บทที่ 5
คุณอังกาบพยายามกลั้นยิ้มแล้ว แต่ก็ไม่ได้จริงๆ ท่านปลื้มใจและยินดีจนต้องแอบหลบเช็ดน้ำตา อนลกอดเอียดอีกหนแรงๆ แล้วเดินแกมวิ่งขึ้นไปบนเรือน คุณอังกาบแสร้งหันหลังให้กับเขา เมื่ออนลเดินตึงๆ เข้าไปหาท่าน เสียงทุ้มนั่นดังขึ้นก่อนตัว
“คุณย่าครับ ทำไมไม่ยอมหันมาหาผมเลย นี่งอนกันทั้งบ้านจริงๆ หรือครับนี่”
เมื่อเห็นท่านทำเฉย เขาเลยกอบหมับเข้าที่ร่างเปรียวของท่าน คุณอังกาบหันมาค้อนหลานชาย พลางเอ่ยขึ้นลอยๆ
“นี่ถ้าแม่แก้วไม่ตาม ย่าจะได้เห็นหน้าเราไหม โทรศัพท์ไปก็ไม่เคยรับ ทำงานอะไรกันนักกันหนา หรือมัวแต่ไปทำอะไร หึ! ย่าเห็นแต่ข่าวเรากับสาวๆ นี่ที่ไม่รับคงเพราะรำคาญ กลัวย่าจะขัดจังหวะเราหรือยังไงกันตาใหญ่”
“โธ่...”
อนลหัวเราะ เขาหอมแก้มท่านฟอดหนึ่ง กลิ่นกายของท่านมีเอกลักษณ์ นั่นคือกลิ่นน้ำอบน้ำปรุงไทยๆ หอมกรุ่น ชื่นใจอย่างบอกไม่ถูก
“งานหรอกครับคุณย่า นี่ผมจะมาอยู่ให้หายคิดถึงเลย ผมลาพักร้อนมาสองอาทิตย์ จะมาหลบความวุ่นวายที่บ้านเรือนรักษ์นี่ล่ะครับ คุณย่าจะให้ผมอยู่ด้วยหรือเปล่า อย่าเบื่อจนไล่ผมออกไปทำงานนะครับ”
“หา!”
คุณอังกาบถึงกับยกมือทาบอก หันหน้ามองเจ้าหลานชายตัวดีอย่างไม่อยากจะเชื่อ พลางทำท่าเอามือแคะหู ก่อนจะแกล้งเรียกเอิบเสียงดัง
“แม่เอียด แม่เอียดอยู่หรือเปล่านั่น หาไม้แคะหูมาให้ฉันทีสิ สงสัยฉันจะหูฝาด”
“ไม่ได้หูฝาดหรอกครับคุณย่า โธ่...ผมจะมาพักผ่อนอยู่ด้วยไม่ได้หรือยังไงกันครับ” ท่านค้อนอนล
“มันแปลกน่ะสิ ไปทำอะไรมาหรือเปล่า สารภาพกับย่าได้นะ เราไปทำใครเค้าท้องมาหรือยังไง ถึงได้หนีมากบดานที่นี่”
“แย่ยิ่งกว่าทำใครท้องอีก” ชายหนุ่มบ่นพึมพำ คุณอังกาบได้ยินเลาๆ ถึงกับขมวดคิ้ว
“หืม? อะไรนะตาใหญ่”
“ไม่มีอะไรหรอกครับ ผมทำงานมาทั้งปี ก็อยากจะพักบ้าง แล้วก็เลือกที่นี่แหละครับ เป็นที่พักผ่อนที่ปลอดภัยที่สุดแล้ว ผมเบื่อข่าวเบื่อคนมากครับคุณย่า บ้านเรือนรักษ์ไม่มีใครรู้จัก อยู่ลึกขนาดนี้ ไม่มีใครตามมาทำข่าวผมเจอแน่ๆ”
“มาพักก็ดี ไม่ได้ไปทำอะไรเสื่อมๆ มาก็แล้วไป ไปๆ พาย่าไปข้างล่างดีกว่า กินข้าวกินปลามาหรือยัง เดี๋ยวย่าจะหาดูว่ามีอะไรในตู้บ้าง เราอยากกินอะไรล่ะ”
