังไง เธอจะไม่ยอมตกอยู่ในสภาพผู้หญิงจนตรอก ไร้อนาคตและหมดเนื้อหมดตัวนานแน่!

“คุณนิดตื่นแล้วหรือคะ ดูสิ วันนี้ป้ามีขนมจีนแกงไตปลาของโปรดคุณนิดด้วย ไว้มื้อเที่ยงค่อยกินนะคะ”

เสียงเจื้อยแจ้วของป้าสดใส แม่ครัวเก่าแก่ที่ถูกปลดระวางโดยเจ้าของบ้านคนใหม่กระวีกระวาดมาตั้งโต๊ะ เมื่อเห็นว่าคุณหนูของตนได้มานั่งประจำโต๊ะม้าหินอ่อนในห้องครัวแล้ว

ณิชามองอาหารเช้าตรงหน้าอย่างสงสัย แล้วเงยหน้าถาม

“ทำไมล่ะป้า กินขนมจีนแกงไตปลาตอนนี้ไม่ได้เหรอ อร่อยกว่าข้าวต้มหมูถ้วยนี้ตั้งเยอะ นิดอยากกินแล้ว”

“โธ่ เช้าขนาดนี้กินของรสจัด เดี๋ยวแสลงท้องค่ะ รับเป็นข้าวต้มก่อนดีกว่า อีกอย่างป้ายังไม่ได้เตรียมผักลวกกะทิให้คุณนิด จะกินให้อร่อย ต้องใจเย็นๆ ให้เวลาป้าเตรียมของโปรดให้พร้อมดีกว่าค่ะ”

“งั้นก็ได้ค่ะ ขอผักลวกกะทิเยอะๆ นะคะ นิดชอบผักบุ้ง ถั่วฝักยาว โอ๊ย! แค่คิดก็น้ำลายไหล”

คำสาธยายถึงอาหารสุดโปรดของคุณหนูกับแม่ครัวใหญ่ทำให้เด็กรับใช้ชาวเชียงราชแท้ๆ ต้องมองอย่างสงสัย แค่ผักพื้นๆ นำมาต้มลวกกะทิ คุณนิดจะอยากกินขนาดนี้เลยหรือ

หากพ้อหวานนั่งสงสัยได้ไม่นาน ก็ต้องสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงงวดของหญิงชรา

“ไป ช่วยป้าล้างผัก รีบทำให้เสร็จ ใกล้เที่ยงต้องช่วยคุณหริเตรียมมื้อเที่ยงให้คุณไรวินทร์อีก วันนี้เธอมีแขกมาบ้าน”

พ้อหวานลุกจากเก้าอี้มุมห้องทันที รี่ไปทำงานตามที่แม่ครัวชราสั่งอย่างไม่อิดออด หากถ้อยคำนั้นทำให้คนที่ตักข้าวต้มเข้าปากต้องชะงักมือ

เรียวปากสวยเบ้ออกเมื่อได้ยินชื่อของคนคนนั้น

เชอะ! มาอยู่ไม่นานก็มีแขกเข้าบ้านทั้งกลางวันกลางคืนเชียว อยากรู้นักว่าแม่สาวทรงสะบึมคนไหนที่ได้รับเกียรติจากนายไรวินทร์ให้เข้าบ้านตั้งแต่ตะวันยังส่องตรงหัว นอกจากแม่พวกที่ขนมามั่วสุมตอนกลางค่ำกลางคืน แล้วจากไปก่อนดวงอาทิตย์ขึ้น!

ดวงตาหวานของเจ้าของความคิดเหลือบขึ้นมองชั้นบนของบ้าน มั่นใจว่าเขาคงอยู่ในอาณาจักรส่วนตัว ชั้นบนของบ้านกึ่งตึกที่สมัยพ่อกับแม่ยังอยู่จะแบ่งพื้นที่เป็นปีกซ้ายและขวา ทั้งอาณาเขตของปีกซ้ายจะเป็นของหล่อน ส่วนพ่อกับแม่จะยึดครองอีกฝั่ง

ณิชายังจำบรรยากาศกรุ่นกลิ่นไอความรัก บางคืนเธอหอบหมอนกับผ้าห่มไปเคาะประตูห้องนอนของพ่อแม่ ความอบอุ่นและปลอดภัยที่มีท่านสองคนคอยปกป้องคุ้มครอง ทำให้ณิชาไม่เคยหวั่นถึงอนาคตว่าหากมันเปลี่ยนไปแล้วเธอจะเดินต่ออย่างไร

จนเมื่อแม่เสียชีวิตลงโดยโรคมะเร็งเต้านมตอนเธออายุสิบสามปี เด็กหญิงที่ย่างเข้าสู่วัยรุ่นอย่างเธอถึงกับเสียหลัก ณิชายึดพ่อเป็นที่พึ่งหนึ่งเดียว กระนั้นพ่อที่เธอเห็นว่าเป็นคนเก่งและมั่นคงพร้อมจะเป็นร่มโพธิ์ร่มไทรให้กับทุกคนนั้นกลับเปลี่ยนไป พ่อกลายเป็นคนไม่สนใจอะไรอีกเลย พ่อเมาเหล้ากลับมาบ้านทุกวัน ไม่ไยดีกับเธอเหมือนก่อน วันทั้งวันพร่ำหาแต่แม่ที่จากไปอย่างไม่หวนคืน

แต่ไม่นาน...แม่ของเธอขึ้นสวรรค์ไม่ทันครบขวบปี พ่อกลับมีผู้หญิงคนใหม่ นัยว่ารู้จักเพราะติดต่องาน สุดท้ายผานิตม่ายสาวที่มีลูกติดหนึ่งคนก็เข้ามาแทนที่แม่ของเธอโดยสมบูรณ์ เข้ามาอยู่ในบ้านพร้อมกับแพทริเซีย นักศึกษาแพทย์หญิงที่ดูงดงามและสมบูรณ์แบบ อย่างที่ณิชามองแล้วรู้สึกว่าตัวเองด้อยลง กลายเป็นแค่ฝุ่นผงในพริบตา

พ่อกลับมาเป็นเหมือนก่อน คงเพราะมีกำลังใจให้หยัดยืนได้เหมือนเดิม ต่างกับณิชา เธอเริ่มเก็บตัวเงียบ ไม่เหลือกำลังใจ พ่อที่เคยเป็นของเธอเพียงหนึ่งเดียวกำลังมีคนอื่นเข้ามาแบ่งปันความสำคัญ นับจากนั้นความสุขก็ไม่เคยทอประกายให้เห็นในแววตาของณิชาอีกเลย

ช่วงวัยนั้น ณิชาเป็นแค่เด็กมัธยมต้น หลังเลิกเรียนแต่ละวันเธอจะยื้อเวลากลับบ้าน โดยไปหมกตัวอยู่ในหอพักนักเรียนของบัวบูชา เพื่อนซี้ที่ยอมเปิดใจคบหาเพียงคนเดียว

แต่ทุกสรรพสิ่งในโลกนี้ก็ยังหมุนเวียนเปลี่ยนไปไม่ยอมหยุดนิ่ง เมื่อณิชาจบมัธยมปลายก็เข้าเรียนในวิทยาลัยนานาชาติแห่งเชียงราชที่ค่าเรียนแพงลิบลิ่ว ช่วงปีสุดท้ายของชีวิตนักศึกษา ณิชาก็ต้องพบข่าวร้ายที่ทำให้หัวใจแตกสลายอีกครั้ง รถที่พ่อกับแม่เลี้ยงนั่งประสบอุบัติเหตุตกเหวระหว่างเดินทางไปติดต่อกับลูกค้าทางฝั่งพม่า เนื่องจากคนรถเลือกใช้เส้นทางลัดแทนที่จะเป็นเส้นทางปกติอย่างที่ใช้ประจำอยู่ เพราะหวังจะให้ทันนัดลูกค้าสำคัญ

แม่เลี้ยงเสียชีวิตทันทีในที่เกิดเหตุ ขณะที่พ่ออยู่ในอาการโคม่า รักษาตัวในห้องไอซียูของโรงพยาบาลชั้นนำของเชียงราช...นานนับเดือนก็สิ้นลมตาม

แพทริเซียโศกเศร้ากับการจากไปของสองคน แต่ไม่นานก็ยืนขึ้นมาได้ใหม่เพราะมีญาติสนิททางกรุงเทพและแพทย์หนุ่มคู่หมายคอยประคับประคองจิตใจ ทำให้ผ่านพ้นช่วงชีวิตที่ยากลำบากได้