“อยากกินผัดเผ็ดปลาดุกครับคุณย่า แล้วก็ผัดผักบุ้ง ผักบุ้งแม่น้ำอร่อยๆ แบบนี้ นานแล้วไม่ได้กิน”
“ผักบุ้งต้องไปขอเก็บหน้าบ้านแม่แก้ว มีเยอะแยะเลย แม่แก้วปลูกไว้ บ้านย่ามีแต่ดอกบัว มีคนเอาดอกบัวมาให้ เลยรื้อต้นผักบุ้งทิ้งไป ไปแวะหาน้องด้วยสิ ไปชวนแม่แก้วมากินข้าวกลางวันด้วยกัน”
“ครับ”
อนลรับคำ เขาลงมาส่งคุณย่าที่ห้องครัว แวะทักทายหยอกล้อกับป้าเอียด และลุงกาจ คนเก่าแก่ของคุณอังกาบ แล้วเดินตรงไปยังบ้านใกล้เรือนเคียง บ้านของกลิ่นแก้ว เพื่อนเล่นในวัยเยาว์ของเขา
ชายหนุ่มเปิดสลักรั้วที่อยู่ติดกันเข้าไป เจ้าของบ้านน่าจะอยู่ที่ประจำของตนเอง คือในสวนเล็กๆ ของเธอ กลิ่นแก้วทำงานเขียน งานที่ต้องใช้สมาธิ และใช้พื้นที่ส่วนตัวเพื่อสร้างไอเดีย แม้จะนานครั้งได้พบปะเธอ แต่เรื่องราวของเธอเขาก็ได้ยินเป็นประจำจากคุณย่าอังกาบ จนจำได้ดี ในภารกิจประจำวันของเธอ
อนลเดินไปเรื่อยๆ ได้ยินเสียงเพลงเบาๆ จึงเดินตามเสียงเพลงนั้นไป กลิ่นดอกไม้ไทยโชยกรุ่นเข้าจมูก กลิ่นของที่นี่เหมือนกับกลิ่นที่บ้านเรือนรักษ์ คือสดชื่น กรุ่นหอมจางๆ ด้วยดอกไม้ไทย มีเสียงนกร้องอยู่บนยอดไม้ของต้นจำปา เขาจำได้ว่าเธอชอบดอกไม้สองชนิดนี้มาก คือจำปาและจำปี ตัวเขาจำสลับกันประจำ เพราะมีดอกลักษณะคล้ายกัน ต่างกันตรงกลิ่น และสี จำปาสีเหลืองอ่อน สีนวล หอมหวาน จำปีสีเหลืองเข้มดอกใหญ่กว่า หอมแรงกว่า กลีบแข็งกว่าจำปา
ร่างบางหันหลังให้เขา มีโน้ตบุ๊คตรงหน้าเธอหน้าจอสว่าง บอกว่ากำลังใช้งานอยู่ เจ้าตัวดูคร่ำเคร่งกับงานตรงหน้า จนไม่ได้ยินว่ามีใครเดินมาข้างหลัง และด้วยความที่อนลเป็นคนเท้าเบา จึงไม่แปลกที่กลิ่นแก้วจะไม่ได้ยินเสียงเดินของเขา เพราะเธอกำลังอยู่ในโลกของจินตนาการ
พิศเพียงข้างหลัง ร่างเธอยังเพรียวบางเหมือนเดิม ผมดกดำยาวสวยของเธอถูกถักเปียเดี่ยวไว้ด้านหลัง มีดอกไม้สีขาวเป็นช่อเหน็บไว้ จำไม่ผิดน่าจะเป็นดอกมะลิวัลย์ เธอสวมเสื้อแขนกุดทำจากผ้าป่านสีขาว กระโปรงยาวเป็นผ้าฝ้ายหลายลายนำมาต่อกัน คงจะตัดเย็บเองอีกตามเคย กลิ่นแก้วดูดีในแบบของตนเองเสมอ อนลยืนอยู่ข้างหลังเธอเกือบนาที เจ้าตัวก็ยังไม่หันมาสักที จนเขาต้องกระแอมเบาๆ
“อุ๊ย!”
เธอถึงกับสะดุ้งสุดตัว แล้วหันขวับไปทางต้นเสียงพอดี นัยน์ตาคมกลมโต มองสบกับตาเขาแล้วกะพริบปริบๆ นิ่งอยู่ครู่หนึ่ง เมื่อเสียงห้าวทุ้มเอ่ยทักทาย เธอจึงรู้สึกตัวว่า คนตรงหน้ามีตัวตนจริงๆ ไม่ใช่ความฝัน
“สวัสดีครับแก้ว เพลินเลยนะ ทำงานอยู่หรือ?”
“พี่ใหญ่ มายังไงคะนี่”
“บ้านแก้วเปิดโล่งเลย ถ้าพี่เป็นโจรนี่ พี่คงจะปล้นแก้วขนของหนีไปเกลี้ยงบ้านแล้ว” เขาเอ่ยหยอกๆ กลิ่นแก้วหัวเราะเบาๆ
“บ้านนี้ไม่เคยปิดรั้ว ยกเว้นตอนกลางคืน ขโมยไม่ดั้นด้นมาปล้นแถวนี้หรอกค่ะพี่ใหญ่ ขนาดจะเข้ามาถึงยังยาก ใครบางคนเลยไม่ค่อยได้มาเท่าไหร่ จริงไหมคะ”
ประโยคหลังแอบแขวะเขาเบาๆ อนลหัวเราะหึ แล้วทรุดลงนั่งข้างเธอ นัยน์ตาคมมองกวาดไปทั่ววงหน้าเนียนของคนพูด กลิ่นแก้ว...ดูสวยเสียยิ่งกว่าที่เขาจำได้เสียอีก
เผลอพิศมองนานไปหน่อย จนคนที่เขากำลังจ้องเอียงคอ แล้วทำตาโต กิริยานี้ของเธอเขาคุ้นมาตั้งแต่เป็นเด็กหญิง
“มองอะไรคะพี่ใหญ่ นี่จำแก้วไม่ได้หรือเปล่า? ถึงได้จ้องเอาจ้องเอาขนาดนี้”
“ไม่ได้เจอกันนาน แก้วสวยขึ้นนะนี่ ถ้าเจอกันข้างนอก พี่คงแทบจะจำไม่ได้แน่นอน ยิ่งโตก็ยิ่งสวยมาก”
คำชมซึ่งหน้าเล่นเอาเธอหน้าแดงขึ้นทันที กลิ่นแก้วย่นจมูก แล้วปิดโน้ตบุ๊คตรงหน้า เสมองไปทางอื่นที่ไม่ใช่ใบหน้าของอนล เขาแทบจะจำเธอไม่ได้ แต่เธอจำเขาได้ตลอดเวลา วัยทำให้เขาดูดีขึ้น ดูอ่อนกว่าอายุจริงด้วยซ้ำ
“ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกค่ะพี่ใหญ่ ชมแก้วไปก็เท่านั้น ไม่ได้ประโยชน์อะไรหรอกค่ะ”
“หึๆ นี่คุณย่าให้พี่มาขอผักบุ้งบ้านแก้ว แล้วก็ชวนแก้วไปกินข้าวกลางวันบ้านโน้น ไปไหม?”