ต่างกับณิชา...เธอไม่เหลือใครอีกแล้ว มองไปทางไหนก็เห็นแต่คนแปลกหน้า ไม่มีใครยื่นมือมาให้คว้าเป็นหลักเลย

“เป็นอะไรไปคะคุณนิด ทำไมไม่กินข้าวต้ม เย็นชืดจะไม่อร่อยนะคะ”

เสียงทักของป้าสดใสทำให้คนที่หลุดอยู่ในภวังค์ต้องสะดุ้งรู้สึกตัว ตักข้าวต้มเข้าปากอีกคำ ก่อนวางช้อนลงเมื่อรู้สึกว่าฝืดคอเกินจะฝืนกลืนได้อีก

“หรือวันนี้ป้าทำไม่อร่อย ทำไมทานแค่นี้” หญิงชราถามพร้อมสีหน้าสีตาที่ทำให้ณิชาต้องพยายามหาคำพูดมาบอกเพื่อรักษาน้ำใจ

“อร่อยค่ะป้า ฝีมือป้าไม่ตกหรอก ระดับนี้เป็นเชฟมือหนึ่งสำหรับนิดเลย แต่เช้านี้นิดรู้สึกตื้อ กินไม่ลงจริงๆ ค่ะ”

“ตายจริง ถ้าอย่างนั้นป้าจะเร่งมือทำขนมจีนแกงไตปลาให้เสร็จนะคะ กินมันมื้อเช้านี่แหละ ดีกว่าปล่อยท้องว่าง”

“ไม่เป็นไรค่ะ ไม่ต้อง” ณิชารีบคว้าแขนแม่ครัวเอกไว้ อ้ำอึ้งจะหาเหตุผล หากคราวนี้เมื่ออีกฝ่ายเห็นสีหน้าเธอชัดเจนก็ถอนหายใจยาว

“คิดมากพานเครียดอีกน่ะสิ ไม่ดีเลยนะคะ” หญิงชราว่าอย่างอ่อนใจ และพอสังเกตเครื่องแต่งกายของณิชาว่าอยู่ในชุดแปลกตากว่าทุกวัน จึงถาม “คุณนิดจะออกไปข้างนอกหรือ แต่งตัวสวย ดูเรียบร้อยเชียวค่ะ”

“แสดงว่าทุกวันนิดแต่งตัวดูไม่ได้เลยใช่ไหมคะป้า” ณิชายังมีแก่ใจกระเซ้าพร้อมรอยยิ้มที่เปิดกว้าง ทำให้คนถามรู้สึกดีขึ้น “นิดจะออกไปสมัครงาน เมื่อสองวันก่อนเดินเล่นในห้างกับบัว เห็นป้ายประกาศรับสมัครพนักงานขายในร้านเสื้อผ้า”

เธอบอกชื่อแบรนด์เสื้อผ้าหรู คุณภาพสมกับราคาที่แพงลิบลิ่วซึ่งเจาะกลุ่มลูกค้าหนุ่มสาววัยทำงาน เชียงราชแม้จะมีพื้นที่ไม่ใหญ่ แต่ด้วยความเป็นเมืองเปิดใหม่ ทำเลเป็นประตูการค้า จึงทำให้กลายเป็นศูนย์กลางธุรกิจแห่งใหม่ เงินตราสะพัดในพื้นที่ค่อนข้างสูง รายได้ต่อหัวของคนทำงานในเชียงราชมากเกินสองเท่าเมื่อเทียบกับผู้คนในตัวเมืองจังหวัดซึ่งมีพื้นที่ใหญ่กว่า ดังนั้นทั้งสินค้าและเครื่องใช้ราคาแพง แบรนด์ดังคุ้นหูก็แห่กันมาเปิดสาขาในห้างสรรพสินค้าประจำเมือง ที่สำคัญกิจการของแต่ละร้านก็ไปได้สวยด้วยสิ

แต่ดูว่าสิ่งที่เธอบอกจะทำให้คนฟังรู้สึกคาใจอยู่

“คุณนิดจะไปเป็นพนักงานขายของในห้างหรือคะ คุณนิดจะทำได้ยังไง แล้วงานอื่นที่สมัครไปล่ะ”