“ไม่มีพลาดอยู่แล้วล่ะค่ะ แก้วไปขอข้าวคุณย่ากินเกือบทุกวัน”
เธอลุกขึ้นยืน ยิ้มกว้างให้เขา รอยยิ้มหวานนั่นทำให้ใบหน้านั้นยิ่งงดงาม น่ามอง จนคนมองอยู่อย่างอนล ใจเต้นขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก
นั่นมันแม่น้องสาวข้างบ้าน ที่เขาเห็นมาแต่เล็กแต่น้อย แต่ทำไมวันนี้ ความรู้สึกมันแปลกไปหนอ
“พี่ใหญ่ลงเก็บนะคะ เรือบ้านแก้วไม่อยู่ด้วยสิ ยอดสวยๆ ก็อยู่ไกล เพราะยอดใกล้ๆ เมื่อวานน้องแตงกวามาขอไปทำกิน แตกยอดไม่ทัน”
“เอาสิ...คลองที่นี่ยังใส น่าเล่น คิดถึงตอนเด็กๆ ที่เราลงเล่นน้ำกันทุกวันเลยนะ”
เขาว่า มองคนข้างตัวที่เดินเคียงเขา พาเขาไปยังบริเวณท่าน้ำหน้าบ้าน เธอเงยหน้าขึ้นมามองเขา รอยยิ้มพาใจสั่นนั่นส่งมาให้เขาอีกแล้ว จนต้องเอ็ดตัวเองเบาๆ ว่านั่นคือน้องสาว! ไม่ใช่หญิงสาวที่เขาจะทำตัวเกาะแกะด้วยได้
อนลแยกแยะอย่างชัดเจนว่า ใคร? ที่เขาไม่ควรทำร้ายจิตใจ และสาวข้างตัวก็เช่นกัน เขาเลือกที่ทางของเธอไว้แล้วแน่นอน กลิ่นแก้วเป็นหญิงสาวที่เขารักและเอ็นดู เขาไม่อยากทำร้ายใจเธอ
อนลมองความรัก...เป็นเหมือนดาบสองคม และเขาก็ไม่เคยอยากแตะต้องคมดาบนั้น เขาเผลอใกล้มัน แต่ไม่เคยมอบใจให้มัน เซ็กซ์ ความสุข ความสนุก คือสิ่งที่เขาต้องการจากเพศตรงข้าม ไม่ใช่การครอบครองเป็นเจ้าของกัน ถ้าเมื่อใดที่ความรู้สึกเริ่มล่วง ลุกลามไปมากกว่าความสบายใจที่จะคบหากัน อนลจะถอยตัวออกมาจากคมนั้นทันที
นี่เองทำให้เขามีกำแพงป้องกัน และคบหาใครได้ไม่นาน
“ใช่ค่ะ ตอนนั้นสนุกมากเลย แก้วมีพี่ชายดีๆ ตั้งสองคน”
“พี่ชายดีๆ คนหนึ่ง พี่ชายแย่ๆ คนหนึ่งมากกว่า”
อนลว่า เขาหยุดตรงริมท่าน้ำ มองไปยังพื้นน้ำเบื้องหน้า ผักบุ้งทอดยอดไปจนถึงเกือบกลางลำคลอง มีผักกระเฉด และมีแม้กระทั่งกระจับ เขาหันมามองกลิ่นแก้ว พลางชี้ไปที่บริเวณใบเล็กๆ ของต้นกระจับที่ออกเป็นพุ่มอยู่ตรงหน้า
“มีต้นนี้ด้วยหรือ? ตอนเด็กๆ คุณย่าต้มให้กิน พี่ชอบมากเลยไม่เห็นมานานแล้ว”
“คลองที่นี่น้ำยังใสดีค่ะพี่ใหญ่ มีปลา มีกุ้งให้กิน ต้นกระจับเลยขึ้นได้ งามดีด้วย แต่ได้ยินมาว่าจะมีโรงแรมมาตั้งที่แถบตรงโน้น แก้วก็นึกใจหายที่ความเจริญจะเข้ามานะคะ เพราะ...กลัวว่าอะไรๆ จะไม่เหมือนเดิม”
“พี่ก็ไม่อยากให้อะไรของที่นี่เปลี่ยนไปแม้แต่อย่างเดียว พี่รักที่นี่ มันเป็นอดีตที่มีความสุขมากของพี่” น้ำเสียงของเขาอ้างว้างนิดๆ เมื่อเอ่ยถึงประโยคต่อไป
“คนที่พี่รักทุกคน อยู่ที่นี่”
“คนที่พี่ใหญ่รักอยู่ที่บ้านเรือนรักษ์ แต่ก็ไม่เห็นพี่ใหญ่จะกลับมาสักเท่าไหร่นี่คะ”