“ยังไม่มีที่ไหนเรียกเลยจ้ะ” ณิชาถอนหายใจอย่างนึกปลง แต่แม้จะตกงาน ก็ถือว่าโชคยังเข้าข้างอยู่ตรงที่มีงานแปลนิยายโรมานซ์ให้ทำ ไม่แน่ว่าหากต้องตกงานยาว เธออาจหันมายึดงานนี้เป็นอาชีพจริงๆ ก็ได้ “แปลกดีนะ ใครๆ ก็ว่าเมืองเชียงราชเศรษฐกิจดี จีดีพีสูงกว่าเมืองอื่น แต่ทำไมถึงมีคนเตะฝุ่นอยู่ในบ้านนี้ได้เนอะ ป้า”

“เดี๋ยวงานก็มาค่ะ ของทุกอย่างมันมีจังหวะของมัน รออีกหน่อยนะคะ ใจเย็นๆ”

“จังหวะของนิดนานจัง ตั้งปีกว่าแล้ว”

ณิชาลุกขึ้นยืน ฝืนยิ้มให้แม่ครัวเก่าแก่ ไม่อยากให้ใครต้องกังวลไปกับตน...หากทำได้เพียงยกมุมปากแย้มนิดเดียว

คนร่างเพรียวบางในชุดเสื้อเชิ้ตสีขาวกับกางเกงเนื้อผ้าสีดำเข้ารูปเดินออกจากห้องครัว โดยมีสายตาของหญิงชรามองตาม แววตาคู่นั้นทอความห่วงใยอยู่เสมอ และเวลานี้ยังเพิ่มความลังเลและเคร่งเครียดปนเข้ามาด้วย

ป้าสดใสถอนใจยาว บ่นพึมกับตัวเอง

“เฮ้อ! ไม่มีโอกาสบอกคุณนิดกันสักที”

ณิชาเปิดประตูรั้วเล็กด้านข้าง แล้วจูงสกูตเตอร์สีส้มคู่ใจออกไป นึกขัดใจกับสายตาของผู้ชายตัวใหญ่ในชุดสีดำแลดูทะมึนสองคนที่จ้องเขม็งมา พวกเขายืนนิ่งอยู่ใต้ร่มไม้ริมกำแพงสูง หากไม่สังเกตก็คงไม่เห็น แรกๆ ณิชารู้สึกอึดอัด บางขณะก็นึกหวั่นว่าคนแปลกหน้าท่าทางดุดันจะเข้ามาคุกคามถึงในบ้าน แต่พอนานวันเข้าก็ค่อยๆ เบาใจเมื่อเห็นว่าคนเหล่านั้นไม่ได้ย่างกรายเข้าไปใกล้เขตแม้สักครั้งเดียว...ซึ่งคงด้วยคำสั่งเด็ดขาดของเจ้านายพวกเขานั่นละ

นายไรวินทร์...ผู้ชายที่เธอรู้เพียงชื่อเท่านี้!

เมื่อผ่านพ้นประตูรั้ว ณิชาก็ต้องหยุดตัวเองเมื่อรถหรูคันสีดำมันปลาบแล่นมาจ่อใกล้ประตูรั้วใหญ่ โดยไม่เสียเวลารอ ประตูรั้วบานนั้นก็เคลื่อนออกอัตโนมัติ ณิชาเขม้นมองหวังจะให้ทะลุผ่านฟิล์มหนาทึบ เพราะมั่นใจว่าคนในรถต้องเป็นแขกของนายไรวินทร์นั่นเอง

ณิชาไม่ต้องพยายามเลย เมื่อกระจกตอนหน้าฝั่งผู้โดยสาร ฝั่งที่เธอยืนอยู่ถูกลดลง เผยให้เห็นคนในรถที่ส่งยิ้มมาให้ และทำให้ณิชาถึงกับยืนตัวแข็ง...

หล่อนไม่ได้ยิ้มรับการทักทายนั้นเพราะกำลังจุกแน่นในอก จนกระจกรถเลื่อนปิดและรถก็เคลื่อนผ่านประตูรั้วเข้าไปข้างใน สู่ตัวบ้านที่ตั้งตระหง่านด้วยระยะทางนับร้อยเมตร

เรียวปากของหญิงสาวเม้มแน่น หล่อนกำลังสกัดกลั้นอารมณ์อ่อนไหวและอ่อนแอไม่ให้หลุดออกมา...รอกระทั่งคิดว่าตนเข้มแข็งพอ พร้อมจะเดินหน้าต่อในเส้นทางที่เลือกแล้ว จึงขึ้นนั่งบนพาหนะคู่ใจ ขับเคลื่อนออกไปยังเป้าหมาย

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel